สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1128 พาหนูไปหาพี่ชายดีมั้ย
แรบบิทพลันร้องไห้หนักขึ้น
เสียงร้องไห้โฮ มือเล็กๆ กำหมัดแน่น ตัวแข็งทื่อในอ้อมกอดของเย้นหว่าน แต่ไม่กอดเธอ
เทียบกับเมื่อก่อนที่เธอเข้าใกล้เย่ซือซือ ก็ยังรักษาระยะห่างกว่า
แรบบิทระวังตัวไม่ยอมเข้าใกล้ ทำให้เย้นหว่านรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว เธอกอดลูกสาวทำตัวไม่ถูก ตบหลังของเธอเบาๆ
เธอก้มหน้า จูบหัวลูกสาว
พูดเสียงสะอื้น “ขอโทษจ้ะ แม่ไม่ดีเอง ไม่ได้อยู่กับหนู”
“แม่ผิดเอง แม่จะแก้ไข ต่อไปแม่จะอยู่กับแรบบิททุกวัน ดีมั้ยจ๊ะ”
“แรบบิทเด็กดี แม่รับปาก ปีสองปีนี้ แม่จะชดใช้ให้หนูอีกหลายเท่า ต่อไปแม่จะไม่จากหนูไปอีก”
ทุกถ้อยคำที่พูดออกไป เป็นคำพูดที่เย้นหว่านเก็บไว้ในใจ
ความรู้สึกผิดและติดค้างกับลูกสาวของเธอ และความรักที่ไม่มีอาจละทิ้งได้
แรบบิทยังคงร้องไห้กระจองอแง แต่เสียงเบาลงบ้าง ไม่กรีดร้องแสบหูแล้ว
เธอยังคงกอดเย้นหว่านตัวแข็ง ไม่ปฏิเสธ แต่ไม่ใกล้ชิด
เหมือนกับกำลังงอน
“สถานะของคุณเปลี่ยนแปลงกะทันหัน แรบบิทยังเล็ก จิตใจถูกกระทบกระเทือนรุนแรง ไม่มีทางจะคุ้นชินทันที ไม่ต้องร้อนใจ ค่อยเป็นค่อยไปนะ”
โห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านมือหนึ่ง อีกมือลูบผมแรบบิทเบาๆ
ในสายตาเขาเต็มไปด้วยความรักและความสุข
กอดเย้นหว่าน และกอดแรบบิท ในอ้อมกอดคือภรรยาและลูกสาวที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา
ชีวิตที่มืดมนและน่าสังเวชของเขา ราวกับว่าจากสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ในที่สุดก็เดินออกมาได้
“แรบบิท หนูอย่าร้อง อยากที่พี่ชายมั้ยคะ”
ได้ยินเช่นนี้ เสียงร้องของแรบบิทก็หยุดลงทันที กะพริบตาที่ร้องไห้จนตาแดง มองโห้หลีเฉิน
“พี่ชาย?”
ตอนที่เธอพูดออกมา แววตาเต็มไปด้วยความรอคอย
แรบบิทฉลาดมาก เธอรู้ว่าตัวเองมีพี่ชายฝาแฝด อายุเท่ากันกับเธอ เป็นคนที่ใกล้ชิดปาปากับแม่มากที่สุด”
เธออยากเจอพี่ชายมาตลอด
พยักหน้าหงึกหงัก “หนูไม่ร้องแล้วค่ะ ปาปาพาหนูไปหาพี่ชายหน่อย”
โห้หลีเฉินมองลูกสาวของตัวเองอ่อนโยน ยิ้มพลางพูด
“แม่ถึงจะรู้พี่ชายอยู่ที่ไหน ต้องให้แม่พาหนูไป หนูให้แม่พาไป”
แรบบิทอึ้งไป หันไปมองเย้นหว่านที่มองเธออ่อนโยน
ดวงตาของเธอแดงก่ำ อยากจะร้องไห้อีก
โห้หลีเฉินหลอกล่อต่อ “หนูเรียกแม่คำเดียว แม่จะพาหนูไปนะ”
ได้ยินดังนั้น เย้นหว่านก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
แววตาของเธอที่มองแรบบิทร้อนรน เฝ้ารอคอยที่จะได้ยินเธอเรียกแม่
แม่ คำนี้สำคัญเหลือเกิน หวานเหลือเกิน
แรบบิทกะพริบขนตาเปียกชื้น มองเย้นหว่านครู่ใหญ่ รู้สึกสับสน
ครู่ใหญ่ต่อมา เธอเบะปาก “เธอไม่ใช่แม่หนู”
เย้นหว่านตะลึงงัน
รู้สึกเหลือเชื่อ นึกไม่ถึงที่ชอบเธอมาตลอด จะปฏิเสธอย่างนี้
ตอนอยู่ที่ตระกูลหยู แรบบิทชอบใกล้ชิดกับเธอ และอยากให้เธอเป็นแม่ด้วย ไม่ใช่เพราะชอบเธอหรือ
ตอนนี้ทำไมถึงได้…
โห้หลีเฉินกลัวว่าเย้นหว่านจะเสียใจคิดมาก รีบตบไหล่ปลอบใจเธอ ก้มหน้าพูดกับแรบบิทจริงจัง
“แรบบิท เธอคือเย้นหว่านแม่ของหนู แม่เสี่ยงอันตรายมาที่ตระกูลหยู ช่วยพวกเราออกมา แม่จะพาพวกเราไปหาพี่ชาย กลับบ้านที่แท้จริงของเราไง”
แรบบิทเชื่อพ่อ แต่เธอมองเย้นหว่าน ก็ยังคงไม่ยอมพูด
มือเล็กๆ กำแน่น ไม่ยอมเข้าใกล้เธอ
โห้หลีเฉินค่อนข้างหงุดหงิด นึกไม่ถึงครั้งแรกที่เจอเย้นหว่าน ลูกสาวจะมีปฏิกิริยาอย่างนี้
เย้นหว่านจะเสียใจ
เขาขมวดคิ้วจะพูดอะไร แต่เย้นหว่านกลับยิ้ม
น้ำเสียงอ่อนโยนมาก “ไม่เป็นไรจ้ะ แม่จะไม่บังคับให้หนูเรียกแม่ ขอแค่หนูอยู่กับแม่ ก็เป็นความสุขและพอใจที่สุดแล้ว”
เธอโอบกอดแรบบิท ราวกับกอดโลกทั้งใบของเธอ
กอดในอ้อมกอดนุ่มนวล นี่คือลูกสาวที่เธอรักที่สุด
เย้นหว่านหันหน้าไปมองโห้หลีเฉิน “ให้เวลาเด็กปรับตัวหน่อยนะคะ”
โห้หลีเฉินพยักหน้าจนใจ
แขนของเขากอดแน่นเย้นหว่าน โอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด
ริมฝีปากของเขาขยับ ครู่ใหญ่ ถึงจะพูดขึ้นแผ่วเบา
“งั้น ร่างกายของเขา….เป็นยังไงบ้าง”
ตอนเกิดร่างกายอ่อนแอ เกือบไม่รอดชีวิต ตอนนั้นป่ายฉีพาเย้นหว่านกับลูกชาย หนีภยันตรายตลอดทาง
ในเงื่อนไขอย่างนั้น โอกาสรอดของเด็กยิ่งน้อยลง
และยิ่งเป็นเด็กอายุครรภ์ห้าเดือนครึ่งที่คลอดก่อนกำหนด
เย้นหว่านพิงศีรษะกับไหล่โห้หลีเฉิน ริมฝีปากขยับนิดหนึ่ง เต็มไปด้วยความรักที่อ่อนโยน
“เขาสบายดีค่ะ แข็งแรงมาก ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร”
ตอนนั้น แม้ว่าป่ายฉีจะจู่ๆ โผล่มา แต่ความจริงแล้ว เขาเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ตั้งแต่แรกที่สังเกตเห็นโห้หลีเฉินสีหน้าแปลกไป ป่ายฉีก็ใส่ใจ ประกอบกับตอนหลังเย้นหว่านเกิดเรื่อง ป่ายฉีจึงแอบสืบมาตลอด
ตอนที่เขาสืบหาเบาะแสได้ ก็บังเอิญพอดี โห้หลีเฉินส่งคนมาติดต่อเขา จะแอบรับเขาไปตระกูลหยู
แต่ความเคลื่อนไหวของโห้หลีเฉินถูกหยูฉู่สองพบเข้า และถูกทำลายลง
แต่ป่ายฉีเตรียมพร้อมเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาอยู่ข้างนอก แอบลงมือ หยูฉู่สองไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ
ตอนที่สถานการณ์เสี่ยงอันตรายสุดขีดแคทเธอรีนผ่าคลอดให้เย้นหว่าน เขารีบไปถึงทันเวลา
เขาเตรียมพร้อมเต็มที่ เตรียมยารักษาไปเพียงพอ รับมือโห้หลีเฉินเกิดเรื่อง หรือเย้นหว่านคลอดก่อนกำหนดพร้อมกัน
จึงช่วยเย้นหว่านและลูกๆ ได้ทันเวลา
เพียงแต่สถานการณ์ของเด็กทารกผู้หญิงไม่เป็นอย่างที่คิด สถานการณ์ของเด็กพิเศษ ต้องแช่ในน้ำพุร้อนถึงจะรอดชีวิต ตอนนั้นเขาจึงต้องเก็บเด็กไว้
ส่วนเด็กผู้ชายในความคุ้มครองของเขา ปลอดภัยดี
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในที่สุดโห้หลีเฉินก็โล่งใจ รู้สึกยกภูเขาออกจากอก
ลูกชายปลอดภัยถือเป็นข่าวดี
เช่นนี้ พวกเขาก็จะได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัวจริงๆ
“คุณฟื้นตอนไหนหรือครับ”
โห้หลีเฉินถามอีก
เขามีคำถามมากมาย ขอแค่เกี่ยวกับเย้นหว่าน เขาใส่ใจทั้งหมด
เว่ยชีก็พูดขึ้น “จริงสิ คุณนาย คุณฟื้นตอนไหน ตอนนั้นผมตรวจสอบข่าวแล้วบอกว่าคุณเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลังจากคุณผู้ชายฟื้นแล้ว แทบจะรับไม่ได้ ช่วงนั้นคุณผู้ชายเหมือนศพเดินได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องมีชีวิต แรบบิทถึงจะมีชีวิต เกรงว่าคุณผู้ชายคงจะ…”
เว่ยชีไม่ได้พูดต่อ เมื่อพูดถึงนี้ ยังสะอึกสะอื้นด้วย
ช่วงเวลานั้น แค่ย้อนคิด ก็ทำให้รู้สึกมืดหม่นจนหายใจไม่ออก ชีวิตนี้ เขาไม่เคยเห็นโห้หลีเฉินตายทั้งเป็น
เย้นหว่านกอดแขนแรบบิทแน่น เพิ่งจะหยุดร้องไห้ น้ำตาก็ไหลลงมาอีก
โห้หลีเฉินเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารเหลือเกิน
จ้องมองเว่ยชีหงุดหงิด “ให้นายพูดมากหรือไง”
เขาพูดพลางปลอบใจเย้นหว่าน “ไม่ได้น่ากลัวขนาดที่เขาพูดครับ ตอนนั้นผมแค่อารมณ์ไม่ค่อยดีก็เท่านั้น”
มองชายหนุ่มแกล้งท่าทางสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในใจของเย้นหว่านรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน