สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1107 ข่าวคาว
ฝู้ยวนงุนงง “ยังไง?”
หยูฉู่สองเอ่ย “ถ้ามีหญิงสาวปรากฏอยู่ข้างกายโห้หลีเฉิน ถ้าแรบบิทมีแม่แล้ว และถ้าข่าวนี้รู้ไปถึงหูของคนตระกูลเย้น คุณว่าพวกเขาจะยังนิ่งเฉยอยู่ไหม?”
ฝู้ยวนเข้าใจขึ้นมาทันที
“คุณเจ้าบ้าน คุณอยากใช่ประโยชน์จากเรื่องนี้ล่อให้คนตระกูลหยูออกมาหรือ?”
“ตระกูลหยูหลบซ่อนลึกเกินไป ฉันตามหามีหนึ่งปีกว่า ก็ยังไม่ได้เบาะแสใดๆ ทำได้แค่ให้พวกเขาลอยขึ้นมาผิวน้ำเอง”
ฝู้ยวนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ความคิดของคุณเจ้าบ้านยอดเยี่ยมยิ่ง เป็นฉันที่โง่เง่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดถึงจุดนี้เลย แต่ว่า…”
ถ้าโห้หลีเฉินและเย่ซือซืออยู่ด้วยกันแล้ว จากท่าทางหยิ่งยโสของเย้นหว่าน อาจจะปล่อยเรื่องของโห้หลีเฉินไปเลยก็ได้ แล้วไม่ออกมาอีก หากดันทำพังขึ้นมา พวกเราก็จะเสียโอกาสตามหาตระกูลเย้นไปเลย
หยูฉู่สองหัวเราะเสียงเย็น “โห้หลีเฉินไม่มีทางตกหลุมรักเย่ซือซือ นอกจากเย้นหว่านแล้ว เขาไม่พอใจใครเลย ที่เขากับเย่ซือซือเป็นเช่นนี้ หนึ่ง คือเป็นเพราะแรบบิท แต่สาเหตุสำคัญที่สุด ก็คือแผนซ้อนแผน จงใจแสดงละครให้พวกเราดู”
ฝู้ยวนเอ่ยถาม “ทำไมเขาต้องแสดงละครด้วย?”
“อยากปิดกั้นสายตาของฉัน ให้ฉันยอมแพ้การสืบหาเบาะแสของตระกูลเย้น จะได้ทำให้เขามีโอกาสยื่นมือไปตามหาเย้นหว่าน น่าเสียดาย ต่อให้เขาจะแสดงสมจริงขนาดไหน ฉันก็ไม่มีทางเชื่อ”
สายตาเฉียบคมของหยูฉู่สองส่องประกายเย็นเยียบ ควบคุมทุกอย่างอย่างสุขุมมั่นคง
…
เรื่องของโห้หลีเฉินและเย่ซือซือ ถูกแพร่กระจายออกไปด้วยข่าวลือที่เกินจริง
ลือออกไปอย่างเร็วไวและวุ่นวาย
บ้างกล่าวว่าโห้หลีเฉินพึงพอใจเธอ บ้างบอกว่าเธอตกโห้หลีเฉินได้สำเร็จ
บ้างก็กล่าวว่าพวกเขากำลังมีความสัมพันธ์คลุมเครือ บ้างก็บอกว่าพวกเขาอยู่กินกันแสนรักแสนหลงกัน
ไม่ว่าจะเวอร์ชันไหนก็ล้วนมีหมด และหลักฐานที่แน่ชัด ถึงขั้นที่มีรูปที่ทั้งสองคนนอนซ้อนบนล่างอยู่บนเตียงด้วย
มุมสมจริง ไม่มีร่องรอยการตัดต่อใดๆ
เรื่องนี้ถูกน้ำไปพูดสนุกปากอยู่ในสังคมชนชั้นสูง และแพร่หลายไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ
และแน่นอนว่าเย่ซือซือก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน
ตอนที่เย่ซือซือได้ฟังข่าวนี้ ก็ทั้งช็อก ทั้งโมโหเป็นบ้าเป็นหลัง
นี่มันข่าวโคมลอยทั้งนั้น นี่มันใส่ร้ายกันต่างหาก!
เธอวิ่งไปซักถามโห้หลีเฉินอย่างโกรธเกรี้ยว
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมคนนอกถึงปล่อยข่าวลือของพวกเราแบบนี้ล่ะ?”
โห้หลีเฉินนั่งอยู่บนรถเข็น ค่อยๆ หันมาช้าๆ สายตาเฉียบแหลมทอดมาที่ร่างของเย่ซือซือด้วยความหนาวเหน็บ
“คุณไม่รู้เหรอ?”
น้ำเสียงของเขา ราวกับว่าเธอเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้?
เย่ซือซือโมโหยิ่งกว่าเดิม “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ฉันต่างหากที่เป็นผู้เสียหายที่ไม่มีความผิด ถูกแพร่ข่าวคาวแบบนี้กับคุณแบบไร้สาเหตุ ครอบครัวและเพื่อนของฉันจะมองฉันยังไง? ถ้าเกิดพ่อแม่ของเสิ่นเคอหานรู้เข้า จากนี้ฉันคงแต่งกับเขาลำบากแล้ว”
ได้ยินคำพูดพวกนี้ สีหน้าของโห้หลีเฉินก็พลันย่ำแย่ ดูดำทะมึน
“คุณแน่วแน่ที่จะแต่งกับเขาให้ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“แน่น่ะสิ!” เย่ซือซือไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ฉันอยู่กับเขามาห้าปีแล้ว พวกเรารักกันจริง ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว”
ห้าปี…
แววตาโห้หลีเฉินไหวระริก โทสะที่ทะลักขึ้นมาก็ค่อยๆ สลายไปเล็กน้อย
เขาหมุนรถเข็น และหันไปมองนอกหน้าต่าง
ทิศทางนั้น ตรงกับตำแหน่งปราสาทหลักที่หยูฉู่สองอยู่พอดี
“ผู้ว่าจ้างของเธอเหมือนจะไม่สนใจเรื่องการแต่งงานของคุณนะ เขาคิดแค่ว่าจะใช้ประโยชน์จากคุณให้มากที่สุดได้ยังไง”
ได้ฟัง สีหน้าของเย่ซือซือก็ขาวซีด ใจเสียเล็กน้อย
โห้หลีเฉินพูดตรงไปตรงมา เอ่ยความสัมพันธ์ที่ระหว่างเธอกับหยูฉู่สองที่ไม่อาจเปิดเผยได้ออกมาตรงๆ เลย
เธอคือคนที่หยูฉู่สองส่งมา เขารู้ไส้รู้พุงมาตั้งนานแล้ว
เขาจึงสงสัยว่าข่าวนี้ เธอเป็นคนกระจายออกไปด้วยตัวเอง
เย่ซือซืออึดอัดใจเล็กน้อย และก็เพิ่งรู้ว่าตัวการของก็คือหยูฉู่สอง
เขาดักฟังข่าวทั้งหมดของเธอ ดังนั้นจึงจงใจกระจายข่าวระหว่างเธอและโห้หลีเฉินออกไป
“งะ งั้นรูปนั้นคืออะไร? ฉันไม่ได้เป็นคนถ่ายนะ!”
เย่ซือซือกอบกู้ความบริสุทธิ์สุดท้ายอันน้อยนิด
ที่ติดตั้งอยู่บนคอเธอเป็นแค่เครื่องดักฟัง บนร่างกายไม่ได้มีกล้องอะไรพวกนั้นเลย
โห้หลีเฉินกดมุมปากยิ้มเย็น แววตาเย็นเยียบราวน้ำแข็ง
เอ่ยเสียงหนาวเหน็บ “กล้องวงจรปิดห้องฉัน”
“คุณติดตั้งเองเหรอ?”
จากนั้นก็ถูกหยูฉู่สองแฮ็กระบบ ขโมยรูปไป…
“ไม่ใช่” เสียงหนาวเหน็บของโห้หลีเฉินดังขึ้นขัดการคาดเดาของเย่ซือซือ
เย่ซือซือพลันขนลุกเกรียว มองไปรอบๆ ด้วยความตึงเครียด ไม่ใช่กล้องวงจรปิดที่โห้หลีเฉินติดตั้ง งั้นก็เป็นกล้องที่หยูฉู่สองลอบติดไว้!
หรือกล่าวคือ ไม่เพียงแค่เสียง แม้แต่คลิปหยูฉู่สองก็จับจ้องโห้หลีเฉินอยู่ตลอดเวลา ในระดับที่ปกปิดไว้มิดชิด
ช่างน่ากลัวจริงๆ
เย่ซือซือหน้าขาวซีด “งั้นตอนนี้กล้อง…”
“เก็บกวาดไปแล้ว”
ได้ยินแล้วเย่ซือซือถึงโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ความรู้สึกที่ถูกคนจับตามองอยู่ทุกเวลาแบบนั้น มันแย่สุดๆ
แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่หยูฉู่สองส่งมาจับตาดูโห้หลีเฉิน…
แต่ หยูฉู่สองเล่นสกปรกเกินไปจริงๆ หน้าที่ของเธอมีแค่จับตาดูเขาเท่านั้น ไม่ใช่ถูกหยูฉู่สองหลอกใช้แบบนี้ แล้วยังถึงกับทำลายชื่อเสียงและการแต่งงานในอนาคตของเธอเองอีก
“คุณโห้ คุณคิดจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?” เย่ซือซือเอ่ยถาม “ยังไงข่าวลือพวกนั้นก็เป็นของปลอม ระหว่างคุณกับฉันก็ไม่มีความสัมพันธ์อันใดต่อกัน แบบนี้ทำให้ภรรยาคุณ และแฟนของฉันเข้าใจผิด ล้วนไม่ใช่เรื่องดี”
“อืม ภรรยาฉันเป็นคนขี้งกมาก”
พูดถึงเย้นหว่าน แววตาของโห้หลีเฉินก็อ่อนโยน อาลัยอาวรณ์
แม้แต่น้ำเสียงยังนุ่มนวลขึ้นมาไม่น้อย “ถ้าเธอได้ข่าวนี้ ดูเห็นรูปนี้ ต้องบึ่งไปหาตระกูลหยูโดยไม่สิ้นอะไรทั้งสิ้น…”
ขณะกล่าว โห้หลีเฉินก็ชะงัก มองเย่ซือซืออย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “แล้วฆ่าเธอกับมือ”
เย่ซือซือสะดุ้งโหยงไปทั้งตัว
เธอถดตัวถอยหลังไปสองก้าว เอ่ยอย่างหวาดหวั่น “ระหว่างฉันกับคุณมันไม่มีอะไรทั้งนั้น!”
“รูปเป็นรูปจริง”
เย่ซือซือถูกทิ่มแทงใจ แล้วเห็นท่าทางของโห้หลีเฉินนั้น ดูไม่คิดจะช่วยเธอเลยแม้แต่น้อย
เธอโกรธกัดฟันกรอด “ตระกูลหยูมีการคุ้มกันหนาแน่น ต่อให้ภรรยาของคุณอยากเข้ามาฆ่าฉัน ก็ต้องมีความสามารถถึงจะบุกเข้ามาได้ ก่อนเธอจะทำสำเร็จ คุณก็ระวังตัวไว้ล่ะ แฟนของฉันก็ใจแคบมาก และไม่ยอมใครด้วย
คุณระวังไว้ล่ะ เขาวางยาในยาของคุณได้ ให้คุณไปเจอพยายมทุกนาที”
โห้หลีเฉินไม่สนใจ “ตามสบาย ตราบใดที่เขามีความสามารถนี้”
เย่ซือซือ “…”
ยาของโห้หลีเฉิน ผ่านมือหมอหลายต่อหลายคน หากมีปัญหาอะไร อย่างไรก็ต้องมีคนมองออก
อยากวางยาเขาในสถานการณ์แบบนี้ เว้นเสียแต่จะสมรู้ร่วมคิดกับทุกคน ไม่อย่างนั้นก็เป็นแค่ความเพ้อพกของคนโง่เขลา
ไฟโทสะข่มอยู่ในทรวงอก ขึ้นไม่ได้ ลงก็ไม่ได้
เย่ซือซือถลึงตาใส่โห้หลีเฉินแรงๆ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ย
“ถ้าภรรยาคุณบุกเข้ามาในตระกูลหยูจริงๆ จะเป็นอันตรายมาก คุณไม่คิดจะชี้แจงเรื่องนี้เลยเหรอ? อย่างน้อยก็เพื่อปกป้องภรรยาของคุณ”
เย่ซือซือตั้งความหวังสุดท้ายอันน้อยนิดกับเขา
โห้หลีเฉินมองตรงออกไปนอกหน้าต่าง ในแววตาหนาวเหน็บนั้น มีความเฝ้าคอยสายหนึ่งอยู่ด้วย
เขาเอ่ยทีละคำ ราวกับเป็นคำปฏิญาณ
“หากเธอมาได้ ฉันจะปกป้องเธอ”