สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 721 กล้าแกร่ง
ตอนที่ 721 กล้าแกร่ง
ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกอบอุ่นในใจ หญิงสาวกล่าวกับซ่งซื่อ “รบกวนท่านป้าสะใภ้ช่วยปิดบังท่านยายให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ”
ซ่งซื่อกลัวว่าร่างกายของไป๋ชิงเหยียนจะรับไม่ไหว นางอยู่คุยกับหลานสาวเพียงครู่เดียว จากนั้นจึงพาบุตรสาวทั้งสามตามหลิวซื่อและไป๋จิ่นซิ่วไปที่โถงรับรองด้านหน้า
หลิวซื่อไม่รู้ว่าต่งถิงฟางต้องการยกเลิกการแต่งงานกับคุณชายของตระกูลฝู เมื่อนั่งลงที่โถงรับรองนางจึงกล่าวขึ้น “การแต่งงานของตระกูลต่งและตระกูลฝูจะจัดหลังการสอบชุนเหวย บุตรชายของครอบครัวบุตรชายคนโตของตระกูลต่งเข้าร่วมการสอบในปีนี้เช่นเดียวกัน ได้ยินว่าปีที่แล้วมารดาของเขาป่วยก่อนเขาสอบชุนเหวยไม่นาน คุณชายตระกูลต่งอยู่เฝ้าอาการของมารดาจนสอบได้ลำดับที่ไม่ค่อยดีนัก ทว่า เด็กนั่นเป็นคนฉลาด ปีนี้ต้องสอบได้ดีแน่นอน!”
แม้ปีนี้ต้องจัดสอบใหม่อีกครั้งเพราะมีการทุจริตเกิดขึ้น ทว่า ปีที่แล้วตระกูลฝูเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ไม่รู้ว่าคุณชายตระกูลฝูผู้นั้นจะทำข้อสอบออกมาได้ดีหรือไม่ หลิวซื่อกล่าวเช่นนี้ออกไปเพื่อปลอบใจต่งถิงฟางเท่านั้น
หลิวซื่อเอ่ยถามต่งถิงฟางว่าเย็บชุดแต่งงานเสร็จแล้วหรือไม่…
ต่งถิงฟางหันไปมองซ่งซื่อแวบหนึ่ง เมื่อเห็นซ่งซื่อยกถ้วยชาขึ้นจิบ ต่งถิงฟางจึงทำได้เพียงก้มหน้าลงพลางเอ่ยตอบหลิวซื่ออย่างนอบน้อม “ยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ หากวันนี้ไม่ได้มาเยี่ยมพี่หญิง ข้าคงไม่ได้ออกจากเรือนเจ้าค่ะ”
หลิวซื่อฟังออกถึงความไม่ชอบมาพากลของประโยคดังกล่าว นางมองไปทางซ่งซื่อแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “สตรีที่กำลังจะออกเรือนก็ควรเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน ตอนที่จิ่นซิ่วจะออกเรือน ข้ากักตัวให้นางอยู่แต่ในเรือนเกือบครึ่งปี”
ต่งถิงฟางเม้มปากแน่น รับคำอย่างนอบน้อม ไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดอีก
อยู่ต่อหน้าหลิวซื่อ ซ่งซื่อจึงไม่กล้าต่อว่าต่งถิงฟาง ได้แต่รู้สึกว่าต่งถิงฟางยิ่งปีกกล้าขึ้นทุกวัน เอาแต่กล่าวตัดพ้อนางตลอดเวลา
หากกล่าวถึงการเตรียมสินเดิมของต่งถิงฟาง ซ่งซื่อคิดว่าการที่นางนำสินเดิมของตัวเองมาเพิ่มให้ในสินเดิมของต่งถิงฟางก็ถือว่านางใจกว้างมากแล้ว สินเดิมของต่งถิงฟางมากกว่าบุตรสาวอนุคนอื่นๆ ไม่รู้ตั้งกี่เท่า นางไม่ได้ขอให้ต่งถิงฟางซาบซึ้งในบุญคุณของนาง ทว่า อย่างน้อยนางก็หวังว่าต่งถิงฟางจะรับรู้ว่ามารดาเอกอย่างนางไม่เคยรังแกนาง
ทว่า ต่งถิงฟางกลับกล่าวลับหลังนางว่า ‘ข้าเป็นบุตรอนุ สินเดิมสู้ผู้อื่นไม่ได้ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา’
ซ่งซื่อโมโหจนแทบลมจับ นางไม่อยากสนใจต่งถิงฟางอีกต่อไป
ฮูหยินต่งรู้ว่าต่งถิงฟางไม่อยากแต่งงานแล้ว ทว่า นางเป็นคนเล่นไปตามน้ำยอมให้ผู้อื่นจัดฉากใส่ร้ายเพื่อให้ได้งานแต่งงานในครั้งนี้มาเอง ต่อให้นางไม่อยากแต่งนางก็จำเป็นต้องแต่ง นี่คือทางที่นางเลือกเอง บนโลกนี้ไม่มียาเสียใจภายหลังให้ทาน
เมื่อเยี่ยมไป๋ชิงเหยียนและดื่มชาเสร็จ ฮูหยินต่งซ่งซื่อจึงกล่าวอำลาหลิวซื่อ
ทว่า ต่งถิงเจินกลับกล่าวขึ้น “ท่านแม่ กลับไปข้าก็ไม่มีสิ่งใดทำ ข้าอยากอยู่ดูแลพี่หญิงที่นี่เจ้าค่ะ”
ฮูหยินต่งซ่งซื่อรู้ดีว่าบุตรสาวสนิทสนมกับไป๋ชิงเหยียน ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนเป็นคนช่วยแก้ปัญหาเรื่องเหลียงอ๋องให้ต่งถิงเจิน ซ่งซื่อย่อมอยากให้บุตรสาวของตัวเองไปมาหาสู่กับไป๋ชิงเหยียนให้มากๆ นางจึงพยักหน้ายิ้มๆ “ได้ เดี๋ยวแม่จะให้หมัวมัวนำของใช้ส่วนตัวของเจ้ามาให้ ท่านอาของเจ้าไม่อยู่ เจ้าดูแลพี่หญิงของเจ้าให้ดีล่ะ”
“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ” ต่งถิงเจินทำความเคารพซ่งซื่อ
“ท่านแม่…” ต่งถิงฟางได้ยินจึงก้าวไปด้านหน้า “ข้าอยากอยู่ดูแลพี่หญิงเช่นกัน ท่านแม่ได้โปรดอนุญาตด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
ไป๋จิ่นซิ่วรู้ดีว่าต่งถิงฟางอยากขอร้องไป๋ชิงเหยียนให้ช่วยยกเลิกการแต่งงานกับตระกูลฝูให้นาง ไป๋จิ่นซิ่วจึงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ญาติผู้พี่ถิงฟางกลับไปเย็บชุดแต่งงานต่อดีกว่าเจ้าค่ะ ตระกูลไป๋ของเราไม่ใช่ว่าจะไม่มีบ่าวรับใช้ น้องสาวอย่างข้าก็ยังอยู่ เหตุใดจะต้องรบกวนให้ญาติผู้พี่ทิ้งการเย็บชุดแต่งงานของตัวเองมาดูแลพี่หญิงใหญ่ของข้าเช่นนี้ด้วยเจ้าคะ หากเรื่องนี้แพร่ออกไปไม่รู้ว่าผู้อื่นจะกล่าวถึงข้าเช่นไรเจ้าค่ะ”
ต่งถิงฟางได้ยินเช่นนี้จึงคุกเข่าลงตรงหน้าซ่งซื่อทันที “ท่านแม่! ข้ากำลังจะออกเรือนแล้ว เมื่อแต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นย่อมไม่เหมือนอยู่ที่จวนของตัวเอง พี่หญิงอยู่ไกลถึงซั่วหยาง นานๆ ข้าจะได้พบนางสักที ท่านแม่ได้โปรดอนุญาตด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
ต่งถิงฟางก้มศีรษะคำนับซ่งซื่อ
ฮูหยินต่งซ่งซื่อเหลือบมองไปทางหลิวซื่อแวบหนึ่ง นางกล่าวอย่างไม่คิดปิดบังอีก “ฮูหยินสองของตระกูลไป๋ไม่ใช่คนนอก ในเมื่อเจ้ากล่าวถึงขนาดนี้ ต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อให้ได้ เช่นนั้นข้าจะขอกล่าวให้ชัดเจน ณ ที่นี้เลย”
“ถิงฟาง มารดาเอกอย่างข้าไม่เคยทำผิดหรือรังแกเจ้า ข้าเห็นแก่ที่เจ้าจะแต่งงานออกเรือนไปกับคุณชายที่เกิดจากภรรยาเอกของจวนฝู ข้าจึงเตรียมสินเดิมให้เจ้ามากกว่าบุตรสาวอนุคนอื่นๆ ในตระกูลต่งหลายเท่านัก การแต่งงานนี้ได้มาจากการที่เจ้าเล่นตามน้ำจนได้มันมา! หากเจ้าเห็นว่าตอนนี้จวนฝูเกิดเรื่องขึ้นและไม่อาจกลับไปรุ่งเรืองได้อีกจึงอยากจะยกเลิกการแต่งงาน ข้าบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่มีทาง ตระกูงต่งของเรารักษาคำสัญญาเสมอ!”
ฮูหยินต่งเหล่มองต่งถิงฟางแวบหนึ่ง จากนั้นหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาที่หางตา “ตอนนี้พี่หญิงของเจ้าป่วยหนักจนมีสภาพเช่นนี้ หากเจ้ากล้าเอาเรื่องส่วนตัวของเจ้าไปรบกวนเวลาพักผ่อนของพี่หญิงของเจ้า ถึงเวลานั้นมารดาเอกอย่างข้าจะไปขอให้ตระกูลฝูยกเลิกการแต่งงาน จากนั้นจะส่งเจ้าและแม่ของเจ้าไปอยู่ที่วัด ใช้ชีวิตที่เหลือบำเพ็ญเพียรภาวนาที่วัดไปตลอดชีวิต ถือเป็นสตรีที่กล้าแกร่งของตระกูลต่ง!”
ต่งถิงฟางสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ร่างที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเริ่มทรงตัวไม่อยู่
“หากเจ้าคิดว่ามารดาเอกอย่างข้าแค่ทำไปเพื่อขู่เจ้าเท่านั้นเจ้าก็ลองดู! เจ้ารู้ดีว่าฐานะของบุตรสาวอนุของตระกูลต่งเป็นเช่นไร…” ฮูหยินต่งซ่งซื่อจ้องไปที่ต่งถิงฟางเขม็ง
ต่งถิงอวี๋ซึ่งเป็นบุตรอนุเช่นเดียวกันยืนกำผ้าเช็ดหน้าอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าซีดเผือด
ความจริงซ่งซื่อก็ไม่อยากจัดการเรื่องของครอบครัวตัวเองต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ ทว่า ผู้ใดสั่งให้บุตรสาวอนุผู้นี้ของนางไม่ได้เรื่อง เห็นแก่ตัวเอาแต่คิดถึงผลประโยชน์ของตัวเองเช่นนี้
หากตอนนี้นางยังกล่าวไม่ชัดเจน ไม่แน่ว่าบุตรสาวอนุผู้นี้ของนางอาจทำถึงขึ้นคุกเข่าบีบให้ไป๋ชิงเหยียนไปยกเลิกการแต่งงานให้นางก็ได้ สภาพของอาเป่าเมื่อครู่ แม้แต่นางยังไม่กล้ารบกวน นางจะปล่อยให้คนเช่นนี้ไปรบกวนอาเป่าได้เช่นไร!
บุตรอนุที่ถูกเลี้ยงมาโดยอี๋เหนียงมักจะหน้าไม่อายและยอมลดเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองได้เสมอ
“ข้าจะถามอีกครั้ง เจ้าจะกลับไปกับข้าหรือจะอยู่ที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วต่อ” ซ่งซื่อถามอีกครั้ง
“ท่านพี่…” ต่งถิงเจินขมวดคิ้วแน่น พยายามเกลี้ยกล่อม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่อยู่รบกวนพี่หญิงต่อแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะกลับไปพร้อมท่านแม่ ท่านพี่พวกเรากลับกันเถิดเจ้าค่ะ”
ต่งถิงฟางก้มศีรษะคำนับซ่งซื่ออีกครั้ง “ข้าแค่อยากอยู่ดูแลพี่หญิงต่อเท่านั้นจริงๆ เจ้าค่ะ ข้าไม่มีจุดประสงค์แอบแฝงจริงๆ ท่านแม่ได้โปรดให้ข้าอยู่ต่อเถิดเจ้าค่ะ”
ซ่งซื่อมองไปทางต่งถิงฟางด้วยแววตาเยือกเย็น จากนั้นจึงหันไปทำความเคารพหลิวซื่อ “ทำเรื่องขายหน้าต่อหน้าฮูหยินสองแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ฝากเด็กสองคนนี้อยู่ดูแลอาเป่าที่นี่ด้วยนะเจ้าคะ พรุ่งนี้เช้าข้าจะส่งคนมารับตัวพวกนาง รบกวนฮูหยินสองด้วยเจ้าค่ะ…”
“เป็นครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจหรอกเจ้าค่ะ” หลิวซื่อรู้ดีว่าซ่งซื่อเป็นห่วงไป๋ชิงเหยียนจากใจจริง นางเหลือบมองไปทางต่งถิงฟางแวบหนึ่ง “ข้าจะดูแลเด็กทั้งสองเอง ฮูหยินต่งไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ”
มองส่งซ่งซื่อจากไป หลิวซื่อจึงกล่าวกับต่งถิงเจิน “อาเป่าคงหลับไปแล้ว ถิงเจินกับถิงฟางไปนั่งเล่นที่เรือนของข้าดีหรือไม่”
หลิวซื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้ต่งถิงฟางไปหาไป๋ชิงเหยียนที่เรือนชิงฮุยแน่นอน