สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 101 ที่คอของเธอมีรอยจูบ
บทที่ 101 ที่คอของเธอมีรอยจูบ
ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่อง ราวกับน้ำใสไหลผ่านภูเขาที่ไม่ปนเปื้อนสิ่งเจือปนนั้น ไหลเข้าไปในใจของเขาอย่างนั้น คอยรักษาบาดแผล ความเจ็บปวดทุกอย่างในใจของเขา
ตอนที่ยังอยู่ข้างกายเธอ เขาคิดว่าตนเองเพียงแค่มีความรู้สึกดีๆ ชอบเย้นหว่านอย่างผิวเผินเท่านั้น หลังจากที่รู้ว่าเธอหมั้นหมาย คิดว่าไม่นานคงจะตัดใจจากความรู้สึกนี้ได้
แต่ทว่าเวลากลับเป็นเสมือนยาพิษที่หล่อเลี้ยงกระดูก กระตุ้นความรู้สึกนั้นอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้นับวันมันยิ่งเข้มข้น ทำให้นานวันเข้าเขายิ่งไม่สามารถถอนตัวได้
เขาพึ่งมาเข้าใจได้ทีหลัง เขาไม่รู้ว่าตัวเองรักเย้นหว่านอย่างลึกซึ้งไปตั้งแต่เมื่อไรกัน พอไม่มีเธอแล้ว ใจแทบขาด
แต่หลังแยกจากกันที่บริษัท เธอก็ไม่เคยติดต่อเขาอีกเลย
บางทีในสายตาของเธอเขาอาจเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานทั่วไปคนหนึ่ง บางทีอาจเป็นเพราะต้องการหลีกเลี่ยงการระแวงของคู่หมั้น หรือบางทีอาจไม่ได้สนใจเขาคนนี้มาแต่ไหนแต่ไร……
เขาอ้างว้าง กดความคลุ้มคลั่งที่อยากไปหาเธอนับครั้งไม่ถ้วนไว้ไม่อยู่ สุดท้ายก็ตกอยู่ในอาการมึนเมาของฤทธิ์เหล้า
เป็นแบบนี้ เมาจนหน้ามืดตาลาย ก็ดี
“หึๆ”
มู่จื่ออี้ดื่มอย่างหนักหน่วงอีกอึกใหญ่ เดินโซซัดโซเซไปข้างหน้า
ร่างสูงใหญ่เผยความเศร้ารันทดที่ทำให้รู้สึกปวดใจ
วางหนิงเวยมองเขาอยู่ กำหมัดด้วยความอิจฉา ในใจอยากจะให้เย้นหว่านไปตายเสียให้ได้ ถ้าไม่มีเย้นหว่าน ตอนนี้มู่จื่ออี้ก็คงไม่ถึงกับไม่รักหล่อนสักนิดหรอก
ทว่ายังดีที่หล่อนใช้เล่ห์กลกับมือถือของมู่จื่ออี้ไป ทำให้ไม่สามารถรับโทรศัพท์ของเย้นหว่านได้
มู่จื่ออี้เป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี และจะไม่ไปจู่โจมรบกวนเย้นหว่านก่อนอย่างเด็ดขาด
แบบนี้ก็แค่ต้องรออีกสักช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากที่มู่จื่ออี้ไปต่างประเทศ ระหว่างพวกเขาก็จะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กันแล้ว
ส่วนอนาคต คนที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายเขา ก็มีเพียงหล่อน
……
โห้หลีเฉินพาเย้นหว่านไปส่งที่บ้าน
เพราะว่าดึกมากแล้ว หลังจากที่เขาพาเย้นหว่านมาส่งถึงหน้าประตูบ้าน จึงแค่มองเธอเดินเข้าไปเอง
พอเข้าประตูบ้านไป เย้นหว่านเปิดแค่ไฟผนังดวงเล็ก เปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็ค่อยๆ เดินไปที่ห้องของตนเอง พยายามไม่ทำเสียงดังให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนพ่อแม่บุญธรรมพักผ่อน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีเสียง “ก๊อกแก๊ก” กระทั่งเห็นพ่อบุญธรรมออกมาจากในห้องพอดี
เย้นซวนมิ้นเห็นเย้นหว่านกลับมาก็แปลกใจมาก “ลูกไม่ได้บอกว่าไปทำงานที่อื่น คืนนี้จะไม่กลับมาเหรอ?”
ขณะกำลังพูด สายตาของเขาก็ตกอยู่ที่ตัวของเย้นหว่าน มองเห็นที่ตัวของเธอคลุมเสื้อคลุมตัวใหญ่ของผู้ชาย ชั่วขณะหนึ่งบนใบหน้ามีอารมณ์ที่ซับซ้อนขึ้นมาอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ
ทันใดนั้นน้ำเสียงของเขาก็เคร่งขรึมเป็นพิเศษ “เสี่ยวหว่าน เสื้อตัวนี้ของลูกมันเรื่องอะไรกัน?”
ถ้าเป็นแค่เสื้อคลุมผู้ชายก็ดีไป แต่เขาแอบเห็นรอยจูบที่ปิดครึ่งบนคอของเย้นหว่านนั้นเข้า
“ระหว่างทางกลับมาหนาวค่ะ คุณโห้เลยใส่ให้หนูมา”
เย้นหว่านตอบคำถาม พูดพลางกระชับเสื้อคลุมอย่างหวาดผวาอยู่บ้าง ด้านในเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอย่างอื่นเลย
แต่เรื่องที่เกือบถูกป่ายฉีรังแกนี้ เธอไม่คิดจะบอกเย้นซวนมิ้น มีแต่จะทำให้เขากังวลใจไปเปล่าๆ เท่านั้น
“พ่อคะ หนูง่วงแล้ว พ่อก็รีบไปพักผ่อนนะคะ หนูจะขึ้นไปนอนแล้ว”
สายตาลุกลี้ลุกลนไม่กล้ามองเย้นซวนมิ้นมากเท่าไร เย้นหว่านเดินขึ้นไปข้างบนอย่างรีบร้อน
เย้นซวนมิ้นมองเธอด้วยสายตาที่ซับซ้อน จึงถามขึ้นมาอีกประโยค “เป็นเสื้อของโห้หลีเฉินจริงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”
เย้นหว่านตอบมาคำหนึ่ง เดินมาถึงหน้าประตูพอดี จากนั้นรีบเข้าไปในห้องแล้ว
เย้นซวนมิ้นกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองประตูห้องของเย้นหว่าน ในใจกำกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินดูเหมือนเป็นคู่รักที่เข้ากันได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอายุน้อยส่วนใหญ่มักควบคุมฮอร์โมนหนุ่มสาวไม่อยู่ แอบกินผลไม้ต้องห้ามก่อนแต่งงานก็เป็นเรื่องที่มีให้เห็นอยู่บ่อย
เพียงแต่หากเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะตั้งท้องโดยไม่ตั้งใจได้ง่ายมาก ถึงตอนนั้นถ้าแต่งงานด้วยเหตุที่ตั้งท้อง คงทำให้คนเข้าใจเย้นหว่านผิดว่าเป็นคนใช้ลูกไม้นี้ถึงได้แต่งเข้าตระกูลโห้ ต่อไปเธออาจจะโดนคนเหยียดหยามได้
เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์แบบนี้ ดูแล้วคงต้องคุยกับคุณนายใหญ่ตระกูลโห้สักหน่อย เรื่องแต่งงานต้องเลื่อนกำหนดขึ้นมา
……
ที่บริษัท เย้นเหวินหนานเดินพลางโทรศัพท์ไปด้วย
“หลีเฉิน นายจะมาถึงประมาณตอนไหน?”
ในสายโทรศัพท์นั้นมีเสียงน่าดึงดูดของชายหนุ่มลอยมา “เวลาไม่พอแล้ว นายพาเย้นหว่านไปที่งานแฟชั่นวีคก่อนเลย เดี๋ยวฉันจะตามเข้าไป”
“ก็ได้” เย้นเหวินหนานวางสายโทรศัพท์ เดินมาที่ห้องแต่งตัว
เย้นหว่านมาถึงแล้ว ยิ้มทักทายกับเย้นเหวินหนาน “คุณชายเย้น”
“ขอโทษที มีธุระนิดหน่อยเลยเสียเวลา มาช้าไป เธอมีความเห็น ความต้องการอะไรกับรูปแบบในวันนี้หรือเปล่า?”
เย้นหว่านส่ายหน้าไป “ฉันไม่มีปัญหาค่ะ คุณจัดการได้ตามสบายเลยค่ะ”
ถึงแม้เธอจะเป็นนักออกแบบ แต่นิสัยเป็นคนที่ตามสบายเป็นอิสระ มีสายตาแบบนั้น ทว่ากลับไม่ชอบใช้เวลาไปพิถีพิถันกับรูปแบบแฟชั่นของตนเอง
ถ้าต้องครุ่นคิด สายตาของเธออยู่เพียงที่ตัวของนางแบบ
เย้นเหวินหนานยิ้ม จากนั้นเลือกสรรเสื้อผ้าให้เย้นหว่านอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะทำผมแต่งหน้า
งานแฟชั่นวีคในคืนนี้ เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของเย้นหว่านที่กลับสู่วงการออกแบบ ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ผู้ชม แต่ตามระดับการเป็นที่รู้จักของสาธารณชนของเธอในตอนนี้ การออกงานครั้งนี้ก็เป็นการเปิดตัวต่อสาธารณะ นำเธอกลับสู่วงการออกแบบอีกครั้ง
ปูทางเอาไว้เพื่อการออกแบบในอนาคต
เย้นหว่านใช้สถานะคู่ควงของเย้นเหวินหนานเข้าร่วมงานแฟชั่นวีค และได้รับการติดตามระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มาก
เย้นเหวินหนานพาเย้นหว่านเดินไปทางโถงใหญ่ พูดปลอบใจเสียงต่ำ
“วันนี้ยังมีการเตรียมการ ระดับการติดตามของเธอจะต้องดีขึ้นตามเหตุการณ์แน่”
“ฉันเชื่อใจพวกคุณค่ะ”
เย้นหว่านกลับไม่ได้ใส่ใจการติดตามของสื่อมวลชนเหล่านี้มากนัก เธอเพียงแค่อยากพึ่งความสามารถ ผลงานของตนเอง เพื่อให้ได้รับการยอมรับของผู้คน
แต่พลาดแชมป์ของการแข่งขันใหญ่ออกแบบเสื้อผ้าOviแล้ว ตอนนี้เธอก็มีเพียงวิธีพึ่งมติมหาชนแบบนี้ถึงจะสามารถกลับมายืนบนเวทีได้ใหม่อีกครั้ง
ส่วนโอวน่อหย่าออกงานราวกับเป็นพระจันทร์รอบล้อมด้วยดาวมากมาย สะดุดตาทุกผู้ทุกคน ไม่เหมือนกับเย้ยหว่านที่เข้างานมาอย่างธรรมดา
สื่อมวลชนนับไม่ถ้วน บุคคลแฟชั่น ล้วนค่อยๆ ล้อมหล่อนไว้ ราวกับต้อนรับเจ้าหญิง ห้อมล้อมหล่อนเดินเข้ามา ปฏิบัติราวกับเป็นดาราดังที่หยิ่งยโสด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่
เวลานี้โอวน่อหย่าควงแขนของซือหนาน ยิ้มอย่างเหนียมอาย
“ขอบคุณทุกคนนะคะ ฉันมีความสำเร็จขั้นนี้แบบวันนี้ได้ ล้วนขาดความช่วยเหลือจากซือหนานสามีของฉันไม่ได้เลย ตอนที่ฉันเจอความยากลำบาก เป็นเขาที่ปลอบใจฉัน สนับสนุนฉันมาตลอด แรงบันดาลใจการออกแบบหลายอย่างของฉันก็มาจากซือหนาน”
หล่อนมองทางซือหนานอย่างละมุนนุ่มนวล ราวกับตามใจจนถึงแก่นแท้
เย้นเหวินหนานเย้ยหยันอย่างดูหมิ่น “คิดว่าเกาะซือหนานไต่เต้าขึ้นไปอยู่ในวงการแล้วใครๆ จะไว้หน้าหล่อน อำนวยความสะดวกให้หมดงั้นหรือ? ความคิดก็ดีมาก แต่ว่าผิดใจคนที่ไม่ควรผิดใจ ไม่มีทางดีขนาดนั้นให้เดินหรอก”
“คุณชายเย้น หมายความว่าอะไรคะ?” เย้นหว่านถามด้วยความสงสัย ย้ายสายตาจากที่ตัวชายโฉดหญิงชั่วคู่นั้นทันที
ตอนนี้สามารถพูดได้ว่าเธอสะอิดสะเอียนต่อโอวน่อหย่าถึงขั้นสุด หล่อนไม่เพียงรสนิยมต่ำยังใจอำมหิตเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้บีบเธอให้สละสิทธิ์การแข่งขันใหญ่ออกแบบเสื้อผ้าOvi จากนั้นก็ไม่รักษาสัญญา นำรูปภาพส่งให้ตระกูลโห้อย่างคาดไม่ถึง
ถ้าไม่ใช่คุณย่าโห้เชื่อใจเย้นหว่าน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอจะตกอยู่ในจุดจบอย่างไรบ้าง
เย้นหว่านเป็นเพียงคนธรรมดา เดิมทีคงจะรับความโกรธเคืองของตระกูลโห้ไม่ไหว
เย้นเหวินหนานหัวเราะเยาะ “เธอแค่นั่งรอชื่นชมเถอะ หล่อนได้ใจไปไม่นานเท่าไรหรอก”
“ค่ะ” เย้นหว่านพยักหน้า ถ้าเย้นเหวินหนานมีแผนการอะไรจะจัดการกับโอวน่อหย่า แน่นอนว่าเธอยินดีที่จะรอดู