CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 169 การจลาจลสัตว์อสูรวิเศษ

  1. Home
  2. สลับชะตา ชายามือสังหาร
  3. ตอนที่ 169 การจลาจลสัตว์อสูรวิเศษ
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งเข้ามาจากด้านนอก ไป๋อวิ๋นฉีจึงตะโกนเรียกเขาราวกับเห็นพระมาโปรด “ท่านน้าเขย ท่านช่วยพูดกับท่านน้าเล็กให้ทีเถิด!”

วังเหล่ยเข้ามาแล้วมองผู้คนภายในห้องปราดหนึ่ง ก็เห็นภรรยาของตนเริ่มชักดิ้นชักงออีกครั้ง จึงยักไหล่ให้ไป๋อวิ๋นฉีพลางเอ่ยว่า “เจ้าก็รู้นิสัยน้าเล็กของเจ้าดี หากวันนี้เจ้าไม่ยอมให้นางกอด นางก็ไม่มีทางยอมแพ้แน่”

“ท่านน้าเล็ก…” ไป๋อวิ๋นฉีถลึงตาใส่ซุนลี่ลี่อย่างจนใจ พอเห็นนางพุ่งเข้ามาจึงหลับตาแน่น

“เสี่ยวฉีฉี ฮือๆๆ ตอนนี้เจ้าโตเสียแล้ว ไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลย โอ๊ย พอกอดแล้วความรู้สึกช่างไม่ถูกต้องเอาเสียเลย!” พอกอดไป๋อวิ๋นฉีเสร็จ ซุนลี่ลี่ก็ผลักเขาออกอย่างรังเกียจ จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะเขาฉาดหนึ่งแล้วตะคอกใส่ว่า “เจ้าเด็กดื้อ ไปเทือกเขาสั่วเฟยย่าก็ไม่ยอมบอกข้า หึ ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่หรือไม่”

“ท่านน้าเล็ก ข้าก็แค่ไม่อยากให้ท่านเป็นกังวลเท่านั้นมิใช่หรือ” ไป๋อวิ๋นฉีมองซุนลี่ลี่อย่างจนใจ ก่อนจะโน้มเข้าไปข้างหูนางแล้วกระซิบเสียงเบาว่า “ท่านน้าเล็ก ที่นี่ยังมีสหายอยู่อีกตั้งหลายคน ท่านก็ไว้หน้าข้าบ้างเถิด!”

ขณะนี้เองท่านน้าเขยของเขาก็เข้ามาจัดการให้ เขาเข้ามาลากตัวซุนลี่ลี่แล้วตรงขึ้นไปนั่งยังที่นั่งประธานก่อนจะเอ่ยว่า “ลี่ลี่ มีคนอยู่กันมากมายเช่นนี้ เจ้าก็ทำตัวให้เหมาะสมหน่อยเถิด”

“หึๆ คราวนี้จะปล่อยเจ้าไปก่อนก็ได้” ซุนลี่ลี่บิดตัวคราหนึ่งแล้วนั่งลงข้างกายวังเหล่ย หลังจากนั้นจึงพูดกับพวกซือหม่าโยวเย่ว์ด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเจ้าเป็นสหายของเสี่ยวฉีฉีอย่างนั้นหรือ”

เมื่อครู่ตอนได้ยินนางพูดว่าเสี่ยวฉีฉีเป็นครั้งแรก พวกซือหม่าโยวเย่ว์ก็แทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้มาได้ยินอีกครั้งก็ยังคงอยากหัวเราะอยู่ดี

“ท่านน้าเล็ก พวกเขาเป็นสหายที่ข้าได้รู้จักที่เทือกเขาสั่วเฟยย่า นี่คือโยวเย่ว์ จือฉี เจ้าอ้วน โอวหยางเฟย และเป่ยกงถัง” ไป๋อวิ๋นฉีมีภูมิคุ้มกันต่อคำเรียกหาของซุนลี่ลี่เสียแล้ว จึงแนะนำพวกซือหม่าโยวเย่ว์ให้นางรู้จักทีละคน

“รู้จักกันที่เทือกเขาสั่วเฟยย่าอย่างนั้นหรือ” ซุนลี่ลี่มองพวกเขาปราดหนึ่ง “คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าอายุยังน้อยก็กล้าไปที่เทือกเขาสั่วเฟยย่าแล้ว ช่างเป็นผู้กล้าวัยเยาว์อย่างแท้จริง!”

“ฮูหยินชมเกินไปแล้วขอรับ” เว่ยจือฉีพูดแทนทุกคน

“ท่านน้าเล็ก พวกเขายังเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้าอีกด้วยนะ!” ไป๋อวิ๋นฉีพูด

“ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหรือ”

“ใช่แล้ว!” ไป๋อวิ๋นฉีพูด “ตอนพวกเราอยู่ในภูเขา ได้พบกับฉินอู่เข้า เขาพาคนมาหมายจะสังหารข้า แต่ได้พวกเขาช่วยเหลือเอาไว้”

“ฉินอู่กล้าพาคนมาสังหารเจ้าอย่างนั้นหรือ” ซุนลี่ลี่ได้ฟังแล้วเดือดดาลขึ้นมาในทันใด นางยืนขึ้นมาก่อนจะตบโต๊ะฉาดใหญ่ “กลุ่มทหารรับจ้างโอหังนี่มันช่างบังอาจมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ข้าจะกลับไปบอกพี่เขย ให้พี่เขยพาคนไปล้างบางพวกมันเสีย!”

“เจ้านั่งก่อนสิ” วังเหล่ยดึงตัวนางให้นางนั่งลงอีกครั้ง จากนั้นจึงมองไป๋อวิ๋นฉีพลางเอ่ยว่า “เจ้าเล่าเรื่องราวให้ข้าฟังอย่างละเอียดหน่อยสิ”

“ขอรับ”

ไป๋อวิ๋นฉีเล่าเรื่องราวในวันนั้นให้เขาฟัง เมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ สีหน้าของซุนลี่ลี่จึงดีขึ้นมาเล็กน้อย พอได้ยินว่าซือหม่าโยวเย่ว์เป็นผู้สังหารฉินอู่ ทั้งสองคนก็ประหลาดใจอยู่บ้าง

“ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยเสี่ยวฉีฉีเอาไว้” ซุนลี่ลี่ยิ้มพลางพูดกับซือหม่าโยวเย่ว์

“ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ” ซือหม่าโยวเย่ว์รับคำพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ

“ท่านน้าเขย ที่ข้ามาคราวนี้เพราะมีเรื่องอยากขอให้ท่านช่วยเหลือด้วย” ไป๋อวิ๋นฉีพูด

“ให้ข้าช่วยหรือ เรื่องอันใดกัน” วังเหล่ยมองไป๋อวิ๋นฉี ก่อนหน้านี้เจ้าคนผู้นี้ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเขามาก่อนเลย

“แค่ก ๆ เรื่องเป็นเช่นนี้ คือว่าพวกโยวเย่ว์เขามาจากอาณาจักรตงเฉิน ก็เลยอยากจะทำเอกสารยืนยันตัวตนที่เมืองไตรวารีน่ะ” ไป๋อวิ๋นฉีพูด

“มาจากอาณาจักรตงเฉินอย่างนั้นหรือ” นัยน์ตาของซุนลี่ลี่และวังเหล่ยฉายแววประหลาดใจ

“ใช่แล้ว” ไป๋อวิ๋นฉีพูด “ท่านน้าเขย ท่านช่วยทำเอกสารยืนยันตัวตนให้พวกเขาได้หรือไม่!”

วังเหล่ยพูดว่า “ได้น่ะได้อยู่หรอก แต่การทำเอกสารยืนยันตัวตนนั้นต้องใช้เวลาสองวัน นอกจากนี้ยังต้องหาที่แขวนเอาไว้อีกด้วย”

แขวนที่ว่านั้น อันที่จริงก็คล้ายกับการตั้งถิ่นฐานในชาติที่แล้ว แขวนไว้ที่เมืองไตรวารี ก็แสดงว่าเจ้าเป็นคนของเมืองไตรวารี

“ยังต้องหาสถานที่อีกหรือ แขวนไว้ที่จวนของพวกเราก็ใช้ได้แล้วนี่” ซุนลี่ลี่พูดอย่างง่ายๆ “แต่ยังต้องใช้เวลาสองวันอยู่ดี พวกเจ้าก็อยู่กันที่จวนเจ้าเมืองนี่สักสองวันไม่ดีหรือ”

“ดีเลย ท่านอาหลี่ พวกเราก็อยู่กันสักสองวันก่อนค่อยไปแล้วกันนะ” ไป๋อวิ๋นฉีมองหลี่ขุย

หลังจากที่หลี่ขุยเข้ามาแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรเลย จนตอนนี้จึงค่อยพยักหน้าแล้วพูดว่า “ทุกคนเพิ่งจะกลับมาจากสั่วเฟยย่า อยู่พักผ่อนกันที่นี่ก่อนสักหน่อยก็ได้ นอกจากนี้ถ้าหากต้องการ พวกเรายังช่วยจัดการธุระให้ได้ด้วยนะขอรับ”

“ใช่แล้ว เกือบลืมเรื่องสำคัญไปเสียแล้วสิ” ไป๋อวิ๋นฉีตบหน้าผากแล้วพูดว่า “ท่านน้าเขย ตอนพวกเราออกมา สัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของโยวเย่ว์บอกว่ามันพบว่าสัตว์อสูรวิเศษในเทือกเขาสั่วเฟยย่าดูหงุดหงิดกันเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังมีสัตว์อสูรวิเศษจากศูนย์กลางกลุ่มใหญ่กำลังอพยพไปยังบริเวณรอบนอกอีกด้วย ดูคล้ายว่าจะเป็นการอพยพอย่างเป็นระเบียบอีกด้วย ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่าอาจจะเป็นสัญญาณบอกเหตุของการปฏิวัติสัตว์อสูรก็เป็นได้”

“สัตว์อสูรวิเศษกำลังเกิดการจลาจลอย่างนั้นหรือ” วังเหล่ยขมวดคิ้ว “แต่การปฏิวัติสัตว์อสูรนี้เพิ่งจะผ่านไปแค่ครึ่งปีเท่านั้น เหลือเวลาอีกสองปีกว่าจะถึงการปฏิวัติสัตว์อสูรครั้งต่อไป แล้วมาเกิดการจลาจลขึ้นในเวลานี้ได้อย่างไรกัน”

“พวกเราก็มิอาจแน่ใจได้ว่านี่เป็นเรื่องภายในของสัตว์อสูรวิเศษ หรือจะกลายเป็นการปฏิวัติสัตว์อสูรกันแน่ พอพวกเรารู้เหตุการณ์นี้แล้วจึงรีบมาในทันที อยากมาบอกพวกท่านก่อนสักหน่อย” ไป๋อวิ๋นฉีพูด

วังเหล่ยและซุนลี่ลี่ประสานสายตากันปราดหนึ่ง ต่างก็มองความเคร่งเครียดในแววตาของอีกฝ่ายออก เขาลุกขึ้นประสานหมัดคารวะทุกคนแล้วพูดว่า “เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ข้าต้องไปจัดการให้คนตรวจสอบสักหน่อย ถ้าหากเป็นความจริง เมื่อถึงเวลานั้นคงต้องขอให้ทุกคนลงมือลงแรงด้วย ตอนนี้ข้าต้องไปแล้วล่ะ ลี่ลี่ เจ้าต้อนรับทุกคนไปก่อนนะ ข้าขอตัว”

ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนพลางใช้สายตามองส่งเขา หลังจากนั้นจึงนั่งลงที่เดิม

ซุนลี่ลี่ดูเหมือนจะเป็นกังวลอย่างยิ่ง ไอพลังบนร่างแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว มองออกว่าข่าวเรื่องการจลาจลสัตว์อสูรวิเศษทำให้พวกเขากังวลใจเป็นอย่างมาก

“ท่านน้าเล็ก ท่านอย่าได้กังวลใจไปเลย ไม่แน่ว่าสัตว์อสูรวิเศษเหล่านั้นอาจจะแค่กระโดดโลดเต้นไปรอบๆ เขาสั่วเฟยย่าก็ได้นะ!” ไป๋อวิ๋นฉีเห็นซุนลี่ลี่วิตกกังวลจึงเอ่ยปลอบ

“ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดีน่ะสิ” ซุนลี่ลี่ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “แต่ถ้าหากไม่ใช่ เรื่องนี้ก็คงยุ่งยากเสียแล้ว”

“ยุ่งยากอย่างไรหรือ” เจ้าอ้วนชวีส่งเสียงถาม

ในความเห็นของพวกเขา หากสัตว์อสูรวิเศษมาก็แค่ฟาดให้มันกลับไปก็ใช้ได้แล้วมิใช่หรือ ไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขากังวลใจอะไรกัน

หลี่ขุยที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปากพูดว่า “พวกเจ้าคงจะไม่เคยเห็นการปฏิวัติสัตว์อสูรล่ะสิ การปฏิวัติสัตว์อสูรทุกครั้งล้วนมีสัตว์อสูรวิเศษมารวมตัวกันนับหมื่น มิใช่สิ่งที่ทหารรักษาเมืองเหล่านี้จะต้านทานได้เลย ทุกครั้งก่อนหน้าการปฏิวัติสัตว์อสูร ท่านเจ้าเมืองวังจะต้องส่งคนไปเชิญปรมาจารย์วิญญาณจำนวนมากมาติดตั้งค่ายกล”

“ถ้าหากมีสัตว์อสูรวิเศษมากมายถึงเพียงนั้นจริง เช่นนั้นนี่ก็ต้องเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งเลยสิ!” เจ้าอ้วนชวีมองหลี่ขุยอย่างตกใจ “ปรมาจารย์วิญญาณเหล่านั้นเต็มใจมากันหรือไม่”

“พวกเขาต้องเต็มใจอยู่แล้วสิ!” ไป๋อวิ๋นฉีพูด “จวนเจ้าเมืองตกรางวัลให้กับปรมาจารย์วิญญาณอย่างหนักทุกครั้ง หากปรมาจารย์วิญญาณเหล่านั้นไม่เต็มใจ พอเจอรางวัลตอบแทนเข้าไปก็เต็มใจกันหมดนั่นแหละ”

น้ำเสียงของไป๋อวิ๋นฉีมิใคร่จะดีสักเท่าใดนัก มองออกได้ว่าเขาไม่ชอบปรมาจารย์วิญญาณที่มาติดตั้งค่ายกลให้เพียงเพื่อรางวัลเท่านั้นเอาเสียเลย

“ก็มิได้เป็นเช่นนั้นไปเสียทั้งหมดหรอก” ซุนลี่ลี่พูด “มีปรมาจารย์วิญญาณจำนวนไม่น้อยที่มาเพราะอยากช่วยพวกเราต้านทานการปฏิวัติสัตว์อสูร”

นางพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดแล้วมองพวกซือหม่าโยวเย่ว์พลางเอ่ยว่า “ถ้าหากคราวนี้เป็นการปฏิวัติสัตว์อสูรจริงๆ หวังว่าพวกเจ้าจะอยู่ช่วยก่อนนะ”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 169 การจลาจลสัตว์อสูรวิเศษ"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์