สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 102 เขามาแล้ว
บทที่ 102 เขามาแล้ว
เย้นหว่านพึ่งนั่งลง ไม่อยากเดือดร้อนกลับดันมาหาถึงที่เองเลย
โอวน่อหย่ามองเห็นเย้นหว่าน รีบพูดเสียงสูงออกมา “นี่ไม่ใช่เย้นหว่านเหรอ? คิดไม่ถึงว่าเธอก็อยู่ที่นี่ด้วย”
หลังจากคำพูดของหล่อนออกไป สื่อมวลชนและผู้คนก็สังเกตเห็นเย้นหว่านกันหมด
โอวน่อหย่าเดินเข้ามาหาก่อนแล้ว ถือโอกาสขณะที่ยืนอยู่ เชิดคางเล็กน้อย มองเย้นหว่านจากด้านบนลงมา
ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่ดูสนใจ แต่ก็เป็นการยั่วยุและเหยียดหยามอย่างไม่มีตรงไหนคลุมเครือ
“เย้นหว่าน การแข่งขันใหญ่ออกแบบเสื้อผ้าOvi เธอสละสิทธิ์ไปอย่างไม่มีสาเหตุ ฉันยังคิดว่านับจากนี้เธอจะออกจากวงการออกแบบแล้วซะอีก วันนี้มาที่นี่ ตัดใจไม่ได้ หรือมาเป็นคนดูเหรอ?”
ความหมายภายใต้คำพูดนั้น เธอมีสิทธิ์เป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เหล่านักข่าวยังติดตามเย้นหว่านอยู่พอสมควร ทว่าพอได้ยินคำพูดของโอวน่อหย่า ต่างคาดเดากันว่าต่อไปเย้ยหว่านคงไม่กลับมาในวงการออกแบบอีกแล้ว เย้นหว่านที่เป็นแบบนี้ สำหรับพวกเขาแล้วก็ไร้คุณค่าไป
แม้กระทั่งไม่มีสื่อไปถ่ายเย้นหว่าน มีแต่คว้าสารพัดโอกาสเพื่อถ่ายภาพของโอวน่อหย่า
เย้นหว่านมองโอวน่อหย่ากับซือหนานด้วยสายตาเย็นชา ไม่อยากสนใจหล่อนด้วยความรังเกียจ ที่จริงหล่อนแค่มาหาเรื่องทะเลาะ มาหาความรู้สึกดีเด่น
ถ้าเวลานี้เธอสนใจโอวน่อหย่า ยิ่งกลับกระดานโดดน้ำให้หล่อนอีกด้วยซ้ำไป ทำให้หล่อนยิ่งพูดยิ่งได้ใจ
เย้นหว่านย้ายสายตาออกอย่างตรงไปตรงมา เพิกเฉยต่อโอวน่อหย่าไปทันที
ภายใต้การจับจ้องของผู้คน โอวน่อหย่าโดนเมินเฉยไปโดยตรง รู้สึกเหมือนโดนตบที่หน้ามาทีหนึ่ง ข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่เท่าไร
ในใจหล่อนเดือดดาล ไม่ง่ายเลยที่บนใบหน้าจะคุมอารมณ์ไว้ได้
“ใช่แล้ว คนที่สามารถเข้าร่วมแฟชั่นวีคครั้งนี้ได้ล้วนเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการ ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับเชิญ เท่าที่ฉันรู้ตอนนี้เหมือนว่าเธอไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม?”
โอวน่อหย่าพูดอย่างงงงวย สายตาตกอยู่ที่ตัวของเย้นเหวินหนาน ลังเลอยู่สักพัก เหมือนนึกได้อย่างฉับพลัน
“เป็นเขาพาเธอมา? ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง”
คำพูดของโอวน่อหย่าพูดอย่างคลุมเครือ ที่จริงความหมายบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนมากแล้ว เย้นหว่านคบคิดกับผู้ชาย
ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าของเย้นหว่านดูไม่ดีเลย โอวน่อหย่าจะมากระทบกระทั่งเธอนั้นไม่เป็นอะไร แต่ไม่สามารถทำให้ชื่อเสียงของเย้นเหวินหนานเสียหายไปด้วย
“โอวน่อหย่า เธอคิดว่าใครเขาจะเหมือนเธอไปหมดเลยหรือไง ชอบเกาะผู้ชายไต่เต้าขึ้นไป?”
เย้นหว่านลุกขึ้นมา กวาดสายตาดูถูกไปที่ตัวของซือหนานอย่างไม่เกรงกลัวสักนิด
สีหน้าซือหนานอึมครึม มองเย้นหว่านอย่างโมโหพอสมควร ทว่ากลับเม้มริมฝีปากอย่างเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ได้พูดอะไรออกไป
โอวน่อหย่ากลับไม่ทน “เย้นหว่าน ถึงแม้ฉันจะชนะเธอในการแข่งขันใหญ่ออกแบบเสื้อผ้าOvi แต่ทุกคนก็รู้กันหมด ฉันใช้ความสามารถของตัวเอง นี่เธอไม่พอใจ แถมยังอิจฉาสามีของฉันด้วยเหรอ?”
“อิจฉาเธอ? ผู้ชายเลวอย่างซือหนานแบบนี้ ฉันไม่เสียดายหรอก”
เย้นหว่านหัวเราะสบายใจอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ การเหยียดหยามในสายตาไม่ได้ซ่อนเร้นมาตั้งแต่แรก
ซือหนานนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนสีหน้าจะยิ่งดูแย่ขึ้น ภายในกลับไม่สบายเอาอย่างมาก
เย้นหว่านที่ในสายตาเคยมีแต่เขา ตอนนี้มีเพียงความรังเกียจอย่างเย็นชาต่อเขา แม้กระทั่งไม่ยอมมองเขามากเท่าไร
ความรู้สึกแตกต่างกันแบบนี้ ทำให้ซือหนานรู้สึกถึงความไม่สบายใจเอามากๆ
ถูกคนเหยียดหยามต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ บนหน้าโอวน่อหย่าก็คุมอารมณ์ไม่ไหว ถลึงตากัดฟันใส่เย้นหว่าน
หล่อนขยับเข้ามาใกล้ระดับหนึ่ง ใช้เสียงที่ต่ำมากพูดไป
“ดีเลวอย่างไรฉันก็มีซือหนาน ว่าแต่เธอมีอะไร? เย้นหว่าน โดนโห้หลีเฉินทิ้งแล้วสินะ? ฮ่าๆๆ คนที่มีตำแหน่งสูงปลอมๆ เธอยังผูกสัมพันธ์ไม่ได้ ชาตินี้คงถูกลิขิตให้ดิ้นรนในโคลนตมไปจนตายล่ะมั้ง”
เห็นท่าทางอวดดีของโอวน่อหย่า เย้นหว่านก็เดือดดาลขึ้น
หล่อนทำเรื่องที่ต่ำทรามมากขนาดนั้น และตอนนี้ยังมาโอ้อวดขนาดนี้ ทั้งได้รับฐานะและผลประโยชน์ไปทั้งคู่ มีสิทธิ์อะไรกัน?
โอวน่อหย่าหัวเราะอย่างภูมิใจ “เย้นหว่าน ชาตินี้เธอคงไม่มีทางได้รับทุกอย่างที่ฉันครอบครอง ผู้ชายก็ไม่ได้ หน้าที่การงานยิ่งไม่ได้”
“พูดจาใหญ่โตมากจริงๆ”
เสียงเย็นยะเยือกของชายหนุ่มดังขึ้นมา ไม่สูงไม่ต่ำ ในสภาพแวดล้อมที่เจี๊ยวจ๊าว กลับเผด็จการจนทำให้ทุกคนได้ยินกันชัดเจนมาก
ผู้คนมองไปตามที่มาของเสียง เห็นเพียงโห้หลีเฉินที่สวมสูทสีดำล้วนเดินมาทีละก้าว ฝีเท้ามั่นคงหยิ่งยโส ลีลาโดดเด่น ชั่วพริบตาเดียวกลายเป็นการมีตัวตนที่สะดุดตามากที่สุด
“คาดไม่ถึงว่าคุณโห้จะมาแล้ว?”
“โอ้ นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นคุณโห้ที่นี่ มีพาดหัวของพรุ่งนี้แล้ว”
“ที่เขาพูดหมายความว่าอะไร? หรือว่าคุณโห้ไม่ชอบโอวน่อหย่า?”
“นี่ถือว่าเป็นข่าวใหญ่เลย รีบถ่ายไว้ๆ”
เหล่าสื่อมวลชนคึกคักกันขึ้นมาแล้ว ช่วงชิงทุกวินาทีถ่ายโห้หลีเฉินเอาไว้ เพราะพวกเขารู้ว่าโอกาสถ่ายโห้หลีเฉินมีไม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังสั้นเป็นพิเศษ ไม่นานคงจะมีคนมาไล่พวกเขา
โห้หลีเฉินเดินมาอย่างสง่างาม สายตาที่สูงศักดิ์ไม่ได้มอบให้ใครเหมือนทั้งนั้น ทำเพียงแค่จ้องมองที่ตัวของเย้นหว่านไปตรงๆ
เขาเดินมาถึงด้านข้างของเย้นหว่าน ระยะที่ใกล้มาก ราวกับเป็นท่วงท่าที่ปกป้อง
เขามองโอวน่อหย่าอย่างเย็นชา คำพูดนั้นกลับบอกไปให้ทุกคน
“เย้นหว่านเซ็นสัญญากับโห้ถิงกรุ๊ปแล้ว ช่วงนี้พวกเรามีแผนการอย่างหนึ่ง นั่นคือสร้างเย้นหว่าน ผลักดันให้เธอขึ้นเวทีใหญ่ระดับโลก”
พูดจบ ชั่วขณะหนึ่งในงานก็ปะทุขึ้นมา
หากเป็นก่อนหน้านี้พวกเขาคงคิดว่าเย้นหว่านไม่มีหวังแล้ว ต้องออกจากวงการออกแบบเป็นแน่ และไม่มีคุณค่าธุรกิจใดๆ แต่ว่าตอนนี้กลับเป็นการพลิกพลัน360องศาอย่างเฉียบขาด
แม้กระทั่งพวกเขาใช้หัวนิ้วเท้ามาคิดก็ยังรู้ โดนโห้ถิงกรุ๊ปจับเซ็นสัญญาสร้างมาแบบนี้ อีกไม่นานเท่าไร เย้นหว่านคงจะเป็นนักออกแบบที่ยิ่งใหญ่ด้วยอำนาจที่สุด แม้กระทั่งข้ามหน้าโอวน่อหย่าไป
“แชะแชะ”
เหล่าสื่อมวลชนรีบถ่ายเย้นหว่านไว้
สายตาของคนในวงการออกแบบมองเย้นหว่านค่อยๆ เปลี่ยนไป มีคนอิจฉามีคนเคารพ มีคนหวาดกลัว ทุกคนตกใจและอารมณ์ซับซ้อน
เห็นสถานการณ์พลิกพลันอย่างกะทันหัน โอวน่อหย่าหน้าซีดราวกับกระดาษ ยืนเกือบไม่ไหวโซเซไป
ทำไมเวลานี้โห้หลีเฉินถึงปรากฏตัวขึ้นช่วยเหลือเย้นหว่าน?
ทำไมเธอไม่ได้ถูกไล่ออกมาจากตระกูลโห้?
“ไม่ ฉันไม่เชื่อ”
โอวน่อหย่าส่ายหน้า ไม่พอใจอย่างที่สุด “พวกคุณหลอกลวง ทั้งที่พวกคุณไม่ควรมีความเกี่ยวข้องกันแล้ว…..คุณไม่ควรช่วยเธอ……”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบางยิ้มเยาะ สายตาที่มองโอวน่อหย่าดูเย็นชา เสียดสีเป็นพิเศษ
น้ำเสียงเขากดต่ำ มีเพียงสองคนที่สามารถได้ยิน
“โอวน่อหย่าสินะ? เธอคิดจริงๆ เหรอว่าจะมาใช้แผนการกับคนตระกูลโห้ของฉันแล้วจะไม่มีผลตามมา?” คำพูดที่เย็นยะเยือก หนาวไปถึงกระดูก
โอวน่อหย่าเสียวสันหลัง รู้สึกถึงความหวาดกลัวที่มาจากก้นบึ้งหัวใจ ขาทั้งคู่อ่อนแรงล้มไปด้านหลังเหมือนไม่สามารถควบคุมได้เลย
ซือหนานรีบก้าวไปข้างหน้า กอดหล่อนเอาไว้ ถึงทำให้หล่อนยืนนิ่งได้ ไม่ได้อับอายต่อหน้าผู้คนมากขนาดนี้
เขากอดโอวน่อหย่าไว้ หงุดหงิดอยู่บ้าง หล่อนไม่รู้จักที่ตายขนาดนี้ หาเรื่องโห้หลีเฉินปีศาจคนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เขายิ้มแล้วพูดไป “คุณโห้ หล่อนเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เห็นแก่หน้าของผมเถอะนะ คุณอย่าคิดเล็กคิดน้อยกับหล่อน……”
คำพูดของซือหนานยังไม่ทันพูดจบ มองเห็นโห้หลีเฉินหมุนตัวไปอย่างเย็นชา เพิกเฉยต่อเขาไปทันที
ราวกับมีมือล่องหนมาตบที่หน้า ทำให้ซือหนานยากจะทนได้
โห้หลีเฉินหมุนตัวมามองเย้นหว่าน ในน้ำเสียงที่อบอุ่นทุ้มต่ำมีความโปรดปรานซ่อนอยู่
“ฉันมาช้าไปแล้ว”