สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 946 ทำตามผู้นำ
ตอนที่ 946 ทำตามผู้นำ
เซียวหรงเหยี่ยนถือเป็นบุรุษรูปงามที่หาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นบุรุษรูปงามที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์และสุขุมนุ่มลึกในเวลาเดียวกันอีกต่างหาก หลี่จือเจี๋ยจะไม่ประทับใจชายหนุ่มได้อย่างไรกัน
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ “หรงเหยี่ยนไม่ได้มีความดีความชอบใดๆ จะกล้าขอบรรดาศักดิ์ได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
“เซียวเซียนเซิงหมั้นหมายกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างต้าเยี่ยนและต้าโจวมั่นคง นี่ยังไม่ถือเป็นความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่ต่อต้าเยี่ยนอีกหรือ” หลี่จือเจี๋ยจินตนาการถึงภาพที่ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน เขารู้สึกว่าช่างเป็นภาพที่น่ามองยิ่งนัก เขากล่าวกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยิ้มๆ “ท่านอ๋องเก้ามีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาแยกไปต้อนรับต่งซื่อ บรรดาฮูหยินตระกูลไป๋ คุณหนูเจ็ดและคุณหนูแปดก่อน สองสาวอยากรายงานเรื่องที่คุณชายสามไป๋ชิงฉีและคุณชายเก้าไป๋ชิงอวิ๋นกลับมาถึงเมืองหลวงแล้วให้ทุกคนในตระกูลไป๋รับรู้โดยเร็วที่สุด
ชุนเถา ชุนจือ เจินหมิง เจินกวง ถงหมัวมัว บรรดาขันทีและนางกำนัลช่วยปรนนิบัติไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งงานเป็นชุดพิธีร่วมงานเลี้ยงฉลอง ไป๋จิ่นซิ่วเดินเคียงข้างไป๋ชิงเหยียนไปยังตำหนักเซวียนหมิง
ไป๋จิ่นซิ่วคู่กับไป๋ชิงเหยียนอยู่ด้านหน้าสุดของกลุ่ม หญิงสาวกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบาหวิว “พี่หญิงใหญ่ เรื่องที่พี่หญิงใหญ่จะให้อาเจวี๋ยไปเปลี่ยนตัวกับเสี่ยวซื่อที่เมืองหานเพื่อดูแลเรื่องทางนั้นต่อ ข้าคิดว่าข้าเหมาะสมมากกว่าเจ้าค่ะ อาเจวี๋ยเพิ่งกลับมา เขาควรอยู่เป็นเพื่อนท่านอาสะใภ้สี่ให้นานกว่านี้ อีกประการหนึ่งหากพี่หญิงใหญ่ต้องการให้ความสำคัญกับสตรี การส่งข้าไปในตอนนี้จะยิ่งทำให้จุดยืนของพี่หญิงใหญ่ชัดเจนเจ้าค่ะ”
เดิมทีไป๋ชิงเหยียนก็คิดว่าไป๋จิ่นซิ่วเหมาะสมที่สุด ทว่า เมื่อคิดได้ว่าวั่งเกอยังเล็ก ต่อมาอาเจวี๋ยกลับมา ไป๋ชิงเหยียนจึงตัดสินใจส่งอาเจวี๋ยไปแทน
“หากเจ้าไปเมืองหานแล้ววั่งเกอจะทำเช่นไร ฉินหล่างจะทำเช่นไร” ไป๋ชิงเหยียนเดินไปพร้อมกับไป๋จิ่นซิ่วช้าๆ “ถึงแม้พี่จะให้ฉินหล่างเดินทางไปกับเจ้าด้วย ทว่า วั่งเกอทนเดินทางไกลและลำบากเช่นนั้นไม่ไหวหรอก”
“ออกเดินทางตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ค่อยๆ เดินทางไปก็สิ้นเรื่องเจ้าค่ะ แม้วั่งเกอจะยังเด็ก ทว่า ไม่ควรประคบประหงมเขามากไปเจ้าค่ะ ข้าหวังว่าเมื่อวั่งเกอเติบใหญ่ขึ้น เขาจะทำประโยชน์ให้ต้าโจวได้เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วคิดทบทวนมาดีแล้ว “บัดนี้พี่หญิงใหญ่ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแล้ว พี่หญิงใหญ่ไม่ควรไปออกรบด้วยตัวเองอีก หากวันหน้าซีเหลียงยกทัพมาบุกแคว้นเรา อาเจวี๋ยเหมาะจะนำทัพออกรบมากกว่าข้า ประการแรกอาเจวี๋ยเคยสู้รบกับทหารซีเหลียงมาแล้ว อีกประการอาเจวี๋ยซ่อนตัวอยู่ที่หนานเจียงหลายปี เขาคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนั้นดีกว่าข้า ดังนั้นข้าจะไปเมืองหานเองเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนชะงักฝีเท้า บรรดาขันทีและนางกำนัลที่เดินโน้มกายตามอยู่ทางด้านหลังรีบหยุดฝีเท้าของตัวเองลงทันที
ไป๋ชิงเหยียนมองสบกับดวงตาแจ่มชัดของไป๋จิ่นซิ่ว เรื่องบางอย่างพวกนางพี่น้องไม่จำเป็นต้องกล่าวออกมาเป็นถ้อยคำ พวกนางแค่มองตาก็รู้ใจกันแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนไม่เคยลืมสัญญาสามปีระหว่างนางและอวิ๋นพั่วสิง
ไป๋จิ่นซิ่วไม่เคยลืมความแค้นของน้องชายสิบเจ็ด
การเสียชีวิตในสนามรบคือเรื่องปกติ ทว่า อวิ๋นพั่วสิงผ่าท้องเหยียดหยามคุณชายตระกูลไป๋ พวกนางจำเป็นต้องชำระแค้นในครั้งนี้!
ทั้งๆ ที่วันนั้นอวิ๋นพั่วสิงถูกกองทัพไป๋ล้อมไว้แล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนจำต้องข่มความเจ็บปวดปล่อยให้เขารอดชีวิตไป วันนี้ตระกูลไป๋กลายเป็นใหญ่ในแผ่นดินแล้ว ถึงเวลาชำระแค้นกับอวิ๋นพั่วสิงแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนกุมมือไป๋จิ่นซิ่วแน่น จากนั้นกล่าวขึ้น “ไปกันเถิด…”
“พี่หญิงใหญ่” ไป๋จินเจาวิ่งตรงเข้ามาหาไป๋ชิงเหยียน สาวน้อยทำความเคารพด้วยอาการเหนื่อยหอบ จากนั้นกล่าวขึ้น “พี่หญิงใหญ่ พี่ชิงจู๋และใต้เท้าเสิ่นเทียนจือกลับมาแล้วเจ้าค่ะ พี่ชิงจู๋พาครอบครัวของกว่างอันอ๋องและไป๋สุ่ยอ๋องมาด้วยเจ้าค่ะ ใต้เท้าเสิ่นคุมตัวซีอันซื่อจื่อ แม่ทัพเมืองซีอันและแม่ทัพเมืองซั่วฟางที่คิดก่อกบฏรอพบพี่หญิงใหญ่อยู่ที่นอกวังหลวงเจ้าค่ะ!”
ไป๋จิ่นเจากล่าวพลางหอบหายใจแรง “พี่ชิงจู๋บอกว่ากองทัพของกว่างอันอ๋อง ไป๋สุ่ยอ๋องและเหอตงอ๋องซ่อนตัวอยู่ที่นอกเมืองหลวงเพื่อรอคำสั่งแล้วเจ้าค่ะ แม่ทัพกู่เหวินชังนำทหารล้อมกองทัพของพวกเขาไว้หมดแล้ว ขอเพียงพี่หญิงใหญ่มีคำสั่ง พวกเขาพร้อมสังหารคนเหล่านั้นทันทีเจ้าค่ะ!”
“เจ้าไปรับเสิ่นชิงจู๋และเสิ่นเทียนจือเข้ามาในวัง ให้พวกเขารออยู่ที่ตำหนักรับรองก่อน เมื่อพี่เรียกค่อยเข้าไปในตำหนัก ให้คนไปบอกให้พี่ชายเจ็ดของเจ้านำทัพออกจากเมืองไปคุมตัวพวกเขาไว้ หากกองทัพของอ๋องทั้งสามมีความเคลื่อนไหวใดๆ จงสังหารทิ้งทันที” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่งหน้าเคร่งขรึม
“เจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นหวารับคำแล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
“ไป๋สุ่ยอ๋องถูกจับกุมตัวแล้ว อ๋องอีกสี่คนที่เหลือคงกำลังคิดเจรจาต่อรองกับพี่หญิงใหญ่ในงานเลี้ยงแน่นอนเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวเสียงอ่อนโยน “ครั้งนี้เชื้อพระวงศ์เก่าของต้าจิ้นไม่ได้มาร่วมงามเลี้ยงด้วย ทว่า อ๋องทั้งห้าถูกเชิญมาร่วมงานเลี้ยง ซั่วหยางอ๋องกลัวว่านี่คืองานเลี้ยงหงเหมิน เมื่อได้ยินว่าไป๋สุ่ยอ๋องอ้างว่าป่วยไม่ยอมมาร่วมงาน เดิมทีเขาก็คิดจะทำเช่นนั้นบ้าง ทว่า ถูกเหอตงอ๋องลากมาร่วมงานเสียก่อน”
“หากวันนี้จัดการเรื่องของอ๋องทั้งห้าได้อย่างเด็ดขาดจะถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู อุปสรรคในการผลักดันการปกครองระบอบใหม่ของพวกเราคงลดลงไม่น้อย” ไป๋ชิงเหยียนกำมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น
“การยกระดับฐานะสตรี อนุญาตให้สตรีมีสิทธิ์เข้าร่วมการสอบขุนนาง อนุญาตให้สตรีเข้ารับราชการและการสนับสนุนให้สตรีหม้ายแต่งงานใหม่คือเรื่องที่ยากที่สุดในระบอบการปกครองใหม่ครั้งนี้ อาจมีคนยุยงให้เหล่าบัณฑิตของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจียนลุกขึ้นมาประท้วงได้”
“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ใต้เท้าหลู่บอกข้าว่าเขาส่งคนไปจับตาดูบัณฑิตเหล่านั้นไว้แล้วเจ้าค่ะ ใต้เท้าหลู่กลัวจะมีคนยุยงให้บัณฑิตของสำนักศึกษากั๋วจื่อเจียนก่อปัญหาขึ้นเช่นเดียวกันเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวถึงตรงนี้ก็นึกเรื่องมือสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ในตำหนักเฉียนคุนขึ้นมาได้ “พี่หญิงใหญ่ มือสังหารที่ซ่อนตัวอยู่ในตำหนักเฉียนคุนค่อนข้างประหลาดเจ้าค่ะ กระบวนดาบของพวกเขาไม่เหมือนกระบวนดาบ ทว่า เหมือนกระบวนมีดมากกว่า บางกระบวนท่าคล้ายคลึงกระบวนท่าของซีเหลียงมากเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนไปต้อนรับท่านแม่และบรรดาอาสะใภ้ด้วยตัวเอง หญิงสาวเดินประคองต่งซื่อเข้าไปในตำหนัก
ต่งซื่อไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งนางจะกลายเป็นไทเฮาเช่นนี้
บัดนี้บุตรสาวของนางกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว นางกลายเป็นไทเฮาแห่งต้าโจว ทั้งๆ ที่ได้รับเกียรติยศอันสูงสุดเช่นนี้ต่งซื่อควรดีใจ ทว่า นางสงสารบุตรสาวของตัวเอง นับตั้งแต่บุตรสาวขึ้นครองราชย์ บุตรสาวของนางคงไม่มีเวลาพักผ่อนอีกต่อไป
บรรดาขุนนางทำความเคารพ กล่าวสรรเสริญจักรพรรดินีและไทเฮา
ไป๋ชิงเหยียนประคองให้ต่งซื่อนั่งลง เมื่อเห็นบรรดาอาสะใภ้ของตัวเองนั่งลงเรียบร้อย ไป๋ชิงเหยียนจึงนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง
กว่างอันอ๋องได้รับรายงานว่ากองทัพของเขา ไป๋สุ่ยอ๋องและเหอตงอ๋องมาถึงนอกเมืองหลวงแล้ว กองทัพของซั่วฟางอ๋องและซีอันอ๋องก็คงใกล้มาถึงแล้วเช่นเดียวกัน
กองทัพของอ๋องทั้งห้ารวมกันอย่างน้อยก็มีประมาณสองแสนนาย คงพอทำให้ไป๋ชิงเหยียนหวาดหวั่นได้บ้าง หากหญิงสาวต้องการลดทอนอำนาจของพวกเขาจริงๆ เท่ากับนางต้องการยึดสมบัติของพวกเขา พวกเขาจะต่อสู้เพื่อปกป้องมันด้วยชีวิต
เมื่อมีกำลังทหารอยู่ในมือ กว่างอันอ๋องจึงพอใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ไม่รู้ว่าไป๋สุ่ยอ๋องหวาดกลัวสิ่งใดจึงไม่ยอมมาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้
ไป๋สุ่ยอ๋องทำตามคำสั่งของกว่างอันอ๋องมาโดยตลอด วันนี้เขาคือตัวแทนของอ๋องคนที่เหลือ เขากลัวว่าหากไป๋ชิงเหยียนมีท่าทีแข็งกร้าว เมื่อไม่มีไป๋สุ่ยอ๋องเป็นคนสนับสนุนเขา อ๋องอีกสามคนที่เหลือคงหดหัวอยู่แต่ในกระดองแน่นอน
เมื่อหลี่จือเจี๋ยเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งลงแล้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนทำความเคารพหญิงสาว “แคว้นต้าโจวเพิ่งสถาปนาขึ้น วันนี้คือวันมงคลในการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว กระหม่อมได้รับคำสั่งจากจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงให้นำของขวัญมาแสดงความยินดีกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ซีเหลียงของกระหม่อมต้องการเป็นพันธมิตรกับต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบหลี่จือเจี๋ยส่งสาสน์ของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงให้ขันทีเล็ก
*****************************