สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 808 ไม่คุ้นเคย
ตอนที่ 808 ไม่คุ้นเคย
จ้าวเซิ่งและหยางอู่เช่อกำดาบแน่นพลางรอคำสั่งจากไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองแม่ทัพทั้งสอง “จงสังหารสายลับคนที่เหลือที่เตรียมกลับไปรายงานความเคลื่อนไหวในค่ายทหารต้าจิ้นทิ้งทั้งหมด ห้ามให้พวกเขาคนใดคนหนึ่งหลุดรอดนำข่าวกลับไปรายงานให้เฉาเหรินอี้รับรู้เด็ดขาด”
จ้าวเซิ่งพยักหน้า เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนชี้นิ้วไปยังตำแหน่งที่ปักธงสีแดงสองสามตำแหน่ง “จากนั้นให้คนพาสุนัขดมกลิ่นไปตามหาสายลับของเมืองต้าหมิงตามบริเวณเหล่านี้”
หญิงสาวหันไปมองจ้าวเซิ่งและหยางอู่เช่อ จากนั้นชี้นิ้วลงที่ขอบของแผนที่โต๊ะทราย “หากเจอพวกเขา หากจับเป็นไม่ได้ก็ให้จับตาย! ขอเพียงอย่างเดียวห้ามพวกเขาคนใดคนหนึ่งหนีกลับไปยังเมืองต้าหมิงได้โดยเด็ดขาด!”
ก่อนหน้านี้จ้าวเซิ่งรู้อยู่แล้วว่าไป๋ชิงเหยียนเก่งกาจในการรบ ทว่า เขาไม่คิดเลยว่าหญิงสาวจะเก่งมากถึงเพียงนี้ พวกเขาแค่เข้ามารายงานให้หญิงสาวทราบว่าเฉาเหรินอี้ให้คนส่งอาหารพื้นเมืองและเหล้าของต้าเหลียงมาที่ค่ายทหารต้าจิ้น ไป๋ชิงเหยียนกลับมองจุดประสงค์ของเฉาเหรินอี้ออกและจัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างมีระบบภายในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ด้วยความมีสติ
มิน่าถึงได้กล่าวกันว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วคือยอดนักรบ การมีสติในการรับมือต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ จ้าวเซิ่งยอมรับว่าตนเองทำไม่ได้
“พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ” จ้าวเซิ่งกำหมัดคารวะแล้วเดินออกไปจากกระโจมทันที
ทว่า หยางอู่เช่อยังคงไม่สบายใจ “องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ให้กระหม่อมอยู่กลางค่ายทหารเองดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ กองทัพที่อยู่กลางค่ายทหารต้องเผชิญหน้ากับกองทัพของเฉาเหรินอี้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วอยู่กลางค่ายทหารเช่นนี้เสี่ยงอันตรายเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
กว่าหยางอู่เช่อจะตัดสินใจได้ว่าจะร่วมติดตามผู้นำที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นหนึ่งในใต้หล้าแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาไม่อยากเห็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วจบชีวิตลงที่นี่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง
“มิเป็นอันใด ข้ารู้ขอบเขตดี แม่ทัพหยางไม่ต้องเป็นห่วง” ไป๋ชิงเหยียนคารวะหยางอู่เช่อ
“ฝากแม่ทัพหยางจัดการเรื่องที่เหลือด้วย”
เมื่อไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ หยางอู่เช่อจึงไม่คิดโน้มน้าวอีก เขากำหมัดคารวะไป๋ชิงเหยียนแล้วเดินออกมาจากกระโจมที่พักเพื่อจัดทัพเตรียมพร้อม
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นหยางอู่เช่อจากไปแล้ว เขาจึงพับม้วนไม้ไผ่ที่บันทึกกลยุทธ์ทางการรบของไป๋ชิงเหยียนเก็บ จากนั้นกล่าวขึ้น “อาเป่ามีแผนอื่นให้แม่ทัพจ้าวทำอย่างนั้นหรือ”
เมื่อครู่ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนออกคำสั่งให้จ้าวเซิ่งนำทัพทหารห้าหมื่นนายไปรออยู่ที่ด้านขวาของค่ายทหาร หญิงสาวสั่งให้จ้าวเซิ่งรอฟังคำสั่ง ไม่ได้สั่งให้เขารอจู่โจม ไป๋ชิงเหยียนคงมีแผนการอื่นให้จ้าวเซิ่งทำแน่
“ต้องดูว่าเฉาเหรินอี้มีความมุ่งมั่นมากเพียงใด หากเฉาเหรินอี้ต้องการปราบทหารในค่ายต้าจิ้นให้สิ้นซาก พวกเขาต้องยกกองกำลังทั้งหมดมาที่แน่อย่างแน่นอน เช่นนั้นจ้าวเซิ่งสามารถนำทหารห้าหมื่นนายบุกไปยังเมืองต้าหมิงและยึดเมืองต้าหมิงได้ภายในคืนนี้ ทว่า หากเฉาเหรินอี้เพียงแค่ต้องการทำลายกำลังบางส่วนของต้าจิ้นเท่านั้น เช่นนั้นก็ฝังร่างของกองทัพของเฉาเหรินอี้ไว้ที่นี่ให้หมด!”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวช้าๆ อย่างมั่นคงราวกับมีแผนการในใจหมดแล้ว
เซียวหรงเหยี่ยนวางม้วนไม้ไผ่ลงด้านข้าง
“แม่ทัพเฉาเหรินอี้ผู้นี้ค่อนข้างสนิทสนมกับองค์ชายสี่เว่ยฉีเหิงที่สิ้นพระชมน์ไป ทว่า น้อยคนนักที่จะรู้เรื่องนี้…”
สิ้นเสียง ไป๋ชิงเหยียนที่ยืนอยู่หน้าแผนที่โต๊ะทรายหันกลับไปมองเซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งอยู่บนเบาะนั่งหน้าโต๊ะ หญิงสาวนึกถึงเว่ยฉีเหิงที่จบชีวิตลงที่ด่านชิงซีซานอย่างแปลกประหลาดขึ้นมาทันที จากนั้นเอ่ยถาม
“ข้างกายของเว่ยฉีเหิงมีคนของท่านอยู่อย่างนั้นหรือ ต้าเยี่ยนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเว่ยฉีเหิงใช่หรือไม่”
เซียวหรงเหยี่ยนลุกเดินไปหาไป๋ชิงเหยียน สองมือของชายหนุ่มยันลงบนแผนที่โต๊ะทราย กักตัวไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ในอ้อมแขนทั้งสองข้าง ชายหนุ่มมองดูตำแหน่งที่ไป๋ชิงเหยียนปักธงในแผนที่แวบหนึ่ง จากนั้นเงยหน้าสบตาของหญิงสาวนิ่งๆ แล้วกล่าวอย่างไม่คิดปิดบัง
“ข้างกายของเว่ยฉีเหิงมีที่ปรึกษาแซ่กวนอยู่คนหนึ่ง เขาคือสายลับที่ข้าส่งไปแฝงตัวอยู่ในต้าเหลียงเมื่อนานมาแล้ว ครั้งนี้ต้าเหลียงส่งเว่ยฉีเหิงไปเจรจาสงบศึกกับต้าจิ้น หากต้าจิ้นตกลงสงบศึก ต้าเยี่ยนจะตกอยู่ในอันตรายทันที! ดังนั้นกวนเซียนเซิงจึงสั่งให้คนสังหารเว่ยฉีเหิงและคนของเขาทั้งหมด จากนั้นโยนความผิดให้ต้าจิ้น!”
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเช่นนี้จึงเข้าใจเรื่องทั้งหมดขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจว่าทหารต้าจิ้นพลั้งมือสังหารเว่ยฉีเหิง หรือไม่ก็เป็นเพราะไป๋จิ่นจื้อไม่อยากให้ต้าจิ้นเจรจาสงบศึกกับต้าเหลียงจึงกำจัดเว่ยฉีเหิงลงที่ด่านชิงซีซาน
“ต่อมากวนเซียนเซิงต้องการแสดงละครให้สมจริงจึงสังเวยชีวิตของตัวเองในแผนการครั้งนี้ด้วย เขาพาร่างที่บาดเจ็บหนักของตัวเองนำศพของเว่ยฉีเหิงกลับไปยังเมืองหาน กวนเซียนเซิงรู้ดีว่าจักรพรรดิแห่งต้าเหลียงรักโอรสองค์นี้มากที่สุด เขาจึงแต่งคำสั่งเสียที่ฟังแล้วสะเทือนใจของเว่ยฉีเหิงขึ้นมาแล้วกล่าวให้จักรพรรดิแห่งต้าเหลียงฟัง ทุกคำบาดลึกลงไปในใจของจักรพรรดิต้าเหลียง ทำให้จักรพรรดิต้าเหลียงไม่คิดสงบศึกกับต้าจิ้นอีกเพราะการตายของเว่ยฉีเหิง เช่นนี้ต้าจิ้นจะได้พัวพันทำสงครามอยู่กับต้าเหลียง ต้าเยี่ยนจะได้ต่อสู้กับแคว้นเว่ยอย่างไม่ต้องพะวงหลัง”
ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกันมาก ใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ใกล้เพียงไม่ถึงคืบ หญิงสาวมองเห็นความเสียดายในดวงตาของเซียวหรงเหยี่ยน ชายหนุ่มกล่าวถึงกวนเซียนเซิงด้วยความเคารพนับถือ
“กวนเซียนเซิงคือวีรบุรุษของแคว้นต้าเยี่ยน” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมขึ้นแตะไหล่ของเซียวหรงเหยี่ยนเบาๆ หญิงสาวไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันในสงครามของต้าจิ้น “อีกสักครู่ค่ายทหารของต้าจิ้นคงวุ่นวาย ท่านได้รับบาดเจ็บอยู่ รีบจากไปก่อนเถิด”
“สงครามอยู่เบื้องหน้า คู่หมั้นอย่างข้าจะทิ้งคู่หมั้นของตัวเองไปได้อย่างไรกัน”
เซียวหรงเหยี่ยนมองไป๋ชิงเหยียน น้ำเสียงอ่อนโยนของชายหนุ่มดังขึ้นท่ามกลางแสงไฟจากเตาผิงและเปลวเทียนที่สว่างเรืองรองในกระโจมที่พักใหญ่
สองสายตาประสานกัน มือที่วางอยู่บนไหล่ของเซียวหรงเหยี่ยนของไป๋ชิงเหยียนกระชับแน่นขึ้น ใจของหญิงสาวเต้นรัวอีกครั้ง
เมื่อครู่หญิงสาวกล่าวว่าเซียวหรงเหยี่ยนคือคู่หมั้นของตัวเองเพราะสถานการณ์บีบบังคับเท่านั้น
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่กังขาในฝีมือการต่อสู้ของเซียวหรงเหยี่ยน
หญิงสาวพยักหน้า “เช่นนั้นท่านก็ระวังตัวด้วย”
“ข้าช่วยเจ้าสวมเกราะ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
เสิ่นชิงจู๋กลับเข้ามาในกระโจมหลังจากออกไปสั่งให้คนส่งจดหมายไปยังเมืองหลวง เมื่อเห็นเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ที่นี่ด้วย หญิงสาวตะลึงไปเล็กน้อย ไป๋ชิงเหยียนกำลังสวมถุงทรายอยู่ เสิ่นชิงจู๋จึงเดินเข้าไปหา
“คุณหนูใหญ่?”
เซียวหรงเหยี่ยนถือชุดเกราะเงิน ช่วยไป๋ชิงเหยียนสวมชุดเกราะ ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่งเสิ่นชิงจู๋
“เสิ่นชิงจู๋ เจ้าไปนำชุดเกราะสีเทามาให้เซียวเซียนเซิงด้วย ครึ่งชั่วยามหลังจากนี้ให้คนส่งท่านหมอหงไปยังเมืองหย่งอันที”
แม้หมอหงจะเป็นหมอทหารที่ติดตามมากับกองทัพ ขณะทำศึกใหญ่เป็นเวลาที่กองทัพต้องการหมอทหารมากที่สุด ทว่า หมอหงอายุมากแล้ว สู้คนหนุ่มสาวไม่ได้ การส่งหมอหงไปยังเมืองหย่งอันทำให้ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกวางใจมากกว่า
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าหมอหงจะไม่ยอมทำตาม หญิงสาวสวมเกราะที่แขนพลางกล่าว “หากท่านหมอหงไม่ยอมจากไป เจ้าจงให้ท่านหมอหงและบรรดาหมอทหารทั้งหมดติดตามอยู่กับจ้าวหร่าน บอกจ้าวหร่านว่าหากจ้าวเซิ่งจะเดินทางไปที่เมืองต้าหมิง ให้เขาทิ้งทหารไว้คอยปกป้องท่านหมอหงอยู่ที่เดิม ต้องปกป้องท่านหมอหงให้ดีที่สุด”
สีหน้าของเสิ่นชิงจู๋ราบเรียบไม่เปลี่ยนแปลง หญิงสาวถามเสียงนิ่ง
“คุณหนูใหญ่จะบุกโจมตีเมืองต้าหมิงคืนนี้หรือเจ้าคะ”
“วันนี้แม่ทัพเฉาเหรินอี้แห่งเมืองต้าหมิงอาจบุกมาโจมตีค่ายทหารของเรา ไปเตรียมตัวเถิด!”
ไป๋ชิงเหยียนสั่ง
เสิ่นชิงจู๋รับคำแล้วเดินออกไปจากกระโจมอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน บรรดาทหารในค่ายทหารต้าจิ้นต่างดับไฟลง มีเพียงกระโจมของแม่ทัพบางคนเท่านั้นที่ยังสว่างอยู่
เมื่อสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาเห็นเหตุการณ์จึงสั่งให้สองในสายลับทั้งหมดกลับไปรายงานที่เมืองต้าหมิง คนที่เหลืออยู่ดูสถานการณ์ต่อ เผื่อมีการเปลี่ยนแปลงจะได้กลับไปรายงานแม่ทัพเฉาเหรินอี้ได้ทันเวลา