CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 662 อับจนหนทาง

  1. Home
  2. สตรีแกร่งตระกูลไป๋
  3. ตอนที่ 662 อับจนหนทาง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 662 อับจนหนทาง

ไป๋ชิงเหยียนบอกเรื่องที่ต้องการส่งไป๋จิ่นจื้อไปยังค่ายทหารผิงอันให้ไป๋จิ่นซิ่วรับรู้แล้ว

ไป๋จิ่นซิ่วไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าใดนัก ไป๋จิ่นจื้ออายุยังน้อย นิสัยราวกับเด็ก ที่สำคัญน้องสาวของนางเป็นคนใสซื่อและตรงไปตรงมา ขนาดเสี่ยวชียังสุขุมกว่าเลย ไป๋จิ่นจื้อเป็นคนสะเพร่า หากไม่เก็บไว้ข้างตัวอาจก่อปัญหาได้ หญิงสาวคิดว่าไป๋จิ่นจื้อควรฝึกฝนอีกสักสองสามปี

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ไป๋จิ่นจื้อยกมือลูบจมูกของตัวเอง สาวน้อยกลัวเดือดร้อนไปถึงพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองจึงกล่าวเสียงอ่อยๆ

“เกือบทำพังเจ้าค่ะ โชคดีที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ช่วยข้าแก้ปัญหา เดิมทีข้าวางแผนไว้ดีแล้ว นึกไม่ถึงว่าคนที่ข้าให้ปลอมตัวเป็นพ่อค้าจะหลุดพิรุธออกมาเช่นนั้น! ทว่า ข้าไม่ชอบการวางแผนอ้อมค้อนอันใดเช่นนี้จริงๆ เจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่สั่งงานให้ข้าทำเลยดีกว่าเจ้าค่ะ ข้าทำเรื่องที่ต้องใช้สมองไม่ได้เจ้าค่ะ…”

ไป๋จิ่นซิ่วหันไปมองไป๋ชิงเหยียน สื่อความหมายชัดเจนว่าไป๋จิ่นจื้อไม่เหมาะที่จะไปอยู่ค่ายผิงอัน

ไป๋ชิงเหยียนมองไปยังร่างของไป๋จิ่นจื้อ จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “เสี่ยวซื่อไม่ถนัดพายเรือจึงไม่ชอบแม่น้ำที่เชี่ยวกรากอย่างนั้นหรือ”

ไป๋จิ่นจื้อเบิกตาโพลงมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “เฮ้อ ตอนที่ท่านป้าสะใภ้สั่งสอนข้า ท่านก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกันเจ้าค่ะ”

เห็นได้ชัดว่าไป๋จิ่นจื้อทำให้ท่านแม่โมโหมากจริงๆ

ไป๋จิ่นซิ่วปิดปากหัวเราะ

“เสี่ยวซื่อ พี่อยากให้เจ้าไปอยู่ที่ค่ายทหารผิงอัน ทว่า หากเจ้าไม่ชอบการกระทำและแผนการที่ซับซ้อนเหล่านั้น พี่จะเชื่อได้อย่างไรว่าเจ้าจะควบคุมค่ายทหารผิงอันให้อยู่ในกำมือของเจ้าได้ ไม่ใช่กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของผู้อื่นแทน” ไป๋ชิงเหยียนถามไป๋จิ่นจื้อ

ไป๋จิ่นจื้อผุดลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าของสาวน้อยส่อแววประหลาดใจ จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นจนใบหูแดงก่ำ “พี่หญิงใหญ่จะให้ข้าไปนำทัพที่ค่ายทหารผิงอันจริงๆ หรือเจ้าคะ!”

“ทว่า เจ้าไม่ชอบเรื่องซับซ้อนเหล่านี้ อีกทั้งตรงไปตรงมาและมุทะลุเกินไป หากปล่อยให้เจ้าไปแล้วเจ้าไม่อาจควบคุมค่ายผิงอันได้ยังไม่เท่าใดนัก พี่แค่กลัวว่าเจ้าจะทำเสียงเรื่องมากกว่า” ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงหมอนอิงสีเหลืองขมิ้นลายนกกางเขน กล่าวอย่างไม่รีบร้อน

ไป๋จิ่นจื้อร้อนรนขึ้นทันที “ไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้าไม่ชอบ ทว่า ข้าเรียนรู้ได้เจ้าค่ะ! ขอเพียงให้ข้านำทัพ ให้ข้าทำสิ่งใดก็ได้ทั้งนั้นเจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน “เช่นนั้น พี่มอบเรื่องเสบียงอาหารปนกรวดที่ถูกส่งไปยังเป่ยเจียงให้เจ้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน พวกเราจะเดินทางกลับซั่วหยางในวันที่ยี่สิบห้า เดือนสิบ เจ้ามีเวลาจัดการห้าวัน เจ้าสามารถเรียกใช้ทุกคนในจวนไป๋ได้ หากไม่มีเงินก็มาขอที่พี่ พี่ต้องการผลลัพธ์ภายในห้าวันนี้ หากสำเร็จ เจ้าจะได้เดินทางไปยังค่ายทหารผิงอันในเดือนสิบเอ็ด หากไม่สำเร็จ เจ้าต้องกลับฝึกฝนเรียนรู้กับพี่ที่ซั่วหยางแต่โดยดี”

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นซิ่วยังคงไม่วางใจ

ไป๋ชิงเหยียนยกมือส่งสัญญาณให้ไป๋จิ่นซิ่วไม่ต้องกังวล “ให้นางลองดู!”

ไม่มีผู้ใดทำสิ่งใดได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ ไป๋จิ่นจื้ออาจมีข้อบกพร่องในการจัดการเรื่องของไป๋ฉีอวิ๋น ทว่า ทุกคนล้วนค่อยๆ เติบโตกันทั้งสิ้น

ชุนเถาได้รับสัญญาณจากไป๋ชิงเหยียนจึงเดินไปหยิบกล่องไม้จันทน์แดงสลักลายหงส์สีทองที่วางอยู่บนโต๊ะประทินโฉมไม้หวงฮวาหลีมามอบให้ไป๋จิ่นจื้ออย่างนอบน้อม “คุณหนูสี่ นี่คือเงินเก็บที่มีอยู่ทั้งหมดของคุณหนูใหญ่ วันนี้คุณหนูใหญ่มอบให้คุณหนูสี่ทั้งหมด คุณหนูสี่อย่าทำให้คุณหนูใหญ่ผิดหวังนะเจ้าคะ!”

ไป๋จิ่นจื้อตื่นเต้นจนเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ สาวน้อยเช็ดมือที่เปื้อนเหงื่อของตัวเองกับชายกระโปรง จากนั้นเงยหน้าเอื้อมไปรับกล่องไม้จันทน์แดงที่หนักอึ้งมา

เดิมทีไป๋จิ่นจื้อนึกว่าด้านในคือเงิน ทว่า เมื่อเปิดออกดู…

ให้ตายเถิด ด้านในกล่องคืออัญมณีสีแดงเท่าฝ่ามือที่ยังไม่ได้เจียระไน ด้านล่างคือตั๋วเงินและเครื่องประดับที่ทำอย่างประณีตอีกมากมายที่ไป๋จิ่นจื้อไม่เคยเห็นมาก่อน

“ของในนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลไป๋ ต่อให้เจ้านำไปใช้ก็ไม่มีทางสาวมาถึงจวนไป๋ได้แน่นอน พี่ปูทางให้เจ้าถึงตรงนี้ ทางข้างหน้าจะทำเช่นไร เจ้าต้องตัดสินใจเอง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ แม้น้ำเสียงจะฟังดูอบอุ่นอ่อนโยน ทว่า ไม่รู้เพราะเหตุใดไป๋จิ่นจื้อถึงได้รู้สึกกดดันนัก

ไป๋จิ่นซิ่วขมวดคิ้วกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น อยากกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า สุดท้ายก็ไม่ได้กล่าว เรื่องเสบียงอาหารของกองทัพไม่ใช่เรื่องเล็ก พี่หญิงใหญ่ให้เสี่ยวซื่อจัดการเรื่องนี้ ไป๋จิ่นซิ่วรู้สึกไม่วางใจจริงๆ

ทว่า ในเมื่อพี่หญิงใหญ่กล้าปล่อยให้เสี่ยวซื่อจัดการก็แสดงว่านางมีวิธีแก้ปัญหาให้เสี่ยวซื่อในภายหลัง

ไป๋จิ่นจื้อนึกถึงค่ายทหารผิงอัน จินตนาการภาพที่ตัวเองได้แสดงความสามารถในการนำทัพที่นั่น สาวน้อยตัดสินใจแน่วแน่ ปิดกล่องไม้ลงตามเดิม หนีบกล่องไว้ที่เอว จากนั้นกำหมัดคาราวะไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่ เสี่ยวซื่อจะจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จเรียบร้อยเจ้าค่ะ”

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายของวันจางหายไป ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงเรื่อยๆ โคมไฟในเมืองหลวงเริ่มสว่างจ้าขึ้น

ภายในจวนคับแคบลับตาคนซึ่งอยู่สุดซอยจิ่วชวน แสงไฟริบหรี่จากในห้องส่องลอดหน้าต่างบานเล็กไปยังต้นกุ้ยฮวาที่ปลูกไว้กลางลานหญ้า

ภายในห้องอับชื้นและหนาวเหน็บ ฝูรั่วซีเพิ่งทานยาเสร็จ หญิงสาวนอนอยู่บนเตียงแข็ง มือและเท้าเย็นจนสั่นสะท้าน เตาผิงภายในห้องดับลงนานแล้ว ถุงทำความร้อนที่อยู่บริเวณปลายเท้าก็เย็นลงแล้วเช่นเดียวกัน ภายในห้องมีเพียงแสงเทียนจากตะเพียงที่สะบัดพลิ้วไปมา

ห้าวันก่อนหลิ่วรั่วฟูซีรู้ข่าวว่าเสียนอ๋องก่อกบฏไม่สำเร็จ ถูกไป๋ชิงเหยียนใช้หอกแทงจนเสียชีวิต เหลียงอ๋องเป็นคนไร้ประโยชน์ โยนความผิดทุกอย่างให้บิดาของนางแต่เพียงผู้เดียว เมื่อหลิ่วรั่วฟูนึกได้ว่าเด็กในท้องของตนคือสายเลือดของเหลียงอ๋องก็รู้ชิงชังเป็นอย่างมาก

หลิ่วรั่วฟูสั่งให้คนไปซื้อยาทำแท้งมาให้นางในช่วงบ่ายของเมื่อวาน หญิงสาวดื่มยารวดเดียวจนหมดเพื่อกำจัดเด็กในท้อง

วันที่หนีออกมาจากจวน หลิ่วรั่วฟูไม่ได้พาสาวใช้มาด้วยสักคน องครักษ์ลับที่เสียนอ๋องเตรียมไว้ปกป้องหลิ่วรั่วฟูมีแต่บุรุษ พวกเขาไม่อาจรับใช้ใกล้ชิดนางได้ บัดนี้หลิ่วรั่วฟูมีสภาพน่าอนาถมาก ทว่า ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของจวิ้นจู่ นางไม่อาจเอ่ยปากเรียกองครักษ์เข้ามาช่วยเหลือได้

หลิ่วรั่วฟูเกลียดไป๋ชิงเหยียน ทว่า เกลียดเหลียงอ๋องยิ่งกว่า หากมีโอกาสหลิ่วรั่วฟูอยากฉีกร่างของเหลียงอ๋องออกเป็นชิ้นๆ

จู่ๆ หัวหน้าองครักษ์ลับด้านนอกก็เอ่ยเรียกหลิ่วรั่วฟู จากนั้นบุกเข้ามาในห้อง เดินตรงไปที่เตียงของหญิงสาว

หลิ่วรั่วฟูที่นอนกุมท้องตัวสั่นเทาอยู่บนเตียงตวาดเสียงรอดไรฟัน “บังอาจ! ผู้ใดให้เจ้าเข้ามากัน!”

หัวหน้าองครักษ์ลับใช้ผ้าห่มคลุมร่างของหลิ่วรั่วฟูเอาไว้ “ล่วงเกินจวิ้นจู่แล้วขอรับ! หน่วยตรวจเมืองกำลังนำคนมุ่งหน้ามาทางนี้ ข้าจะพาจวิ้นจู่หนีขอรับ”

หลิ่วรั่วฟูเอื้อมมือข้างหนึ่งไปโอบรอบคอขององครักษ์ลับ เมื่อถูกอุ้มออกมาจากห้องที่อับชื้นและหนาวเหน็บ หลิ่วรั่วฟูก็เห็นองครักษ์ลับทุกคนที่ท่านพ่อเตรียมไว้ให้นางอยู่ในท่าพร้อมรบ พวกเขาโน้มกายซ่อนอยู่ใต้กำแพง กำดาบคมในมือแน่น กลั้นลมหายใจเพื่อรอเวลา

เสียงคนและม้ากลุ่มใหญ่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อย่างน้อยประมาณหนึ่งร้อยคน

หลิ่วรั่วฟูกลั้นลมใจหายชั่วขณะ ใจเต้นรัวขึ้นทันที หญิงสาวรู้สึกถึงเลือดที่กำลังไหลออกจากร่าง รีบกุมท้องของตัวเองแน่น นางขบกรามแน่น ไม่รู้ว่าควรหลบหนีไปที่ใดดี

ประตูเมืองทั้งสี่ทิศถูกควบคุม หากหลิ่วรั่วฟูไม่มีปีก หญิงสาวไม่มีทางหนีกลับไปหนานตูได้อย่างแน่นอน

ต่อให้หนีกลับไปได้ ทว่า กองทัพหนานตูส่วนใหญ่สูญเสียอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว ผู้ใดจะช่วยคุ้มครองนางกัน

ที่สำคัญ…ตอนนี้ผ่านไปห้าวันแล้ว ฮ่องเต้และองค์รัชทายาทคงส่งคนไปยังหนานตูแล้ว ต่อให้นางโชคดีหนีรอดกลับไปได้ นางก็คงพบเพียงศพของทุกคนในตระกูลหลิ่ว

ลมหนาวของฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่าน หลิ่วรั่วฟูรู้สึกว่าตัวเองอับจนหนทางจนน่าเวทนา

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 662 อับจนหนทาง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์