สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1092 เจ้าเด็กน้อยสุดน่ารัก
ต่อให้หยูฉู่สองจะมีการโจมตีมากแค่ไหน ถ้าหาคนไม่พบ ก็ไม่สามารถโจมตีออกไปได้
เช่นนั้นการที่เขาอยากได้ยาแก้พิษในตำนานนั้น เกรงว่าทั้งชีวิตที่เหลืออยู่อาจไม่มีความหวังใดๆ เลย
สำหรับเด็กทารกชายนั้น เขายังหาเบาะแสไม่ได้เลย เช่นนั้นเขาคงยิ่งไม่รู้ว่าเด็กทารกคนนั้นรอดตายได้หรือไม่
หยูฉู่สองไม่กล้าวางเดิมพันทั้งหมดไว้บนตัวตระกูลเย้นและเด็กทารกชายคนนั้น ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่วางความหวังบางส่วนไว้กับโห้หลีเฉินอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่าโห้หลีเฉินไม่เคยคิดที่จะจากไป ยิ่งตอนที่เขาเพิ่งฟื้นได้ไม่นานนั้น เขายิ่งอยากออกจากตระกูลหยู เพื่อออกตามหาเย้นหว่าน
อย่างไรก็ตาม เพราะอยากรักษาชีวิตของโห้หลีเฉินไว้ เขาจึงได้ใช้ชีวิตของเด็กทารกหญิงมาข่มขู่เขา
ถ้าโห้หลีเฉินตัดสินใจอยู่ เด็กทารกหญิงจึงจะสามารถใช้น้ำพุร้อนเพื่อเลี้ยงชีวิตของเธอไว้ได้ และถ้าโห้หลีเฉินตัดสินใจจากไป เด็กทารกหญิงจะต้องตาย
แม้ว่าในใจจะโกรธแค้นจนเกือบจะเป็นบ้า แต่โห้หลีเฉินก็ยังถูกคุมขังในตระกูลหยู
แต่ในขณะนั้น โห้หลีเฉินก็พิการไปแล้ว เพราะเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและพิการ
แต่กำลังอำนาจของเขา ก็ถูกทำลายและควบคุมโดยหยูฉู่สองจากเมื่อเก้าเดือนที่แล้ว เพราะในช่วงครึ่งปีที่เขาอยู่ในอาการโคม่านั้น หยูฉู่สองได้ยึดทรัพย์สมบัติและอาณาเขตทั้งหมดของตระกูลเย้นไป
และในตอนนี้หยูฉู่สองก็ได้กลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการไปแล้ว และไม่มีใครสามารถตีเสมอกับเขาได้
ยิ่งไปกว่านั้น โห้หลีเฉินก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป และไม่เหลืออะไรเลย
เขาถูกคุมขัง และไม่มีความหวังในการต่อต้านใดๆ
แม้ว่าจะทำเพื่อลูกสาวของตัวเอง โดยต้องถูกขังอยู่ในตระกูลเย้นทุกวันทุกคืน และไปตลอดกาล ซึ่งเขาอาจไม่มีทางไปตามหาตระกูลเย้นได้อีก
และเขาก็ไม่สามารถประคับประคอง ร่างกายที่พังทลายของเขานั้นได้อีกต่อไป
ดังนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โห้หลีเฉินก็พิการ ตั้งแต่ร่างกายจนถึงหัวใจ และตั้งแต่ความมุ่งมั่งในการต่อสู้จนถึงจิตวิญญาณ
……
เว่ยชีออกจากห้องไปอย่างห่อเหี่ยว
วันเวลาก็ผ่านไปอย่างนี้วันแล้ววันเล่า และเขาก็ได้ใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทางที่จะช่วยคุณผู้ชายได้เลย เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงเพื่อปลุกเร้าใจให้คุณผู้ชาย
เขาไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ เขาจึงทำได้แค่ใช้ทุกอย่างที่เขามี พยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ให้ดีที่สุด
จากนั้นเว่ยชีก็ไปที่ห้องของเด็กทารก
ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เจ้าเด็กน้อยที่กำลังนอนเล่นบล็อกตัวต่ออยู่บนพรมนั้นก็ล้มบล็อกตัวต่อลง จากนั้นก็คลานเข้ามาหาเขาอย่างตื่นเต้น
ในปากของเจ้าเด็กน้อยคนนั้นยังคงพูดอ้อแอ้อย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดนั้นคืออะไร
ใบหน้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนใสสะอาดของเธอนั้นน่ารักอย่างมาก และดวงตาที่เหมือนกับไข่มุกสีดำของเธอนั้นก็เป็นประกาย และงดงามราวกับนางฟ้าที่โบยบินอยู่บนท้องฟ้า
หัวใจที่หนักอึ้งของเว่ยชีนั้น ก็อบอุ่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มของเธอ เขาย่อตัวลง และอุ้มเธอขึ้นมาอย่างเชี่ยวชาญ
“อ้อแอ้ๆ”
เจ้าเด็กน้อยนั้นอ้าเปิดปากอย่างไม่หยุด ราวกับว่ามีสิ่งที่อยากจะพูดเต็มไปหมดเพื่อที่จะแสดงความคิดถึงที่มีต่อเว่ยชี
มือเล็กๆ นั้นสัมผัสใบหน้าของเว่ยชีไปๆ มาๆ และเล่นกับรอยแผลเป็นที่น่ากลัวบนใบหน้าของเขา
ซึ่งเธอไม่กลัวเลยสักนิด
หรืออาจพูดได้ว่า ในตอนแรกเริ่มนั้น เธออาจกลัวก็เป็นได้ เพราะตอนนั้นเธอยังเด็กมาก และครั้งแรกที่เธอเห็นแผลเป็นของเว่ยชีเธอก็ตกใจจนร้องไห้อย่างสะท้านฟ้าสะเทือนดินอยู่นาน
แต่หลังจากนั้น พอเธอเห็นเขาทีไรก็ต้องร้องไห้ทุกที และกลัวมากจนเว่ยชีต้องใส่ผ้าปิดตาลายพูห์ไปด้วยทุกที และเขาคงไม่กล้าให้เธอเห็นหน้า เว้นแต่จำเป็นเท่านั้น
แต่สถานการณ์นี้ มันก็เกิดขึ้นไปแค่เดือนกว่าเท่านั้น
เมื่อครั้งที่เธอโตขึ้นมาหน่อย ก็มีครั้งหนึ่งที่ถูกเว่ยชีอุ้ม และเธอก็เป็นฝ่ายเริ่มดึงผ้าปิดตาของเว่ยชีออก
เว่ยชีตกใจอย่างแรง และกลัวว่าเขาจะทำให้เธอกลัวจนร้องไห้อีก
แต่ผลลัพธิ์ไม่ใช่อย่างที่คิด เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่กลัวเลย เธอเบิกดวงตากลมโตที่เหมือนไข่มุกสีดำนั้นขึ้น และจูบแผลเป็นบนใบหน้าของเว่ยชี
เธอชอบเว่ยชีแม้เขาจะมีรอยแผลเป็นเธอก็ชอบ
ซึ่งครั้งนั้นเว่ยชีก็อึ้งอยู่นาน และตั้งแต่นั้นมา คุณหนูที่เขาดูแลอย่างระมัดระวังนั้น ก็ได้กลายเป็นสมบัติอันเป็นที่รักของเขาไปแล้ว
“แรบบิทสนิทกับคุณที่สุดแล้ว ทุกครั้งที่เห็นคุณ เธอชอบที่สุดเลยนะ แม้แต่ฉันที่เป็นพี่เลี้ยงก็ไม่เอาแล้ว”
หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เป็นคนมีเมตตาและอัธยาศัยดี และบนใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เป็นกันเอง
หลังจากแรบบิทเกิดมา ไม่ว่าจะเป็นการป้อนนมหรือแม้แต่การดูแลประจำวัน ล้วนเป็นเธอที่เป็นคนจัดการ
ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว แต่การจัดการของเธอก็เป็นไปอย่างเป็นระเบียบ และดีอย่างมาก เธอยังเลี้ยงดูเจ้าเด็กน้อยที่เดิมทีอ่อนแอและยากที่จะมีชีวิตรอดนั้น จนเติบโตมาขนาดนี้อีก
และชื่อแรบบิทนี้ ก็เป็นเธอที่เป็นคนตั้งให้
เย้นหว่านก็ไม่อยู่แล้ว และโห้หลีเฉินก็โศกเศร้าจนดูแลตัวเองยังไม่ไหวเลย แม้แต่ชื่อลูกยังไม่มีด้วยซ้ำ ดังนั้นในฐานะที่เป็นพี่เลี้ยง เธอจึงตั้งชื่อเล่นให้กับเธอ
ตอนคุณหนูเกิดมาดูตัวเล็กๆ ดังนั้นจึงตั้งชื่อเป็นชื่อว่าแรบบิท และยังอวยพรให้เธอเป็นเหมือนอย่างกระต่ายตัวน้อยที่มีชีวิตชีวาร่าเริง และกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข
เว่ยชียิ้มแย้มจนความอ่อนโยนและความดีอกดีใจแทบจะทะลักออกมาจากตา
“การถูกคุณหนูชื่นชอบนั้น เป็นเกียรติอย่างที่สุด ในชาตินี้ของผมแล้วล่ะ”
ในวันเวลาที่มืดมนเหล่านี้ คุณหนูแรบบิท กลายเป็นแสงอันรุ่งโรจน์และพลังที่จะคอยทำให้พวกเขาทุกคนมีชีวิตอยู่ต่อไป
สุขภาพของแรบบิทแย่มาโดยตลอด และในทุกวันเธอต้องแช่น้ำพุร้อนเพื่อดูดเอาสารพิเศษในตัวเพื่อต่อชีวิตต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะนำน้ำพุร้อนออกมาก็ไม่ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงต้องไปแช่ที่ขุมทรัพย์ถึงจะได้ผล
อย่างไรก็ตามขุมทรัพย์ของตระกูลหยูเป็นสิ่งที่มีอยู่ที่สำคัญที่สุดของตระกูลหยูมาโดยตลอด และทุกครั้งที่พาแรบบิทเข้ามา ต่างก็มีการควบคุมและคอยสังเกตอย่างละเอียดรอบคอบ และจะมีเพียงเว่ยชีเท่านั้นที่จะสามารถพาเข้ามาได้
พี่เลี้ยงฉินชิวหลานจึงพาเว่ยชีกับแรบบิทไปที่ประตูห้องลับ และพูดกำชับอย่างระมัดระวังว่า
“เมื่อเข้าไปข้างในต้องระวังอย่างมาก อย่าให้ใครแตะต้องตัวแรบบิทเด็ดขาด และต้องระวังอยู่ตลอดเวลา เพราะตอนนี้เธอโตขึ้นแล้วแถมยังชอบเล่นน้ำอีก ดังนั้นอย่าปล่อยให้เธอสำลักน้ำโยเด็ดขาด”
เว่ยชีต้องคอยฟังคำกำชับประจำวัน ในทุกๆ วัน วันละรอบ
เขายิ้มและตอบว่า “เข้าใจแล้วครับ อีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ผมจะพาแรบบิทออกมาอย่างตรงเวลาและปลอดภัย”
“อ้อแอ้ๆ”
แรบบิทยกมือเล็กๆ ของเธอขึ้น และหันหน้าเข้าหาฉินชิวหลานพร้อมกับโบกมือ
ดูเหมือนว่า เธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะพูดว่าบ๊ายบาย
เธออยากจะไปกับเว่ยชีด้วยกันแค่สองคน
ฉินชิวหลานมองไปที่เด็กหญิงตัวน้อยที่ไร้เดียงสานั้น พร้อมกับแตะจมูกของเธอ แล้วพูดบ่นอย่างจนปัญญาว่า
“สาวน้อยคนนี้นี่ ฉันเฝ้าเลี้ยงดูเธอตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะ ทั้งให้นมเธอ แต่เธอกลับชอบผู้ชายที่ไม่มีน้ำนมคนนี้เป็นที่สุด ทำไมใจร้ายขนาดนี้นะ?”
แรบบิทยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉินชิวหลานต้องการสื่อ แต่ก็เบะปากแล้วยิ้มให้เธอ
รอยยิ้มหวานๆ นั้น ทำให้จิตใจคนแทบละลาย
การตำหนิที่ไม่ใช่การตำหนิของฉินชิวหลาน นั้น สลายไปหมดในเพียงไม่กี่นาที
จะน่ารักเกินไปแล้ว
ดันน่ารักซะจนคนไม่อาจปฏิเสธได้ซะด้วยสิ
ฉินชิวหลานสัมผัสใบหน้าเล็กๆ ของเธออย่างรักใคร่เอ็นดู แล้วหันไปพูดกับเว่ยชีว่า
“พรุ่งนี้คงถึงจะเวลาเปิดขุมทรัพย์แล้วสินะ?”
ขุมทรัพย์จะเปิดแค่ครั้งเดียว หลังจากผ่านกระบวนการพิเศษ และมันจะสามารถคงอยู่ได้นานห้าวันโดยไม่ปิดเลย
ในช่วงห้าวันนี้ คุณสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องขอให้ โห้หลีเฉินเปิดประตูด้วย
แต่เมื่อเวลาของห้าวันนั้นมาถึง จะต้องให้โห้หลีเฉินออกมาด้วยตัวเอง
แต่ด้วยท่าทีของโห้หลีเฉินแล้ว นานเข้าเขาคงจะยิ่งหมกมุ่นอยู่กับความมืดจนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ เขาสิ้นหวังและไม่มีชีวิตชีวา จนแค่การออกมาครั้งเดียวนั้น คงจะราวกับการเอาชีวิตของเขาเลยล่ะ
สายตาของเว่ยชีดูหนักอึ้ง แล้วพูดว่า “คุณผู้ชายจะมาแน่นอนครับ”