สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 755 สู้จนตัวตาย
ตอนที่ 755 สู้จนตัวตาย
เยว่สือได้ยินจึงหันกลับไปมองจักรพรรดิต้าเยี่ยนอย่างทำตัวไม่ถูก จากนั้นหันไปมองเซียวหรงเหยี่ยนแล้วกำหมัดแน่น
“ไม่มีประโยชน์หรอก หนทางไกลเกินไป เกรงว่าเยว่สือยังไปไม่ถึงซั่วหยาง พี่ก็คงทนไม่ไหวเสียก่อน” แม้มู่หรงอวี้ยังไม่อยากตาย แม้เขาอยากจะอยู่เห็นวันที่ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง ทว่า เขารู้สภาพร่างกายของตัวเองดี
ครั้งนี้ปอดของเขาได้รับความเสียหาย เกรงว่าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เหตุใดต้องลำบากให้เยว่สือไปรับหมอหงมาจากซั่วหยางโดยเปล่าประโยชน์ด้วย
“กล่าวอันใดไม่เป็นมงคลเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ” ลำคอของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว เขากุมมือมู่หรงอวี้แน่น “เสด็จแม่ปกป้องพวกเราอยู่บนสวรรค์ เสด็จพี่ไม่มีทางเป็นอันใดไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ต้าเยี่ยนของเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เสด็จพี่จะทรงเป็นอันใดไปไม่ได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงอวี้มองดูใบหน้าเคร่งเครียดของน้องชาย จากนั้นกล่าวขึ้นยิ้มๆ เสียงเบา “ต้าเยี่ยนมีอาเหยี่ยนอยู่ พี่ไม่มีสิ่งใดต้องเป็นห่วง”
“ทว่า ต้าเยี่ยนมีเสด็จพี่อยู่ข้าถึงได้เดินทางไปทั่วทุกแคว้นได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนกุมมือมู่หรงอวี้แน่น การสูญเสียคนที่รักไปทีละคนทำให้เซียวหรงเหยี่ยนเจ็บปวดจนยากที่จะบรรยาย “เสด็จพี่ไม่มีทางเป็นอันใดแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”
“อาเหยี่ยน พี่ดีใจมากที่จะได้ไปพบเสด็จแม่…” มู่หรงอวี้ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย “พี่มีชีวิตอยู่มาได้นานถึงเพียงนี้ถือว่าสวรรค์เมตตาพี่มากแล้ว พี่ไม่โทษสิ่งใดทั้งสิ้น เพียงแค่ยังไม่ได้เห็นเจ้าแต่งงานกับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว พี่คงไม่อาจไปบอกให้เสด็จแม่รับรู้ได้! อาเหยี่ยน ชีวิตคนเราสั้นนิดเดียว เจ้าอย่าพลาดโอกาสนี้ไปเชียว!”
เซียวหรงเหยี่ยนขบกรามแน่น ข่มก้อนสะอื้นไว้ในลำคอ พยายามฝืนเงยหน้ามองมู่หรงอวี้ “หยุดยาของท่านหมอหงไปก่อนชั่วคราว ทานยาห้ามเลือดแล้วทุกอย่างอาจจะดีขึ้น เสด็จพี่อดทนไว้ก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่ไม่มีความสามารถมากพอที่จะสืบทอดตำแหน่ง หากเสด็จพี่สิ้นใจไปตอนนี้ เมืองคุนเทียนต้องวุ่นวายขึ้นแน่พ่ะย่ะค่ะ องค์ชายใหญ่และเสด็จพี่สะใภ้รับมือไม่ไหวแน่นอน! ต้าเยี่ยนเดินทางอย่างยากลำบากมาจนถึงขั้นนี้แล้ว หากเสด็จพี่ยอมแพ้ที่ตรงนี้ เมืองคุนเทียนจะเกิดความโกลาหลขึ้น ต้าเยี่ยนจะถูกแบ่งแยกอีกครั้ง พวกเราจะผิดต่อเสด็จแม่ ผิดต่อบรรพบุรุษที่สร้างแผ่นดินนี้ขึ้นมาและผิดต่อชาวบ้านต้าเยี่ยนที่ลำบากร่วมกับพวกเรามาพ่ะย่ะค่ะ!”
มู่หรงอวี้มองดูเซียวหรงเหยี่ยนที่ข่มความเจ็บปวดทุกอย่างไว้ในใจและกล่าวถ้อยคำที่ดูเหมือนทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของต้าเยี่ยนออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เขารู้สึกว่าน้องชายของเขายังเป็นคนที่ชอบแสร้งทำตัวเข้มแข็งกับทุกเรื่อง ไม่อยากให้เขาเป็นกังวลเหมือนตอนเป็นเด็กไม่มีผิดเพี้ยน
ขอบตาของมู่หรงอวี้ร้อนผ่าว พยักหน้าช้าๆ “ได้ เช่นนั้นพี่จะอดทนอีกสักระยะหนึ่ง จากนั้นค่อยไปอยู่รับใช้เสด็จแม่ของพวกเรา พี่ต้องอยู่รอเห็นวันที่อาเหยี่ยนได้แต่งงานกับสตรีที่อาเหยี่ยนรักเสียก่อน”
น้ำเสียงราวกับปลอบประโลมเด็กตัวน้อยๆ
ทว่า มู่หรงอวี้รู้สภาพร่างกายของตัวเองดี ร่างกายของเขาทนได้อีกไม่นานแล้ว
อยู่อย่างเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ไม่รู้จะเสียชีวิตลงเมื่อใดมานานหลายปี มู่หรงอวี้ไม่เคยกลัวความตาย ทว่า เขากลัวว่าการจากไปของเขาจะทำให้ภรรยาและน้องชายเสียใจ ยิ่งกลัวว่าหากเขาจากไปแล้ว ภรรยาผู้อ่อนแอของเขาจะคิดสั้นตายตามเขาไปด้วย
บนโลกนี้ความตายคือเรื่องง่ายดาย การมีชีวิตอยู่ต่างหากที่เป็นเรื่องยาก
“ข้าจะคุ้มครองเมืองหลงอันเองพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนตัดสินใจแน่วแน่ “ให้ลุงเฝิงและเยว่สือพาเสด็จพี่ไปให้ท่านหมอหงรักษาที่ซั่วหยางดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”
มู่หรงอวี้ส่ายหน้า “พี่ไปไม่ได้ หากพี่ไปเหล่าทหารต้องเสียขวัญแน่นอน เมื่อทหารเสียขวัญ เราจะคุ้มครองเมืองหลงอันไม่ได้อีกต่อไป เมื่อเมืองหลงอันถูกโจมตี ซีเหลียงก็จะบุกต่อไปยังลี่อี้ เมื่อข้ามแม่น้ำเทียนชวีไปได้ เมืองหลวงของต้าเยี่ยนจะตกอยู่ในอันตรายทันที!”
“เสด็จพี่ไม่ต้องทรงเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ มีข้าอยู่ข้าจะไม่ปล่อยให้เมืองหลงอันถูกตีแตกแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนหันไปเรียกเฝิงเย่าอย่างตัดสินใจแน่วแน่ “ลุงเฝิง!”
เฝิงเย่ารีบเดินเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก “นายน้อย!”
“รบกวนลุงเฝิงและเยว่สือรีบพาเสด็จพี่ปลอมตัวเดินทางไปซั่วหยางด้วยเถิด เยว่สือจงล่วงหน้าไปเชิญท่านหมอหงจากจวนไป๋ที่ซั่วหยางมาพบเสด็จพี่ระหว่างทาง” เซียวหรงเหยี่ยนออกคำสั่ง
การทำเช่นนี้รวดเร็วกว่าการให้เยว่สือเดินทางไปเชิญท่านหมอหงจากซั่วหยางมาพบเสด็จพี่ที่เมืองหลงอัน
“ขอรับ!”
เฝิงเย่าและเยว่สือรับคำโดยพร้อมเพรียง จากนั้นเฝิงเย่าจึงลุกขึ้นไปเตรียมการสำหรับการเดินทาง
“ท่านอาเก้า ข้าจะคุ้มกันเสด็จพ่อไปส่งที่ซั่วหยางเองพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงลี่ก้าวไปรับอาสา
“เจ้าต้องอยู่ที่นี่” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางมู่หรงลี่ด้วยแววตาหนักแน่น “การเดินทางของเสด็จพ่อของเจ้าต้องถูกปิดเป็นความลับ เจ้าต้องเดินทางกลับเมืองหลวงจินหลิงไปพร้อมกับรถม้าของเสด็จพ่อของเจ้า กล่าวกับทุกคนว่าฝ่าบาทจะเสด็จกลับวังหลวงไปพักรักษาตัว ทรงมอบหมายให้อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนเป็นคนทำศึกที่เมืองหลงอันต่อ”
หากเสด็จพี่ทรงเป็นอันใดขึ้นมาจริงๆ ต้าเยี่ยนจำเป็นต้องมีผู้นำ ในบรรดาหลานชายทั้งหมดของเซียวหรงเหยี่ยนมู่หรงลี่คือคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากที่สุด
ท่านอาเก้าให้เขากลับไปยังจินหลิงก็เพราะกลัวว่าหากเสด็จพ่อของเขาเป็นอันใดไปเสียก่อน เขาจะได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากเสด็จพ่อเพื่อควบคุมสถานการณ์ในต้าเยี่ยนให้มั่นคง
ทว่า มู่หรงลี่ไม่อยากให้เรื่องกลายเป็นเช่นนั้น เขาไม่อยากขึ้นครองบัลลังก์ เขาแค่อยากให้เสด็จพ่อ เสด็จพี่และท่านอาเก้าของเขามีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยเท่านั้น
“เสี่ยวอาลี่ เจ้าไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เจ้าต้องรู้จักแบ่งเบาภาระของเสด็จพ่อของเจ้า! อาจะช่วยเจ้าเอง” เซียวหรงเหยี่ยนเอื้อมมือไปจับไหล่ของมู่หรงลี่ เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับมีภาระที่หนักอึ้งอยู่บนบ่าของเขา
“อาลี่ยังเด็ก รับผิดชอบดูแลต้าเยี่ยนไม่ไหวหรอก” มู่หรงอวี้ขมวดคิ้วแน่น “เจ้าต้องเป็นคนรับผิดชอบภาระนี้แทน”
“เสด็จพี่มีโอรสถึงสามองค์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรให้ข้ารับหน้าที่นี้แทน ข้าช่วยปูทางให้พวกเขาได้ ทว่า ไม่อาจแทนที่พวกเขาได้พ่ะย่ะค่ะ” เซียวหรงเหยี่ยนหันไปมองมู่หรงอวี้ “ขอเพียงมีท่านหมอหงช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้เสด็จพี่ เสด็จพี่ทรงมีเวลาสอนเสี่ยวอาลี่ด้วยตัวเองแน่นอน เหตุใดต้องกังวลว่าเขาจะทำไม่ได้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงอวี้ขมวดคิ้วแน่น เขาจ้องไปในดวงตาล้ำลึกและนิ่งขรึมของเซียวหรงเหยี่ยน
มู่หรงอวี้รู้มาโดยตลอดว่าเซียวหรงเหยี่ยนเหมาะที่จะเป็นจักรพรรดิมากกว่าเขา ความทะเยอทะยาน ปณิธานและความสามารถของเซียวหรงเหยี่ยนเหมาะที่จะนั่งอยู่บนบัลลังก์นี้มากกว่าเขา เขารู้ดีว่าน้องชายของเขาอยากแม้กระทั่งกลายเป็นผู้นำของใต้หล้าแห่งนี้ หากเป็นผู้อื่นคงไม่รอให้เขาเอ่ยปาก คงแย่งชิงบัลลังก์ของเขาทันทีที่รู้ว่าเขาป่วยใกล้ตายเช่นนี้ ทว่า อาเหยี่ยนกลับไม่ยอมก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา
มู่หรงอวี้รู้ดีว่ากล่าวมากไปก็ไม่มีประโยชน์อันใดขึ้นมา เขาจึงปล่อยให้น้องชายจัดการตามแผนการของเขา
บ่ายวันนั้นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนำทัพไปสู้รบกับซีเหลียงด้วยตัวเอง คนภายนอกรับรู้ว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนเสด็จกลับไปรักษาตัวที่เมืองหลวงจินหลิงพร้อมกับองค์ชายมู่หรงลี่ ทว่า แท้จริงแล้วมู่หรงอวี้ลอบเดินทางไปยังซั่วหยางภายใต้ความคุ้มครองของเฝิงเย่าและองครักษ์ลับ ส่วนเยว่สือเร่งเดินทางไปรับตัวหมอหงจากซั่วหยางมาสมทบกับจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนระหว่างทาง
วันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนเจ็ด สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนแห่งต้าเยี่ยนคุ้มกันเมืองหลงอันอย่างแน่นหนา ทำให้ซีเหลียงสูญเสียเสบียงลงเรื่อยๆ จากนั้นส่งทหารไปทำลายเส้นทางสำคัญที่ใช้ส่งเสบียงจากซีเหลียงมายังต้าเยี่ยนและเผาทำลายเสบียงอาหารของซีเหลียงที่อยู่ในต้าเยี่ยนทิ้ง วันต่อมาแม่ทัพดุดันเก๋อเจิ้นอันแห่งซีเหลียงตัดสินใจบุกทำลายประตูเมืองหลงอันให้ได้ เขาตะโกนด่ายั่วยุอยู่ด้านล่างกำแพงเมือง สุดท้ายถูกอ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนตัดศีรษะ กองทัพซีเหลียงถูกต้อนให้ถอยไปยังหลงหู่ไถ
วันที่ยี่สิบแปด เดือนเจ็ด สมัยรัชศกเซวียนเจียปีที่สิบเจ็ด ต้าเหลียงเกิดโรคระบาดขึ้นอย่างกะทันหัน อาการของโรคเหมือนกับชาวบ้านที่ป่วยในเมืองหวาหยางและฉินไหวไม่มีผิดเพี้ยน องค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นส่งทูตไปยังต้าเหลียง กล่าวว่าหากต้าเหลียงยอมจำนน ต้าจิ้นจะมอบสูตรยารักษาโรคระบาดให้ จักรพรรดิต้าเหลียงสังหารทูตของต้าจิ้นเพื่อประกาศศักดาว่าต้าเหลียงพร้อมสู้จนตัวตาย