สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1025 หน้าของเธอ
เมื่อสายตาของเขาไม่มีเธออยู่แล้ว กู้จื่อเฟยรู้สึกว่าดวงใจของเธอเหมือนกับตกลงมาจากก้อนเมฆสูงชัน เขียนผิดตาเดียวมันตกลงไปถึงก้นบึ้งที่ลึกที่สุด
ทั้งเจ็บปวดและแตกสลาย
เธอเหมือนกับโดนฟ้าผ่ายืนแข็งทื่อตรงหน้าของเขา เขาจำเธอไม่ได้ แล้วเธอยังจะโอบกอดความโชคดีแบบไหนอยู่ล่ะ
เธอมีสภาพเป็นผีแบบนี้ เปลี่ยนเป็นใครจะจำได้?
ความรู้สึกเศร้าสร้อยถาโถมเต็มไปหมด กู้จื่อเฟยมองเย้นโม่หลินตาเป็นระยิบ
เธอกำดอกไม้ในมือแน่นอย่างกับจะทำให้ก้านดอกไม้ขาด ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็บังคับตัวเองให้ยื่นดอกไม้ส่งไปให้เขา
“คุณคะ ฉันชอบคุณตั้งแต่แรกพบ ฉันอยากคบกับคุณจริงๆนะ คุณตอบรับการสารภาพรักของฉันได้ไหม เป็นแฟนฉันนะ?”
เย้นโม่หลินมีแต่มองก็ไม่มองเธอ
กู้จื่อเฟยคิดว่าเขาเห็นชาและเงียบไม่สนใจ
คิดไม่ถึงว่าเย้นโม่หลินที่มองไปที่ทะเลสีครามจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
“ผมมีแฟนแล้ว เธอดีมาก น่ารักมาก ในอนาคตจะเป็นภรรยาของผม”
กู้จื่อเฟยยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น ดวงใจของเธอเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นจนบิดเบี้ยว มันทั้งรู้สึกหอมหวานและข่มขืนเจ็บปวดพร้อมกัน
เขาจะรู้ไหม ว่าแฟนสาวที่ทั้งดีทั้งน่ารักของเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อกี้โดนเขาปฏิเสธมาแล้วล่ะ
เธอซื้อน้ำมูกในจมูก ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
แต่รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันใด
นี่แหละคือเย้นโม่หลินของเธอ เขามีแววตาที่สูงกว่าใคร อะไรมาคนทั่วไปไม่อยู่ในสายตาของเขา ถึงจะเป็นคนที่ไปอยู่บ้านเขาอยู่หลายเดือน เอาหน้ามาให้เห็นไม่มีขีดจำกัดอย่างเจียงเป้ยนีก็เถอะ เขาก็ยังไม่รู้ว่าหล่อนเป็นใคร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันครั้งแรก
สันนิษฐานว่า เย้นโม่หลินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอแต่งตัวยังไง ใส่อะไรอยู่
ที่ตอบกับการสารภาพรักของเธอ ก็คงเป็นเพราะ อยากจะอวดที่เขามีแฟนสาวที่ทั้งดีและน่ารัก
ในหูฟังของเธอมีเสียงของเจียงเป้ยนีดังขึ้นอีกครั้ง
เธอกัดฟันพูดด้วยความรังเกียจและบ้าคลั่งว่า “เอาผ้าปิดปากออกสิ ถามเขาว่าเพราะว่าเธอน่ารังเกียจใช่ไหม ถึงไม่รับรักเธอ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นกู้จื่อเฟย ถึ่งตากลม มองไปในทิศที่จอดรถอย่างปวดหัว
เจียงเป้ยนีจงใช้เหยียบย่ำเกียรติศักดิ์ศรีของเธอ!
เย้นโม่หลินไม่ได้เป็นเพราะหน้าตาของเธอจึงปฏิเสธเธอ ในสายตาของเขาแล้วไม่มีคนแปลกหน้าอยู่ต่างหาก แต่เจียงเป้ยนีอยากจะให้เธอเอาผ้าปิดหน้าออก เพื่อให้ปรากฏความน่ารังเกียจแก่ผู้คนที่อยู่ตรงนี้
ให้เย้นโม่หลินเห็นเธอ สภาพที่น่ารังเกียจที่สุดของเธอ
กู้จื่อเฟยกำมือแน่น เธอทั้งโกรธทั้งปวดสมองทั้งโมโห แล้วก็ยังมีความรู้สึกถูกเหยียดหยามนั้นอยู่ท่วมท้น
เจียงเป้ยนีก็ยังเร่งมาด้วยความเกลียดชัง
“เธอยังมีเวลา 3 นาที มือปืนจะลงมือเมื่อถึงเวลา”
กู้จื่อเฟยหน้าถอดสีไปทันที เธอไม่มีแรงจะดิ้นรนขัดขืนอีกแม้แต่นิด
จุดอ่อนของเธอ เจียงเป้ยนีรู้ดีว่าคืออะไร
ถึงแม้ว่าเธอจะยืนอยู่ตรงหน้าเย้นโม่หลิน แต่เธอไม่สามารถโอบกอดเขาได้ บอกกับเขา ขอร้องให้เขาช่วย
เธอทำได้เพียงเป็นหุ่นกระบอกเชิด ให้ทำเรื่องที่ทำให้เขาจำเธอไม่ได้
เหนื่อยใจขื่นขมระทมเป็นทะเลกว้าง กู้จื่อเฟยก็ยังบังคับตัวเองไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอพูดอย่างเธอว่า “คุณปฏิเสธฉัน เพราะว่าฉันน่าเกลียดใช่ไหม?”
เย้นโม่หลินไม่สะทกสะท้าน
เขามองข้ามคนด้านหน้าไปอย่างไม่เหลือแม้เงา อย่างกับเขาไม่ได้ยินอะไรที่เธอพูดสักอย่าง
กู้จื่อเฟยมองท่าทีของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี
เขาปฏิบัติกับคนรอบข้างแบบนี้เสมอ ฉะนั้น เจียงเป้ยนีที่พยายามทำลายกำแพงเข้ามาอยู่หลายปี แต่เธอกลับได้รับความเอาใจใส่จากพี่เย้นเป็นพิเศษมาตลอด
แต่ว่า ต่อไปนี้คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว
เสียงกัดฟันพูดของเจียงเป้ยนีดังขึ้น “เธอยังมีเวลา 2 นาทีครึ่ง รีบให้เขาดูหน้าของเธอ มิเช่นนั้นฉันจะให้เขาตาย”
กู้จื่อเฟยกัดฟัน
สภาพแบบนี้ ถึงแม้นว่าเธอจะเอาผ้าปิดปากออกอยู่ต่อหน้าเย้นโม่หลิน เย้นโม่หลินก็ไม่แม้แต่ชายตามอง
ต้องทำให้เขามอง เธอต้องทำเช่นไร?
เรื่องที่ต้องให้คนอื่นมาเหยียบย่ำแบบนี้ กู้จื่อเฟยต้องบังคับตัวเองทำให้ได้
เธอเกลียดเจียงเป้ยนีสุดขั้ว
“คุณมองฉันทีเถอะ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้”
น้ำเสียงของกู้จื่อเฟยต่ำมากๆ ยังกับกำลังกดความรู้สึกที่กำลังจะพังทลายลง
มือแข็งชื่อของเธอจะไปที่ผ้าปิดปาก ค่อยๆปลดมันออกมา
คนที่คอยดูอยู่รอบข้าง ก็มีบางคนที่ถึงกับเปล่งเสียงตกใจออกมา
ตามมาด้วยวิจารณ์ต่างๆนานา
“โอ้โห เธอน่าเกลียดจัง ทำไมถึงได้น่าเกลียดอย่างนั้น ทำไมหน้าพังอย่างนั้น”
“ฉันก็คิดว่าเป็นอย่างสาวที่งดงามมาก ถึงได้กล้าหาญไปสารภาพรักกับชายหนุ่มเย็นชานั่น คนกล้าหาญ ก็สามารถเป็นหญิงสาวสุดน่าเกลียดได้”
“ขอโทษด้วยทนไม่ไหวจริง หน้าเธอช่างน่าเกลียดมาก ถ้าฉันยังดูต่อไปฉันต้องอาเจียนออกมาแน่”
หาไปไม่ไกลจากตรงนั้น มีเสียงอาเจียนแบบเวอร์วังกว่าปกติขึ้นมา
มีบางคนก็ทนดูใบหน้าแบบนั้นให้ปวดตาไม่ได้ หลายคนทยอยกันหันหลังจากไป
คนที่อยู่ต่อก็เหมือนกับลิงที่อยากดูละครดราม่า ก็จะรู้ว่ากู้จื่อเฟยเหยียบย่ำเกลียดศักดิ์ศรีของตัวเองอย่างไร
กู้จื่อเฟยกำหมัดแน่น เล็บข่มขืนที่มันลงไปในเนื้อในอุ้งมือ
ร่างกายของเธอเคร่งเครียดไปหมด อย่างกับเธอกำลังเดินอยู่บนริมหน้าผา ที่สามารถตกลงไปได้ทุกเมื่อ
เมื่อก่อนเธอเคยสวยแบบที่คนมองให้ความสนใจขนาดไหน ตอนนี้ก็รู้สึกอับอายและพังทลายขนาดนั้น
น้ำตาของเธอไม่อยู่ในการควบคุมอีกต่อไปมันเปียกชุ่มในหน่วยตาของเธอ เธอมองผ่านน้ำตาไป น้ำเสียติดขัดสะอึก
“คุณก็คิดว่าหน้าตาฉันน่าเกลียดใช่ไหม?”
เย้นโม่หลินยังคงมองที่ทะเล สายตาของเขาไปสุดลูกหูลูกตา ยังกลับมาเขาอยู่ในโลกของตัวเองตั้งนานแล้ว ไม่มีใครเข้าไปในนั้นได้
สิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างไม่มีความสัมพันธ์กับเขาทั้งนั้น
กู้จื่อเฟยรู้สึกอึดอัดอยากจะหันหลังและวิ่งหนีไป
สายตาของคนรอบข้างที่มองมา มันทำให้เธอเหมือนตัวตลก ไม่มีที่ให้ยืนอยู่
ในหูฟังของเธอกลับมีเสียงหัวเราะอย่างสะใจของเจียงเป้ยนีดังขึ้น
“กู้จื่อเฟยเธอยังมีเวลา 1 นาที”
เวลา 1 นาที ถ้าหากว่าไม่สำเร็จภารกิจที่เจียงเป้ยนีมอบหมาย มีปืนจะลงมือแล้ว
ร่างกายของกู้จื่อเฟยเย็นเฉียบอย่างหนัก เธอไม่มีทางหันหลังกลับ แม้แต่สิทธิ์ในการร้องไห้ก็ยังไม่มี
เธอกัดฟันแน่น ใช้เวลาครุ่นคิดไปไม่กี่วินาที ทันใดนั้นกู้จื่อเฟยก็ยื่นมือมา
เย้นโม่หลินตกใจทันที
ทีแรกเขาจะสะบัดเธอออก แต่ตอนที่กำลังจะออกแรง จิตสำนึกของเขากับแข็งค้าง
สัมผัสที่จับมือของเขาอยู่ เขาไม่รังเกียจมันสักนิด แต่กลับรู้สึกถึงความคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกแปลกใจเป็นที่สุด มองไปที่กู้จื่อเฟยอย่างตกตะลึง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยมีด น่ากลัวน่าสยองไม่มีพื้นที่ดีเหลืออยู่เลย ภาพมันตำเข้ามาในสายตาของเขาอย่างจัง
ไม่มีหน้าเดิมเหลืออยู่
นี่คือการพรรณนาสภาพเธอในตอนนี้
แต่เขาในตอนนั้นเองกลับรู้สึกเจ็บปวดเหมือนว่ามีเข็มทิ่มลงบนดวงใจของเขา
มือของเขาจับมือของเธอแน่นยางอัตโนมัติ ตาเป็นประกายขยับเข้าใกล้เธอ
“หน้าเธอ….”
มีอีกข้างของเขาค่อยๆยกขึ้น มีของเขาสวยเรียวข้อมือชัดเจนกำลังขยับเบาๆขยับเข้าใกล้หน้าของกู้จื่อเฟย
ในแววตาของเขาไม่มีความรังเกียจอยู่แม้แต่นิด
ถึงกับว่านอกจากความตกใจแล้วเธอเห็นความห่วงใยอยู่ในนั้น
กู้จื่อเฟยแข็งไปทั้งตัว เธอมองไปที่เย้นโม่หลินความรู้สึกรุนแรงเดือดพล่านอยู่ในจิตใจ
เธอก็ไม่รู้เธอกำลังรอคอยอะไรอยู่ แต่ว่ารู้สึกว่าจะเต็มไปด้วยความหวัง