สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1061 เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องเสียโฉม
“เหอะ ทุกท่านลืมไปแล้วเหรอ ว่าผมกับคุณชายเย้นของพวกเราเป็นพวกเดียวกัน? แล้วผมจะช่วยพวกคุณได้ยังไง?”
คำสุดท้าย เต็มไปด้วยการประชดประชันอย่างรุนแรง
ผู้คนที่มองเขาด้วยสายตาที่คาดหวัง สีหน้าดูแย่ลงในทันที
พวกเขาก็ถูกบี้จนบ้าคลั่งจนหมดหนทางไร้ทางออก จนคาดหวังว่าป่ายฉีจะช่วยเหลือพวกเขาได้
คุณลุงที่อยู่ด้านหน้าสีหน้าดูแย่ที่สุด เขาพูดด้วยเสียงที่แข็งกร้าว
“แล้วนายยังจะเอาอะไรอีก? ยังไม่จบอีกเหรอ?”
ป่ายฉีมองไปที่หญิงสาวก่อนหน้าด้วยสายตาที่สบายๆ “คิดว่าจะอาศัยชื่อเสียงของครอบครัว แล้วจะผ่านมันไปได้ ไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องที่เธอวอนหาเรื่องอย่างนั้นเหรอ?”
เด็กสาวหน้าซีด สีหน้าของเธอโดยตื่นตระหนกขึ้นในทันที
ออร่าที่เยือกเย็นของเย้นโม่หลินเมื่อกี้นี้ ก็ทำให้เธอกลัวจนรู้สึกอยู่ไม่สุขอยู่แล้ว โชคดีที่เย้นโม่หลินไม่ได้สนใจอะไรเธอ แค่พากู้จื่อเฟยออกไปเท่านั้น
เธอก็นึกว่าเธอจะรอดได้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าป่ายฉีจะไม่ยอมปล่อยเธอไป”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ในเมื่อนายน้อยยังไม่ได้พูดอะไร นายก็จะมาสร้างความลำบากให้ฉันไม่ได้นะ”
“นายน้อยไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าการจัดการพวกเศษอย่างเธอ ให้ฉันจัดการก็พอแล้ว”
ป่ายฉีเอนตัวพิงโต๊ะ ในมือเล่นแก้วไวน์ น้ำเสียงดูครุ่นคิด
“มีให้ 2 ทางเลือก เธอจะสารภาพเอง หรือว่าจะให้ฉันบังคับให้เธอสารภาพ?”
“สารภาพ??”
หญิงสาวถอยหลังอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
เธอพูดด้วยความหวาดกลัว “ป่ายฉี นายจะมามั่วซั่วไม่ได้ ฉันต่างหากที่เป็นคุณหนูของตระกูลเย้นอย่างถูกต้องและเหมาะสม”
“ลูกสาวคุณหญิงสามของตระกูลหลักที่ใส่ร้ายกู้จื่อเฟย ถูกลงโทษด้วยกฎตระกูลในที่สาธารณะจนเป็นอัมพาตครึ่งซีก คุณหนูที่อยู่แถบท้ายๆ ตระกูลย่อยอย่างเธอ เอาความกล้าจากไหนมาพูดอะไรแบบนี้? ”
พอได้ยินดังนั้น หญิงสาวคนนี้ก็เหมือนถูกฟ้าผ่า ตกใจจนล้มลงกับพื้น
ถ้ามาเทียบกับเย้นจือฮวนแล้ว เธอจะไปเอาความมั่นใจมาจากที่ไหนกัน
เธอกลัวจะแย่ ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว “ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันก็แค่สงสัยเกี่ยวกับรูปร่างลักษณะของคุณกู้ก็เลยพูดวู่วามไปชั่วขณะ ถึงได้ทำอะไรแบบนั้นไป”
“ฉันรู้แล้วว่าทำผิดไป พี่ป่ายฉี เห็นแต่ว่าพวกเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เห็นแก่ที่ฉันยังอายุน้อย ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ”
ป่ายฉีกวาดสายตามองมายังหญิงสาว และยิ้มอย่างขี้เล่น
“ตอนนี้เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วเหรอ? แต่ว่ามันก็ไม่ได้สายเกินไปหรอก ฉันน่ะเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนต่อสุภาพสตรีมากกว่าเย้นโม่หลินเยอะ ถ้าเกิดว่าเธอเป็นเด็กดีและบอกว่าใครอยู่เบื้องหลัง ฉันก็จะจัดการเบาๆ แต่ว่าถ้าเธอกล้าทำให้ฉันเสียเวลาและก็–
ฉันก็จะลอกหนังของเธอออกด้วยมือของฉันเอง”
หญิงสาวกลัวจนแทบจะเป็นลมไป ลอกหนังอย่างนั้นเหรอ นี่มันเป็นบทลงโทษถึงแก่ชีวิตเลยนะ!ขนาดเย้นจือฮวนยังไม่ได้มีบทลงโทษที่หนักๆ ขนาดนี้เลย
แต่ว่าป่ายฉีเป็นปีศาจทางด้านการแพทย์ สิ่งที่ชอบมากที่สุดก็คือการทดลองที่บ้าคลั่งอะไรพวกนี้แหละ มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะลอกผิวหนังเธอออกมาจริงๆ
หญิงสาวรีบตอบทันทีว่า:
“ฉันจะพูดทุกอย่าง ฉันยืนอยู่ฝ่ายคุณหญิงสามมาตลอด ได้ป็นเพื่อนกับพวกเย้นจือฮวนตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้พวกเธอต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ ฉันรู้สึกโกรธมาก คิดว่าเหตุผลทั้งหมดมันเป็นกู้จื่อเฟย”
“กู้จื่อเฟยกลับมาแล้ว หลายวันมานี้พอเห็นเธอถูกยกอยู่ในที่สูงขนาดนั้น ฉันก็รู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เอง ฉันก็ได้ยินคนใช้ของฉันพูดคุยกัน บอกว่ากู้จื่อเฟยเสียโฉม หน้าตาดูแย่มาก ฉันก็เลยคิดว่า ถ้าเกิดว่าฉันเปิดหน้าเธอในที่สาธารณะต่อหน้าทุกคน ฉันก็จะได้ทำให้เธอเสียหน้า คนอื่นในครอบครัวรู้สึกรังเกียจ แม้แต่จะไล่เธอออกจากตระกูลเย้นก็เป็นได้”
“ที่ฉันเป็นแบบนี้ ก็เพื่อระบายความแค้นให้คุณหญิงสาม ฉันก็แค่อยากจัดการกู้จื่อเฟย ไม่มีคนอื่นคอยควบคุมจริงๆ ”
สายตาของป่ายฉีดูคลุมเครือ ” สิ่งที่ควรใช้พวกนั้นซุบซิบกัน เธอยังจำได้ไหม?”
“จำได้ค่ะจำได้ พวกเธอค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับคนใกล้ตัวฉัน”
“พาฉันไปหาพวกเธอหน่อย”
ป่ายฉีวางแก้วไวน์ลง มีแสงเยือกเย็นที่อันตรายปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
การกลับมาอย่างเงียบๆ ของกู้จื่อเฟย แล้วหลายวันนี้ก็เอาแต่อยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนเลย คนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยว่าง ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงเธอ
แต่ว่าเรื่องนี้ แม้แต่ผู้ใหญ่ของตระกูลเย้นยังไม่รู้เรื่อง แต่ว่าสาวใช้ที่อยู่ห่างไกลกลับรู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ?
เรื่องราว มันค่อนข้างที่จะน่าสนใจขึ้นแล้ว
หญิงสาวกลัวป่ายฉีเป็นอย่างมาก จะกล้าปฏิเสธที่ไหนกัน เธอรีบพยักหน้าในทันที “ได้ค่ะ ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป”
เธอรีบลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างตื่นตระหนก แต่เพราะว่าเมื่อกี้หวาดกลัวเกินไปหน่อย ขาก็เลยสั่นไปหมด
ป่ายฉีกลับไม่ได้ออกไปในทันที เขาเลือกไปมองคนที่อยู่ตรงนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา
“ทุกคนก็เป็นคนฉลาด คงจะคาดเดาเรื่องพลิกผันแบบนี้ได้ไม่ยากใช่ไหมล่ะครับ?”
เพียงประโยคเดียว ทำให้คนในตระกูลเย้นต่างพูดอะไรไม่ออก
พอได้ยินคำพูดของหญิงสาว พวกเขาถึงได้ตอบสนอง ว่าเบื้องหลังของเหตุการณ์ในวันนี้ มีคนคอยควบคุมอยู่
และพวกเขาป้องกันอย่างดีขนาดนี้ แต่ก็ยังถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยอีกอย่างนั้นเหรอ?
พวกเขาแม้แต่เกือบจะถูกหลอกใช้แล้ว
สมควรตายจริงๆ
คุณลุงท่านหนึ่งขมวดคิ้ว พูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ว่าเรื่องที่กู้จื่อเฟยเสียโฉมก็เป็นเรื่องจริง การที่จะให้เธอมาเป็นคุณนายของตระกูลเย้น น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะได้รับการนับถือ”
ถึงแม้ว่าเย้นโม่หลินจะแต่งงานให้ได้ และพยายามบังคับ พวกเขาก็คงยอมรับได้เพียงแค่ปากเท่านั้น
“ทุกท่านแก่แล้วหลงๆ ลืมๆ เหรอครับ?”
ป่ายฉีถากถางยังไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิดเดียว “ตระกูลเย้นของพวกเราอยู่แถวหน้าของโลก ต้องการการสนับสนุนจากรูปลักษณ์ภายนอกของนายหญิงอย่างนั้นเหรอ? รากฐานของพวกเรา มันก็คือศักยภาพ ความแข็งแกร่งต่างหากที่เป็นเหตุผลที่แท้จริง มีตระกูลไหนกล้ามาพูดจานินทาอย่างนั้นเหรอ?”
คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก
ศักยภาพของตระกูลเย้นนั้นทำให้คนอื่นไม่กล้านินทาจริงๆ แต่ว่าพวกเขายืนอยู่ที่สูงมานานเกินไปแล้ว ก็ติดนิสัยที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ
แต่ว่ากลับลืมไปว่า การวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดนั้น มันสำหรับคนที่แข็งแรงเท่านั้น
ก็เหมือนกับความแข็งแกร่งของเย้นโม่หลินเมื่อกี้นี้ เขาไม่ได้จำเป็นต้องอธิบายอะไร และก็ตัดสินใจว่าต้องการกู้จื่อเฟย
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ พวกเขาก็จำเป็นต้องยอมรับ
นี่ควรจะเป็นทัศนคติที่ตระกูลเย้นเผชิญหน้ากับโลกใบนี้ แผนที่จะเอาใจโลก ตระกูลอื่น ให้คนอื่นไว้หน้าพวกเขา
มีคนขบคิดได้ แล้วก็พูดเสียงเบาว่า
“คำว่าพวกเรามองฝั่งเดียวเราก็หัวรุนแรงเกินไป กู้จื่อเฟยคือภรรยาที่นายน้อยกำหนดไว้แล้ว พวกเราก็ควรจะเห็นเธอเป็นคุณนาย เพราะว่าพวกเรารังเกียจกันเอง ถึงได้ถูกคนภายนอกถากถาง แต่ว่าถ้าเกิดพวกเรามีความมั่นใจในตัวเองมากพอ คนภายนอกก็จะไม่มีใครกล้านินทาว่าร้ายอะไร”
ผู้ที่แข็งแกร่ง คือเหตุผลที่แท้จริง
นี่ต่างหากที่ควรจะเป็นความเย่อหยิ่งของคนตระกูลเย้น
คนบางส่วนก็พยักหน้าตาม แล้วก็เริ่มเห็นด้วยจากก้นบึ้งของหัวใจ ยอมรับแล้ว
กงจืออวีเงียบมาตลอด มองดูความเปลี่ยนแปลง พอเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ก็พยักหน้าด้วยความดีใจ
ลูกของเธอ เย้นโม่หลินกับป่ายฉี โตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว สามารถยืนอยู่คนเดียวและควบคุมคนในตระกูลได้แล้ว
สีหน้าของป่ายฉีถึงได้เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็พูดว่า “เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องเสียโฉมเนี่ย ก็เหมือนเป็นของเล่นสำหรับผม ไม่เกิน 2 เดือน ผมก็สามารถทำให้กู้จื่อเฟยกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้”
คำพูดนี้ ทำให้หัวใจของคนบางคนก็รู้สึกสบายใจขึ้นในทันที
ถ้าสามารถทำให้ใบหน้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ปัญหาเรื่องหน้าตาของตระกูลเย้น จะแก้ไขได้อย่างไรได้
แบบนี้ก็ดี ดีมาก