สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1141 พลังแห่งความโสดแว้งกัด
ป่ายฉียกมือขึ้นแล้วโยนขวดยาไปตรงหน้าเย้นหว่าน
จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “วันละหนึ่งเม็ด รอขาเขาเริ่มมีความรู้สึก ก็เปลี่ยนยาได้แล้วล่ะ”
เย้นหว่านถือขวดยานั้นไว้ด้วยความรู้สึกแปลกใจ
เมื่อวานป่ายฉียังปฏิเสธการรักษาโห้หลีเฉินได้อย่างเด็ดขาดขนาดนั้น เธอคิดว่า อย่างน้อยก็ต้องรอหลังจากจบการสะกดจิตแล้ว
ไม่คิดว่าตอนนี้เขาจะเอายามาให้ การสะกดจิตได้ผลแล้วเหรอ?
หรือว่า……
เย้นหว่านหมุนขวดยาในมือเล่น จ้องป่ายฉีแล้วถามเขาว่า: “นายไม่ได้วางยาใช่ไหม?”
ป่ายฉีมองค้อนเย้นหว่านอย่างแรง
“ถ้าจะวางยา เขาคงตายตั้งแต่อยู่ที่บ้านตระกูลหยูแล้ว”
ในคำพูดนั้น ยังมีความรู้สึกเสียดายที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน
เขาควรวางยาตอนที่อยู่ที่บ้านตระกูลหยูจริงๆ ฆ่าโห้หลีเฉินตัวปัญหาที่น่ารำคาญนี้ให้ตายๆไปเลย
เย้นหว่านเห็นสีหน้าเขาบึ้งตึง ก็รู้สึกหวั่นใจมาก
เธอพูดอย่างจริงใจว่า: “ฉันคิดว่าตอนนี้ผลกระทบจากการสะกดจิตของนายหนักมากเลย อาจเป็นเพราะนายโสดนานเกินไป ถึงได้โดนพลังแห่งความโสดแว้งกัดได้ นายควรจะหาแฟนสักคนได้แล้วนะ”
ป่ายฉีกัดฟันกรอด “ไปตายซะ!”
เขาลุกขึ้นเดินออกไปอย่างโมโห
ในที่สุดเขาก็เห็นว่า ไม่เพียงแต่โห้หลีเฉินที่น่ารำคาญ ขนาดเย้นหว่านก็เริ่มไม่น่ารักแล้ว
โห้หลีเฉินนั่งอยู่บนรถเข็น มองดูแผ่นหลังของป่ายฉี แล้วพูดขึ้นช้าๆว่า: “เป็นแบบนี้ต่อไป แม้จะคลายการสะกดจิตเขาแล้ว ปมในใจก็ไม่คลายลงไปหรอก”
“ดังนั้น เขาต้องหาใครสักคนมาดูแลจิตใจที่บอบช้ำไง”
เย้นหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งว่าวิธีนี้ดี “เดี๋ยวพวกเรากลับไปแล้ว ก็ช่วยป่ายฉีหาแฟนสักคนเถอะ”
โห้หลีเฉินยิ้มอ่อน “ได้สิ”
ป่ายฉีได้ยินพวกเขาพูดคุยกันรางๆ จากนั้นก็เดินเร็วกว่าเดิม
เขาไม่น่าใจอ่อนกับโห้หลีเฉินเลย น่าจะปล่อยเขานั่งรถเข็นพิการไปตลอดชีวิตเลย!
ยังจะหาแฟนให้เขาอีกงั้นเหรอ?
แฟนเอามาทำอะไรได้? นอกจากออดอ้อนจนน่ารำคาญ เหอะ โห้หลีเฉินอยากจะแก้แค้นเขาชัดๆ
……
ระดับการสะกดจิตของเย้นหว่านเริ่มคลายออกเองอัตโนมัติแล้ว ตอนวันที่ห้าก็คลายออกทั้งหมด ไม่ต้องรับผลกระทบจากความคิดอีก
ในตอนที่ลืมตาจากการสะกดจิตครั้งสุดท้าย เธอเหมือนได้ปลดปล่อย เหมือนว่าได้ปลดปล่อยพลังงานที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัว แล้วได้กลับมาเป็นตัวเองใหม่อีกครั้ง
ความรู้สึกนี้ มันช่างวิเศษจริงๆ
เย้นหว่านออกมาจากห้องสะกดจิต เธอเหมือนกับนกน้อยที่รีบกระโจนเข้าอ้อมกอดของโห้หลีเฉินอย่างรวดเร็ว
“คุณโห้ ฉันเป็นอิสระแล้วล่ะ”
โห้หลีเฉินก็กอดเธอเอาไว้ จากนั้นก็จุ๊บลงไปที่หน้าผากเธอเบาๆ
“ให้รางวัล”
แม้จะเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว แต่มีคนดูอยู่เยอะขนาดนี้ เย้นหว่านก็อดไม่ได้หน้าแดงเหมือนกัน
เธอมองค้อนเขาด้วยความเขินอาย
ยังไม่ทันได้พูดอะไร ตอนนี้เอง ด้านหลังเธอก็มีเสียงพูดประชดประชันดังขึ้น
“สำออย”
ป่ายฉีเชิดหน้าขึ้นมา มองพวกเขาด้วยแววตาที่เกลียดชัง จากนั้นก็เดินผ่านเย้นหว่านแล้วเดินออกไปด้านนอกทันที
ท่าทีเย็นชาไม่ไว้หน้าใครแบบนั้น เหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่คุยกับพวกเขา
เย้นหว่านเห็นท่าทีเขาแบบนั้น ก็ไม่ได้โกรธอะไร แต่กลับพอใจมากกว่า
“สถานการณ์ของป่ายฉีดีขึ้นมา อีกไม่กี่วัน การสะกดจิตของเขาจะคลายไปจนหมดเอง”
ช่วงหลายวันก่อน แม้ป่ายฉีจะพยายามอดทนไว้มากแค่ไหน แต่ก็มักจะแสดงความรู้สึกหึงออกมา ตอนนี้แม้เขาจะเห็นเย้นหว่านกับโห้หลีเฉินอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ได้รู้สึกหึงมากขนาดนั้นแล้ว
วันที่จะได้กลับบ้านใกล้มาถึงแล้วล่ะ
พอนึกถึงตรงนี้ เย้นหว่านก็อารมณ์ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
น้าเมย์เดินตามออกมาจากห้องสะกดจิตทีหลัง เห็นท่าทีที่ดีใจของเย้นหว่าน แววตาของเธอก็แอบมืดมนลง
ต่อมาก็พูดว่า: “กลับห้องไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะถึงเวลากินข้าวแล้ว”
พูดจบ เธอก็กลับหลังหันเดินออกไปทันที
เย้นหว่านมองดูแผ่นหลังของน้าเมย์ แล้วก็สงสัย “ป้าเขาเหมือนจะมีเรื่องในใจนะ ช่วงสองวันมานี้ดูเศร้าๆตลอดเลย”
“ทุกคนก็ต่างมีความลับของตัวเองทั้งนั้น ป้าเขาแค่ไม่อยากพูดเท่านั้นเอง เธอก็ไม่ต้องคิดมากหรอก”
โห้หลีเฉินขยี้ผมเย้นหว่านเล่นเบาๆ น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย แต่สายตากลับมองไปทางที่น้าเมย์เดินจากไป
แววตาเขาประกายเล็กน้อย แต่สักพักก็หายไป
เย้นหว่านเชื่อคำพูดของโห้หลีเฉิน เธอดันเขาไปที่ห้องนอนของพวกเขาเอง
เธอเดินไปด้วยพูดไปด้วยว่า: “ตอนนี้ขารู้สึกยังไงแล้วบ้าง?”
“เริ่มรู้สึกชาและเจ็บแล้วล่ะ”
เย้นหว่านดีใจ อดไม่ได้ยิ้มกว้าง “อีกไม่นานแล้วล่ะ พรุ่งนี้ขานายอาจจะกลับมามีความรู้สึกเหมือนเดิม นายจะได้เปลี่ยนยาด้วย”
หลังจากที่เปลี่ยนยา โห้หลีเฉินก็จะได้กลับมายืนได้อีกครั้งในอีกไม่นาน
ก่อนหน้านั้น ป่ายฉีก็คิดหาวิธีรักษาโห้หลีเฉิน ใช้ยาพิเศษทำให้ขาของโห้หลีเฉินไม่มีความรู้สึกก่อน และเพราะความพิเศษของยาตัวนี้ เป็นการใช้ยารักษาได้ถูกวิธีมาก มันคือการใช้พิษรักษาพิษ จนสามารถรักษาอาการพิการที่ตอนแรกไม่อาจรักษาได้
โห้หลีเฉินจะสามารถลุกขึ้นยืนได้ไม่ระยะเวลาสั้นๆด้วย
การกระทำของตระกูลหยู ภายนอกดูเหมือนทำร้ายโห้หลีเฉิน แต่ความเป็นจริง กลับเป็นวิธีการรักษาอีกแบบหนึ่ง
โห้หลีเฉินก้มหน้ามองขาตัวเอง เขาเม้มปากบาง แววตาเปล่งประกายไปด้วยความหวัง
เขาไม่ได้ลุกขึ้นยืนประมาณปีกว่าแล้ว
“รอขานายหายดีแล้ว ยังต้องใช้เวลาหัดเดินอีกสักพัก ฉันเรียนวิธีการกายภาพบำบัดมาหมดแล้วล่ะ ถึงตอนนั้นฉันจะช่วยนายเองนะ”
เย้นหว่านพูดอย่างมั่นใจ เธอวาดฝันภาพที่สวยงามที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ช้านี้
เธอกลับไม่รู้ว่า คลื่นใหญ่กำลังจะซัดเข้ามาเงียบๆ
ตอนนี้เอง แองเจล่ากำลังยืนอยู่มุมมืดที่ตรงทางเลี้ยว แอบมองพวกเขาสองคนคุยกัน
สายตาเธอแทบจะไม่ละออกจากตัวโห้หลีเฉินเลย เธอทั้งหลงใหล และยังมีความรู้สึกไม่พอใจอีกด้วย
ช่วงหลายวันมานี้ ตอนที่เย้นหว่านไปสะกดจิต เธอก็ลองใช้หลายวิธีเพื่อปรากฏตรงหน้าโห้หลีเฉิน ก็เหลือแค่ถอดเสื้อผ้าอ่อยเขาแล้ว แต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
แถมยังใช้ให้เว่ยชีไล่เธอออกไปอีก
เธอแอบจะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เขา และไม่มีทางได้เขามาครอบครองด้วย
“ตู๊ดๆๆ——”
เสียงโทรศัพท์ของเธอสั่นอยู่นานมาก
แองเจล่ามองดูแผ่นหลังโห้หลีเฉินหายไปจากทางเดิน ก็ถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ปลดล็อกหน้าจอ
ด้านบนมีกลุ่มลับเฉพาะ และกำลังมีข้อความใหม่ๆขึ้นมาเรื่อยๆไม่หยุด
เนื้อหาก็พูดถึงแต่ความหล่อของผู้ชาย หล่อจนแทบทะลุจอเลย
แถมยังมีคนแอดแองเจล่าไม่หยุด ให้เธอถ่ายผู้ชายหล่อๆมาดูอีก ให้พวกเขาได้เชยชมอีกหน่อย
แองเจล่ามองดูคนพวกนั้นคอมเมนต์กัน ใบหน้าที่บึ้งตึง ก็เริ่มมีรอยยิ้มที่ได้ใจผุดขึ้นมา
เธอจึงส่งข้อความพูดว่า: ความหล่อของเทพบุตรโห้ แค่รูปเดียวก็เพียงพอสำหรับพวกเธอแล้วล่ะ
แฟนคลับของเทพบุตร: ยังไม่พอๆ แองเจล่าจ๊ะ ต้องเยอะๆถึงจะพอ ฉันเลื่อมใสในความหล่อของเทพบุตรจริงๆ ต่อไปเขาจะเป็นไอดอลเพียงคนเดียวของฉัน
คนรักเทพบุตร: ฉันเหมือนกัน เทพบุตรโห้หล่อมากจริงๆ เขาไม่เดบิวต์ก็เสียดายแย่เลย ฉันยังอยากส่งรูปออกไป ช่วยให้เขาได้เดบิวต์เลย
พอเห็นคอมเมนต์พวกนี้ แองเจล่าก็รีบเขียนตอบทันที
เจ้าหญิงแองเจล่า: ฉันบอกแล้วไง ห้ามใครเอารูปไปเผยแพร่ ไม่งั้น ใครทำ ฉันจะฆ่ามันเลย
คนรักเทพบุตร: รู้แล้วน่า ฉันแค่พูดเอง แองเจล่าจ๊ะ สู้ๆนะ ถ่ายรูปเทพบุตรมาให้พวกเราได้ดูแบบอิ่มตาหน่อย
เจ้าหญิงแองเจล่า: ฉันจะถ่ายมาให้แน่นอน เพราะยังไงเทพบุตรก็อยู่ข้างๆฉันอยู่แล้ว
เธอพูดอย่างได้ใจ และยังมีความมุ่งมั่นสูง