สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 114 กำเริบเสิบสาน บอกจูบก็จูบ
บทที่ 114 กำเริบเสิบสาน บอกจูบก็จูบ
หัวใจเธอเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่ แก้มน้อยๆ แดงเป็นไข่ทอดแล้ว
สายตาเธอมองไปที่อื่น ดึงกางเกงเขาลงไปด้านล่าง
ขาสองข้างที่ทั้งยาวทั้งขาวสั่นไหวอยู่ในแววตาของเธอ
นี่มันเลยขีดจำกัดเหลือเกิน เย้นหว่านเหมือนจะต้านทานไม่ไหว
ถอดอีกเธอต้องไม่มีความกล้าอย่างแน่นอน
เธอหน้าแดง ดึงแขนของโห้หลีเฉินไปที่อ่างอาบน้ำ พูดเสียงแข็ง
“ได้แล้ว คุณนั่งลงไป”
โห้หลีเฉินกลับไม่ได้พูดอะไร ก้าวขายาวๆ นั่งลงไปในอ่างอาบน้ำอย่างสง่างาม
น้ำสะอาดโอบล้อมร่างร่างเขาไว้ ร่างกายของเขาที่อยู่ในน้ำเห็นชัดบ้างรางบ้าง ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ที่น่าดึงดูดไปอีกขั้น
เย้นหว่านมองแวบหนึ่งเกือบจะเลือดกำเดาไหล
ถ้าไม่ใช่เห็นได้ชัดว่าคืนนี้โห้หลีเฉินเมาเหล้าจริงๆ เธอคงจะสงสัย เดิมทีเขาจงใจยั่วยวนเธอหรือเปล่า
น้ำนั้นอบอุ่น สบายตัวมาก หลังจากนั่งเข้าไป โห้หลีเฉินก็ปิดตาพักผ่อน
เย้นหว่านมองท่าทางของเขาที่นั่งนิ่งอยู่ แล้วชักหงุดหงิด หรือว่าเธอต้องอาบน้ำให้เขาจริงๆ?
เฮ้อ ช่างเถอะ
ในเมื่อโดนน้ำแล้ว แช่ๆ ก็คงพอ
“ฉันลืมหยิบชุดนอนมาให้คุณ คุณแช่ไปก่อนนะ สักสิบนาทีก็ออกมาได้แล้ว”
เย้นหว่านบอกเรียบร้อย ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องน้ำโดยที่หน้าไม่หันมอง
ชั่วพริบตาที่เธอออกไป ตาที่ปิดอยู่ของโห้หลีเฉินก็ลืมขึ้น
เขามองเธอตรงๆ ไม่เหมือนกับที่เลือนรางก่อนหน้านี้ เวลานี้สายตาของเขามีสตินิดๆ
หลังจากแวบหนึ่ง สายตาของเขาแฉลบผ่านไปบนชุดนอนที่วางอยู่ไม่ไกลนัก และมองตนเองที่สวมกางเกงในแช่อยู่ในน้ำอีกครั้ง รู้สึกจำใจอยู่นิดๆ
ผู้หญิงคนนี้ ถือโอกาสตอนเขาเมา กล้าสะบัดเขาทิ้งขนาดนี้
เสียง “ช่า” เขาลุกขึ้นจากน้ำ
หลังจากที่เย้นหว่านออกไปจากห้องน้ำ ก็ไม่ได้เสียเวลาสักวินาทีเดียว ติดต่อให้กู้จื่อเฟยมารับเธอ เพื่อจะออกไป
“ก๊อกแก๊กๆ”
เธอเดินมาถึงหน้าประตูใหญ่ เปิดกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง ประตูกลับล็อกเอาไว้ เปิดไม่ออกตั้งแต่แรก
เธอใช้ลายนิ้วมือก็ไม่ได้ผลเช่นกัน
ประตูนี้เสียแล้วหรืออย่างไร?
เย้นหว่านจับไปจับมาอยู่สักพัก ยังเปิดออกไม่ได้ พอหันหน้ามองไปทางห้องน้ำของโห้หลีเฉินอีกครั้ง ทำกลับไปกลับมาอีกพักหนึ่ง เขาก็ออกมาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาไม่ให้เธอไปก็จบกันพอดี
ดังนั้นเย้นหว่านจึงรีบเดินไปที่ด้านหลังบ้าน เธอจำได้ว่าที่นั่นเหมือนจะมีประตูเล็กบานหนึ่ง สามารถใช้มือเปิดออกได้
เดินมาถึงหลังบ้าน เย้นหว่านมองสถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้แห่งนี้อีกครั้ง และคำว่า “แต่งกับฉัน” สามคำนั้นที่ใช้ดอกไม้ทำ ยังคงสะดุดตาโรแมนติกจนทำให้รู้สึกใจเต้นแรง
ในสมองของเธออดประกายภาพที่โห้หลีเฉินคุกเข่าข้างหนึ่งทางเธอ ถือแหวนเอาไว้ไม่ได้
หัวใจเต้นแรงไปหลายรอบอย่างควบคุมไม่อยู่
“ฮื่อ……”
เย้นหว่านส่ายหน้า สะบัดความคิดที่ไม่ควรมีพวกนั้นออกจากสมองไป โรแมนติกเร้าใจแค่ไหนก็เป็นเรื่องจอมปลอม เธอไม่อาจพังทลายทั้งชีวิตของตนเองเพราะเหตุนี้ได้
เธอไม่ลังเลอีก ยกเท้าเดินไป
เวลานี้ใต้เท้าของเธอกลับไปเหยียบอะไรเข้าก็ไม่รู้ ทิ่มเท้ามาก
เธอรีบย้ายเท้าออกทันที มองเห็นแหวนเลี่ยมฝังเพชรสีแดงเม็ดงามวงหนึ่งโดยบังเอิญ
เป็นวงนั้นที่โห้หลีเฉินขอเธอแต่งงาน
เขาทำตกไว้ที่นี่แล้วหรือ?
คิดถึงตอนที่เธอปฏิเสธ ท่าทางที่สูญเสียของโห้หลีเฉินนั้น ในใจเย้นหว่านก็มีรสชาติที่พูดไม่ถูก
เธอเก็บของขึ้นมา ถึงได้มองอย่างละเอียด ตัดได้ประณีตงดงาม เพชรยิ่งเล็กเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็นเพชรที่แพงหูฉี่ แหวนวงนี้สามารถพูดได้ว่าประเมินค่าไม่ได้
มาทำหล่นเอาไว้ตรงนี้ ถือว่าทิ้งเงินอย่างยิ่ง
เย้นหว่านคิดแล้วว่าจะนำแหวนกลับไปคืนให้โห้หลีเฉิน
เวลานี้โห้หลีเฉินใส่เสื้อคลุมนอนไว้ง่ายๆ มองเห็นเธอกลับมา บนหน้าหล่อเหลาใบนั้นเผยความปลื้มใจ
“ที่แท้เธอยังไม่วางใจให้ฉันอยู่คนเดียว”
เขาก้าวขายาวเดินไปทางเธอ น้ำเสียงมั่นใจมาก “เย้นหว่าน ในใจเธอยังสนใจฉันอยู่”
เย้นหว่านมึนงง มองตาเขาที่ได้สติมาไม่น้อย รู้ว่าเขาสร่างเมาแล้ว
เธอค่อยๆ โล่งอกไปทีหนึ่ง อยากจะรีบอธิบาย “ฉันมาคืน……อื้ม”
คำพูดเธอยังไม่ทันจะจบ จูบเข้าปะทะมาอย่างดุเดือด และพัวพันอารมณ์มากมาย
ลมหายใจหอมสดชื่นของชายหนุ่มกระโจนมาด้านหน้า ถูกริมฝีปากโดนโห้หลีเฉินอุดเอาไว้
เขากอดเธอมาในอ้อมอก ยังไม่ทันจะทำอะไรทำไมตอนนี้ผู้ชายคนนี้ถึงมาจูบเธอล่ะ?
เธอสับสน อยากผลักเขาออก ทว่าเขากลับโอบแน่นขึ้น จูบยิ่งลึกขึ้น ยิ่งเผด็จการขึ้น
ภายใต้การโจมตีที่แข็งแกร่งของเขา เย้นหว่านเหมือนจะหายใจลำบาก
เธอไม่มีเรี่ยวแรงรับมือสักนิด ถูกเขากอดไว้ ถูกเขาจูบจนอ่อนแรงไปทั้งตัว เหมือนเป็นอัมพาตในอ้อมอกของเขา
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดโห้หลีเฉินถึงได้ปล่อยเธอออกอย่างอาลัยอาวรณ์
ริมฝีปากบางยังอยู่ที่ปลายจมูกเธอ ประทับรอยสักหน่อย
เขาจ้องมองเธออยู่ สายตาล้ำลึกราวกับไฟลุกโชน เสียงยิ่งแหบแห้งดุดัน เต็มไปด้วยความหมายที่มีนัย
“คืนนี้ไม่ไปแล้วได้มั้ย?”
ปัง
ชั่วขณะหนึ่งเย้นหว่านร้อนลวกจากปลายเท้าถึงเส้นผม
พอได้สติกลับมา เธอรีบผลักเขาออกไป สับสนจนทนไม่ไหว “ฉัน เดี๋ยวเพื่อนฉันจะมารับฉันแล้ว คงใกล้จะถึงแล้ว”
“บอกให้หล่อนไม่ต้องมา”
โห้หลีเฉินเอ่ยปากอย่างเผด็จการ เดินมาใกล้เย้นหว่านอีกครั้ง
ภายใต้ความมืด ใบหน้าของชายหนุ่มเห็นได้ชัดว่าหล่อเหลามีมิติขึ้น คลุมสีสันที่เลือนรางไว้ชั้นหนึ่ง หล่อสง่างามถึงขั้นสุด ทำให้คนใจสั่น
เย้นหว่านไม่กล้ามองเขามาก รีบนำแหวนยัดในมือของเขาอย่างรวดเร็ว
“คือว่าฉันพึ่งเก็บอันนี้ได้เมื่อกี้ คืนให้คุณแล้วกัน ฉันไปก่อนนะ”
เธอยังไม่ทันก้าวเดิน ก็โดนโห้หลีเฉินจับข้อมือเอาไว้
โห้หลีเฉินยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ จ้องมองเธอ สายตาล้ำลึกและสงบสุดๆ
เขาดึงมือเธอไว้ การกระทำแข็งกร้าวและเฉียบขาด นำแหวนสวมใส่ที่นิ้วมือของเธออย่างเชื่องช้าและเคร่งขรึม
แหวนเพชรสีแดงที่งดงาม ยิ่งเหมือนเกิดมาเพื่อเย้นหว่าน ยามอยู่บนมือเธองดงามอย่างยิ่ง
หัวใจของเย้นหว่านเหมือนโดนทุบลงมาอย่างแรง
เธอทั้งสับสนทั้งลนลาน “คุณโห้ คุณ……”
“นี่เป็นของเธอ”
ท่วงท่าที่เย้นหว่านกำลังจะถอดแหวนชะงักงัน
“แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง ฉัน……” ยังไม่ได้รับปากคำขอแต่งงานของคุณด้วยซ้ำ
โห้หลีเฉินกุมมือของเธอแน่น “เพื่อนเธอมาแล้ว เธอไปไม่ไปอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป อยู่นอนกับฉันได้นะ”
หน้าของเย้นหว่านแดงอีกครั้ง ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ไม่มีข้อห้ามใดๆ ทั้งสิ้นแล้วเหรอ
มาตรฐานที่มีต่อเธอนับวันยิ่งใหญ่
“ฉันไปก่อนนะ”
ไม่กล้าอยู่ต่อนาน เย้นหว่านรีบวิ่งไปทางหน้าประตู
ครั้งนี้กลับแปลกใจมาก ประตูที่ก่อนหน้านี้เปิดไม่ออกมาตลอด ตอนนี้กลับเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
เย้นหว่านมองกลอนประตูด้วยความสงสัยอย่างมาก
โห้หลีเฉินตามมาด้านหลังเย้นหว่านอย่างไม่ช้าไม่เร็ว มองลักษณะที่สงสัยของเธอ จากนั้นเก็บรีโมทเล็กๆ ในมือเข้าไปอย่างไม่ทิ้งร่องรอย
อุปกรณ์ทุกอย่างของคฤหาสน์หลังนี้ ล้วนสามารถควบคุมได้จากระยะไกล