สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1066 ปิดบังอะไรไว้
เดิมทีเย้นหว่านไม่อยากจะจอดรถ แต่ว่าหยูฉู่สองจะให้รถจอด
เขานั่งอยู่บนรถราง ร่างกายเต็มไปด้วยความรู้สึกที่กดขี่ พร้อมกับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาแผดเผา
เย้นหว่านรู้สึกเหงื่อออกหลังในทันที
คนที่เดิมควรจะเรียกว่าคุณปู่ แต่กลับกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอในตอนนี้ ไม่ได้มีความรู้สึกของครอบครัวแบบที่ควรจะมีเลยแม้แต่นิดเดียว
นี่คือความไร้เมตตาของอำนาจ
แววตาที่แหลมคมของหยูฉู่สองจ้องไปที่เย้นหว่าน แต่ว่าก็มีรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา
“เสี่ยวหว่าน ยากมากเลยนะกว่าจะเห็นเธอออกมาครั้งหนึ่ง”
พอเย้นหว่านเห็นเขาก็รู้สึกกดดัน แต่ว่าก็ยังคงต้องปั้นหน้า มีรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนน้อมบนใบหน้าของเธอ
“มีธุระกับโห้หลีเฉินนิดหน่อยค่ะ”
“ก็แค่ให้เขากลับมาก็พอแล้ว ทำไมต้องออกมาด้วยตัวเองด้วยล่ะ? เธอท้องโตแล้ว จะออกไปข้างนอกมั่วซั่วไม่ได้นะ”
เย้นหว่านยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็ต้องออกกำลังกายบ้างเหมือนกัน พวกเขาก็จะดูแลฉันอย่างดี”
เย้นหว่านมองดูบอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ที่ตามเธอมา
น่าจะมีประมาณ 20 กว่าคน
หยูฉู่สองมองไปที่คนพวกนั้น แต่ว่าก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเป็นพิเศษ
“ดูแลให้ดี ในท้องของเธอ เป็นหลานสุดที่รักของฉัน จะเป็นเสาหลักของตระกูลหยูในภายภาคหน้า”
ถึงแม้ว่าจะมีความยับยั้งชั่งใจ แต่ว่าสายตาที่หยูฉู่สองมองที่ทองของเย้นหว่านนั้น มันร้อนแรงเป็นอย่างมาก
เต็มไปด้วยความอยากต่อสู้
ร่างกายของเย้นหว่านกระชับขึ้นในทันที เธอเอามือปิดทองของตัวเองไว้โดยอัตโนมัติ อยากจะซ่อนมันเอาไว้
หยูฉู่สองจองลูกของเธออย่างละโมบ สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
ตอนนี้เธออยู่ที่ตระกูลหยู ยังสามารถรักษาคลื่นลมให้สงบเงียบได้ แต่ว่าถ้าเกิดลูกของเธอคลอดออกมาเมื่อไหร่ ต้องเกิดการนองเลือดเพราะความขัดแย้งอย่างแน่นอน
เธอไม่มีทางปล่อยให้ลูกของตัวเองตกอยู่ในมือของหยูฉู่สองเป็นอันขาด
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นปู่แท้ๆ ของลูกเธอ
“ลูกยังไม่คลอดออกมาเลย ยังไม่แน่ใจได้สามารถเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เกรงว่าอาจจะไม่ได้รับดวงต่อตระกูลหยู ถึงแม้ว่าเป็นผู้ชาย ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถและลักษณะนิสัยของเขาด้วย ถ้าเกิดว่าเป็นคนธรรมดาๆ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทายาทที่จะรับช่วงต่อตระกูลหยู
คุณปู่อย่าเพิ่งรีบรอได้เลยค่ะ ปู่ยังคงแข็งแรง ตระกูลหยูยังคงเปล่งประกายอยู่ในมือของคุณปู่ได้อีกหลายปี”
เย้นหว่านไม่เคยวางแผนให้ลูกของเธอรับช่วงต่อตระกูลหยู
ถึงแม้ว่าลูกชายของเธอจะมีความสามารถโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่เขาก็ควรมีชีวิตและความต้องการของตัวเอง
โดยไม่ต้องถูกผูกมัดด้วยครอบครัวที่เห็นแก่ประโยชน์แบบนี้
“อาศัยช่วงเวลาที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ อบรมทายาทรุ่นหลัง ถึงเวลาที่ฉันต้องไปแล้ว เขาก็จะได้มีต้นทุนที่จะสามารถควบคุมตระกูลหยูได้”
คำพูดของหยูฉู่สองแน่วแน่มาก ไม่ต้องสงสัยเลย
แต่กลับทำให้ในใจของเย้นหว่านกลับรู้สึกหนาวเหน็บ
นี้เขากำลังบอกเธอเป็นนัยๆ ว่า เขาวางแผนจะข้ามโห้หลีเฉิน แล้วให้หลานได้เป็นผู้รับช่วงต่อแทน
เขาต้องการจะลอยแพโห้หลีเฉิน
แล้วก็มุ่งมั่นที่จะแย่งเด็กคนนี้กับเธอ
เย้นหว่านเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ท่าทางของเธอยังคงมั่นคง
“ฉันจะเลี้ยงลูกอย่างดีค่ะ ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขาพัฒนาไปยังทิศทางที่คุณคาดหวัง แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขาไม่ชอบและไม่เหมาะสมจริงๆ ฉันก็จะไม่ไปบังคับลูกหรอกนะคะ
ถึงยังไงทุกคนก็ต่างมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง”
เย้นหว่านพยักหน้า “ฉันต้องรีบหน่อย ไปก่อนนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่ะคุณปู่”
และก็ไม่ให้เวลาหยูฉู่สองได้พูดอะไร เย้นหว่านก็พยักหน้า แล้วคนขับรถก็ขับแล่นไปด้านหน้าอีกครั้ง
สีหน้าของหยูฉู่สองมืดมนลงในทันที
เย้นหว่านตัดสินใจที่จะเป็นปรปักษ์กับเขาใช่ไหม
แต่ การตัดสินใจของเขาไม่ใช่สิ่งที่เธอจะมาต่อต้านหรือต่อสู้ได้
“ดูแลลูกในท้องของเธอให้ดี ชีวิตของเขา มันมีค่ากว่าเธอมาก”
น้ำเสียงที่เยือกเย็นและไร้ความปรานี เต็มไปด้วยการข่มขู่
เย้นหว่านกลุ่มท้องของตัวเองเอาไว้ ความโกรธเกิดขึ้นเต็มหน้าอกของเธอ ตามมาด้วยความกดดันขนาดใหญ่
ตอนนี้เธออยู่ในตระกูลหยู ถึงแม้ว่าเธอและหยูฉู่สองจะสั่งควบคุมซึ่งกันและกัน แต่ว่ายังไงนี่มันก็เป็นเขตอิทธิพลของหยูฉู่สอง เมื่อแสดงความอ่อนแอเมื่อไหร่ ก็มีแนวโน้มว่าจะถูกโจมตีได้
แถมตอนนี้โห้หลีเฉินก็ป่วย เธอเกรงว่าสถานการณ์จะเลวร้ายลง
จนกระทั่งตอนที่เธอคลอดลูกออกมา กลัวว่าสถานการณ์มันจะเลวร้ายจนถึงขั้นสุด ในตอนนั้นทั้งปัญหาภายในและภายนอก เธอกับโห้หลีเฉินยังจะสามารถต่อต้านหยูฉู่สอง แล้วตกลงลูกได้อยู่หรือเปล่า?
เย้นหว่านไม่รู้เลย แม้แต่รู้สึกตื่นตระหนกในใจ
“ขับเร็วหน่อย” เธอพูดกับคนขับ
บ้านตระกูลหยูแห่งนี้มันอันตรายไปทั่วทุกทิศ แม้แต่เดินอยู่บนถนน และมีคนปกป้องมากมายขนาดนั้น เธอก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอได้ตลอดเวลา
การลอบโจมตีนะไม่เป็นไรหรอก เธอกลัวว่าเป้าหมายคือพาตัวเธอไป เพื่อแย่งลูกของเธอไป
เย้นหว่านกุมท้องตัวเอง สายตาดูแน่วแน่เป็นพิเศษ
“พวกลูกๆ ไม่ต้องกลัวนะ แม่จะปกป้องพวกลูกอย่างดี จะไม่มีวันปล่อยให้คนร้ายพาตัวลูกไป ต้องเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ถูกจัดเตรียมไว้ตั้งแต่แรกเกิด”
ตอนนี้ เย้นหว่านแม้แต่หวังว่า เด็กในท้องจะเป็นผู้หญิงทั้งหมด
ลูกสาวจะเป็นเด็กดี และปลอดภัย
โชคดีที่ระหว่างทางนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เย้นหว่านมาถึงปราสาทเด็กๆ ที่โห้หลีเฉินเอาไว้จัดการเรื่องต่างๆ
มีอุปกรณ์ครบครัน ผู้คนไปมา จัดการเรื่องต่างๆ และสะดวกสบาย
คนที่อยู่ที่นี่ก็ต่างรู้จักเธอ สามารถเข้าไปได้ง่ายดาย
เย้นหว่านถามคน แล้วก็เดินไปยังทิศทางที่โห้หลีเฉินอยู่
อยู่ในห้องข้างโถงตรงมุมชั้นสอง
เพิ่งจะเดินไปถึง เย้นหว่านก็เห็นเว่ยชี
เว่ยชียืนอยู่หน้าประตู ก็เห็นเย้นหว่าน ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“คุณนาย มาที่นี่ได้ยังไงกันครับ?”
หลังจากที่เย้นหว่านกับโห้หลีเฉินจัดงานแต่งงานกัน คำเรียกของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นเรียกเธอว่าคุณนาย
“มาหาโห้หลีเฉิน”
เย้นหว่านมองไปที่ห้องที่อยู่ไม่ไกลจากเว่ยชี “โห้หลีเฉินอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”
เว่ยชีรีบไปขวางอยู่ตรงหน้าของเย้นหว่านในทันที สายตาสั่นเทาเป็นอย่างมาก
ดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก พูดจาก็ตะกุกตะกัก
“อยู่ครับ แต่ คือ คือว่า……”
“ทำไมเหรอ?”เย้นหว่านถามด้วยเสียงที่ทุนต่ำ
สายตาของเว่ยชียุ่งเหยิง ปกปิดความตึงเครียดและความตื่นตระหนกไม่ได้
“คุณชายกำลังทำการรักษาอยู่ด้านใน เข้าไปตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ คุณรอก่อน เดี๋ยวผมเรียกคุณชายออกมาดีไหม?”
สุดท้ายเว่ยชีก็หาเหตุผลได้แล้วก็รีบพูดออกมา
ระหว่างที่พูด เขากลับมองเย้นหว่านและความวิตกกังวล กลัวเธอจะปฏิเสธ แล้วก็ยืนกรานที่จะเข้าไปด้านใน
ถึงยังไงโห้หลีเฉินก็ตามใจเธอมาตลอด ไม่เคยทำอะไรที่หลีกเลี่ยงเธอเลย
ตอนนี้เขาหยุดเธอแบบนี้ มันดูน่าสงสัย
แต่ว่าเขาจะไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ เว่ยชีกังวลจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
เย้นหว่านมองไปที่เว่ยชีตรวจสายตาแหลมคม เราก็ถามไปตรงๆ
“นายตื่นเต้นขนาดนี้ ด้านไหนคงไม่ได้แค่รักษาการธรรมดาๆ หรอกใช่ไหม?”
นี่คือการถามกลับ
เย้นหว่านเริ่มสงสัยแล้วจริงๆ
หัวใจของเว่ยชีแทบจะหลุดออกมาจากลำคอ ไปของเขารู้สึกตื่นตระหนกจนอยากกลายเป็นกำแพงที่ไม่สามารถพูดอะไรได้
เขาเหงื่อออกจนชุ่ม”ครับ……ใช่ครับ……”
การพูดแบบตื่นเต้นแบบนี้ เว่ยชีรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เขาตื่นตระหนกเพราะคิดว่าจะหาข้ออ้างอะไรมาห้ามไม่ให้เย้นหว่านเข้าไปได้อีก
เขากำลังสับสน แต่ไม่คิดเลยว่า เย้นหว่านกลับหันหลังไปทันที
เธอพูดอย่างนิ่งเฉย:”ฉันรอเขาก็ได้”
มีโซฟาวางอยู่ตรงห้องโถง เย้นหว่านเดินเข้าไปแล้วนั่งลง
เธอมองไปที่ประตูห้องที่ปิดสนิท จัดมุมปากอย่างขมขื่น แววตาดูมืดมน
ความผิดปกติเว่ยชี เธอเห็นมันอย่างชัดเจน
เขากลัวว่าเข้าไปแล้วเธอจะได้เห็นอะไร
และด้านในนั้น เรื่องที่เกิดขึ้น เขาไม่อยากให้เธอเห็น หรือว่าเห็นไม่ได้……