สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 681 หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตอนที่ 681 หายไปอย่างไร้ร่องรอย
มิเช่นนั้นด้วยภูมิประเทศที่ถูกล้อมทั้งสี่ทิศของต้าจิ้น การครอบครองใต้หล้าของต้าจิ้นคงทำได้ยากลำบากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้าจิ้นทนดูต้าเยี่ยนยึดครองแคว้นเว่ยอยู่เฉยๆ เช่นนี้จะยิ่งอันตรายยิ่งกว่าเดิม
บัดนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนมองการณ์ไกล ทว่า จักรพรรดิแห่งต้าจิ้นกลับหมกมุ่นอยู่กับการปรุงยาวิเศษ องค์รัชทายาททำตามความต้องการของฮ่องเต้ทุกเรื่อง ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ทว่า กลับหยิ่งยโส คิดว่าตัวเองยังยิ่งใหญ่เหนือทุกแคว้นอยู่
หากเปรียบเทียบกันแล้ว…ต้าจิ้นสมควรเสื่อมอำนาจจริงๆ
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนคือคนต้าจิ้น สิ่งใดควรทูลให้องค์รัชทายาททราบ ไป๋ชิงเหยียนก็ต้องทำ
ชุนเถาถือถาดอาหารสีดำเข้ามาด้านใน กล่าวว่าฮูหยินสองสั่งให้คนนำน้ำแกงไก่พุทรามาให้ไป๋ชิงเหยียนบำรุงเลือด
ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ชุนเถาตักน้ำแกงมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นกล่าวขึ้น “เจ้าสั่งให้คนไปตามเสี่ยวซื่อมาพบข้าที ข้ามีเรื่องจะให้นางไปจัดการ”
“เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” ชุนเถารับคำแล้วแหวกม่านเดินออกไปด้านนอก สั่งให้คนไปตามไป๋จิ่นจื้อมา
ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ เปิดฝาถ้วยน้ำแกงออก ตักชิมคำหนึ่ง เป็นฝีมือของท่านอาสะใภ้สองจริงๆ ใส่พุทราลงไปอย่างเหลือเฟือ…
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากน้อยๆ น้ำแกงถ้วยนี้อุ่นวาบเข้าไปในใจของหญิงสาว
ไป๋จิ่นจื้อมาถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อไป๋ชิงเหยียนทานน้ำแกงเสร็จ สาวน้อยก็มาถึงพอดี “พี่หญิงใหญ่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เป็นห่วงว่าข้าจะเตรียมของไม่เรียบร้อย ทำให้การเดินทางวันพรุ่งนี้ล่าช้าหรือเจ้าคะ พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดิมทีของข้าก็ไม่มากเท่าใดอยู่แล้วเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปาก จากนั้นกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อ “คงต้องวานให้เจ้าไปที่จวนองค์รัชทายาทสักหน่อย”
ไป๋จิ่นจื้อนั่งหยัดกายตรง “มีอันใดหรือเจ้าคะ”
“เจ้าไปบอกองค์รัชทายาทว่าจะปล่อยให้ต้าเหลียงยึดต้าเยี่ยนเพื่อข่มขู่ต้าจิ้นไม่ได้เด็ดขาด หากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ครั้งนี้เราจะยุติสงครามเมื่อชนะศึกแล้วเหมือนคราวที่แล้วไม่ได้เด็ดขาด หากครั้งนี้ต้าเหลียงปฏิเสธไม่ยอมมอบดินแดนที่เคยตกลงกันไว้ให้ต้าจิ้น ยืนกรานจะทำสงครามกับต้าเยี่ยนต่อ เราต้องทำศึกจนกว่าต้าเหลียงจะยืดหยัดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้อีก ต้องรบจนกว่าต้าเหลียงจะไม่เป็นภัยต่อต้าจิ้นได้อีก ทำให้พวกเขากลายเป็นเต่าที่หดหัวอยู่แต่ในกระดองเท่านั้น”
กระทั่งทำให้ต้าเหลียงดับสูญไปเลย
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงหนักแน่น แววตาจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กล่าวออกไปว่าจะทำให้แคว้นต้าเหลียงดับสูญเพราะหญิงสาวรู้ดีว่าองค์รัชทายาทไม่กล้าหาญพอที่จะทำเช่นนั้น
ต่อให้ตอนนี้จะทำให้แคว้นต้าเหลียงดับสูญไม่ได้ ทว่า อย่างน้อยก็ต้องทำให้กำลังทหารของพวกเขาอ่อนแอและลดน้อยลง วันหน้านางจะได้ทำลายต้าเหลียงได้อย่างง่ายดาย
บัดนี้ต้าเยี่ยนกำลังปะทะอยู่กับแคว้นเว่ย หากต้าจิ้นทำลายล้างต้าเหลียงได้ในขณะที่ต้าเยี่ยนทำลายล้างแคว้นเว่ยได้สำเร็จ อีกสามแคว้นที่เหลืออย่างเป่ยหรง หนานหรงและซีเหลียงก็จะไม่เป็นอันตรายอีกต่อไป จะไม่เกิดเหตุการณ์ที่เมื่อเราทำลายแคว้นอื่นได้แล้ว แคว้นที่เหลืออยู่จะบุกมาทำลายเราต่อได้ขึ้นเด็ดขาด
หนานหรงมีอาอวี๋คอยควบคุมอยู่จึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงมากนัก เป่ยหรงและซีเหลียงอ่อนแอ หากสองแคว้นนี้ร่วมมือกันขึ้นมา พวกเขาย่อมบุกโจมตีหนานเยี่ยนก่อนเป็นลำดับแรก ถัดมาคือแคว้นเว่ย จากนั้นก็คือต้าเยี่ยนที่ทำตัวเป็นเสือซ่อนคมมาหลายปีก่อน พวกเขาไม่มีทางเลือกลงมือกับแคว้นต้าจิ้นที่แข็งแกร่งมาโดยตลอดเป็นลำดับแรกอย่างแน่นอน
ใจของไป๋ชิงเหยียนเดือดพล่าน หญิงสาวอยากทำลายแคว้นต้าเหลียงให้ได้
“หากต้าเหลียงยอมมอบดินแดนให้แก่ต้าจิ้นแต่โดยดี ต้าจิ้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะประกาศศึกกับต้าเหลียงอีก เช่นนั้นก็รอให้ต้าเหลียงรบกับต้าเยี่ยนจนต้าเยี่ยนต้องมาขอความช่วยเหลือจากต้าจิ้น ตอนนี้ต้าเยี่ยนไม่ใช่แคว้นที่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว มิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่กล้าส่งกองทัพไปช่วยสนับสนุนเป่ยหรง ต้าจิ้นสามารถรอให้ต้าเยี่ยนมาขอความช่วยเหลือจากเรา จากนั้นค่อยขอผลประโยชน์จากพวกเขาแล้วยกทัพไปช่วยต้าเยี่ยนโจมตีต้าเหลียงจนต้าเหลียงไม่สามารถต่อกรกับต้าจิ้นได้อีก หากองค์รัชทายาททรงมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น พระองค์สามารถรอช่วงที่ใต้หล้าเกิดความวุ่นวายทำลายต้าเหลียงให้ดับสูญได้”
หากต้าเยี่ยนมาขอความช่วยเหลือจากต้าจิ้นก็แสดงว่าพวกเขาไม่สามารถจัดการกับแคว้นเว่ยได้อย่างเด็ดขาด ทว่า ต้าเหลียงและแคว้นเว่ยคงพ่ายแพ้ยับเยินแล้ว รอเวลาที่เหมาะสมอีกสักพัก ต้าจิ้นสามารถทำลายต้าเหลียงให้ดับสูญได้
“เจ้าจำได้หมดหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามไป๋จิ่นจื้อที่กำลังท่องถ้อยคำของนางอยู่
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า “พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ เสี่ยวซื่อจำได้แล้ว เสี่ยวซื่อจะไปจวนองค์รัชทายาทเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
บัดนี้ไฟในจวนองค์รัชทายาทกำลังสว่างไสว ตอนที่ไป๋จิ่นจื้อถ่ายทอดถ้อยคำเหล่านั้นให้องค์รัชทายาทฟัง ฟางเหล่า ฉินซ่างจื้อและเริ่นซื่อเจี๋ยล้วนรับฟังอยู่ด้วย
ฟางเหล่าพยักหน้าเห็นด้วยกับไป๋ชิงเหยียนอย่างแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “องค์หญิงเจิ้นกั๋วตรัสถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ หากต้าเหลียงยอมมอบดินแดนที่ทำข้อตกลงกันไว้ให้ต้าจิ้นแต่โดยดี สัญญาสงบศึกก็จะยังมีผลอยู่ต่อไป ทว่า เราทำสัญญาสงบศึกกับต้าเยี่ยนไว้เช่นเดียวกัน ขอเพียงต้าเยี่ยนมาขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนเจรจาสงบศึกให้ ทว่า หากต้าเหลียงยังยืนกรานที่จะรบกับต้าเยี่ยนต่อไป ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยส่งกองทัพไปก็ยังไม่สายพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินซ่างจื้อกำลังทบทวนถ้อยคำของไป๋ชิงเหยียนอยู่ เมื่อได้ยินถ้อยคำของฟางเหล่า เขาจึงเงยหน้าขึ้นทันที เขารู้สึกว่าฟางเหล่าเข้าใจความหมายขององค์หญิงเจิ้นกั๋วผิดไป องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมายความว่าต้องการทำสงครามจนต้าเหลียงไม่มีอำนาจมาต่อกรกับต้าจิ้นอีกต่อไป ทว่า ฟางเหล่าเข้าใจผิดเพี้ยนไปหมด
เริ่นซื่อเจี๋ยนั่งดื่มชานิ่งตามเดิม ไม่ออกความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น
ฉินซ่างจื้อกำหมัดคารวะองค์รัชทายาท “องค์ชาย องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงหมายความว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาข้ออ้างนำทัพบุกไปโจมตีต้าเหลียงให้ได้พ่ะย่ะค่ะ ครั้งนี้เราต้องโจมตีจนต้าเหลียงไม่สามารถยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง เพื่อเตรียมการสำหรับการครอบครองใต้หล้าในวันข้างหน้าพ่ะย่ะค่ะ! ต้าเหลียงได้เปรียบทางภูมิศาสตร์มาก ด้านหลังของพวกเขาติดทะเล ทางใต้ติดต้าจิ้นและหรงตี๋ หากต้าจิ้นได้ครอบครองต้าเหลียง วันหน้าพวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกลอบโจมตีอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นต้าเหลียงคือดินแดนที่พวกเราต้องยึดครองมาให้ได้เป็นดินแดนแรกก่อนที่จะรวบรวมใต้หล้าพ่ะย่ะค่ะ!”
“ตอนนี้สถานการณ์กำลังวุ่นวาย พวกเราต้องรีบถือโอกาสนี้ทำลายแคว้นที่อ่อนแออย่างต้าเหลียงให้ดับสูญก่อนที่แคว้นอื่นจะทำ เพื่อปูทางสำหรับภายภาคหน้าพ่ะย่ะค่ะ!” ฉินซ่างจื้อกล่าวจบก็หันไปมองไป๋จิ่นจื้อ
ไป๋จิ่นจื้อนึกภาพแผนที่ของต้าจิ้น จากนั้นจึงพยักหน้าตามฉินซ่างจื้ออย่างเห็นด้วย “ฉินเซียนเซิงกล่าวมีเหตุผลเจ้าค่ะ”
“เกาอี้จวิ้นจู่ ข้าไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของฉินเซียนเซิงขอรับ” ฟางเหล่าเหลือบมองฉินซ่างจื้อแวบหนึ่ง จากนั้นกำหมัดคารวะองค์รัชทายาทแล้วกล่าวขึ้น “บัดนี้ฝ่าบาททรงประชวรหนัก ทรงมอบงานในราชสำนักให้องค์ชายเป็นคนดูแลทั้งหมดเพราะทรงเห็นว่าองค์ชายเป็นคนสุขุม หากตอนนี้องค์ชายสนับสนุนให้ทำสงครามกับต้าเหลียง ไม่เพียงแต่จะสิ้นเปลืองทรัพยากรทางทหารจนทำให้ฝ่าบาททรงไม่พอพระทัยเท่านั้น หากสงครามยืดเยื้อหลายปี คลังของแผ่นดินจะเพียงพอได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงต้องการให้สร้างหอบูชาเก้าชั้น กรมการคลังยังอ้างว่ามีเงินไม่เพียงพอ แล้วกรมการคลังจะมีเงินพอสำหรับการทำสงครามหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าไม่เคยเห็นว่ากรมการคลังมีเงินพอมาก่อน!” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้ “ไม่ว่าเมื่อใดกรมการคลังก็บอกว่าไม่มีเงินตลอด ตอนที่กองทัพไป๋ขอเบี้ยเลี้ยงจากพวกเขา กรมการคลังก็อ้างว่าไม่มี เสด็จพี่องค์รัชทายาทควรตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วนะเพคะว่าเงินเหล่านั้นมันหายไปที่ใดหมด”
ไป๋จิ่นจื้อหงุดหงิดใจกับกรมการคลังมากที่สุด เอาแต่บ่นว่าไม่มีเงิน ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กล้วนอ้างว่าไม่มีเงิน เงินภาษีที่ชาวบ้านจ่ายให้มันหายไปที่ใดหมดแล้ว!
องค์รัชทายาทได้ยินเสนาบดีกรมการคลังบ่นว่าไม่มีเงินจนเคยชินแล้ว
ทว่า องค์รัชทายาทรู้สึกว่าฟางเหล่ากล่าวถูกแล้ว เสด็จพ่ออยากสร้างหอบูชาเก้าชั้นมาโดยตลอด สองวันก่อนเขาเข้าไปในวังหลวง เสด็จพ่อยังตรัสเรื่องนี้กับเขาอยู่เลย หากตอนนี้เขานำเงินไปใช้ในสงคราม ไม่เอาไปสร้างหอบูชาให้เสด็จพ่อ เสด็จพอจะโมโหเขาหรือไม่นะ
“องค์ชาย หอบูชาเก้าชั้นจะสร้างเมื่อใดก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ทว่า หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไปแล้วคงไม่มีโอกาสดีๆ เช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ เพื่อแผนการระยะยาวในวันข้างหน้า พวกเราจำเป็นต้องรบกับต้าเหลียงในครั้งนี้ให้ได้พ่ะย่ะค่ะ!”