สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1002 งานแต่งงานของเย้นหว่าน
“ที่คือการทรยศเลยนะ!”
เย้นซิวหย่า ที่แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้า
ถึงแม้ว่าจะเข้าไปในห้องกฎตระกูลจะโดนถูกตีจนเสียหน้า แต่เธอก็ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้
เจียงเป้ยนีสีหน้าชั่วร้าย “คุณป้าเห็นตระกูลเย้นเป็นบ้าน แต่คนตระกูลเย้นไม่ได้มองพวกเราเป็นคนในครอบครัว”
“คุณป้า คุณป้าดูฮวนฮวนสิ แค่ทำร้ายกู้จื่อเฟยเท่านั้น และกู้จื่อเฟยก็ยังไม่ตาย เย้นโม่หลินถึงกับต้องโบยกันขนาดนี้เลยหรือ ถึงแม้ฮวนฮวนจะฟื้น ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการพิการที่ถาวรได้ ชีวิตของเธอพังทลายแล้ว”
“และก็ย้อนมองดูคุณป้า อย่างน้อยก็เป็นถึงคุณหญิงสาม แต่กลับโดนทำโทษหนักขนาดนี้ เย้นโม่หลินเขาเคยเห็นแก่ความเป็นญาติไหม”
“คุณป้าก็ทน ตอนนี้คลื่นลมยังคงสงบ แต่เรื่องของชิวเจ๋อไม่นานก็จะสาวมาถึงคุณป้า เมื่อถึงเวลานั้น เย้นโม่หลินจะยังปล่อยคุณป้ากับฮวนฮวนเหรอ”
เย้นซิวหย่าใบหน้าซีดเผือด ตัวเกร็งไปหมด
ความคับแค้นข้องใจที่กดทับอยู่ในจิตใจ ถูกคำพูดของเจียงเป้ยนีเกี่ยวดึงออกมา
ทำไมเธอจะไม่โกรธ
ลูกสาวสุดรักที่ตัวเองอุ้มชูฟูมฟักอยู่ในอุ้งมือ หลายปีที่ผ่านมาตัวเองอยากได้ลมก็ได้ลม อยากได้ฝนก็ได้ฝน มีเวลาไหนบ้างที่ต้องมาคับอกคับใจเช่นนี้
ทั้งหมดเป็นเพราะกู้จื่อเฟย ทั้งหมดเป็นเพราะเย้นโม่หลิน
“แต่ต่อให้ไม่ทนแล้วจะทำอะไรได้ อำนาจตระกูลเย้นล้นฟ้า แผนการของเย้นโม่หลินก็เหนือกว่าคนอื่นทั่วไป ไม่ใช่ที่คนอย่างแกกับฉันจะเขย่าได้ ถึงแม้จะลากหยูฉู่สองเข้ามาร่วมด้วย ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถโค่นตระกูลเย้นได้ ไม่ใช่พอถึงเวลา ขโมยไก่ไม่ได้แล้วยังเสียข้าวสารอีกกำมือ จนทำให้พวกเราล่มไม่เป็นท่า”
หากว่าแผนคิดร้ายเหล่านี้ บทลงโทษที่ได้รับเป็นเพียงการถูกโบยตีและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ แต่การติดต่อกับตระกูลหยูเพื่อทรยศตระกูลเย้น ถือเป็นโทษประหารที่ไม่มีใครสามารถให้อภัยได้
เมื่อล้มเหลว เธอกับตระกูลเจียงจะต้องตายโดยไร้ที่ฝังศพ
“พวกเราไม่มีทางถูกจับได้หรอก และก็ไม่มีทางล้มเหลวด้วย!”
เจียงเป้ยนีเบ้าตาแดงก่ำ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูด และท่าทางแน่วแน่
นี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะสามารถพลิกตัวลุกขึ้นได้
“คุณป้า เชื่อหนูนะ โค่นพวกเย้นโม่หลินลง คุณป้าถึงจะพลิกตัวลุกยืนได้ในตระกูลเย้น และกลายเป็นผู้กุมอำนาจตระกูลเย้น
ผู้กุมอำนาจบ้านตระกูลเย้น คนเหล่านี้ทำให้น่าหลงใหลมากกว่าคำพูดที่อ่อนหวาน
นั่นเป็นตำแหน่งที่สูงที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าคิด แต่กลับเป็นตำแหน่งที่ฝันอยากจะได้
ความคับแค้น ความข้องใจและความโลภทั้งหมดได้อัดแน่นอยู่ในอก จนกลายเป็นการตัดสินใจอย่างบ้าคลั่งในที่สุด
“ในเมื่อเย้นโม่หลินไม่ยอมปล่อยพวกเรา อย่างนั้นฉันก็จะขอสู้ตายไปพร้อมกับเขา
มองดูท่าทางของเย้นซิวหย่าที่ถูกเธอโน้มน้าวจนสำเร็จ เจียงเป้ยนีแอบยิ้มอย่างกระหยิ่ม เช่นนี้แล้วเธอก็จะมี
ตัวช่วยที่แข็งแกร่งอย่างเย้นซิวหย่า
กลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียวที่จะทำเรื่องให้สำเร็จ
เย้นโม่หลินทำร้ายเธอดูถูกเธอเช่นนี้ อย่างนั้นต้องมีสักวันที่เธอจะเหยียบบนตัวของเย้นโม่หลิน แล้วก้มลงมองเขา ถามเขาว่าเสียใจไหม
……
วันที่11เดือน11
พิธีแต่งงานระหว่างโห้หลีเฉินกับเย้นหว่าน กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
สถานที่จัดงานตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยที่สุดในบริเวณใกล้เคียง ยิ่งใหญ่อลังการ
เย้นหว่านมาถึงก่อนเวลาและกำลังให้สไตลิสต์กับช่างแต่งหน้าแต่งตัวอยู่ให้อยู่ในห้องแต่งตัว จัดองค์ทรงเครื่องเธอจากผู้หญิงบ้านๆ กลายมาเป็นเจ้าสาวที่งดงามส่องประกายแวววาวในกระจก
ยังไม่ถึงฤกษ์พิธีแต่งงาน
เย้นหว่านถือโทรศัพท์ที่กำลังอยู่ในสายวิดีโอคอล และก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างสดใสเบิกบาน
“ว้าว เสี่ยวหว่าน วันนี้เธอสวยงามมากจริงๆ พี่เห็นแล้วยังอดไม่ได้ที่จะตกหลุมรักเธอเลย”
กู้จื่อเฟยกล่าวเย้าหยอกด้วยแววตาหลงใหล ราวกับว่าแทบอยากจะออกมาจากหน้าจอแล้วหอมเย้นหว่านสักฟอด
เย้นหว่านยิ้มแล้วกล่าว “อย่านะ ถ้าเกิดพี่รักฉันขึ้นมา พี่ชายฉันจะต้องเกลียดฉันแน่ๆ
เย้นโม่หลินสะดุ้งที่อยู่ๆ ถูกเอ่ยชื่อ
จึงตอบกลับอย่างจริงจังว่า “ไม่หรอก เธอเป็นน้องสาวของพี่ พี่จะดีกับเธอตลอดไป”
มองดูท่าทางที่จริงจังของพี่ชายตัวเอง เย้นหว่านสบสายตากับกู้จื่อเฟย แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ช่างใสชื่อจริงๆ เลย
ซุบซิบกับกู้จื่อเฟยอีกสักพัก เมื่อมองดูนาฬิกาแล้วใกล้จะถึงฤกษ์ เย้นหว่านจึงเตรียมวางสายโทรศัพท์
กงจืออวีที่นั่งอยู่ข้างๆ มาโดยตลอดได้ส่งเสียงขึ้น
“เสี่ยวหว่าน”
ในหน้าจอสามารถมองเห็นกงจืออวี เย้นหว่านจึงรีบหันไปมองเธอ ถึงได้เห็นว่าเบ้าตาของกงจืออวีนั้นแดงก่ำแล้ว
เย้นหว่านตกใจ “แม่……”
“หลังจากวันนี้ หนูก็แต่งงานแล้ว โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะเอาแต่ใจอีกไม่ได้แล้ว จะต้องมีชีวิตที่มีความสุขรู้ไหม”
เมื่อพูดมาถึงตอนท้าย เสียงของกงจืออวีก็เริ่มสะอึก
ถึงแม้เธอจะเป็นนายหญิงที่สูงส่งของตระกูลเย้น แต่อย่างไรเธอก็แค่มารดาคนหนึ่ง ที่รักลูกสาวตัวเองอย่างสุดซึ้งเท่านั้น
งานแต่งของลูกสาว จึงเป็นวันที่เจ็บปวดใจที่สุด
เย้นหว่านก็เริ่มคัดจมูก พยักหน้าอย่างตั้งใจ “แม่ หนูทราบแล้วค่ะ หนูจะต้องมีความสุข มีความสุขมากอย่างแน่นอน
“ดีๆ ๆ ”
เธอพยักหน้ารัวๆ น้ำตาคลอเบ้า แทบจะกลั้นไม่ไหว
เธอปิดปากไว้ และยกรอยยิ้มออกมาอย่างสุดความพยายาม
“อืม ใกล้ถึงเวลาแล้ว รีบไปเถอะ”
เมื่อพูดจบ ก็ได้เดินผ่านไป แล้วก็ปิดกล้องวิดีโอลง
เย้นหว่านมองดูกล้องวิดีโอที่ดับมืดสนิทลง แล้วเกิดรู้สึกปวดใจเล็กน้อย
เธอแต่งงานคนชายคนที่รักมากที่สุด ต้องมีความสุขอย่างแน่นอน เพียงแต่สิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบคือ พ่อแม่และพี่ชายของเธอไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานของเธอได้
ไม่รู้ว่าตอนนี้กงจืออวีกำลังแอบร้องไห้อยู่หรือเปล่า……
“ก๊อกๆ ๆ ”
ขณะที่เสียงคุยวิดีโอคอลในห้องสิ้นสุดลง ประตูห้องก็ถูกแง้มออกมาครึ่งหนึ่ง เว่ยชีที่สวมชุดทักซิโด้สีดำได้ยืนอยู่ที่หน้าประตู
กล่าวอย่างนอบน้อมว่า “คุณเย้นครับ ใกล้ถึงเวลาแล้วครับ ไปกันเถอะ”
เขาคือผู้ช่วยข้างกายโห้หลีเฉินที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุด พิธีแต่งงานวันนี้ ถูกส่งตัวมาตามดูแลเย้นหว่านอย่างไม่ห่าง และรับผิดชอบเรื่องขั้นตอนของพิธีแต่งงาน
ดังนั้น เมื่อสักครู่เขาถึงได้ยืนอยู่ที่หน้าประตูมาโดยตลอด ไม่รบกวนเธอ แต่คอยเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวและความปลอดภัยของเธอตลอดเวลา
เย้นหว่านจู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นนิดหน่อย
เมื่อเดินออกไป เธอต้องไปในสถานที่จัดงานแต่งแล้ว แล้วยืนอยู่ต่อหน้าบาทหลวง ทำพิธีให้คำมั่นสัญญากับโห้หลีเฉิน
เธอถอนหายใจยาว ยกกระโปรงชุดแต่งงานแล้วลุกขึ้น กำลังที่จะเดินออกไปด้านนอก จู่ๆ ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่คุ้นเคยได้ออกมาจากกระเพาะ
“แหวะ!”
เย้นหว่านรีบพุ่งไปที่ห้องน้ำ แล้วคว่ำหน้าอาเจียนออกมาแต่น้ำย่อยอยู่ในอ่างล้างหน้า
ช่วงนี้อาการแพ้ท้องของเธอยิ่งอยู่รุนแรง คลื่นไส้อาเจียนบ่อย อาเจียนแต่ละครั้งก็แทบจะหมดแรง
วิธีต่างๆ ก็เคยใช้แล้ว แต่ด้วยปัญหาทางร่างกาย ทำอย่างไรก็ไม่ได้ผล
จึงได้แต่อดทน
เว่ยชีได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จึงได้รีบเข้ามา ขณะเดียวกันยังมีเสี่ยวย่าที่เฝ้ารออยู่ด้านนอกประตู
เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ ช่วยเย้นหว่านลูบหลังอย่างชำนาญ แล้วยื่นน้ำให้
เย้นหว่านอาเจียนอยู่สักพัก ถึงได้รู้สึกดีขึ้น บ้วนปากเสร็จก็ออกมานั่งพักอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าที่ขาวซีดราวกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง
เว่ยชีมองเธอด้วยความเป็นห่วง “คุณเย้นครับ สีหน้าของคุณดูไม่ค่อยสู้ดีเลยนะครับ จะให้เรียกคุณหมอไหมครับ”
เย้นหว่านยังคงรู้สึกอึดอัดกระเพาะ ยังคงรู้สึกอยากอาเจียน
เธอมองนาฬิกาในห้องด้วยความกังวล “ใกล้ถึงเวลาแล้ว”
“ร่างกายของคุณสำคัญกว่า”
เย้นหว่านครุ่นคิด และก็ไม่ปฏิเสธที่จะเรียกคุณหมออีก
หลังจากตั้งครรภ์ ร่างกายของเธอยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีแรง อ่อนเพลีย เอะอะก็จะอาเจียน จนทำให้เกิดโรคอื่นแทรกซ้อน
แต่ว่าการตั้งครรภ์ไม่สามารถทานยาได้ตามใจ ดังนั้นเธอจะป่วยไม่ได้
เพื่อตัวเธอเอง และก็เพื่อลูก