สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1137 คุณชอบกินรสชาติไหน
เย้นหว่านตะลึงจริงๆ คิดอยู่ว่าแองเจล่าทำอาหารอลังการขนาดนี้เป็นเพราะว่าอยากจะฉลองที่พวกเขาสำเร็จรึเปล่า?
เธอเงยหน้ามองไปทางแองเจล่า กลับเป็น สาวน้อยคนนี้ตอนนี้กำลังจ้องโห้หลีเฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ
ลูกตานั้นแทบจะติดอยู่บนหน้าของโห้หลีเฉินแล้ว
“คุณโห้ คุณชอบรสชาติแบบไหนหรอ?ที่ฉันคิดว่าอร่อยก็ได้ทำไว้อย่างละชุด คุณจะลองดูไหม?”
แองเจล่ามองโห้หลีเฉินเหมือนกับถวายสมบัติ เหลือเพียงแต่เอาแซนด์วิชไปวางไว้ในจานของโห้หลีเฉินแล้ว
โห้หลีเฉินสายตาเฉื่อยชา หันไปมองเย้นหว่านอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า : .” รสชาติการกินของฉันเหมือนกับเธอ”
เมื่อก่อนตอนที่ให้เย้นหว่านชิมกับข้าว เธอชอบอะไร เขาเองก็ชอบกินอันนั้น
แองเจล่ามองเย้นหว่าน “เสี่ยวหว่านตอนนี้ยังตกอยู่ในการสะกดจิต การสะกดจิตนี่ผลกระทบแรงมาก จะทำให้คนชอบของคนเปลี่ยนไปด้วย ที่จริงรสชาติของเสี่ยวหว่านในตอนนี้ คือรสชาติการกินของเย่ซือซือ ไม่ใช่ของเธอคนเดิม ดังนั้นที่เธอชอบกินก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน”
หมายความว่า ที่เย้นหว่านชอบกินตอนนี้ กับรสชาติที่โห้หลีเฉินความชอบก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ดังนั้นเขาก็เลยยังต้องตอบว่าความชอบของเขาคืออะไร
โห้หลีเฉินกลับพูดจางๆ ว่า “เธอชอบอะไร ฉันก็ชอบอะไร”
ไม่ว่า รสชาติการกินของเธอจะเปลี่ยนไปยังไง
แองเจล่าตะลึงแล้วแข็งทื่อ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคำตอบอย่างนี้ นี่มันก็……
“โรแมนติกมาก อ่อนโยนมาก ตามใจเหลือเกิน!”
มือน้อยของแองเจล่าปิดหน้าไว้ ในตาเต็มไปด้วยความหวานสีชมพูเหมือนดูซีรีส์เกาหลี
เย้นหว่านเงียบ โห้หลีเฉินก็ไม่ใช่ดารา แองเจล่าไล่ตามแบบนี้ก็รู้สึกหดหู่เหมือนกัน
แต่เห็นเป็นสาวน้อย เย้นหว่านเองก็ไม่ได้เถียงกับเธออย่างใจแคบ
เธอเอาแซนด์วิชรสที่โห้หลีเฉินชอบมาชิ้นหนึ่ง แล้ววางไว้บนจานของเขา
“กินอาหารเช้าเถอะ เดี๋ยวนมเย็นแล้ว”
โห้หลีเฉินป่วยมานานแล้ว เย้นหว่านก็ได้ชินกับการให้โห้หลีเฉินดื่มนมแล้ว
พวกกาแฟที่หรูหราแบบนั้น เหมือนว่าจะห่างไกลออกไปจากประธานท่านนี้แล้ว
โห้หลีเฉินพยักหน้าแล้วเอาแซนด์วิชขึ้นมากินอย่างงดงาม
“ที่แท้โห้หลีเฉินชอบกินรสชีสนี่เอง”
แองเจล่าจ้องมองที่โห้หลีเฉิน ได้จดจำรสชาติที่เทพบุตรชอบกินไว้ในใจ
เย้นหว่านหมดหนทางจริงๆ ขี้เกียจสนใจเธอแล้ว
โห้หลีเฉินยิ่งนิ่ง กินอาหารเช้าอยู่อย่างงดงาม ไม่ถูกสายตาที่เร่าร้อนนั้นรบกวนเลย
ทุกคนกำลังกินข้าวเช้ากันอยู่ แองเจล่าเองก็นั่งลง
แต่กลับไม่มีความคิดกินอะไรเลย เอาแต่ให้อาหารตา
เธอได้มองโห้หลีเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ได้ถามต่อว่า : “คุณโห้ ขาของคุณสามารถรักษาหายไหม?”
โห้หลีเฉินตอบจางๆ ทีหนึ่ง “อื้ม”
แองเจล่ายิ่งตื่นเต้นเข้ามาใหญ่ “ดีจังเลย!ขนาดคุณนั่งรถเข็นยังหล่อขนาดนี้ ลุกขึ้นมา บวกกับรูปร่างและออร่าความเป็นนายแบบ นั่นมันหล่อมากเลย!”
โห้หลีเฉิน: “……..”
ไม่สนใจ กินแซนด์วิชที่เย้นหว่านให้เขาต่อ
เย้นหว่านพยายามไม่สนใจสาวน้อยบ้าๆ บอๆ ที่อยู่ตรงข้าม
และแล้ว ถึงแม้แองเจล่าจะสนุกคนเดียว ก็สามารถสนุกได้อย่างมีความสุข
ไม่เพียงแต่พูดไม่อยู่ เห็นโห้หลีเฉินกินแซนด์วิชจนหมดแล้ว ก็รีบเอาแซนด์วิชชีสไปวางในจานของโห้หลีเฉินอย่างรวดเร็ว
“คุณโห้กินเยอะๆ หน่อยนะ”
โห้หลีเฉินมองแซนด์วิชในจาน ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเหมือนไม่พอใจ
การกินร่วมโต๊ะเป็นขีดจำกัดความอดทนของเขาแล้ว เขาไม่ชอบที่สุดก็คือของกินที่คนอื่นเตะต้องแล้ว
ตอนนี้แค่มองจาน เขาก็ไม่มีความอยากแล้ว
วางภาชนะลงด้วยสีหน้าที่เย็นชาโห้หลีเฉินพูดอย่างเข้มๆ ว่า “ฉันกินเสร็จแล้ว”
พูดไป เขาก็มองไปทางเย้นหว่าน แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เธอค่อยๆ กัน ฉันกลับไปรอเธอที่ห้องนะ”
ขนมปังในมือของเย้นหว่านพึ่งกินไปครึ่งหนึ่ง ได้แต่พยักหน้า
โห้หลีเฉินเลื่อนรถเข็นค่อยๆ จากไป
แองเจล่ามองแผ่นหลังที่จากไปของเขา เต็มไปด้วยความเสียดายและผิดหวัง แทบจะหวังวิ่งตามหลังของเขาไปแล้ว
เย้นหว่านมองแซนด์วิชที่อยู่ในจานของโห้หลีเฉิน แล้วมองท่าทางที่บ้าผู้ชายของแองเจล่า ก็ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถ้าบ้าผู้ชายก็ช่างเถอะ คิดซะว่าเธอแค่เปิดโหมดไล่ตามดารา ก็สามารถทนการกระทำของสาวน้อยคนนี้ได้
แต่ถ้าทำเกินไป กระทบต่อการใช้ชีวิตแล้วละก็ นั้นห้ามเลย
โห้หลีเฉินตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้แทบจะไม่ได้กินอะไรเลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแองเจล่าวุ่นวาย ก็จะไม่มีทางกินเพียงแซนด์วิชอันเดียว
เย้นหว่านก็ได้วางซ้อมลง แล้วมองแองเจล่าอย่างจริงจัง
“แองเจล่า”
“ทำไมหรอ?” แองเจล่าได้ตอบไปอย่างนั้น สายตาก็ยังมองในทางที่โห้หลีเฉินจากไป ไม่อยากหันกลับมาเลย
คิ้วของเย้นหว่านขมวดเล็กน้อย แล้วกดเสียงลง “แองเจล่า โห้หลีเฉินไม่ใช่ดารา เธอเอาแต่จ้องเขาแบบนี้จะทำให้เขามีปัญหา อีกอย่างเขาก็แต่งงานแล้ว ผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกัน”
ได้ยินแบบนั้น แองเจล่าก็ได้หันหน้ามาช้าๆ
ในตาของเธอมีความไม่พอใจไปแว๊บหนึ่ง จากนั้น ก็ได้หัวเราะแล้วอ้อมโต๊ะไป เดินมาควงแขนของเย้นหว่านไว้อย่างสนิทสนม
น้ำเสียงอย่างไร้เดียงสา “พี่เสี่ยวหว่าน พี่ก็รู้ว่าฉันชอบพวกดาราและอปป้าที่หล่อๆ ฉันแค่เห็นว่าคุณโห้นั้นหล่อกว่าพวกดารา ก็เลยชอบเขาเฉยๆ ฉันแค่เอาเขาเป็นไอดอลคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีความคิดอย่างอื่นเลย พี่อย่าใจแคบนักสิ”
เย้นหว่านชะงักกะทันหัน กลัดกลุ้มในใจอย่างพูดไม่ออก
กลับกลายเป็นเธอที่ใจแคบหรอ?
……
ข้าวเช้าก็ได้เลิกกันอย่างไม่เป็นสุข เย้นหว่านเองก็ไม่ได้กินต่อแล้ว กลับห้องไปอย่างไม่เป็นสุข
พอถึงตอนเย็น เฮเลนา เมย์ก็กลับมาแล้ว
เธอเป็นผู้หญิงที่อายุใกล้จะ 60 แล้ว ถึงแม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่บำรุงรักษาได้ดีมาก ดูเหมือนพึ่งจะอายุ 30 กว่าปี ทาลิปสีแดงไว้ที่ปาก ทันสมัยมาก
หลังจากที่เธอกลับมา ก็ได้ทักทายเย้นหว่านพวกเขาอย่างธรรมดา ไม่นานก็พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการแก้การสะกดจิต
“การสะกดจิตของพวกเธอเป็นเวลานาน ช่วงเวลานี้เองก็เลยทำให้เขาเข้าถึงกับการแสดงมากเกินไป ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกพวกเธอแล้ว ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ต้องมีผลข้างเคียง ผลข้างเคียงพวกนี้ หลังจากที่แก้การสะกดจิต ก็น่าจะไม่มีแล้ว แต่ว่า จะแก้การสะกดจิตของพวกเธอให้หมด ก็ต้องไปทีละขั้น ของเย้นหว่านยังดีหน่อย ป่ายฉีหนักสุด อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งอาทิตย์”
แก้การสะกดจิตก็ต้องทำไปตามขั้นตอน ค่อยๆ นำเขาออกมาจากชีวิตของเสิ่นเคอหาน
เวลาหนึ่งอาทิตย์เป็นไปตามที่เย้นหว่านคิดไว้
เย้นหว่านเตรียมจะบอกให้น้าเมย์เริ่มจัดการได้เลย แต่แองเจล่าจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า : “หม่ามี๊ สถานการณ์ณ์ของป่ายฉีร้ายแรงมาก หนูเห็นอารมณ์ของเขาถูกกระทบใหญ่มาก หนูว่าอาทิตย์เดียวน่าจะไม่พอ โดยเฉพาะป่ายฉี ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจ”
น้าเมย์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แล้วมองแองเจล่าอย่างสงสัย
แองเจล่าสีหน้าเฉยชา เหมือนว่าตั้งใจให้คำแนะนำเลย
แต่ว่าลูกสาวที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือ น้าเมย์รู้จักเธอเกินไปแล้ว
น้าเมย์เงียบไปหลายวินาที แล้วพูดกับเย้นหว่านว่า : “เธอกับป่ายฉีตามฉันไปที่ห้องสะกดจิตก่อนเถอะ ฉันจะทำการตรวจให้พวกเธอทั้งหมด แล้วค่อยยืนยันการจัดการรักษา”