สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1023 เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว
“ฮ่าๆๆ กู้จื่อเฟยเธอรู้ไหม ฉันชอบสีหน้าแบบนี้ของเธอที่สุดเลย สิ้นหวังแต่ก็ยังตายไม่ได้แบบนี้”
เจียงเป้ยนีหัวเราะอย่างมีความสุข รู้สึกอิ่มเอมกับขั้นตอนการทรมานกู้จื่อเฟย
นี่คือความสุขที่เหลือในชีวิตของหล่อนเลยละ
ในหัวของกู้จื่อเฟยดังแช่งแช่ไปหมด มันคือการกรีดร้องของความสิ้นหวัง เธอมองคุณหมอที่หักหลังเธอด้วยตาแดงก่ำ พูดไม่ออกเลยสักคำ
เธออยู่ในจุดยืนที่หนาวเหน็บ ในใจยิ่งเย็นเฉียบสุดขั้ว
เธอหมดโอกาสแล้ว
กู้จื่อเฟยถูกส่งออกมาทางช่องทางเดิน VIP พาขึ้นรถโดยขนาบข้างมีสาวใช้และบอดี้การ์ด
คนนั่งตรงกันข้ามของเธอคือเจียงเป้ยนี
ประตูรถถูกล็อกไว้
รอบๆมีคนล้อมไว้หมด เฝ้าเธอไว้ รถวิ่งด้วยความเร็วไปบนถนน เธอเสียโอกาสการหนีไปอีกครั้ง
กู้จื่อเฟยเหนื่อยและท้อแท้มาก
เย้นโม่หลินอยู่ที่เมืองเดียวกับเธอแท้ๆ อยู่ใกล้แค่นิดเดียว แต่เธอไม่มีวิธีที่จะติดต่อและพบเขาได้
หรือว่าพวกเขาในชีวิตนี้มีบุญร่วมกันแค่นี้จริงๆ เพียงคลาดกันแค่นี้จริงๆเหรอ
จากนี้ไป ถ้าหากเขาตามหา เขาก็คงไปตามหาแค่ริมทะเล คงไม่คิดถึงประภาคารที่เขาเคยไปแน่
พวกเขาห่างกันนิดเดียวแค่นี้ แต่กลับกลายเป็นระยะห่างที่ไกลสุดในชีวิตนี้
กู้จื่อเฟยรู้สึกเหมือนถูกความมืดกลืนกิน เธอตกลงไปในที่ที่ไม่อาจช่วยตัวเองได้
ไม่มีกลิ่นอายของชีวิต
“กู้จื่อเฟยมันเร็วเกินไปที่เธอจะรู้สึกสิ้นหวัง ฉันยังมีเรื่องน่ายินดีรอเธออยู่”
สิ้นคำพูด สาวใช้หลีกที่นั่งให้กลับเจียงเป้ยนี เจียงเป้ยนีก็มานั่งข้างกู้จื่อเฟยทันที
รู้สึกถึงการเข้าใกล้ของเจียงเป้ยนี กู้จื่อเฟยเธอรู้สึกรังเกียจเสียเหลือเกิน
เธอถึงตาแดงๆของเธอใส่เจียงเป้ยนี “เธอเข้าใกล้ฉันขนาดนี้ไม่กลัวฉันบีบคอเธอตายเหรอ”
“เธอคงไม่มีกะจิตกะใจจะบีบคอฉันตายหรอก เพราะว่า……..”
เจียงเป้ยนีกดลงที่ปุ่มเลื่อนแว่นลด แว่นรถค่อยๆเลื่อนลง หล่อนมองไปนอกหน้าต่างรถ ในตาของหล่อนเป็นประกายหลงใหลและไม่ยอมจำนน
“ชายที่เธออาลัยอาวรณ์อยู่ที่นั่น”
กู้จื่อเฟยสะดุดใจขึ้นมาทันที
เทอมหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง
ตรงนั้นคือหาดทรายกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แดดส่องสดใส ผู้คนมากมายกำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาด มีบางคนก็ลอยน้ำเล่น
แค่มองไปก็เห็น ผู้คนมากมาย คึกคักสนุกสนาน
แต่กู้จื่อเฟยกลับมามองเห็นชายคนหนึ่งในกลุ่มคนมากมายนั้น มองแว๊บเดียวก็รู้ว่า เป็นพี่เย้น
เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ยืนอยู่บนริมทะเล รองเท้าหนังของเขาเหยียบอยู่บนทรายเปียกแฉะ คลื่นทะเลซัดเข้ามา กลืนกินรองเท้าของเขาไป ชุดของเขาก็เปียกแฉะไปหมด
แต่เขากลับเหมือนว่าไม่รับรู้มันเลย หรืออีกนัยหนึ่งก็ไม่สนใจมันสักนิด อย่างกับเป็นรูปปั้นก็มิปาน เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น จับจ้องไปที่ทะเลสีคราม
ทั้งตัวของเขา มีความเหงาที่ใครก็ไม่อาจทนรับได้กระจายออกมา
เขาทรมานมาก
ถึงว่าจะอยู่ไกลกันเพียงนี้ แต่กู้จื่อเฟยก็ยังรับรู้ได้
เขาผอมกว่าเดิมแล้ว
ผอมลงกว่าเดิมมาก ดูดวงแล้วเขาอยากจัดโครงกระดูกเดินได้
กู้จื่อเฟยดวงตาแดงก่ำขึ้นมาทันที ความรู้สึกในใจซึมซาบขึ้นมาทันที ความคิดถึงที่ไม่ได้พบกันมาหลายเดือน รู้สึกสงสารเขาที่เขาเป็นอยู่อย่างไม่มีความสุขเลย
เธอไม่รู้เลยว่าระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเย้นโม่หลินผ่านมันมายังไง แต่ความอ่อนแอของเขา ได้บอกกับเธอแล้ว
“ชายหนุ่มคนที่เคยสูงส่ง ไม่รู้จักความลำบากของโลกมนุษย์ ตอนนี้เพื่อเธอแล้ว สภาพได้รับความทรมาน กู้จื่อเฟยเธอคงจะรู้สึกสมใจมากสินะ”
เจียงเป้ยนีพูดด้วยความเย้ยหยัน ในน้ำเสียงมีความขมขื่นและเกลียดชังอย่างปิดไม่มิด
นี่คือชายหนุ่มที่ถูกใจ คนที่หล่อนเคยรัก
แต่เขากลับไม่สนใจหล่อนสักนิด ไม่เคยมีหล่อนอยู่ในสายตา แต่กลับหลงใหลกู้จื่อเฟยเพียงคนเดียว
กู้จื่อเฟยหายไปแล้ว เขาก็ตามหาอย่างบ้าคลั่ง กู้จื่อเฟยไร้ร่องรอย เขาก็ทรมานตัวเองจะมีสภาพเหมือนผีอย่างนี้
ถ้าหากว่ากู้จื่อเฟยตายแล้ว แล้วเขาจะไม่ตายตามไปเลยเหรอ
เขารักกู้จื่อเฟยอย่างลึกซึ้ง นี่แหละคือความเกลียดชังที่สุดของเจียงเป้ยนี
เพราะอะไร ความรักที่หล่อนไม่ได้รับ กู้จื่อเฟยก็อย่าหวังจะได้รับ
ถึงแม้จะคิดถึงกันหลังความตาย แบบนั้นก็ไม่ได้!
เจียงเป้ยนีจับทิศทางของกู้จื่อเฟย มือข้างหนึ่งก็จับกล้องส่องทางไกลใส่ตรงตาของเธอ
บังคับให้กู้จื่อเฟยมองไปในทิศทางที่หล่อนอยากให้มอง
“เธอดูสินั่นคืออะไร”
ในภาพปลากดกล้องส่องทางไกล เป็นตึกสูงไกลออกไป พอดีตรงกับปลายกระบอกปืนไรเฟิลดำขลับ กำลังเล็งไปในทิศชายหาด และทิศนั้นก็พอดีกับ…….
กู้จื่อเฟยเย็นเฉียบไปทั้งตัว เย็นชาไปทั่วร่าง
“เจียงเป้ยนี เธอต้องการทำอะไร? หยุดเดี๋ยวนี้นะ! เธอจะยิงเย้นโม่หลินตายได้ยังไง?!”
กู้จื่อเฟยเหมือนกับว่าบ้าไปแล้ว
เย้นโม่หลินตอนนี้ยืนอยู่คนเดียวบนชายหาด แล้วก็กำลังคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ รอบด้านไม่มีอะไรบังเลย เป็นเป้าที่มีชีวิตดีๆนี่เอง
เพียงแค่นัดเดียวจากปืนไรเฟิลนั่น เย้นโม่หลินตายแน่
กู้จื่อเฟยเย็นเฉียบไปทั้งตัว เธอรู้สึกเสียใจ เสียใจที่คิดอยากพบเย้นโม่หลิน
เธอยินยอมให้เขาอยู่เฉยๆที่บ้าน ยินดีให้เขาไม่มาที่นี่เลย
เจียงเป้ยนีหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน
“ฉันรักเขาขนาดนั้น ฉันจะฆ่าเขาหลงได้ไงเล่า คนที่ต้องการฆ่าเขาก็คือเธอไงล่ะ”
“เธอ เธอหมายความว่าอย่างไร?”
กู้จื่อเฟยหินเฉียบไปทั้งตัว ยังกับตัวเธออยู่ในถ้ำน้ำแข็ง
และเจียงเป้ยนีที่อยู่ตรงหน้าคือปีศาจ
สายตาของเจียงเป้ยนีมองไปที่เย้นโม่หลินที่หาดทรายด้วยความไม่เต็มใจ มุมปากของเธอเป็นรอยยิ้มร้ายกาจ
เธอพูดอย่างช้าๆว่า
“ฉันจะให้เธอไปพบเขาไง”
กู้จื่อเฟยสั่นไปทั้งตัว เอ็นรัดแน่น เธอมองเจียงเป้ยนีตาเป็นมัน
พบเขา?
เธอกลับรู้สึกร่างกายหนาวเย็น ไม่มีความรู้สึกรอคอยเลยสักนิด แต่กลับแทนด้วยความรู้สึกเกรงกลัวเต็มไปหมด
เจียงเป้ยนีต้องมีแผนอะไรไว้แน่
ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมา มันถึงกับต้องแลกด้วยชีวิตเย้นโม่หลิน
เจียงเป้ยนีมองปฏิกิริยาทั้งหมดของกู้จื่อเฟยด้วยความพอใจ เธอเอาดอกกุหลาบ 1 ดอกใส่ไว้กับมือกู้จื่อเฟย
พูดอย่างเชื่องช้าว่า “เอาดอกไม้นี้มอบให้เขา สารภาพรักกับเขา”
“อะไรนะ?”
กู้จื่อเฟยมองดูเจียงเป้ยนีด้วยความประหลาดใจ เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าหล่อนกำลังคิดทำอะไรอยู่
ตอนนี้กำลังจะพาเธอไปส่งถึงหน้าเย้นโม่หลินเหรอ
หล่อนไม่กลัวว่าเย้นโม่หลินจะจำเธอได้เหรอ?
“เธอว่าเขาจะจำเธอได้ไหม?”
เจียงเป้ยนีชี้ที่หน้าของกู้จื่อเฟยทำทีครุ่นคิด สีหน้าดุร้าย “สภาพเหมือนผีอย่างเธอ ไม่มีใครจำได้หรอก”
กู้จื่อเฟยสั่นไปทั้งตัว สีหน้าเธอไปทันที
ใช่แล้ว
สภาพเป็นผีอย่างเธอ ตัวเธอเองก็ยังจำตัวเองไม่ได้ แล้วเย้นโม่หลินจะจำเธอได้อย่างไร
อีกอย่างคือได้รับการทรมานเป็นเวลากว่า 2 เดือน ร่างกายผอมซูบเหลือแต่กระดูก ไม่มีวาดทรงเก่าเหลืออยู่เลย แม้แต่รูปร่างก็ยังไม่เหมือนเดิมแล้ว
ตัวเธอตอนนี้ ไม่มีอะไรที่เคยเป็นกู้จื่อเฟยหลงเหลืออยู่เลย
ถึงแม้นว่าจะยืนอยู่ต่อหน้าเย้นโม่หลินก็ตาม เขาก็คงจำเธอไม่ได้
“ใส่นี่เข้าไป”
เจียงเป้ยนีเอากล่องคอนแทคเลนส์ใส่ไว้ในมือของกู้จื่อเฟย
มันคือคอนแทคเลนส์นัยน์ตาสีฟ้าเหมือนจริง เมื่อใส่เข้าไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เหมือนชีพ ก็แยกไม่ออกว่าใส่คอนแทคเลนส์ คงคิดว่า ตาของเธอเป็นสีฟ้าจริงๆ
กู้จื่อเฟยมองมาที่คอนแทคเลนส์ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็นๆออกมา
เจียงเป้ยนีเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วเสียจริง
แม้แต่ตาหนึ่งคู่ของเธอก็ไม่ปล่อยผ่าน