สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1094 ค่าของการถากถาง
เว่ยชีชำเลืองตามองไปที่โห้หลีเฉินด้วยความสับสน ท่าทางนี้ มันดูเหมือนกับว่ากำลังจะอุ้มเด็ก?
และในขณะนั้นเอง แรบบิทก็กำลังดิ้นในอ้อมแขนของเขา และยกแขนทั้งสองขึ้นทำท่าทีว่าจะโผเข้าไปในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นว่าแรบบิทกำลังจะล้ม เว่ยชีก็กำลังจะห้ามโดยไม่รู้ตัว แต่โห้หลีเฉินกลับพยักหน้า
“ให้ฉัน…อุ้ม”
เว่ยชีมึนงง
นับตั้งแต่ที่แรบบิทเกิดมาจนถึงตอนนี้ก็ได้เก้าเดือนแล้ว แต่คุณผู้ชายไม่เคยเข้าใกล้เธอเลยสักครั้ง และการอุ้มนี้ก็เป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
เว่ยชีไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ คุณผู้ชายของเขาจึงเปลี่ยนนิสัยไปอย่างกะทันหันอย่างนี้ แต่ร่างกายของเขาก็เคลื่อนไหวเร็วกว่าหลักความเป็นจริง จากนั้นเขาจึงส่งตัวแรบบิทไว้ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน
เจ้าเด็กน้อยนั้นเนื้อตัวนุ่มอย่างมาก และตัวแรบบิทก็ล้มลงไปในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินอย่างไม่รีรอ
ร่างกายเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มนั้นนุ่มนวลอย่างมาก และมือเล็กๆ ของเธอนั้นก็เป็นฝ่ายเริ่มจับโห้หลีเฉิน และแก้มเล็กๆ ของเธอก็ถูไปบนตัวโห้หลีเฉินอย่างดีอกดีใจ
ซึ่งเหมือนลูกแมวที่คิดถึงเจ้าของมานาน และในที่สุดก็เจอเจ้าของ
โห้หลีเฉินไม่คุ้นเคยกับความสนิทสนมอย่างกะทันหันนี้เลย ดังนั้นร่างกายของเขาจึงแข็งทื่ออย่างมาก
เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำกับเว่ยชีว่า “ปล่อยมือลง แล้วเอามันให้ตาย”
เว่ยชีจึงเข้าใจได้ว่า คุณผู้ชายอยากอุ้มคุณหนู เพื่อให้มือของเขาว่าง
ในเมื่อเป็นแบบนี้ สีหน้าของเว่ยชีก็เย็นชาราวกับน้ำแข็งในทันที
มือทั้งสองของเขาทับซ้อนกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียง “ค๊อกๆ” ดังขึ้น
“แคทเธอรีน แกต้องชดใช้ค่าของการถากถาง”
ตามด้วยคำพูดที่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชังแล้ว เว่ยชีก็เดินไปที่แคทเธอรีนทีละก้าวๆ
ไอเหี้ยมโหดที่อยู่บนตัวเว่ยชีก็โหดร้ายอย่างมาก จนทำให้ความเย่อหยิ่งของแคทเธอรีน กลายเป็นความมืดฟ้ามัวดินทันที
เธอจึงถอยหลังกลับไปอย่างเร่งรีบ แล้วพูดขู่ด้วยความหวาดกลัวว่า
“ฉันน่ะเป็นคนที่ผู้นำตระกูลหยูใช้ให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญในตอนนี้ ถ้าแกกล้าทุบตีฉันผู้นำตระกูลหยูจะไม่ปล่อยแกไปแน่ เว่ยชี ตอนนี้น่ะแกไม่มีที่เพิ่งที่จะปกป้องแกได้แล้ว ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน ก็เท่ากับว่าแกอยากตาย?”
“แต่ก่อนที่ฉันจะตาย แกจะต้องเป็นคนตายก่อนอย่างแน่นอน”
เว่ยชีชกออกไปทีหนึ่ง
“โอ๊ย–” แคทเธอรีนกรีดร้องดังลั่นแล้วย่อตัวลง เธอคิดว่าเธอหลบเขาได้แล้ว แต่การเคลื่อนไหวของเว่ยชีนั้นคล้องจองกันอย่างมาก และเธอก็ติดกับ
แคทเธอรีนถูกชกจนล้มลงกับพื้น และส่วนไหล่ที่ถูกชกนั้น ก็เจ็บปวดราวกับว่ากระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ
เธอเจ็บจนตะคริวกิน แล้วถอยหลังเดินกลับไปอย่างลุกลี้ลุกลน
แล้วรีบร้องตะโกนให้กับคนอื่นๆ ว่า “ช่วยชีวิตฉันด้วย ช่วยฉันด้วย เร็วเข้า”
ผู้คนที่สามารถมาที่ขุมทรัพย์ได้ในตอนนี้ ล้วนเป็นคนสนิทของหยูฉู่สอง ซึ่งเป็นคนที่มีฐานะอำนาจและความสามารถ
ซึ่งการตบตีแคทเธอรีนต่อหน้าพวกเขาแบบนี้ มันช่างไม่ไว้หน้าพวกเขาเลย
ดังนั้นจึงมีคนกำลังจะก้าวไปข้างหน้า
จากนั้นเสียงที่เย็นชาของโห้หลีเฉินก็ดังขึ้น “ฉันจะดูว่าใครกล้าบ้าง”
ด้วยคำพูดนี้ ทำให้ฝีเท้าที่ก้าวออกไปนั้น หยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างแข็งกระด้าง
พวกเขามองไปทางโห้หลีเฉิน จากนั้นก็เห็นเพียงว่าเขายังคงนั่งไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ และทั่วทั้งตัวเขานั้นถูกปกคลุมไปด้วยพยับเมฆที่เซื่องซึม โดยไร้ซึ่งพลังแห่งการโจมตี และไร้ซึ่งชีวิตชีวา
แต่ถึงแม้จะเป็นคนพิกลพิการเช่นนี้ การสยบด้วยคำพูดเมื่อครู่นั้น ราวกับสัญญาณเตือนภัยที่ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา
ดังนั้นจึงไม่มีใครก้าวออกมาอีก
จากนั้นจึงมีคนพูดอย่างเสียงเบาว่า “ประตูขุมทรัพย์จะต้องเป็นโห้หลีเฉินเท่านั้นที่เปิดได้ ถ้าล่วงเกินเขา จะเป็นอะไรที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย และมันก็เป็นสิ่งที่แคทเธอรีนสมควรโดนทุบตีอย่างนี้แล้ว ดังนั้นพวกเราอย่าได้ยุ่งกับเรื่องนี้เลย”
“ใช่ๆ ”
คนอื่นๆ ต่างก็พากันตอบรับพอเป็นพิธี ดังนั้น ทุกคนจึงเลือกทำหน้าที่เป็นผู้ชมอย่างเลือดเย็น
เมื่อแคทเธอรีนเห็นฉากนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที
เธอคิดซะอีกว่าคนของตระกูลหยูเหล่านี้จะเป็นความมั่นใจของเธอ แต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะเลือดเย็นขนาดนี้ และพวกเขาก็ไม่สนใจกับศักดิ์ศรีของหยูฉู่สองเลย พวกเขาจึงได้ละทิ้งเธอแบบนี้
เธอยังไม่อยากตายนะ
“ฉันเป็นคนของผู้นำตระกูลหยูนะ และฉันก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำด้วย ถ้าฉันมีอันเป็นไป แผนการของผู้นำตระกูลจะถูกทำลายลง”
แคทเธอรีนทนกับความเจ็บปวดจากการถูกเตะไปทั่วทั้งตัว แล้วกรีดร้องในลำคอของเธอ
เธอกลัว
เพราะเธอเห็นเจตนาฆ่าที่โหดร้ายในสายตาของเว่ยชี และเว่ยชีก็กำลังจะฆ่าเธอแล้วจริงๆ ด้วย
แต่เสียงกรีดร้องของเธอ และคำพูดเหล่านี้ กลับไม่อยู่ในสายตาของผู้ชมกลุ่มนั้นเลย และมันก็ไม่สามารถปลุกความรู้สึกใดๆ ให้กับพวกเขาเลยด้วย
พวกเขายังคงก้มหน้ามองดูอย่างเงียบๆ และเมินเฉยต่อการถูกทุบตีของเธออย่างสิ้นเชิง
และดูท่าจะไม่มีใครคิดจะสนใจเธอด้วย
กระทั่งมองเธอถูกทุบตีจนเกือบตายอย่างหน้าตาเฉย
แคทเธอรีนเจ็บจนเกือบเป็นลม เพราะเว่ยชีลงมืออย่างหนัก และเตะเธอจนกระดูกซี่โครงของเธอเกือบหักในทุกครั้งที่เขาลงมือ
ในปากของเธอ อาเจียนออกมาเป็นเลือดอย่างอดไม่ได้
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เธอจะต้องตายอย่างแน่นอน
แคทเธอรีนตกใจกลัวอย่างมาก แล้วสายตาของเธอก็หมุนไปรอบๆ จนในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ตัวเด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมแขนของโห้หลีเฉิน
ในขณะนั้นเอง เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นก็กำลังเบิกตาที่กลมโตราวกับไข่มุกนั้น มองเธออย่างน่าสงสาร
ดวงตาคู่นั้นสดใสอย่างมาก และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของโลกที่เพิ่งจะเริ่มต้นของเธอ
จู่ๆ แคทเธอรีนก็นึกบางอย่างขึ้นได้ และตะโกนด้วยเสียงที่แหบแห้งนั้นว่า
“เด็ก…เด็กมันยังเล็ก การที่แกฆ่าฉันต่อหน้าเด็ก ไม่กลัวว่าจะทิ้งเงามืดที่น่ากลัวให้เด็กงั้นเหรอ? เธอยังเด็กขนาดนี้ จะต้องเก็บไปฝันร้ายทั้งกลางวันกลางคืนแน่”
เงามืดงั้นเหรอ?
คำพูดนี้ราวกับปุ่มหยุดชั่วคราว ทำให้การเคลื่อนไหวของเว่ยชีหยุดกะทันหัน
เขาหันหน้ากลับอย่างกะทันหัน แล้วมองแรบบิทด้วยสีหน้าที่กระวนกระวาย
เมื่อครู่เขาโกรธอย่างโหดเหี้ยม และการลงมือของเขาก็รุนแรงอย่างมากด้วย ไม่รู้ว่าจะทำให้แรบบิทตกใจกลัวหรือเปล่า
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วอย่างไม่สามารถสังเกตเห็นได้
แต่ยังคงเยือกเย็นและว่างเปล่า เพียงแค่อุ้มแรบบิทอย่างแข็งทื่อ และแทบจะไม่มองหน้าของเธอเลย
“แคทเธอรีน ทางที่ดีแกควรหาที่ซ่อนตัวไว้ให้ดี และอย่าออกมาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น ถ้าครั้งหน้าฉันยังเห็นแกอีก ฉันจะฆ่าแกอย่างแน่นอน!”
เว่ยชีข่มขู่อย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
สิ่งนี้ถึงจะเป็นการควบคุมท่าทางที่ดุร้ายในตัวออกไป
เขาก้าวไปข้างๆ โห้หลีเฉิน ช้าๆ ด้วยสีหน้าที่สั่นกลัว “ขอโทษครับ คุณผู้ชาย ผมคิดเองทำเองไปแล้ว”
คำสั่งของโห้หลีเฉินคือการเอาให้ตาย และเขาก็ยังไม่ได้ฆ่าแคทเธอรีนให้ตายด้วย
กลัวว่าจะทิ้งเงามืดให้แรบบิท ในที่สุดเขาจึงลงมือต่อไปไม่ได้อีก
โห้หลีเฉินเม้มปาก แต่กลับไม่ได้พูดอะไร
สายตาของเขาลึกและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ใดๆ เลย แม้ว่าจะติดตาม โห้หลีเฉินมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว เว่ยชีก็ยังเห็นได้แค่ความเย็นชา
บางทีการสั่งให้เอาแคทเธอรีนให้ตายจากเมื่อครู่นั้น คงเป็นความรู้สึกเดียวของโห้หลีเฉินแล้ว
เป็นความเกลียดชังที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ และความโกรธที่ยั่วยุกับเธอ
“ให้ผมอุ้มแรบบิท เองครับ ”
เขาไม่กล้าปล่อยให้แรบบิทอยู่ในอ้อมแขนของโห้หลีเฉินนานเกินไป เว่ยชีจึงรีบเอากลิ่นอายแห่งการฆ่าทั้งหมดออกจากตัวเขา แล้วยื่นมือออกไปทางแรบบิทอย่างอ่อนโยน
ผมจะอุ้มเธอเอง
ถ้าตามปรกติ แรบบิทคงโผ่เข้ามาหาเขาอย่างยิ้มระรื่นแล้ว แต่ตอนนี้ แรบบิทกลับไม่แม้แต่จะมองเขา แต่มือที่อวบอ้วนทั้งสองกลับรีบคว้าขึ้นมา
มือเล็กๆ จับหูของโห้หลีเฉินจากซ้ายไปขวา
เว่ยชีถอนหายใจอย่างเย็นชา
เฮ้อ ทูนหัวของผม แม้ว่านี่จะเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอเอง แต่เมื่อเขากล้าหาญขนาดนี้ มันจะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ เลย
เขาตกใจกลัวจนรีบเข้าไปอุ้มแรบบิทกลับมาอย่างแรง แต่กลับเห็นว่าแรบบิทจับหูของโห้หลีเฉินไว้ และแก้มเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มของเธอก็เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน จากนั้นเสียงจูบก็ดังขึ้นเธอจูบไปที่คางของโห้หลีเฉินทีหนึ่ง
สายตาที่ว่างเปล่าของโห้หลีเฉินก็สั่นอย่างรุนแรง จากนั้นเขาก็จ้องไปที่เจ้าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าอย่างงงงัน
เธอ กำลังทำอะไรกัน?!
บ้าเอ๊ย
เขาจับปลอกคอของเธอ แล้วยกขึ้นมากำลังจะเอาเธอออกไป