สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 947 ปกครองแคว้นด้วยความสงบ
ตอนที่ 947 ปกครองแคว้นด้วยความสงบ
ขันทีเล็กผู้นั้นรับสาสน์มาอย่างนอบน้อม เขาเดินอ้อมเสาไม้ถานมู่สีดำไปยังแท่นบัลลังก์ที่ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่ จากนั้นยื่นสาสน์ในมือให้เว่ยจง
กว่างอันอ๋องถือโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังสนใจเนื้อหาในสาสน์ของซีเหลียงกล่าวตำหนิไป๋ชิงเหยียนด้วยมาดของผู้อาวุโสกว่า “ฝ่าบาท วันนี้คือพิธีราชาภิเษกและงานเลี้ยงฉลองของแคว้น เหตุใดกระหม่อมจึงไม่เห็นเชื้อพระวงศ์คนอื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ไม่ดูเป็นการเสียมารยาทเกินไปหรือพ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วหรูซื่อเงยหน้ามองไปทางกว่างอันอ๋องที่กล่าวโดยถือว่าตัวเองอาวุโสกว่าออกมาแวบหนึ่ง เขาพยายามกลืนถ้อยคำที่ต้องการจะตอกกลับไปลงไปในลำคอ เขาไม่อยากให้ซีเหลียง หรงตี๋และต้าเยี่ยนเห็นเรื่องน่าอับอายของแคว้นต้าโจว มิเช่นนั้นพวกเขาอาจใช้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ได้
ต่งซื่อมองไปทางกว่างอันอ๋องด้วยแววตาเย็นชา นางรู้ดีว่าที่กว่างอันอ๋องกล้ากล่าววาจาสามหาวเช่นนี้เป็นเพราะมีกำลังสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง วันนี้พวกนางคงต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่งจริงๆ แล้ว
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนคือจักรพรรดินีแห่งต้าโจว หากบุตรสาวของนางลดตัวลงไปเถียงกับกว่างอันอ๋องเท่ากับทำตัวไม่สมฐานะของตัวเอง กว่างอันอ๋องยิ่งได้ใหญ่ใจ
พวกนางจำเป็นต้องกำจัดอำนาจของอ๋องเหล่านี้ วันนี้จะปล่อยให้พวกเขาทำตัวเหิมเกริมไม่ได้เด็ดขาด
ต่งซื่อกล่าวขึ้น “เชื้อพระวงศ์ที่กว่างอันอ๋องกล่าวล้วนอยู่ที่นี่หมดแล้ว เชื้อพระวงศ์ตระกูลไป๋ที่มายังเมืองหลวงอยู่ที่นี่ครบทุกคน”
สีหน้าของกว่างอันอ๋องขรึมลง เขาหันไปคารวะต่งซื่อ “ไทเฮา แม้เชื้อพระวงศ์เก่าของต้าจิ้นจะใช้คนละสกุลกับฝ่าบาท ทว่า พวกเขาล้วนเป็นสายเลือดเดียวกันกับฝ่าบาทและองค์หญิงใหญ่เช่นเดียวกับอ๋องอย่างพวกกระหม่อม ถือเป็นเชื้อพระวงศ์ของฝ่าบาทเช่นเดียวกัน พวกเขาควรได้ร่วมฉลองกับฝ่าบาทด้วยถึงจะถูกพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อเห็นกว่างอันอ๋องยังคงทำตัวหน้าไม่อาย ต้องการทำลายภาพลักษณ์ของจักรรพรรดินีต้าโจวต่อหน้าทูตแคว้นอื่นให้ได้ ในเมื่อกว่างอันอ๋องไม่กลัวเสียหน้าแคว้นอื่น หลิ่วหรูซื่อจึงไม่คิดทนอีกต่อไป เขากล่าวเสียงเย็น “ไม่มีความเกี่ยวข้องกันสักนิดยังกล้าอ้างตัวว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ของฝ่าบาท ฝ่าบาททรงเมตตาให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไปก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว หากต้องการสิ่งใดที่มากกว่านี้ก็เรียกว่าได้คืบจะเอาศอกแล้ว พระโพธิสัตว์ที่ตกลงไปในโคลนยังรู้จักเอาตัวรอด อย่าได้คืบจะเอาศอกเลยดีกว่า”
ต่งซื่อเอ่ยเสริมโดยไม่รอให้กว่างอันอ๋องกล่าวสิ่งใดออกมาอีก “กว่างอันอ๋อง…”
สีหน้าของต่งซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางกล่าวขึ้นช้าๆ “ตอนนี้เราคือราชวงศ์ต้าโจว หากกว่างอันอ๋องอยากเป็นเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ต้าจิ้นต่อไปก็เชิญบอกมาได้เลย ฝ่าบาทจะทำให้กว่างอันอ๋องสมหวังแน่นอน”
กว่างอันอ๋องที่อายุมากแล้วเดือดดาลขึ้นทันที เขาเตรียมกล่าวสิ่งใดออกมาอีกอย่างไม่กลัวเพราะคิดว่าตัวเองมีกองกำลังทหารอยู่ในมือแล้ว ทว่า ถูกเหอตงอ๋องรั้งไว้เสียก่อน
เหอตงอ๋องเห็นไป๋ชิงเหยียนไม่มีทีท่าว่าจะสนใจกว่างอันอ๋อง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวไม่เห็นอ๋องอย่างพวกเขาอยู่ในสายตา เขากลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะมีแผนสำรองอยู่จึงไม่อยากให้เรื่องดำเนินไปถึงจุดที่หันหลังกลับไม่ได้ เขาลุกขึ้นยืนทำความเคารพต่งซื่อยิ้มๆ “ไทเฮาได้โปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ กว่างอันอ๋องเห็นฝ่าบาทเป็นคนในครอบครัวจึงกล่าวออกไปเช่นนั้น หากล่วงเกินไปบ้างไทเฮาได้โปรดอย่าถือสาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”
“คนในครอบครัว? กว่างอันอ๋องสกุลไป๋อย่างนั้นหรือ ต้าเยี่ยน หรงตี๋และซีเหลียงล้วนอยู่ที่นี่ด้วย กว่างอันอ๋องทูลถามฝ่าบาทเช่นนั้นอย่างไร้มารยาทได้เช่นไรกัน เขาต้องการแสดงอำนาจของตัวเอง ต้องการให้แคว้นอื่นรับรู้ว่าเขามีอำนาจที่สุดในต้าโจวอย่างนั้นหรือ”
เหอตงอ๋องมองไปทางกว่างอันอ๋องแวบหนึ่ง จากนั้นรีบคุกเข่าขอขมาต่งซื่อ “ไทเฮาได้โปรดเห็นแก่ที่กว่างอันอ๋องอายุมากแล้วให้อภัยเขาสักครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จือเจี๋ยมองไปทางเหอตงอ๋องและกว่างอันอ๋องแวบหนึ่ง จากนั้นก้มหน้าลง ดูเหมือนว่าบัลลังก์ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะยังไม่มั่นคงสักเท่าใดนัก ซีเหลียงน่าจะยังมีโอกาสทำสัญญาสงบศึกกับต้าโจวอยู่
ในสาสน์ของซีเหลียงไม่ใช่การยกดินแดนให้ต้าโจวสิบห้าแห่ง แต่เปลี่ยนเป็นสิบแปดแห่งแล้ว หลี่จือเจี๋ยมอบของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ให้ไป๋ชิงเหยียนเพราะต้องการให้หญิงสาวยอมรับ ขอเพียงซีเหลียงได้ทำสัญญาผูกมิตรกับต้าโจว หากไป๋ชิงเหยียนต้องการแก้แค้น…
ใบหน้าของหลี่จือเจี๋ยยังคงยิ้มแย้มไม่เปลี่ยนแปลง ทว่า เขากำมือที่ถือพัดกลมแน่นกว่าเดิม
หากไป๋ชิงเหยียนยังต้องการแก้แค้นอยู่ เขาต้องหาทางปกป้องชีวิตของหลานชายอวิ๋นพั่วสิงไว้ให้ได้ มิเช่นนั้นคนแคว้นซีเหลียงต้องรู้สึกผิดหวังมากแน่ๆ
เมื่อเห็นว่าสาสน์ถูกส่งไปให้ไป๋ชิงเหยียนแล้ว หลี่จือเจี๋ยกวาดสายตามองไปทางไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋ชิงอวิ๋นแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “สงครามระหว่างซีเหลียงและต้าจิ้นในสมัยรัชศกเซวียนเจียในตอนนั้นค่อนข้างโหดร้ายจริงๆ จนบัดนี้เมื่อแม่ทัพใหญ่อวิ๋นพั่วสิงแห่งซีเหลียงของกระหม่อมนึกถึงตระกูลไป๋และทหารยอดฝีมือนับแสนนายของซีเหลียงที่สูญเสียไปก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จือเจี๋ยกล่าวอย่างคลุมเครือ ไม่รู้ว่าเขาเจ็บปวดเมื่อนึกถึงตระกูลไป๋หรือทหารยอดฝีมือของซีเหลียงกันแน่
ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่กำลังคลี่สาสน์ของซีเหลียงออกอ่าน จากนั้นเงยหน้ามองไปทางหลี่จือเจี๋ยด้วยแววตานิ่งขรึมและเยือกเย็น หญิงสาววางสาสน์ของซีเหลียงลงบนโต๊ะ จากนั้นเท้ามือลงบนโต๊ะ
หลี่จือเจี๋ยกำพัดในมือแน่นพลางยิ้มให้ไป๋ชิงเหยียนเล็กน้อย เขารู้สึกขนลุกกับสายตาที่ไป๋ชิงเหยียนมองมาทางเขา
“เหยียนอ๋องกล่าวเช่นนี้ทำให้ข้านึกถึงเรื่องที่ข้าเคยไว้ชีวิตอวิ๋นพั่วสิงและทำสัญญาสามปีกับเขาไว้ หากสามปีให้หลังเขาไม่บุกมาหาข้า ข้าจะนำทัพบุกไปหาเขาเอง ตอนนี้ใกล้ครบระยะเวลาสามปีที่ตกลงกันไว้แล้ว เหยียนอ๋องมามอบสาสน์ท้ารบแทนซีเหลียงอย่างนั้นหรือ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม
หลี่จือเจี๋ยผุดลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “ฝ่าบาททรงเข้าพระทัยผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงทอดพระเนตรสาสน์ของซีเหลียงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ซีเหลียงของกระหม่อมยินดีมอบเมืองสิบแปดเมืองเป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ฝ่าบาททรงขึ้นครองบัลลังก์เป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ! หวังว่าซีเหลียงจะได้เป็นพันธมิตรกับต้าโจว ไม่ทำสงครามระหว่างแคว้น ให้ชาวบ้านทั้งสองแคว้นได้อยู่อย่างสงบสุข ปกครองแคว้นด้วยความสงบพ่ะย่ะค่ะ”
การที่ซีเหลียงยอมยกดินแดนสิบแปดแห่งให้ต้าโจวทำให้บรรดาขุนนางคาดไม่ถึงจริงๆ
ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ จากนั้นสั่งให้ขันทีส่งสาสน์ของซีเหลียงไปให้ขุนนางคนอื่นๆ อ่าน ใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ “ซีเหลียงใจกว้างถึงเพียงนี้เพราะอยากชดเชยเรื่องที่อวิ๋นพั่วสิงทรมานและเหยียดหยามร่างของน้องชายสิบเจ็ดของข้าอย่างนั้นหรือ”
ผู้ที่ได้อ่านสาสน์ของซีเหลียงเป็นคนแรกคือหลู่ไท่เว่ย เมื่อหลู่ไท่เว่ยอ่านจบจึงส่งต่อให้ซือคงเสิ่นจิ้งจงอ่าน เสิ่นจิ้งจงส่งต่อให้ซือถูต่งชิงผิง จากนั้นส่งต่อให้บรรดาขุนนางคนอื่นๆ
เมื่ออวิ๋นเทียนเอ้าหลานชายของอวิ๋นพั่วสิงได้ยินจึงเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียน ความจริงเขากลัวตาย ทว่า ก่อนเดินทางมาที่นี่ท่านปู่บอกกับเขาว่าหากสละชีวิตของเขาเพียงคนเดียวแลกกับความสงบของแคว้นซีเหลียงทั้งแคว้นถือเป็นการเสียสละที่คุ้มค่ามาก
ท่านปู่กล่าวว่าตอนนั้นท่านปู่คะนองศึกจึงทำร้ายเด็กชายที่อายุเพียงสิบขวบอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนั้น ทว่า คุณชายตระกูลไป๋ผู้นั้นหัวแข็ง ก่อนตายยังร้องเพลงประจำกองทัพไป๋ออกมา ดังนั้นท่านปู่ไม่เพียงไม่สามารถบีบให้กองทัพไป๋ยอมจำนน ไม่เพียงทำให้พวกเขาเสียขวัญไม่ได้ ท่านปู่ยังทำให้กองทัพไป๋ฮึกเหิมและพร้อมที่จะตายในสนามรบมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนรักพวกพ้องและเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก เมื่อนางกล่าวออกมาแล้วนางต้องทำให้ได้ตามนั้นแน่นอน
หากไป๋ชิงเหยียนโกรธแค้นเขาเพราะเรื่องการตายของคุณชายสิบเจ็ดแห่งตระกูลไป๋ หากหญิงสาวต้องการรอให้ครบกำหนดสามปีและยกทัพบุกโจมตีซีเหลียงขึ้นมาจริงๆ ถึงเวลานั้นซีเหลียงไม่มีทางรับมือกับหรงตี๋และต้าโจวในเวลาเดียวกันได้อย่างแน่นอน
หากครั้งนี้อวิ๋นเทียนเอ้าและหลี่จือเจี๋ยไม่สามารถใช้การสละเมืองทำให้ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนใจได้ ท่านปู่ต้องการให้เขาคว้านท้องของตัวเองต่อหน้าไป๋ชิงเหยียนและทูตของแคว้นอื่นเพื่อชดใช้ให้คุณชายสิบเจ็ดของตระกูลไป๋
มีเพียงการทำเช่นนี้เท่านั้นไป๋ชิงเหยียนจึงจะไม่มีข้ออ้างยกทัพบุกโจมตีซีเหลียงอีก หากอวิ๋นเทียนเอ้าเสียชีวิตด้วยวิธีที่โหดร้ายเช่นเดียวกับคุณชายสิบเจ็ดของตระกูลไป๋ในต้าโจวแล้วไป๋ชิงเหยียนยังคิดยกทัพบุกซีเหลียงอีก หญิงสาวต้องถูกขุนนางในราชสำนักคัดค้านแน่นอน
——————————-