สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1162 ยังคาดหวังอะไรอีก
เธอร้อนรนและกำลังจะรีบเข้าไปห้าม
แต่แล้ว ก่อนที่จะเดินไปถึง เธอก็ได้เห็นภาพอันน่าตกใจอย่างไม่คาดคิด
เธอเห็นแรบบิทยกหัวเล็กๆนั้นขึ้น กะพริบตาที่เปียกปอนปริบๆ จ้องเขม็งไปยังโห้หยูเซิงด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร
หน้าตาที่ลำบากใจของเธอเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมาในเวลาไม่ถึงวิ “พี่คะ พี่โกรธแล้วเหรอคะ?”
มือของโห้หยูเซิงที่ง้างอยู่กลางอากาศ ก่อนที่มันจะทุบถึงตัวแรบบิท มันก็ได้ชะงักอยู่กลางคันไปทั้งอย่างนั้น
เขามองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างงงๆ ดวงตาที่เป็นประกายจากความเปียกปอนนั่น ดูแล้วช่างน่าสงสารเหลือเกิน และมันก็ทำให้เขาทำเธอไม่ลง
แต่ทว่า มันก็เป็นความรู้สึกเพียงชั่วขณะเท่านั้น ยังไงเขาก็ยังรู้สึกโกรธมากอยู่ดี
หลังจากที่โห้หยูเซิงลังเลไปหลายวิ เขาก็เขวี้ยงตัวต่อในมือออกไป ทำหน้าบึ้งตึงแล้วหันหลังให้แรบบิทด้วยความโมโห
จากนั้นก็เก็บตัวต่อขึ้นมาเพียงลำพัง แล้วเริ่มทำการประกอบพวกมันขึ้นมาอีกครั้ง
แรบบิทยิ้มแป้นแล้ววิ่งเข้าไปอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“พี่คะ หนูขอโทษ เมื่อกี้หนูไม่ได้ตั้งใจทำให้มันล้มนะคะ หนูจะช่วยพี่ประกอบอีกแรงนะคะ ช่วยพี่ประกอบมันให้สูงกว่าเดิม”
โห้หยูเซิงไม่ได้สนใจเธอ แล้วเขยิบตัวออกไป เพื่ออยู่ให้ห่างจากเธอ
แต่แรบบิทก็ไม่ยอมแพ้ และได้ตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อโห้หยูเซิงหมดสิ้นหนทาง จึงล้มเลิกความตั้งใจ ไม่สนใจเธอแล้ว
เขาก้มหน้าลง ตั้งหน้าตั้งตาประกอบตัวต่ออีกครั้ง
เมื่อแรบบิทเห็นเขาประกอบ เธอเองก็ได้เอาตัวต่อไปวางบนประติมากรรมของเขาเป็นครั้งคราว
ตอนแรกโห้หยูเซิงก็ตั้งใจที่จะห้าม แต่พอเห็นว่าครั้งนี้ที่แรบบิทวางไปมันก็ไม่ได้ล้ม และในจุดที่แรบบิทวางยังเป็นจุดที่เข้าตั้งใจจะวางด้วย เขาจึงปล่อยผ่าน
ไม่ได้ถือสาเด็กสาวที่น่ารำคาญคนนี้
ว่าแล้ว แรบบิทก็ยิ่งมีกำลังใจ นั่งอยู่ตรงข้ามโห้หยูเซิง ช่วยเขาประกอบตัวต่ออย่างเต็มที่
เย้นหว่านที่ยืนอยู่หน้าประตู พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอย่างถึงที่สุด
นี่โห้หยูเซิงยอมรับในตัวแรบบิทแล้วเหรอ?
ถึงแม้เขายังคงทำหน้าเย็นชา แต่การที่ยอมให้คนอื่นมาวางอะไรไว้บนตัวต่อของเขา มันถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
ก่อนหน้านี้ แม้แต่ป่ายฉีที่เป็นคนคอยเป็นจิตแพทย์ให้เขายังไม่ได้รับสิทธิ์นี้เลย
เย้นหว่านรู้สึกดีใจอยู่ภายใน บางที่นี่อาจจะเป็นความสัมพันธ์ของฝาแฝดก็ได้มั้ง?
โห้หยูเซิงนั้นค่อนข้างใกล้ชิดกับแรบบิทมาแต่กำเนิดแล้ว
แบบนี้สิดี
แรบบิทเป็นเด็กที่ค่อนข้างร่าเริง ถ้ามีเธอมาอยู่เป็นเพื่อน โห้หยูเซิงก็ไม่ต้องโดดเดี่ยวขนาดนั้นอีก และบางที่ก็อาจจะไม่ได้เก็บตัวขนาดนั้นก็ได้
ไม่ว่าจะพูดยังไง นี่มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
เย้นหว่านรู้สึกสบายใจมาก
พอได้เห็นเด็กน้อยสองคนที่เธอรักมาเจอหน้ากัน แถมยังนั่งเล่นตัวต่อไปด้วยกัน แล้วเธอก็รู้สึกว่าดวงตาของตัวเองได้แดงก่ำขึ้นมาด้วยความตื้นตัน
ภาพที่กลมเกลียวแบบนี้ มันก็อดไม่ได้ที่ทำให้ต้องนึกถึงโห้หลีเฉินขึ้นมา
เขาเป็นพ่อของเด็กสองคนนี้
ความจริง มันต้องอยู่กันพร้อมหน้า ถึงเรียกกลมเกลียวที่แท้จริง แต่ว่าตอนนี้……
มันคงไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นอีกแล้ว
พอคิดมาถึงตรงนี้ เธอก็ไม่สามารถความคุมความรู้สึกที่ถูกกักเจ็บไว้ในใจได้อีกต่อไป หัวใจมันรู้สึกปวดร้าวขึ้นมา ราวกับเธอกำลังจะตาย
จมูกของเธอเมื่อยล้า ตาแดงจนรู้สึกเจ็บ
เธอจะมาแสดงอาการอกหักต่อหน้าลูกๆ ไม่ได้
เย้นหว่านเอามือปิดปาก เธอรีบหมุนตัวแล้วเดินจากไปก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมา
แรบบิทที่กำลังเล่นตัวต่ออย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อสานสัมพันธ์กับพี่ชายก็ไม่ได้สังเกตว่าเย้นหว่านได้เดินออกไปแล้ว
ส่วนความสนใจของโห้หยูเซิงนั้น ก็อยู่ที่ตัวต่อตั้งแต่แรกแล้ว
เย้นหว่านที่ออกจากห้อง ได้บอกพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่นอกประตูดูแลเด็กสองคนต่อ แล้วเธอก็ได้กลับไปที่ห้องของตัวเอง
แรบบิทได้เจอพี่ชายแล้ว เธอจึงสบายใจได้พักหนึ่ง
ส่วนตัวเธอเอง……
เหนื่อยมาก
พอเย้นหว่านเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง ก็ได้ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง ราวกับพลังทั้งหมดในร่างกายได้ถูกสูบไปจนหมดแล้ว
สายตาที่พร่ามัวของเธอมองดูการตกแต่งของภายในห้อง แต่ทุกที่ที่มองไป ก็มีแต่หนังสือที่เกี่ยวกับการแพทย์
มันเป็นหนังสือที่เธอเตรียมไว้ศึกษาเพื่อหาทางช่วยโห้หลีเฉินเมื่อก่อนหน้านี้
ในตอนนั้น ความมุ่งมั่นและเป้าหมายทั้งหมดในชีวิตเธอมีไว้เพื่อช่วยเหลือโห้หลีเฉินเท่านั้น เธอใช้เวลาของทุกวันหมดไปกับมัน
แต่มาตอนนี้……
พอเห็นหนังสือพวกนี้อีกครั้ง พวกมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรอีกแล้ว
แม้แต่เธอเอง ก็เหมือนจะสูญเสียจุดมุ่งหมายไปแล้ว
หัวใจของเธอเหมือนถูกใครบางคนควักออกไป เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า ไม่มีการเต้นขอหัวใจ ไม่มีเป้าหมาย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีชีวิตต่อไปยังไง
ทั้งชีวิตและอนาคต กลายเป็นแอ่งน้ำที่นิ่งสงบ
หัวใจของเย้นหว่านนั้นว่างเปล่าจนรู้สึกเจ็บ มือของเธอกำแน่นไปที่อกเสื้อ ในที่สุดก็อดทนต่อความเจ็บไม่ไหว จนต้องร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
พอได้ร้องไห้ออกมาอย่างทุรนทุราย
เธอถึงได้รู้ว่า ที่แท้การที่เสียใครสักคนไป มันรู้สึกเจ็บขนาดนี้นี่เอง
มันทรมานยิ่งกว่าความตาย
มันสามารถทำลายทุกความต้องการ ทุกๆ ความเชื่อของคนคนหนึ่งได้ ราวกับท้องฟ้ามืดมนและไม่มีวันสว่างขึ้นมาได้อีก ยิ่งไม่มีทางคาดหวังอะไรได้อีก
แม้แต่การมีชีวิตอยู่ต่อ เธอก็ยังมองไม่เห็นทาง
ไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ เหมือนร้องไห้จนน้ำตาได้ไหลออกมาจนหมด เย้นหว่านนอนอยู่บนโซฟา แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
เธอหลับได้ค่อนข้างลึก ในฝันก็มีแต่โห้หลีเฉิน แต่มันกลับเป็นภาพที่แยกทางกับเขา
ภายในฝัน มันเจ็บจนแทบขาดใจ
เธอพยายามขัดขืนจนตื่นขึ้นมา
เธอที่ค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา ได้หันไปทางหน้าต่าง แล้วพบว่าข้างนอกฝนกำลังตก
ฝนที่ตกอย่างหนัก กำลังเทลงมาจนเกิดเสียงดัง ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม เหมือนกับสภาพจิตใจของเธอตอนนี้ไม่มีผิด
มันอึดอัด
การต้องมองดูท้องฟ้าที่เป็นแบบนี้จากภายในห้อง เย้นหว่านก็อึดอัดจนแทบเป็นบ้า
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว
เย้นหว่านลุกขึ้นมา แล้วเดินออกไปข้างนอก เธอหลับไปประมาณชั่วโมงกว่าๆแล้ว และควรไปดูเด็กสองคนนั้นสักหน่อยแล้วเหมือนกัน
แรบบิทเองก็เพิ่งเคยมาที่นี่จึงยังไม่คุ้นเคย ไม่แน่อาจจะกำลังร้องหาเธออยู่ก็ได้
เย้นหว่านนั้นพักอยู่ชั้นสอง พอเดินไปได้ไม่ไกล ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันที่ดังมาจากห้องโถงด้านล่าง
เหมือนคนจะเยอะและคึกคักกันมาก
เย้นหว่านตอนนี้กำลังตาบวม สภาพดูไม่ดีเลย เธอจึงตั้งใจที่จะไม่ไปพบใคร
แต่ที่นี่ก็ไม่ได้วุ่นวายแบบนี้บ่อยนัก
เย้นหว่านเดินไปถามสาวใช้ที่คอยรับใช้เธอ “ข้างล่างเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
สาวใช้ตอบไปด้วยความเคารพว่า “คุณชายป่ายฉีกับกลับมาแล้วค่ะ คุณท่านกับคุณนายกำลังพูดคุยกับเขาอยู่ข้างล่างค่ะ”
เย้นหว่านรู้สึกตกใจ หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
ป่ายฉีกลับมาแล้ว?!
ทำไมเขาถึงกลับมาล่ะ?!
แล้วคนที่กลับมาพร้อมกับเขา……
หัวใจของเย้นหว่านเต้นรัวอย่างรุนแรง เธอบอกไม่ถูกว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง มันแค่รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างแรง แถมยังมีความคาดหวังแปลกที่บอกไม่ถูกด้วย
เธอจิกนิ้วอย่างแรง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า
“มีใครบ้างที่กลับมาพร้อมกับเขา?”
สาวใช้ตอบ “ยังมีผู้หญิงที่ชื่อเฮเลนา เมย์อีกคนค่ะ”
มันหมายความว่า เขาพาน้าเมย์กลับมาแค่คนเดียว
ความร้อนรนและความรู้สึกในใจของเย้นหว่านเหมือนโดนน้ำเย็นกะละมังใหญ่ราดใส่ จนรู้สึกเย็นวาบตั้งแต่หัวลงไปเธอยิ้มเยาะเย้ยออกมาอย่างไม่ชอบใจ
เมื่อกี้ เธอกำลังตื่นเต้นและคาดหวังอะไรอยู่นะ?
หรือคิดว่าโห้หลีเฉินจะตามเธอจนมาถึงที่นี่รึไง?
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ในเมื่อตัดสินใจที่จะจากมาแล้ว ตัดสินใจที่จะหย่ากันแล้ว แต่เธอกลับยังต้องการให้เขาไล่ตามมาอีก ยังคาดหวังอะไรที่มันเจ็บปวดแบบนั้นอยู่อีกเหรอ?
แต่ถึงเขาจะตามมาจริง เธอก็ไม่มีทางยกโทษให้เขากับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและแองเจล่าไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สภาพร่างกายของแองเจล่าก็ไม่ค่อยดี ต่อให้ในใจของเขาจะยังมีเธออยู่ แต่ก็หย่าร้างกันแล้ว เขาจึงไม่มีทางทิ้งแองเจล่าไว้อย่างแน่นอน
ป่ายฉีก็ไม่มีทางปล่อยให้ แองเจล่ามาที่บ้านตระกูลเย้นอยู่แล้ว และการที่โห้หลีเฉินไม่มา ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายอะไร
นี่สิถึงจะเป็นเรื่องที่ ปกติที่สุด สมควรที่สุด
เพียงแต่ หัวใจ ทำไมมันถึงได้รู้สึกเจ็บล่ะ เจ็บจนแทบจะขาดใจตายแล้ว