สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด - บทที่ 6 ตอนที่ 33
สมาคมแลกเปลี่ยนทราฟฟอร์ด – บทที่ 33 ตัดหัว
“เจ้าทำอะไรกันแน่!”
กุ่ยอิงยังมีสติหลงเหลืออยู่และกำลังพยายามยืนขึ้นมา มองไปยังเซียงหลิ่วด้วยความโมโห
เซียงหลิ่วยิ้มเยาะ รีบออกแรงสั่นระฆังในมืออีกครั้ง ชั่วขณะนั้นกุ่ยอิงก็กุมหัวของตนเองอย่างทุกข์ทรมาน ผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงสูญเสียสติไปเหมือนกับปีศาจตนอื่นๆ
“ฝืนได้นานขนาดนี้ ไม่เลวจริงๆ” เซียงหลิ่วมองไปที่กุ่ยอิงอย่างชื่นชม จากนั้นก็สั่นระฆังอีกครั้งเบาๆ และโบกมือไปด้านหลัง “ถือเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่ง เผ่าปีศาจไม่อาจขาดผู้มีความสามารถเช่นเจ้าได้ แต่ตอนนี้…ไป! จับพวกที่อยู่ด้านบนลงมาให้ข้า!”
ฝูงปีศาจรวมทั้งกุ่ยอิงเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ ขยับร่างกายขึ้นไปชั้นบน!
ในขณะที่บรรดาปีศาจเริ่มเคลื่อนไหวนั้น กลับมีปีศาจตนหนึ่งพุ่งตัวเข้าไปหาเซียงหลิ่วอย่างรวดเร็ว ร่างกายสวมชุดบาร์เทนเดอร์ของเอลิเซียมบาร์ ร่างกายของเขาดูอวบอูม ใบหน้ามีรอยยิ้ม “ใต้เท้าเซียงหลิ่ว!”
เป็นบาร์เทนเดอร์หมูป่าของ…เอลิเซียมบาร์
บาร์เทนเดอร์หมูป่ายิ้มและเอ่ยว่า “ใต้เท้าเซียงหลิ่ว ข้าใส่หนอนควบคุมสติลงในเครื่องดื่มของที่นี่และให้ปีศาจทุกตนดื่มตามคำสั่งของท่านแล้ว แน่นอนว่ารวมไปถึงซุนเสี่ยวเซิ่งด้วย! หนอนควบคุมสติของใต้เท้าช่างร้ายกาจจริงๆ ไม่มีใครผิดสังเกตเลย!”
“เจ้าทำได้ไม่เลว” เซียงหลิ่วพยักหน้าอย่างพอใจ “ไม่เสียทีที่ข้ามาหาเจ้าเป็นคนแรกนับตั้งแต่กลับมา”
“เผ่าหมูป่าของข้ายินดีรับใช้เผ่าเซียงหลิ่ว!” บาร์เทนเดอร์หมูป่าพูดรับรองอีกว่า “ข้ายินดีจะบุกน้ำลุยไฟทำงานเพื่อใต้เท้า!”
“แต่ว่า!” ทันใดนั้นสีหน้าของเซียงหลิ่วก็เคร่งขรึมขึ้น “เจ้าพลาดไปคนหนึ่ง!”
บาร์เทนเดอร์หมูป่าชะงัก รีบก้มหน้าเอ่ยว่า “ใต้เท้าพูดถึงกุยเชียนอีงั้นหรือ? ขอโทษด้วยใต้เท้า กุยเชียนอีไม่ดื่มเครื่องดื่มและก็ไม่กินอะไร ข้าหาโอกาสไม่พบจริงๆ…แต่ทว่า กุยเชียนอีแก่ชรา ร่างกายก็อ่อนแอ ไม่เป็นอุปสรรคอย่างแน่นอน!”
เซียงหลิ่วส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า “เต่าเฒ่าตัวนั้นไม่ถูกพิษหนอนก็ไม่เป็นไร ที่ข้าพูดถึงก็คือเจ้า…ทำไมเจ้าไม่กินหนอนควบคุมสติลงไป?”
“อา? ใต้เท้า…นี่ นี่…” ชั่วขณะนั้นบาร์เทนเดอร์หมูป่าก็มีเหงื่อไหลซึม พูดอย่างแตกตื่นว่า “ใต้เท้า ข้าทำงานให้ท่านนะ! แถมยังทรยศเถ้าแก่ซุนด้วย นี่…นี่ จะให้ข้ากินหนอนควบคุมสติได้อย่างไร?”
เซียงหลิ่วยกมือขึ้นมาอย่างกะทันหัน
บาร์เทนเดอร์หมูป่ามองเห็นสถานการณ์ดูไม่ค่อยดี จึงรีบกระโดดหนีไปยังประตูทางออก แต่ก็ไม่อาจหลบจากมือของเซียงหลิ่วได้!
เซียงหลิ่วใช้มือเดียวจับคอของบาร์เทนเดอร์หมูป่า แยกเขี้ยวหัวเราะและพูดว่า “เจ้าพูดว่าจะบุกน้ำลุยไฟทำงานให้ข้าไม่ใช่หรือ? เช่นนั้น ตอนนี้ก็เป็นเวลาแสดงความจงรักภักดีแล้ว…ช่วยข้าเพิ่มลมปราณหยวนชี่เถอะ!”
บาร์เทนเดอร์หมูป่าร้องโหยหวนออกมาได้ครั้งหนึ่ง ส่วนร่างกายก็ถูกปากงูขนาดใหญ่กลืนเข้าไปทั้งตัว!
แต่ปีศาจหมูป่าเพียงตนเดียวก็ไม่อาจเติมเต็มความต้องการของเซียงหลิ่วได้
เขาคว้าจับปีศาจที่ถูกควบคุมสติและไม่ได้ขัดขืนตัวหนึ่งใส่เข้าไปในปาก
ที่นี่มีปีศาจอยู่มากมายและยังถูกควบคุมทั้งหมด ซึ่งเป็นอาหารที่เขาจะหยิบมากินเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจชอบ!
เซียงหลิ่วเช็ดมุมปากและเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา จากนั้นก็ค่อยก้าวขึ้นไปยังห้องสำนักงานชั้นสอง
…
ในห้องสำนักงาน
ที่นี่มีปีศาจสิบกว่าตัวรวมทั้งกุ่ยอิงกำลังโอบล้อมซูจื่อจวินเอาไว้
ตอนนี้เซียงหลิ่วจับปีศาจตนหนึ่งขึ้นมากิน จากนั้นค่อยหรี่ตาพูดว่า “ฮิ ฮิ ฮิ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้เจอใครที่นี่…นี่ไม่ใช่ใต้เท้าหลงงั้นหรือ?”
เซียงหลิ่วมองไปยังกุยเชียนอีและซูจื่อจวินที่มีสีหน้าย่ำแย่เช่นเดียวกัน แล้วก็มองไปยังหลงซีรั่วที่นอนสลบไม่รู้เรื่อง จากนั้นเซียงหลิ่วก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา แต่แล้วกลับลดเสียงลงอย่างมีมารยาท “ใต้เท้าหลง ใต้เท้าหลง เซียงหลิ่วมาเยี่ยมท่านแล้ว ท่านยังสบายดีอยู่หรือไม่? ใต้เท้าหลง ทำไมท่านถึงไม่พูดเล่า?”
ทันใดนั้นเซียงหลิ่วก็ตบหน้าผากพูดว่า “โธ่เอ๊ย! ท่านดูสิ สายตาของข้าไม่ดีจริงๆ! ใต้เท้าหลง นี่ท่านไม่สบายอย่างนั้นหรือ? ให้ข้าช่วยดูให้ท่านไหม? ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา!”
พูดแล้วเซียงหลิ่วก็เดินไปข้างหน้าอย่างไร้ความหวาดเกรง
ซูจื่อจวินตะโกนออกมาว่า “เซียงหลิ่ว ไสหัวไปซะ! ถ้ากล้าก็ลองก้าวมาอีกก้าวสิ!”
สีหน้าของเซียงหลิ่วกลายเป็นเคร่งขรึมขึ้นในพริบตา “ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ข้าอาจจะกลัวเจ้า แต่ตอนนี้…เจ้าอาศัยอะไรมาทำให้ข้ากลัว? เจ้าเหลือพลังปีศาจเท่าไรกัน? สุ่มปีศาจน้อยสักตัวที่นี่ออกมาก็บี้เจ้าให้ตายได้แล้ว!”
ซูจื่อจวินยิ้มเยาะเอ่ยว่า “ข้าเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมาได้ แล้วก็ตายไปพร้อมกัน…ไม่สนว่าเจ้าจะวาดฝันไว้อย่างไร ปล่อยให้มันหายไปกับสายลมเถอะ!”
“ไม่ ไม่ ไม่!”
เซียงหลิ่วส่ายหน้า “กระบี่เซวียนหยวนนั้นน่ากลัวก็จริง แต่เจ้าในตอนนี้นั้นดูแย่มาก…เจ้าไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่ตัวข้ากลับมีเวลามากพอที่จะหนี! แต่ปีศาจทั้งหมดที่นี่…เกรงว่าคงจะต้องร่วมตายไปกับองค์หญิงแล้ว!”
“ก็ลองดูสิ” ซูจื่อจวินยืนขึ้นมา หรี่ตาลงและโบกมือ เหมือนไม่ได้สะทกสะท้านเลยสักนิด
ทันใดนั้นเซียงหลิ่วกลับเอ่ยว่า “องค์หญิง เอาอย่างนี้เถอะ ข้าให้เจ้าพาหลงซีรั่วจากไป แต่ห้ามเจ้ามายุ่งวุ่นวายกับเรื่องของข้าอีก…
…แน่นอนว่า หลังจากข้าทำเรื่องที่ต้องทำเสร็จแล้ว ข้าก็จะถอนพิษหนอนออกจากร่างกายของปีศาจเหล่านี้ทั้งหมด ท่านว่า ดีหรือไม่?”
ซูจื่อจวินยิ้มเยาะ “ข้าเห็นเจ้าถือหอกมารเล่มนี้มา…ดูแล้วคู่หูคนนั้นของเจ้าคงจะพบเจอเรื่องไม่คาดฝันไปแล้วสินะ? เจ้าคิดว่าคำพูดของเจ้ายังน่าเชื่อถืออีกหรือ? ข้ายังไม่เคยเห็นปีศาจที่ไหนหน้าหนาต่ำช้าเช่นเจ้ามาก่อน!”
เซียงหลิ่วหรี่ตาลงและคว้ากุ่ยอิงที่อยู่ด้านข้างมา จากนั้นก็บีบคอเขาแล้วเอ่ยว่า “องค์หญิง นี่ท่านจะไม่สนใจความเป็นความตายของพวกนี้อย่างนั้นหรือ? เขาเป็นคนของท่านนะ”
“เซียงหลิ่ว! อย่าทำผิดซ้ำซาก! หากวันนี้คนในเผ่าของเจ้ายังมีชีวิต พวกเขาคงละอายต่อแผ่นดินเทพกับสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้!” ทันใดนั้นกุยเชียนอีก็พูดเสียงเข้มขึ้นมา “เจ้าจะทำลายชื่อเสียงของทั้งเผ่าเซียงหลิ่วเลยอย่างนั้นหรือ?”
“กุยเชียนอี! เจ้าหุบปาก!”
เซียงหลิ่วตะคอกเสียงดังในทันใด “ชื่อเสียงอะไรกัน? ข้าไม่สนใจ! ข้ารู้เพียงว่าพวกเขาต้องตายไปเพราะเผ่าปีศาจ แล้วสุดท้ายได้อะไรกลับมา? ชื่อเสียงอย่างนั้นหรือ? น่าหัวเราะ! น่าหัวเราะจริงๆ! ใช้ความเฟื่องฟูของเผ่าเซียงหลิ่วทั้งเผ่าแลกอะไรได้? แลกมากับพวกเจ้าที่อยู่สบายไปวันๆ! ดูสภาพของพวกเจ้าในตอนนี้สิ? หลบอยู่ในโลกมนุษย์อย่างขี้ขลาดเหมือนหนู! เจ้าทนได้แต่ข้าทนไม่ได้! เผ่าเซียงหลิ่วของข้าต้องสิ้นเผ่าพันธุ์เพราะแผ่นดินเทพเพียงครั้งหนึ่งก็พอแล้ว! ตอนนี้ข้าจะเป็นคนกำหนดทุกอย่างเอง! กุยเชียนอี หากเจ้าฉลาดก็มารับใช้ข้า ข้ายังจะไว้ชีวิตเจ้าได้…ไม่เช่นนั้น เจ้าก็ดับสูญไปพร้อมกับองค์หญิงของเจ้าก็แล้วกัน! ยุคของหลงซีรั่วผ่านไปแล้ว ต่อไปเป็นยุคของข้า! เป็นยุคของเผ่าปีศาจที่ข้าสร้างขึ้น!”
พูดแล้วร่างกายของเซียงหลิ่วก็ฉีกออก เลือดเนื้อพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา และระเบิดคลังสินค้าออกในพริบตา ยังดีที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่รกร้าง มิเช่นนั้นแล้วคงเกิดความแตกตื่นเป็นแน่!
หัวงูขนาดใหญ่แปดหัวรวมไปถึงร่างกายขนาดใหญ่ เซียงหลิ่วเผยร่างกายที่แท้จริงของเขาออกมาแล้ว!
ร่างงูเก้าหัว กินคนเป็นอาหาร ทุกที่ที่ย่างกายไปดับสิ้นทั้งแผ่นดิน นี่เป็นอสูรร้ายโบราณ เซียงหลิ่ว…แต่เขาขาดเพียงหัวเดียวก็จะเป็นเซียงหลิ่วที่แท้จริง!
หัวงูแต่ละหัวต่างกัดร่างของปีศาจจำนวนมาก
ตอนนี้หัวงูที่อยู่ตรงกลางก็พูดขึ้นมาว่า “ซูจื่อจวิน เจ้าเรียกกระบี่เซวียนหยวนออกมาเถอะ! ข้าจะดูสิว่าเจ้าเรียกได้เร็วกว่าหรือว่าข้าจัดการพวกนี้ได้เร็วกว่ากันแน่! ขอบอกเจ้าเลยว่า ตอนนี้เจ้าอ่อนแอข้าแข็งแกร่ง ส่วนหลงซีรั่วก็อยู่ที่นี่! วันนี้ไม่ว่าจะอย่างไรข้าก็จะฆ่าพวกเจ้าทั้งสองคนให้ได้!”
“เซียงหลิ่ว เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าจริงๆ งั้นหรือ!” พลังปีศาจรอบตัวของซูจื่อจวินเริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง!
“ข้าอยากดูนัก ว่าเจ้าหรือข้าใครจะเร็วกว่ากันแน่!” แปดหัวพุ่งออกมา!
สีสันหลากสีเปล่งแสงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ…แต่สุดท้ายกลับกระจายหายไปกับเสียงถอนหายใจเสียงหนึ่ง
“ทุกคนหยุดเถอะ”
…
…
ภายในคลังสินค้าที่พังทลายมีเงาร่างสองสายค่อยๆ เดินออกมา นั่นคือเจ้าของสมาคมและจิตวิญญาณของเส้นสายจิตวิญญาณใต้ดิน
ตอนนี้ลั่วชิวจูงมือของเส้นสายจิตวิญญาณเดินเข้าไปหาเซียงหลิ่วและซูจื่อจวิน
“หยุดเถอะ”
นี่ไม่ใช่เสียงของลั่วชิว
แต่เป็นคำพูดของเส้นสายจิตวิญญาณ เสียงถอนหายใจของมัน เสียงที่เหมือนกับการอ้อนวอนของมัน
มันพูดว่า “อย่าฆ่ากันเองอีกเลย อย่าทำลายทุกอย่างของที่นี่อีกจะได้ไหม?”
มันร้องไห้ น้ำตาสีทองไหลออกมาและพูดเบาๆ ว่า “ทุกๆ วัน ข้ามักได้ยินเสียงหัวเราะมีความสุขจากที่นี่ แต่ตอนนี้ ข้าไม่ได้ยินแล้ว เจ้าไม่ได้ยินงั้นหรือ? ไม่ได้ยินเสียงคราญครางจากบรรดาปีศาจที่ถูกเจ้าควบคุมงั้นหรือ”
เสียงของเส้นสายจิตวิญญาณไม่ได้ดังออกมา แต่เหมือนสายลม…เป็นเสียงของสายลมพัดอยู่ข้างหูและเข้าไปในใจของทุกๆ คน
เหมือนกับการปลอบโยน
สีหน้าของซูจื่อจวินดูวุ่นวายซับซ้อนขึ้น ส่วนกุยเชียนอีก็เหมือนกำลังครุ่นคิดถึงอะไรในใจ จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนมองไปยังเงาร่างแสงของเด็กน้อยอย่างพิจารณา
แต่ชั่วขณะนั้นกลับทำให้จิตใจของเซียงหลิ่วเกิดความวุ่นวายสับสน รู้สึกอึดอัด…จนไปกระตุ้นอสูรร้ายในร่างกายของเขาขึ้นมา!
“เจ้าเป็นตัวอะไรกัน! ไสหัวไป!”
เซียงหลิ่วที่เดิมทีเป็นผู้กุมชัยชนะกำลังโมโหและตอบสนองก่อนใคร เขาไม่สนใจอะไรแล้ว! หัวงูหัวหนึ่งของเขาอ้าปากลอยพุ่งไปกัดลั่วชิวและจิตวิญญาณของเส้นสายจิตวิญญาณ!
แต่เจ้าของสมาคมลั่วก็ไม่ได้เบี่ยงตัวหลบเลย เพียงแต่เอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “โยวเย่ อย่าให้คุณเซียงหลิ่วผู้นี้มาทำร้ายลูกค้าคนสำคัญของเราได้”
แสงสีดำกวาดออกไปจากพื้นเหมือนกับการใช้พู่กันวาดเส้นกลางอากาศ!
ไม่รู้ว่าคุณหนูสาวใช้โผล่มาจากไหน เหมือนโผล่ออกมากลางอากาศ เงาร่างวาบไป…หัวงูขนาดใหญ่ก็ตกลงกระแทกบนคลังสินค้าที่พังทลายอย่างรุนแรง
เซียงหลิ่วส่งเสียงร้องครวญครางออกมา!
บริเวณคอที่โดนตัดของเขามีเลือดพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุ…เขาสูญเสียเลือดไปมากมายแต่กลับไม่สามารถขยับเข้าไปใกล้ลั่วชิวได้แม้แต่ก้าวเดียว
ส่วนคุณหนูสาวใช้ก็ร่อนลงพื้นเบาๆ และมองไปหาเจ้านายของตนเองท่ามกลางฝนเลือด
ค่อยๆ ยิ้มออกมา
ท่ามกลางฝนเลือดใต้ท้องฟ้าสีส้มยามสนธยา โยวเย่ที่กำลังยิ้มแย้มนั้นดูงดงามมาก
มีเสน่ห์ไร้ผู้เทียบเทียม