สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1054 เธออ้วนที่สุด
สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดคือเขาจะเห็นขั้นตอนการบำบัดของเธอ รับรู้ถึงความมืดมิดทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในใจเธอ ความทรมานไร้มนุษยธรรมที่เธอได้รับตอนอยู่ที่ประภาคาร
นั่นคือ ความทรมานจนอยากจะฆ่าตัวตายที่แม้แต่เธอยังทนรับไม่ได้
เธอไม่อยากให้เขาปวดใจไปด้วย
แม้ว่าเขาจะจัดแจงเจิ้งเหลียง รู้ทุกอย่างลับๆ แต่กลับหลีกเลี่ยงเรื่องที่เธอกังวล ไม่ไปตรวจสอบความมืดมนและหวาดกลัวในจิตใจเธอ
แม้ว่า เขาอาจจะอยากรู้มาก
แต่ว่าเขาคือเย้นโม่หลิน เป็นคนที่เคารพ และเป็นห่วงมุมมองและความคิดของเธอเสมอ
เย้นโม่หลินกอดกู้จื่อเฟยแน่น พูดเสียงเบา “เธอไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรฉัน”
เธออยู่ข้างกายเขา ก็เป็นความพึงพอใจที่สุดของเขาแล้ว
กู้จื่อเฟยตาแดงก่ำ สะอื้นแล้วพูดอย่างหนักแน่น “ฉันต้องตอบแทนนายให้ได้”
เธอครุ่นคิด น้ำเสียงอู้อี้ในจมูก พูดอย่างเคร่งขรึม
“เพื่อเป็นการตอบแทน ฉันมีเสี่ยวโม้น้อยให้นายคนหนึ่งแล้วกัน! นายอยากได้เด็กผู้ชาย หรือว่าเด็กผู้หญิง?”
เย้นโม่หลินตกตะลึงตาค้างทันที
คำถามนี้ ทำไมจู่ๆ ถึงมาหยุดที่คำถามนี้ได้ล่ะ?
การโพล่งขึ้นมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาไม่รู้จะพูดยังไงดีโดยสมบูรณ์
ผู้ชายหรือผู้หญิง?
คำถามเคร่งเครียดแบบนี้ ต้องครุ่นคิดให้ดีนะ
แต่พอคิดดูแล้ว เขาก็ชอบหมดเลย……
กู้จื่อเฟยมองดูเขาขมวดคิ้วไม่มีการตอบสนอง ใบหน้าเล็กๆ ที่เปื้อนน้ำตาเต็มหน้า ก็ทรุดลงทันที
พูดอย่างน้อยใจ “นายไม่อยากได้เหรอ?”
“ฉันอยากได้หมดเลย ผู้ชายผู้หญิงเอาทั้งหมด”
เย้นโม่หลินพูดโพล่งออกมา
พูดจบ เขาก็รู้สึกเก้อเขิน ยังไม่ทันแต่งงาน ก็พูดคุยกันเรื่องนี้ เหมือนไม่ค่อยให้เกียรติกู้จื่อเฟยหรือเปล่า?
แต่คนที่ต้องถูกให้เกียรติ กลับยิ้มอย่างมีความสุขทันที “งั้นนายต้องพยายามหน่อย พวกเราจะมีลูกแฝดชายหญิง!”
เย้นโม่หลิน “……” อะไรคือ เขาต้องพยายามหน่อย? ใบหู แดงขึ้นอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ
แต่เย้นโม่หลินท้ายที่สุดก็ พยักหน้านิ่งๆ
สิ่งที่ผู้คนรอบด้านมองคือความอิจฉาริษยาเกลียดชัง
โดยเฉพาะผู้หญิง อดไม่ได้ที่จะโมโห
“คุณเย้นรักใคร่เธอมากเลยอ่ะ ฉันก็อยากได้แฟนหนุ่มแบบนี้”
“ฉันอยากเปลี่ยนแฟนแล้ว……”
“คุณเย้นยังมีน้องชายไหม พี่ชายก็ได้ กรุณาแนะนำให้ด้วย”
……
ตั้งแต่ที่เจิ้งเหลียงปรากฏตัว โจ๋ลี่ก็กลายเป็นคนโง่แล้ว
เธอทุ่มเทแรงใจเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของกู้จื่อเฟยในวันนี้ อยากให้กู้จื่อเฟยถูกเย้นโม่หลินทิ้ง แต่กลับไม่คาดคิดมาก่อน ว่าความจริงจะเป็นเช่นนี้
แม้แต่เจิ้งเหลียง ก็เป็นเย้นโม่หลินดำเนินการอย่างเงียบๆ
คู่รักมีน้ำใจต่อกัน รักใคร่กันถึงขีดสุด แต่เธอกลับทำเรื่องแบบนี้ ช่างเหมือนตัวตลกที่ทำให้ตัวเองขายขี้หน้าจริงๆ
โจ๋ลี่สุดทนจนแทบไม่มีหน้าไปเจอคนอื่น
ยิ่งมองเห็นความรักใคร่หวานชื่นของกู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลิน เธอก็ยิ่งไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ความโลภและทะเยอทะยานทั้งหมดภายในใจ ล้วนกลายเป็นฟองในความฝัน แตกกระจายไปหมด
เธอไม่กล้ามองต่อ อยากที่จะจากไปเงียบๆ
ในตอนนี้ ร่างที่สูงใหญ่ของเจิ้งเหลียง กลับขวางอยู่ตรงหน้าเธอ
เจิ้งเหลียงมองไปที่เธอดูสีหน้าเคร่งขรึม ไม่มีท่าทีอ่อนโยนราวกับหยกแม้แต่น้อย
“โจ๋ลี่ ภาพถ่ายนี่เธอแอบถ่าย และเผยแพร่ออกไปอย่างลับๆ ใช่ไหม?”
โจ๋ลี่หน้าซีดเผือด แววตาตื่นตระหนก
เธอพูดโต้แย้ง “ไม่ ไม่ใช่ฉัน ฉันเพียงแค่เห็นรูปพวกนั้น ก็เลยเข้าใจผิด”
“มาถึงตอนนี้แล้ว ยังจะโกหกอีก”
เจิ้งเหลียงด่าทอเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ หยิบกระดาษแผ่นหนึ่ง ออกมาจากกระเป๋าเสื้อขนาดใหญ่ โยนไปบนหน้าของโจ๋ลี่
“วันนี้ได้ยินข่าวลือ ฉันเลยไปตรวจสอบมาแล้ว เรื่องพวกนี้ เธอเป็นคนทำทั้งหมด”
บนกระดาษ เป็นภาพถ่ายขาวดำที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ เป็นภาพที่กล้องวงจรปิดถ่ายไว้ตอนที่เธอแอบเอารูปภาพไปวางไว้ที่สถานีพยาบาล
ด้านล่าง ยังมี บันทึกIDของเธอที่ส่งรูปถ่ายออกไป
หลักฐานการก่อเหตุ
โจ๋ลี่มองกระดาษแผ่นนี้ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ทันที ทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยใบหน้าขาวซีด
รอบด้าน ผู้คนต่างมองเธอด้วยสายตารังเกียจ
“ที่แท้เธอก็เป็นคนทำนี่เอง มิน่าจู่ๆ ฉันก็ได้เห็นรูปถ่ายพวกนั้น”
“ใช่แล้ว มือถือฉันจู่ๆ ก็ได้รับรูปถ่ายพวกนั้น ถึงได้เข้าใจผิดคุณกู้กับหมอเจิ้งเหลียง”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกุเรื่อง คนเดินไปเดินมาในโรงพยาบาลมากมายขนาดนั้น ใครจะไปสนใจว่าห้องตรงมุมนั้นเป็นใครมารับการรักษา”
ผู้คนพูดคุย เรื่องราวทั้งหมดก็ชัดเจนโดยสมบูรณ์
โจ๋ลี่ฟังคำพูดเหล่านั้น ก็ฝังศีรษะไว้ในขาอย่างสุดทน เงยหน้าไม่ขึ้นเลยสักนิด
เธอไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นแบบนี้
แล้วชื่อเสียงของเธอ เกรงว่าจะพังทลายไปหมดแล้ว
หลังจากนี้พวกเขาจะมองเธอยังไง?
ไม่กล้าแม้แต่จะคิด
“โจ๋ลี่ การกระทำนี้ของเธอมันผิด ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยรั่วไหล เสื่อมเสียศีลธรรม ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ตั้งแต่นี้ไป ยกเลิกใบอนุญาตพยาบาลของเธอ ออกจากโรงพยาบาลไปทันที ไม่ได้เข้ารับตำแหน่งตลอดไป”
“อะ อะไรนะ?”
โจ๋ลี่เงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ ราวกับถูกฟ้าผ่า
ถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล?
แล้วยังถูกถอนใบอนุญาตพยาบาลของเธอ?
เมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว เธอสูญเสียอาชีพโดยสมบูรณ์
“หมอเจิ้งเหลียง ฉันเพียงแค่เข้าใจผิด ทำผิดไปครั้งหนึ่ง นายจะจัดการกับฉันรุนแรงแบบนี้ไม่ได้นะ! ฉันยอมรับโทษของโรงพยาบาล ลดเงินเดือนลดขั้นก็ได้ แต่ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกเลย”
เจิ้งเหลียงมองไปที่เธออย่างเย็นชา รู้สึกเศร้าแทนเธอ
ผู้หญิงโง่คนนี้ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าตัวเองกำลังยั่วยุใครอยู่
สำหรับเธอ การไล่ออกนับว่าเป็นโทษที่เบาที่สุดแล้ว
ถ้าให้เย้นโม่หลินลงมือเอง เธอจะยังมีชีวิตอยู่เหรอ?
เจิ้งเหลียงไม่พูดเยอะ กวักมือเรียก “รปภ. ลากเธอออกไป หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้เข้าโรงพยาบาลอีก”
“เจิ้งเหลียง นายทำแบบนี้ไม่ได้ อ้ะ พวกนายปล่อยฉัน อย่าดึงฉัน ปล่อยนะ ปล่อยฉัน……”
โจ๋ลี่ดิ้นรนต่อสู้อย่างตื่นตูม แต่ก็ยังถูกรปภ.ลากไปด้านนอกอย่างหยาบคาย ท่ามกลางสายตาของผู้คน
ไร้รูปร่าง
กู้จื่อเฟยมองดูโจ๋ลี่ถูกลากไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนยุ่งไม่เข้าเรื่อง แล้วยังมีเจตนาร้าย ก็ไม่ตกลงมาถึงจุดนี้ แล้วยังสามารถได้รับเงินจำนวนมาก จากการช่วยเธอรักษาโรคเบื่ออาหาร
โทษที่ตัวเองทำไว้ ยังไงก็หนีไม่พ้น
หลังจากเรื่องนี้ กู้จื่อเฟยกับเย้นโม่หลินก็ออกจากโรงพยาบาลไปด้วยกัน
กลับมาที่โรงแรม กู้จื่อเฟยรู้สึกเหมือนกำลังฝันนี่ไม่ใช่ความจริง เรื่องที่เธอพยายามปกปิด เย้นโม่หลินกลับรู้มาตั้งนานแล้ว
แล้วหินก้อนใหญ่ในใจเธอก็ร่วงลงตามมา
ความรู้สึกที่ไม่ต้องปิดบัง เผชิญหน้ากับเขาได้อย่างสบายใจ มันดีมากจริงๆ
กู้จื่อเฟยเดินเข้าไปในห้องโถง เห็นว่าไม่มีคน จึงออกตัวกอดคอของเย้นโม่หลิน ยิ้มฮิฮิโผล่มาตรงหน้าเขา
“พี่เย้น อาการเบื่ออาหารของฉันใกล้จะหายแล้ว อีกไม่นนานก็จะอ้วนขึ้นมาแล้ว”
เป็นครั้งแรก ที่เธอออกตัวบอกอาการของตนกับเขาอย่างเป็นทางการ
เย้นโม่หลินพยักหน้า “อื้ม ฉันรู้”
“วันนี้เกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนั้นที่โรงพยาบาล หลังจากนี้ฉันไปที่นั่นก็ไม่ค่อยสะดวกแล้ว ถึงยังไงฉันก็เกือบจะหายดีแล้ว ฉันไม่ไปแล้วละกันเนอะ?”
กู้จื่อเฟยพูดหยั่งเชิง กลัวว่าเย้นโม่หลินจะปฏิเสธทันที จึงพูดเสริมขึ้นอีกประโยค
“หรือว่าให้เจิ้งเหลียงมารักษาให้ฉันต่อที่บ้านได้ไหม?”
ที่กู้จื่อเฟยคิดอยู่ในใจคือ ในเมื่อเย้นโม่หลินรู้เรื่องอาการเบื่ออาหารของเธอแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องแอบไปรักษาข้างนอกอีก
อยู่ที่บ้าน จะได้มีเวลาอยู่กับเขามากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันเธอก็รู้ ความจริงแล้วทุกครั้งที่เธอไปรับการรักษา จะมีการส่งคนไปเฝ้าดูนอกโรงพยาบาล เพื่อรักษาความปลอดภัยของเธออยู่ตลอด
ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้สารภาพแล้ว จะได้ใช้คนของเย้นโม่หลินเพื่อเธอน้อยลง
ถึงยังไง ตอนนี้ปัญหาของตระกูลเย้น ก็ยังร้ายแรงมาก