สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 819 นำทัพไปต้านทานอย่างสุดความสามารถ
ตอนที่ 819 นำทัพไปต้านทานอย่างสุดความสามารถ
“ไม่ทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีแผนการใดกัน บอกให้ข้ารับรู้ได้หรือไม่”
สิ้นเสียงของเซียวหรงเหยี่ยน ซีไหวอ๋องจึงพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย “นั่นสิ องค์หญิงเจิ้นกั๋วบอกมาได้เลย ข้าจะขอบคุณท่านมาก”
“ในเมื่อแคว้นเว่ยกำลังทำสงครามอยู่กับต้าเยี่ยน แคว้นเว่ยก็ควรให้ความสำคัญกับต้าเยี่ยนเป็นหลัก ตอนที่แคว้นเว่ยส่งคนไปเจรจาสงบศึกกับต้าเยี่ยน ต้าเว่ยเสนอเงื่อนไขใดให้ต้าเยี่ยนกัน” ไป๋ชิงเหยียนถาม
“ตอนที่แคว้นเว่ยส่งคนไปเจรจากับต้าเยี่ยน พวกเราเสนอกับจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนว่าจะมอบดินแดนของแคว้นเว่ยที่ต้าเยี่ยนยึดได้ทั้งหมดให้แก่พวกเขา อีกทั้งจะมอบดินแดนที่อยู่ทางเหนือทั้งหมดของเมืองชางให้ต้าเยี่ยน ขอเพียงต้าเยี่ยนยอมยุติสงคราม ให้ชาวบ้านได้หยุดพัก ไม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สงครามที่อันตรายเช่นนี้อีก ทว่า จักรพรรดิต้าเยี่ยนไม่ยอมยุติสงคราม พระองค์ต้องการทำลายล้างแคว้นเว่ยให้ได้! ข้า…”
“ทั้งสองแคว้นเจรจาสงบศึกกัน แคว้นเว่ยยอมถอยได้อีกหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ
“ขอเพียงต้าเยี่ยนยอมยุติสงคราม ทั้งสองแคว้นเจรจาสงบศึก แคว้นเว่ยยินดีให้ต้าเยี่ยนเป็นใหญ่อย่างลับๆ ทว่า ต้าเยี่ยนก็ยังไม่ยอมหยุดอยู่ดี”
“เช่นนั้นก็ถอยอีกก้าว ยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยน” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองซีไหวอ๋อง “ประกาศให้ทุกแคว้นรับรู้ว่าแคว้นเว่ยยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยน ยินยอมส่งบรรณาการให้ต้าเยี่ยนทุกปี ขอเพียงต้าเยี่ยนยอมยุติสงคราม ยอมให้ชาวบ้านได้พักจากสงครามบ้าง”
“ยอม…เป็นรัฐบรรณาการอย่างนั้นหรือ” สีหน้าของซีไหวอ๋องขาวซีด เขารู้สึกว่าถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก “กับต้าเยี่ยนน่ะหรือ!”
มือที่กำชายเสื้อแน่นของเซียวหรงเหยี่ยนค่อยๆ คลายออก เขากล่าวต่อจากซีไหวอ๋อง “สองปีก่อนต้าเยี่ยนยังเป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ที่ถูกทุกแคว้นดูถูก บัดนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะให้แคว้นเว่ยยอมเป็นรัฐบรรณาการของแคว้นเล็กๆ เยี่ยงนี้อย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ การเสนอเงื่อนไขยอมให้ต้าเยี่ยนเป็นใหญ่อย่างลับๆ ดั่งที่ซีไหวอ๋องตรัส แคว้นเว่ยของพวกเราก็รู้สึกอัปยศมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องรัฐบรรณาการเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ทว่า แคว้นเว่ยของพวกท่านกลับถูกแคว้นเล็กๆ ที่มีแต่คนเคยดูถูกโจมตีจนไม่มีทางสู้กลับจนเกือบล่มสลายเช่นนี้!” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “แม้แคว้นเว่ยจะเคยเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งจากภูมิประเทศที่ได้เปรียบ ทว่า บัดนี้สถานการณ์ในใต้หล้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากแคว้นเว่ยยังจมอยู่กับอดีต ยังคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่และดูถูกแคว้นที่เล็กกว่าอยู่ อีกไม่นานแคว้นของพวกท่านคงดับสูญแน่”
ไป๋ชิงเหยียนละสายตากลับไปมองซีไหวอ๋อง “ซีไหวอ๋องลองนึกย้อนไปถึงตอนที่ต้าเยี่ยนถูกต้าจิ้นโจมตีจนต้องยอมตกเป็นรัฐบรรณาการของต้าจิ้นดู ต้าเยี่ยนไม่รู้สึกอัปยศอย่างนั้นหรือ แคว้นต้องดำรงอยู่ต่อไปให้ได้ พวกเขาจึงจะมีโอกาสกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง บัดนี้ต้าเยี่ยนก็ยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้งจนสามารถโจมตีแคว้นเว่ยจนไม่มีทางสู้ได้ไม่ใช่หรือ”
ซีไหวอ๋องลังเลเล็กน้อย
เมื่อเซียวหรงเหยี่ยนเห็นว่าซีไหวอ๋องมีท่าทีลังเล เขาจึงกล่าวขึ้นยิ้มๆ “องค์หญิงเจิ้นกั๋วตรัสมีเหตุผล ทว่า ในฐานะคนแคว้นเว่ย ข้าไม่อยากเห็นต้าเว่ยต้องอัปยศถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่สามารถขอร้องแคว้นอื่นให้ช่วยเหลือได้ เหตุใดเราต้องยอมลดศักดิ์ศรีถึงเพียงนี้ด้วย เหยี่ยนทราบดีว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีปณิธานอยากครอบครองใต้หล้า เหยี่ยนอดสงสัยไม่ได้ว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วกำลังโน้มน้าวซีไหวอ๋องเพื่อจุดประสงค์อื่นอยู่”
ซีไหวอ๋องมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน เขาคิดได้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนก็เป็นคนแคว้นเว่ยเช่นกัน เมื่อเห็นชายหนุ่มทำทุกอย่างแม้กระทั่งทะเลาะกับคู่หมั้นของตัวเองเพื่อแคว้นเว่ย ใจของซีไหวอ๋องจึงสงบลงไม่น้อย
สิ้นเสียงไป๋ชิงเหยียนหันไปมองทางเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “หากไม่เคยเผชิญความยากลำบาก ถูกดูถูกและพบเจอกับความอัปยศมาก่อน จะมีแรงและกำลังใจที่แน่วแน่ต่อสู้เพื่อกลายเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งได้อย่างไรกัน จะมีวันหน้าได้อย่างไรกัน ข้าโน้มน้าวให้แคว้นเว่ยประกาศต่อทุกแคว้นว่ายินดียอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยน เช่นนี้หากต้าเยี่ยนยังยืนกรานทำลายล้างแคว้นเว่ยอยู่ เขาจะกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาของทุกแคว้นทันที ต้าเยี่ยนจะไม่กลัวอย่างนั้นหรือ”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นยกถ้วยชาขึ้น ใช้ฝาถ้วยชากดใบชาที่ลอยขึ้นมาเหนือถ้วยให้ลงไปตามเดิม จากนั้นยกขึ้นจิบหนึ่งอึกแล้วกล่าวต่อ “ข้ามีปณิธานอยากครอบครองใต้หล้าจริงๆ ข้าไม่เคยคิดปิดบังมาก่อน การทำให้ต้าเยี่ยนไม่สามารถทำลายล้างแคว้นเว่ยได้จะทำให้ต้าเยี่ยนมีอุปสรรคต่อไปเรื่อยๆ ต้าเยี่ยนจะไม่สามารถแข่งขันแย่งชิงเพื่อเป็นที่หนึ่งในใต้หล้ากับต้าจิ้นได้โดยไม่ต้องพะวงหลัง นี่คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อต้าจิ้นของข้ามาก ทว่า เช่นนี้แคว้นต้าเว่ยก็จะยังคงมีอยู่ต่อไป ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่นนี้ไม่ดีหรืออย่างไร”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยน “หรงเหยี่ยนคือคนแคว้นเว่ย ท่านจะทะนงในศักดิ์ศรีต่อไปจนแคว้นดับสูญอย่างนั้นหรือ หากแคว้นเว่ยมีเวลาพักฟื้นตัว วันหนึ่งอาจกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้งก็ได้ผู้ใดจะไปรู้ ทุกคนในใต้หล้าแห่งนี้ล้วนมีสิทธิ์แข่งขันเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า สุดท้ายใต้หล้าแห่งนี้จะตกเป็นของผู้ใดก็ยังไม่อาจรู้ได้”
“แผนการขององค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่เลวทีเดียว ทว่า หากสามารถเกลี้ยกล่อมให้แม่ทัพหน้ากากผีหรือต้าจิ้นส่งทัพไปช่วยเหลือและบีบให้แคว้นต้าเยี่ยนยอมยุติสงครามได้จะไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดต้องเลือกทางที่ต้องตกเป็นรัฐบรรณาการของแคว้นต้าเยี่ยนทางเดียวด้วย” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางซีไหวอ๋อง จากนั้นเอ่ยถามยิ้มๆ “ถึงเวลานั้นหากแม่ทัพหน้ากากผีและต้าจิ้นไม่ยอมช่วยเหลือ พวกเราค่อยเลือกทางนี้ก็ยังไม่สาย ท่านอ๋องมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
“หรงเหยี่ยนกล่าวมีเหตุผล!” ซีไหวอ๋องยกมือคารวะไป๋ชิงเหยียน “ข้ารู้ดีว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วหวังดีต่อข้า ในเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่สามารถรับปากได้ว่าสามารถเกลี้ยกล่อมองค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นให้ช่วยเหลือแคว้นเว่ยได้ ข้าก็ยินดีเดินทางไปลองขอร้องแม่ทัพหน้ากากผีก่อน หากไม่ได้จริงๆ ค่อยยอมเป็นรัฐบรรณาการของต้าเยี่ยนก็ยังไม่สาย”
“เช่นนั้นข้าคงยุ่งมากไป…” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วอย่าได้โมโหไป เดิมทีข้าคิดว่าสามารถขอร้องให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยขอร้ององค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นให้ได้ ทว่า เมื่อครู่หรงเหยี่ยนวิเคราะห์ให้ข้าฟังอย่างละเอียดแล้ว ครั้งนี้ต้าจิ้นต้องทำลายต้าเหลียงให้ได้เพื่อปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าในวันข้างหน้า ต้าจิ้นไม่อาจทางแบ่งทหารให้แคว้นเว่ยได้ แม้แคว้นเว่ยของพวกเราจะไม่ได้มีปณิธานที่ยิ่งใหญ่อย่างการครอบครองใต้หล้า ทว่า ไม่ว่าจะเป็นไทเฮา ฝ่าบาทหรือแม้แต่ข้าต่างก็ไม่อยากให้แคว้นของเราตกเป็นแคว้นของผู้อื่นด้วยน้ำมือของพวกเรา หากเป็นเช่นนั้นพวกเราคงไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษในปรโลกได้”
ซีไหวอ๋องกล่าวด้วยความจริงใจ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ
“ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจสิ่งที่ซีไหวอ๋องกล่าว เช่นนั้นซีไหวอ๋องก็ไปลองดูก่อนเถิด ทว่า ข้าคิดว่าหรงตี๋คงไม่ยอมช่วยเหลือแคว้นเว่ย หรงตี๋ไม่ได้มีเขตแดนติดกับแคว้นเว่ย พวกเขาต้องขอยืมเส้นทางจากซีเหลียงไม่ก็ต้าจิ้น หรงตี๋ไม่ถนัดทำสงครามระยะไกลเช่นนั้น”
“ดังนั้นข้าจึงอยากให้ต้าจิ้นยื่นมือเข้าช่วยเหลือสักนิด!” ซีไหวอ๋องกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว เขาโค้งคำนับให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม “เดิมทีข้าตั้งใจจะเดินทางไปเจรจากับแม่ทัพหน้ากากผีก่อน แล้วค่อยให้หรงเหยี่ยนติดต่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วให้ ในเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าวขึ้นมาก่อนเช่นนี้ ข้าจึงขอร้ององค์หญิงเจิ้นกั๋วไว้ ณ ที่นี้เลย”
“นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ทว่า เกรงว่าแคว้นเว่ยจะทนถึงตอนนั้นไม่ไหว ข้าคำนวณความเร็วในการเดินทัพของต้าเยี่ยนแล้ว ตอนนี้กองทัพของแม่ทัพเซี่ยสวินและองค์ชายรองมู่หรงผิงคงมารวมตัวกันแล้ว หรือตอนนี้พวกเขาอาจจะบุกไปถึงเมืองชางแล้วก็ได้” ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง ใช้นิ้วลูบที่วางแขนอย่างใช้ความคิด “ต่อให้แคว้นเว่ยจะส่งแม่ทัพใหญ่ซ่งกวนซวี่นำทัพไปต้านทานอย่างสุดความสามารถ ทว่า จะต้านทานไว้ได้นานเท่าใดกันเชียว”
ตอนต่อไป