สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1102 ต้องจงใจแน่ๆ
เฝ้ามาได้หนึ่งคืน สมองของเย่ซือซือก็ไม่วุ่นวายเหมือนอยู่ในสงครามแล้ว แต่เหนื่อยจนสงสัยในชีวิตตัวเอง
ต่อให้เป็นผู้ป่วยอาการหนักก็ไม่เรื่องเยอะเหมือนเขา
เดี๋ยวก็ให้นวด เดี๋ยวก็จะกินน้ำ เดี๋ยวก็ให้ปอกแอปเปิล เดี๋ยวก็จะเข้าห้องน้ำ…
ช่วงเวลาที่อดหลับอดนอน เขางีบได้สองชั่วโมงก็ลุกขึ้นมาทำอะไรไร้สาระ ก่อกวนจนคนนอนหลับยากอย่างเย่ซือซือไม่ต้องนอนเลยทีเดียว
เธอกดความคับแค้นไว้เต็มอก และความคิดที่จะฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนฆ่าโห้หลีเฉินให้ตายไปเสียกลับลงไป ในที่สุดเย่ซือซือก็อดนอนจนถึงตอนเช้า เปลี่ยนกะกับเพื่อนอย่างอดรนทนไม่ไหว และจากไป
ช่วงเช้านั้นต้องทำการรักษา ไม่จำเป็นต้องให้หมอคนไหนคอยเฝ้าเป็นพิเศษ
ในช่วงก่อนที่เหล่าแพทย์จะมา เว่ยชีเฝ้าดูโห้หลีเฉิน
สายตาของโห้หลีเฉินมองไปที่ประตูอย่างใคร่ครวญ เงียบไม่พูดจาไปครู่ใหญ่ เอ่ยถาม
“เย่ซือซือกลับไปแล้ว นอนที่ไหน?”
เว่ยชีเอ่ยตอบ “อยู่ห้องรับแขก แพทย์จะถูกจัดให้ไปอยู่ที่นั่นหมด”
โห้หลีเฉิน “เธออยู่ห้องเดียวกับเสิ่นเคอหาน?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” เว่ยชีเอ่ยอธิบาย “พวกเขาอยู่ด้วยกันมาห้าปีแล้ว ตอนนี้วางแผนว่าจะกลับไปแต่งงาน ก็เลยอาศัยอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว”
ที่นี่คือต่างประเทศ เปิดกว้างกว่า
ตอนที่พวกเขาจัดห้อง ก็ต้องจัดให้คู่รักหนึ่งเดียวคู่นี้อยู่ด้วยกันแน่นอนอยู่แล้ว
ทว่าสีหน้าของโห้หลีเฉินกลับกลายเป็นย่ำแย่ลงอย่างมาก ดำทะมึนราวกับมีหมึกหยดออกมาได้
เขาเอ่ยอย่างหนักหน่วง
“คุณเรียกแพทย์มารวมตัววินิจฉัยที แผนกบำบัดก็ต้องมาทุกคน”
“หา?” เว่ยชีตกใจ “แต่คุณเย่ซือซือเพิ่งเฝ้าตอนกลางคืนมา ให้เธอพักผ่อนก่อนสักหน่อย แล้วค่อยมาตรวจดีเถอะนะ?”
โห้หลีเฉินมองเว่ยชีอย่างเย็นชา ทั้งร่างเต็มไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าอันตราย
“คุณสงสัยการตัดสินใจของฉันหรือ?”
เว่ยชี “มิกล้า” ต่อให้ในใจจะอยากแขวะแค่ไหน
คุณเขาต้องเหม็นขี้หน้าเย่ซือซือขนาดไหนถึงได้ทารุณกันขนาดนี้นะ? เด็กผู้หญิงดีๆ แบบนี้ เกรงว่าคงจะซวยไปสามชาติแปดชาติ
เย่ซือซือลากความเหนื่อยล้าทั้งสรรพางค์กายราวกับศพเดินได้ กว่าเธอเหยียบถึงห้องได้
เธอเดินเข้าห้องก็เห็นว่าบนเตียงมีร่างหนึ่งขดอยู่ กำลังหลับปุ๋ยฝันหวาน
อารมณ์ของเย่ซือซือพลันย่ำแย่ขึ้นกว่าเดิม
เธอเดินมาข้างเตียง แล้วลากผ้าห่มทั้งหมดออกมา
ชายที่สวมกางเกงในบ็อกเซอร์ขดอยู่ใต้ผ้าห่มตกใจจนลุกขึ้นนั่งทันที ลืมตาขึ้น ก็เห็นใบหน้ากะบึงกะบอนของเย่ซือซือ
เขาเอ่ยกลับอัตโนมัติตามความเคยชิน “ที่รัก เป็นอะไรเหรอ? ทำไมตื่นแต่เช้าเลยล่ะ? โกรธอะไรใครเหรอ?”
เย่ซือซือโกรธยิ่งกว่าเดิม และยังน้อยใจด้วย
“ฉันไปเฝ้าตอนกลางคืนให้ไอ้ปีศาจโห้หลีเฉินมา คุณไม่เป็นห่วงฉันสักหน่อยเลยเหรอ? คุณไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับฉันเหรอ? ทำไมคุณถึงได้นอนสบายใจเฉิบขนาดนี้ คุณรักฉันจริงๆ หรือเปล่า?”
เสิ่นเคอหานขุนลุกเกรียวทั้งตัวไปชั่วขณะ เสร็จกัน สามคำถามแสนน่ากลัวของผู้หญิง
แล้วยังมีคำถามชี้เป็นชี้ตายด้วย คุณไม่รักฉันแล้วเหรอ?
“รัก ผมต้องรักคุณแน่นอนอยู่แล้วสิ คุณคือเจ้าอ้วนของผม คือสุดที่รักของผม ดูสิ ในสายตาของผมนอกจากคุณแล้ว ยังมองผู้หญิงคนอื่นได้อีกหรือ?”
ความปรารถนาในการเอาตัวรอดของเสิ่นเคอหานรุนแรงยิ่ง รีบย้ายก้นมาข้างเตียงทันที แล้วโอบเย่ซือซืออย่างอ่อนโยน
ทว่าเย่ซือซือกลับดันเขาออก หยาดน้ำในดวงตากลิ้งไปมา
“คุณรักฉันแล้วคุณยังนอนลงอีกเหรอ? โห้หลีเฉินพูดจาหยาบคายพวกนั้นกับฉันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก คุณไม่กลัวว่าเขาจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับฉันเหรอ?”
“ไม่มีทาง”
เสิ่นเคอหานกล่าวได้หนักแน่นอย่างมาก “เขาอัมพาตครึ่งซีก ถึงแม้มีความคิดแบบนี้ ก็ไม่สามารถทำได้”
เย่ซือซือ “…”
“ตราบใดที่ไม่มีความสามารถนี้ แม้ว่าเขาจะพูดจาลามกกับฉัน คุณก็ทนได้เหรอ? เสิ่นเคอหาน คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า!”
เสิ่นเคอหานปวดหัวแทบระเบิด
“ซือซือ คุณอย่างี่เง่าเกินเหตุได้ไหม”
“ขนาดตอนนี้คุณยังคิดว่าฉันงี่เง่าเหรอ?”
เสิ่นเคอหานทึ้งหัวอย่างบ้าคลั่ง “ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ผะ ผม…”
“ไป ไสหัวออกไป!”
เย่ซือซือลากเขาลงมาจากเตียงทันที ตะคอกอย่างเดือดดาล “ฉันไม่อยากเห็นคุณ ไสหัวออกไป”
“ซือซือ…”
เสิ่นเคอหานยังคงอยากลองกล่อม ทว่ากลับถูกเย่ซือซือเตะติดๆ กันหลายที โยนเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาใส่หัวเขา ดึงดันจะไล่เขาออกไป
เสิ่นเคอหานถือเสื้อผ้ายืนอยู่หน้าห้อง ถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก
“ซือซือ คุณจะให้ผมสวมเสื้อผ้าตรงทางเดินเหรอ? ถ้าผู้หญิงคนอื่นมาเห็นคุณจะไม่หึงเหรอ?”
เสียงโกรธเกรี้ยวของเย่ซือซือดังออกมาจากในห้อง “เห็นก็เห็นไปสิ ยังไงก็ไม่ทำอะไรจริงๆ หรอก”
เสิ่นเคอหาน “…” โอเค กรรมตามสนองแล้ว
เนื่องจากสถานการณ์พิเศษของแผนกบำบัด (เย่ซือซือไม่กระตือรือร้นเข้าร่วมการรักษา หรือก็คือไม่มา) หลังจากเว่ยชีโทรแจ้งให้แพทย์คนอื่นไปวินิจฉัยทันทีแล้ว ก็มาเรียกพวกเขาด้วยตัวเอง
จากนั้นเขาก็เห็น เสิ่นเคอหานกำลังพิงกำแพงประตูหน้าห้อง และสูบบุหรี่
เว่ยชียิ้มทักทาย
“คุณหมอเสิ่น ทำไมถึงมายืนสูบบุหรี่ตรงนี้ล่ะ?”
ในห้องมีห้องสูบบุหรี่ที่จัดสรรไว้ให้โดยเฉพาะ ต่อให้แย่ยังไง ที่ระเบียงก็สามารถสูบได้ แถมยังชมวิวได้ด้วย
สายตาของเสิ่นเคอหานชี้ไปที่ประตูห้อง ถอนหายใจ
“โดนไล่ออกมาน่ะ”
“หา?” เว่ยชีนิ่งตะลึง
ทว่าเสิ่นเคอหานกลับยิ้มอย่างขอไปที “ก็เป็นผู้หญิงนี่น้า ชอบจริงจังเกินเหตุแล้วยังอารมณ์ร้อนอีก ไม่ทันทำอะไรก็งี่เง่าใส่ รอให้หายโกรธก็โอเคแล้ว”
เว่ยชีไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ เพราะงั้น ก่อนที่จะหายโกรธ เขาก็จะยืนอยู่นอกห้องแบบนี้ตลอดเหรอ?
จริงๆ เลย ความอดทนเป็นเลิศจริงๆ เหมาะกับการฝึกไทเก๊กสุดๆ
“คุณเสิ่น วันนี้มีประชุมวินิจฉัยรวมแพทย์ทั้งหมด พวกคุณก็ควรไปได้แล้ว” เว่ยชีกล่าวประเด็นหลัก
เสิ่นเคอหานดับบุหรี่ทันที ให้ความร่วมมืออย่างมาก
“ฉันไปกับนายก็โอเคแล้ว เมื่อคืนซือซือต้องอดนอน ให้เธอนอนเถอะ”
เขาจะได้ไปฆ่าเวลาเล่นได้พอดี
เว่ยชีลำบากใจเล็กน้อย ยากที่จะเอ่ยปาก
แต่ก็กัดฟันพูด “ต้องให้เย่ซือซือไปด้วยเท่านั้น”
เสิ่นเคอหานขมวดคิ้ว “เมื่อคืนเธอไม่ได้นอนเลยสักนิด อดหลับอดนอนมานะ”
มุมปากเว่ยชีอมยิ้ม ท่าทีแน่วแน่
“คุณหมอเสิ่น อาการของคุณโห้สำคัญมากๆ คุณเห็นใจกันหน่อยนะ ให้คุณหมอเย่อดทนอีกสักหน่อย พอวินิจฉัยเสร็จแล้วค่อยนอน”
ในโรงพยาบาลเมื่อเจอคนไข้ที่รับมือยาก ก็อาจจะไม่ได้นอนติดกันสองสามวัน
เสิ่นเคอหานเข้าใจได้ เพียงแค่คิดว่าโห้หลีเฉินยังไม่ถึงขั้นนั้น ดึงดันจะให้เย่ซือซือไปด้วย เป็นการทรมานเธอทั้งนั้น
แต่ว่า เห็นความแน่วแน่ของเว่ยชี และสถานะของพวกเขาแล้ว เสิ่นเคอหานครุ่นคิด ก็ไม่ได้ปฏิเสธอีก
ขณะเดียวกัน เย่ซือซือเพิ่งอาบน้ำเสร็จ สวมชุดนอน กำลังจะมุดขึ้นเตียงนอนหลับอย่างสบายตัวสบายใจ
แล้วก็ได้ทราบข่าวร้ายเช่นนี้
เธอเกรี้ยวจนม้วนผ้าห่มเป็นก้อนทุ่มลงพื้น และใช้เท้าย่ำแรงๆ หลายที
โห้หลีเฉินต้องจงใจแน่ๆ !
จงใจทรมานเธอ!
จงใจไม่ให้เธอได้นอน!
เป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าเธอไม่ถูกทรมานจนตายก็คงหัวเสียจนตาย
เย่ซือซือสุดจะทนแล้ว เดินไปข้างหน้าต่าง แล้วกดโทรออก
โทรติดแล้ว ก็เอ่ยกล่าวด้วยความรีบร้อนไม่อยากจะทน
“เจ้าบ้านหยู อาการป่วยของโห้หลีเฉินฉันดูแลต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ ค่ะ เงินค่าตอบแทนทั้งหมดฉันจะไม่เอาสักแดงเดียว คุณย้ายฉันออกไปได้ไหม?”