สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1052 ล้วนแต่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เหรอ
ร่างกายของกู้จื่อเฟยดีขึ้นมากแล้ว
เธอกระทั่งค่อยๆ เริ่มมีความอยากอาหาร ผ่านไปไม่นาน เธอก็แทบจะฟื้นฟูกลับเป็นคนปกติแล้ว
กู้จื่อเฟยอารมณ์ดี วันทั้งวันอยู่ภายในห้องบำบัด ก็มีรอยยิ้มอยู่ตลอด
การรักษาด้านจิตใจ ก็เกือบจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
กู้จื่อเฟยยิ้มแล้วเอ่ยถาม “เจิ้งเหลียง อีกกี่วันฉันถึงจะกลับมาแข็งแรงโดยสมบูรณ์? ฉันรู้สึกเหมือนฉันเกือบจะหายดีแล้ว”
“ยิ่งเป็นช่วงนี้ ยิ่งผ่อนคลายไม่ได้ จำเป็นต้องครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย เธอยังคงต้องมาทุกวัน”
“อ๋า? ครึ่งเดือน? นานขนาดนั้นเชียว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้จื่อเฟยทรุดลงไปทันที “ฉันนึกว่ากำหนดเพิ่มอีกหนึ่งสัปดาห์ ฉันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”
ครึ่งเดือน ยาวนานจริงๆ
เจิ้งเหลียงพูดอย่างเคร่งขรึม “จำเป็นต้องรักษาต่ออีกครึ่งเดือน ให้อาการของเธอมั่นคง ไม่งั้นจะเป็นซ้ำได้ง่าย”
เห็นเจิ้งเหลียงจริงจังแบบนี้ แล้วยังวางมาดความเป็นหมอ กู้จื่อเฟยก็รีบโบกมือ ยอมรับคำแนะนำ
“ก็ได้ก็ได้ ตามที่นายว่าแหละ ครึ่งเดือนก็ครึ่งเดือน”
เธอก็ไม่อยากที่จะทำซ้ำอีกครั้ง โรคเบื่ออาหารแบบนี้ มันเจ็บปวดเกินไป แทบจะร้องขอชีวิต
อีกอย่าง กู้จื่อเฟยลูบใบหน้าที่เว้าโหว่ของตัวเอง
เธอจะต้องฟื้นคืนสู่ระดับราชันย์ท้องโต จากนั้นก็รีบกินอาหาร รีบอ้วนให้ถึง50กิโลกรัมถึงจะโอเค
ความสวยราวกับดอกไม้ยังรอเธออยู่นะ!
เป็นการรักษาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ช่วงเวลาพัก กู้จื่อเฟยก็ไปเข้าห้องน้ำ
ห้องบำบัดของเธออยู่ในตำแหน่งด้านในสุดและซ่อนเร้นที่สุด แต่ห้องน้ำสาธารณะที่ใกล้ที่สุด จะต้องเดินออกไปข้างนอกเล็กน้อย
เธอเดินออกมาเหมือนปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือ เหล่าคนที่พบระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นคนไข้หรือพยาบาล แต่ก็จับจ้องมาที่เธอเหมือนไม่ได้ตั้งใจแต่ตั้งใจ
ก่อนหน้านี้เธอก็สวมหมวกแก๊ปกับหน้ากากมาตลอด คนพวกนั้นก็ไม่ได้จ้องมองเธอเป็นพิเศษ
ทำไมตอนนี้กลับเหมือนมองดูลิงเลย?
เพราะอะไร?
กู้จื่อเฟยสงสัย แต่ก็ไม่มีคนรู้จัก จึงยากที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จึงช่างมัน กลับไปที่ห้องบำบัดอีกครั้ง
ตรงจุดที่เธอมองไม่เห็น พยาบาลหลายคนรวมตัวกันทันที มองไปที่เธอ ซุบซิบนินทาอะไรบางอย่าง
แล้วการรักษาของวันนี้ก็สิ้นสุดลง
กู้จื่อเฟยเดินออกมาจากห้องบำบัด ระหว่างทาง ล้วนแต่ถูกคนมองแล้วมองอีกอย่างลึกลับ
มีบางคน กระทั่งแสดงถึงสายตารังเกียจ ราวกับว่าเธอเป็นขยะ
กู้จื่อเฟยก็ไม่ได้ใส่ใจความคิดเห็นของคนด้านข้าง แต่คนเหล่านี้จ้องมองเหมือนเธอเป็นลิงอย่างอธิบายไม่ได้ มันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
เธอค่อยๆ เร่งฝีเท้า เดินออกจากห้องโถง
พริบตาเดียวเธอก็มองเห็นเย้นโม่หลินที่ยืนรอเธออยู่ใต้บันได หัวใจที่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ก็มีดอกไม้ผลิบานทันที
พี่เย้นของเธอ ทุกครั้งที่มองมักจะทำให้มีความสุข
“พี่เย้น”
กู้จื่อเฟยวิ่งไปตรงหน้าเขาอย่างมีความสุข ใช้ประโยชน์จากความสูงของการยืนบนขั้นบันได แขนทั้งคู่โอบรอบคอเขา ประกบปากจุ๊บที่แก้มเขาหนึ่งที
ทะลุผ่านหน้ากาก
เย้นโม่หลินกลับถูกจูบนี้ ทำให้ใบหูแดง
เขามีความไม่เป็นตัวเองเล็กน้อย แต่ก็ถือโอกาสโอบเอวเธอ พยุงให้เธอยืนอย่างมั่นคง “การนวดเป็นยังไงบ้าง?”
“สบายมาเลย”
กู้จื่อเฟยยิ้มจนตาโค้ง
เย้นโม่หลินเองก็อารมณ์ดี โอบเธอเตรียมจะไป
ในสายตาของทั้งสองมีเพียงกันและกัน ไม่สนใจฝูงชนรอบข้างที่จ้องมองมาที่พวกเขา แล้วยังชี้มือชี้ไม้ไม่หยุด
ไม่ว่าพวกเขาจะซุบซิบนินทา หรือโวยวายเสียงดัง ก็ดูเหมือนไม่เพียงพอที่จะทำให้สองคนนี้สนใจ
“รอเดี๋ยวก่อน”
ในขณะนี้ โจ๋ลี่ก็วิ่งออกมาจากจุดที่ไม่สะดุดตา
เธอวิ่งมาตรงหน้าอย่างรีบร้อน ปิดบังทางเดินของเย้นโม่หลินกับกู้จื่อเฟยไว้
กู้จื่อเฟยมองเธอด้วยความสงสัย “คุณโจ๋ มีอะไรเหรอ?”
แม้ว่าโจ๋ลี่จะเป็นพยาบาลที่ดูแลเธอ แต่หลายวันมานี้ โจ๋ลี่ก็เพียงแค่ทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้น หยิบยาเปลี่ยนอุปกรณ์ ไม่ได้ติดต่อกับกู้จื่อเฟยมากมายนัก
บทสนทนาระหว่างทั้งสองก็น้อย ดังนั้น กู้จื่อเฟยจึงยังคงเรียกขานเธออย่างสุภาพ
โจ๋ลี่เดินผ่านกู้จื่อเฟยไปโดยตรง มองไปที่เย้นโม่หลิน
ยกเสียงสูง พูดขึ้นอย่างเป็นธรรม
“คุณเย้น ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ถึงเรื่องที่กู้จื่อเฟยทำหมดแล้ว ฉันไม่อยากให้คุณถูกขังอยู่ในความมืด เรื่องนี้ฉันไม่บอกคุณไม่ได้”
เรื่องที่กู้จื่อเฟยทำ?
คิ้วของเย้นโม่หลินขยับเล็กน้อย แล้วถึงกวาดตามองไปที่ฝูงคน
พวกเขาดูเหมือนจะสนใจมากขึ้น ล้อมเข้ามาตามๆ กัน รอชมการแสดง
สีหน้าของเย้นโม่หลินมืดมนลง แววตาเยือกเย็นมองไปที่โจ๋ลี่
สายตานั้น แหลมคมราวกับใบมีด
โจ๋ลี่ถูกมองจนใจฝ่อ ขาอ่อนแรงตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อเห็นผู้คนที่มองดูอยู่รอบๆ รวมถึงหลักถึงของเธอ เธอก็มั่นใจขึ้นมา
มองหาเวลานี้เป็นพิเศษเพื่อจะพูดที่นี่ ใจต้องการเปิดเผยใบหน้าที่หน้าเกลียดของกู้จื่อเฟยต่อหน้าสาธารณะ
เธอชี้ไปที่กู้จื่อเฟย พูดเสียงดัง
“คุณยังไม่รู้หรอก กู้จื่อเฟยมาที่นี่ที่จริงแล้วไม่ได้ไปนวด แต่มาหาหมอเจิ้งเหลียงของพวกเรา ในนามบอกว่ามารักษาอาการเบื่ออาหาร อันที่จริงกลับอยู่ในห้องเพียงลำพัง กับเจิ้งเหลียงสองคน ทำเรื่องที่น่าละอาย”
“เรื่องนี้ คนในโรงพยาบาลต่างรู้กันหมดแล้ว และเป็นพยานได้”
“ที่ฉันก็มีหลักฐานอยู่ด้วย คุณเย้นคุณดู”
ขณะที่พูด โจ๋ลี่ก็แทบรอไม่ไหวที่จะส่งรูปปึกหนึ่งในกระเป๋าให้เย้นโม่หลิน
รูปใบที่อยู่บนสุด คือรูปของกู้จื่อเฟย
เมื่อเห็นเธอ แววตาของเย้นโม่หลินก็หรี่ลง แล้วยื่นมือไปรับรูปมา
รูปภาพมีเยอะมาก ทุกรูป ล้วนแต่เป็นรูปที่กู้จื่อเฟยอยู่กับเจิ้งเหลียงตามลำพัง
อีกอย่างรูปภาพพวกนี้ แต่ล่ะรูปดูแล้ว กู้จื่อเฟยกับเจิ้งเหลียงดูรักใคร่กันมาก ตอนยิ้มดูแล้วเหมือนคู่รัก ตอนที่เข้าใกล้กันก็เหมือนจูบ กอด
แม้กระทั่ง ยังมีรูปที่กู้จื่อเฟยหลั่งน้ำตาอยู่ในอ้อมแขนของเจิ้งเหลียง
รูปภาพทั้งหมด มองดูแวบแรก ต่างก็ไม่มีใครสงสัย ว่าพวกเราไม่ใช่คู่รัก
เย้นโม่หลินยิ่งดูรูปภาพพวกนี้ สีหน้าก็ยิ่งมืดมน ทั่วร่างแผ่ความเป็นศัตรูที่อันตราย
นิ้วที่มีข้อต่อชัดเจน บีบขอบรูปภาพจนเปลี่ยนรูปร่าง
กู้จื่อเฟยยืนอยู่ด้านข้าง มองดูรูปภาพเหล่านั้น
เธอเปิดปากเล็กน้อย ตกใจจนพูดไม่ออก
รูปเหล่านี้ถ่ายตอนที่เธออยู่กับเจิ้งเหลียงจริงๆ แล้วยังหามุมได้เจ้าเล่ห์ ทุกรูปดูแล้วมีความกระหนุงกระหนิง
แต่นอกจากการกอดครั้งแรกของเธอกับเจิ้งเหลียงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้ว ก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรมีดูความรักปะปนอีกเลยนะ?
คนที่ถ่ายรูป มีเจตนาไม่ดีแน่นอน
กู้จื่อเฟยกัดฟันอย่างหัวเสีย จ้องไปที่โจ๋ลี่แล้วเอ่ยถาม “รูปภาพพวกนี้เธอไปแอบถ่ายมา?”
ใบหน้าโจ๋ลี่เผยความใจฝ่อ
จากนั้น ก็ยืดอกยกหน้าพูดขึ้น “ไม่ว่าใครจะถ่าย รูปภาพพวกนี้ก็เป็นของจริงทั้งนั้น เนื้อหาข้างในก็เป็นเรื่องจริงหมดไม่ใช่เหรอ?
“คนในโรงพยาบาล ทุกคนต่างรู้หมดแล้ว ความรักคลุมเครือของเธอกับเจิ้งเหลียง อ้างการรักษาอย่างไม่ปิดบัง เธอมันจับปลาสองมือ สวมเขาให้คุณเย้น!”