สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1194 ไม่ใช่คน
เด็กหนุ่มคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก ครั้งนี้เขาจะเป็นคนเดินนำต่อ เขาเดินนำหน้า คอยสังเกตว่ามีคนไหม พอแน่ใจว่าไม่มีใคร, และปลอดภัย ถึงให้เย้นหว่านเดินตามไป
ทั้งสองคนคนหนึ่งเดินนำหน้าอีกคนเดินตาม ในค่ำคืนที่เงียบสงบ พวกเขาก็เดินมาจนถึงด้านนอกห้องที่เด็กๆ ถูกขังไว้
หน้าต่างทุกบานปิดสนิท
แต่ก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กๆ ดังออกมาจากข้างใน
ฟังดูแล้ว น่าจะเป็นเด็กที่อายุไม่เกินสองหรือสามขวบ ยังเด็กขนาดนั้น แต่ร้องไห้ยังไม่กล้าจะร้องไห้ดังๆ เลย พยายามควบคุมความเสียใจนี้ไว้ แค่ได้ยินก็รู้สึกน่าสงสารมากแล้ว
เย้นหว่านขมวดคิ้ว พยายามควบคุมอารมณ์ที่อยากจะเดินไป
เด็กหนุ่มคว้าเธอไว้ก่อน “ตรงประตูมีคนยืนเฝ้า เราเข้าไปไม่ได้”
หลังจากพูดจบ เด็กหนุ่มก็พาเย้นหว่านไปที่ห้องข้างๆ
ห้องข้างๆ มืดสนิท สกปรกเลอะเทอะมาก แล้วยังมีกลิ่นเหม็นอับอย่างรุนแรง
เด็กหนุ่มพูด “คุณซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามรีบร้อน ซ่อนตัวให้ได้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ รอพวกเขาจากไป ผมจะมาพาคุณไป”
เย้นหว่านขมวดคิ้ว “ตอนนี้นายจะไปไหน”
“ผมต้องไปที่ห้องของผม ถ้าพวกเขาจะออกเดินทาง พวกเขาจะไปเรียกผม ถ้าพวกเขาเห็นผมไม่อยู่ในห้อง จะมีปัญหาเอาได้”
เด็กหนุ่มเหมือนพยายามต่อต้าน แต่เขากลับอดทนไว้ได้
เรื่องแบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะอดทนมานานมากแล้ว
เย้นหว่านมองเขาที่เป็นแบบนี้ ในใจรู้สึกแปลกมาก เด็กหนุ่มคนนี้ เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี
ทั้งน่าโมโห และน่าสงสารไปในตัว
“ตอนนี้ผมยังพอมีเวลาอยู่ ผมสามารถให้คุณได้เห็นลูกสักครั้ง ให้คุณได้เห็น แล้วเข้าใจ ว่าทุกการกระทำของคุณ จะส่งผลต่อและอนาคตความเป็นความตายของใครหลายๆ คน”
เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง แล้วค่อยๆ เจาะบานหน้าต่างที่ทรุดโทรมออกจนเป็นรอยแตกเล็กน้อย
การออกแบบของที่นี่เป็นแบบยื่นออกไป พอมองเข้าไปด้านข้าง จึงได้เห็นสถานการณ์ในห้องข้างๆ ผ่านรูในหน้าต่างพอดี
เย้นหว่านรีบมองเข้าไปอย่างดีใจ
สิ่งที่เห็นเป็นสิ่งแรก เธออดที่จะสูดหายใจเข้าลึก แล้วหัวใจของเธอก็เจ็บปวดรวดร้าวเหมือนมีมีดทิ่มแทงหัวใจของเธอ
เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าจะมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าใจเช่นนี้บนโลก
เท่าที่สามารถเห็นในห้องนั้นได้ สามารถมองเห็นเด็กวัยสองขวบหกหรือเจ็ดคนนั่งอยู่ข้างกำแพง อายุมากสุดคงไม่เกินสี่ขวบ
พวกเขาทั้งหมดสกปรกมอมแมม เสื้อผ้าเป็นรูพรุน อีกทั้งรูเหล่านี้ไม่ใช่รอยขีดข่วน แต่เป็นรอยที่ถูกแส้ตีออกมา
เสื้อผ้าเล็กๆ เหล่านั้น ล้วนเต็มไปด้วยรอยแส้ มีทั้งคราบเลือดที่แห้งไปแล้ว และยังไม่แห้ง ผิวหนังที่เผยออกมา เต็มไปด้วยบาดแผลที่น่าสยดสยอง บางแผลเห็นเข้าไปถึงกระดูก
บางแผลเหมือนเพิ่งผ่านไปวันเดียว แต่กลับไม่ได้รับการรักษา
เด็กแต่ละคนมีสีหน้าซีดเผือด เหมือนตุ๊กตาแก้วที่แตกหักง่ายๆ
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ พวกเขากำลังทำร้ายเด็กอยู่อย่างนั้นเหรอ”
เย้นหว่านปิดปากของเธอไว้ น้ำเสียงของเธอสั่นเทิ้มมากตอนที่พูด น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เด็กที่อายุแค่สองหรือสามขวบ ทำไมคนพวกนี้ถึงกล้าลงมือทำร้ายได้ลงคอ?
พวกเขายังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ อยู่เลย
ยังอยู่ในช่วงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพิ่งหัดเดินหัดพูด อยู่ในช่วงร้องไห้เก่ง แต่กลับต้องมาถูกทำร้าย จนไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้ แล้วเอามือปิดปากตัวสั่นเทา เจ็บมากจริงๆ พวกเขาถึงได้ร้องไห้ออกมาเบาๆ
นี้ยังคงเป็นฝีมือของคนทำอยู่เหรอ?
เย้นหว่านขนลุกซู่ แทบอยากจะฆ่าพวกเขาทุกคนทิ้งซะเลย
เด็กหนุ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด ร่างกายที่แฝงอยู่ในความมืด มีท่าทางหดหู่มาก
เขาพูดออกมาช้าๆ “เรื่องแบบนี้ พวกเขาทำมาหลายปีแล้ว เด็กๆ แบบนี้ ถูกจับมา แล้วส่งออกไป”
ถูกจับมา แล้วถูกส่งไปอย่างนั้นเหรอ
คำพูดนี้ กลับทำให้หัวใจหนาวเหน็บ จนขนลุกซู่
หลายปีที่ผ่านมา ในตอนที่คนอื่นไม่รู้ มือคู่นี้ทำการลักพาตัวเด็ก ทุบตี และทำร้ายเด็กเหล่านี้
เหมือนปีศาจ และบ้าดีเดือดมาก
“พวกเขาจะส่งเด็กๆ ไปที่ไหน”
เย้นหว่านถามด้วยเสียงสะอื้น
เด็กหนุ่ม “สถานที่เหมือนกับนรก”
เสียงของเด็กหนุ่มยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปอีก เหมือนสถานที่ที่พูดถึงนั้น เป็นเหมือนฝันร้ายของเขา เขาต่อต้าน และรังเกียจ
“ถ้าหากถูกส่งไปที่นั่น มันจะสายเกินไป เราต้องช่วยเด็กๆ ออกไปก่อนที่จะส่งมันไปที่นั่น”
เด็กหนุ่มมองเข้าไปในห้อง ภายในดวงตาของเขามืดมนลง
เย้นหว่านถามต่อ “ส่งที่ไหน ที่นั่นคือที่แบบไหน”
“พูดไม่ได้”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “แบบนี้ดีกับคุณ ถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณยิ่งรู้น้อย คุณก็มีโอกาสรอดชีวิต”
“พวกเขาทำร้ายเด็กๆ อย่างโหดร้ายอำมหิตขนาดนี้ ถ้าพวกเขาจับฉันได้ นายคิดว่าพวกเขาจะปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไง”
เย้นหว่านพูดประชดประชัน เธอกำหมัดแน่น เธอขอสาบาน ว่าจะจัดการคนพวกนี้ให้ราบคาบ
แต่บริเวณที่เธอมองเห็นได้ในตอนนี้ เป็นเพียงบริเวณข้างหน้าต่างเท่านั้น ทำให้เธอมองเห็นได้ไม่ทั่วทั้งห้อง
ในห้องยังมีเด็กอยู่กี่คน เธอก็มองไม่เห็น
“ยังมีวิธีเห็นเหตุการณ์ในห้องอีกไหม? ฉันอยากจะเห็นลูกของฉัน ”
เด็กหนุ่มส่ายหน้า “ไม่มี มีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น”
หัวใจของเย้นหว่านเหมือนตกลงบนพื้น
เด็กพวกนั้นถูกทำร้ายหนักขนาดนั้น แล้วแรบบิทกับหยูเซิงล่ะ? พวกเขาจะถูกทำร้ายด้วยหรือเปล่า?
พอนึกถึงเด็กน้อยสองคน ที่ผิวเนียนนุ่ม น่ารักน่าเอ็นดู หัวใจของเธอก็ปวดจนเลือดแทบไหลออกมา
เด็กหนุ่มพูดปลอบ “ผมแน่ใจว่าพวกเขาอยู่ที่นี่ด้วย ผมเห็นพวกเขาถูกจับกลับมากับตา เด็กที่ถูกจับมาทั้งหมดในล็อตนี้ ถูกเอามาขังไว้ที่นี่ทั้งหมด”
นั่นหมายความว่า แรบบิทกับหยูเซิงอยู่ห้องข้างๆ เธอ อยู่ในมุมที่มองไม่เห็น และมีกำแพงกั้นขวางพวกเธอไว้
เย้นหว่านปิดปากของเธอ แล้วร้องไห้ออกมา
เด็กหนุ่มให้เย้นหว่านซ่อนตัวอยู่ในห้อง แล้วเดินออกไปคนเดียว
เย้นหว่านซ่อนตัวอยู่ในความมืด ต้องทนทุกข์ทรมานทุกนาทีและทุกวินาที ภาพของแรบบิทกับหยูเซิงถูกทำร้ายผุดขึ้นมาในสมองของเธอ
เลือดไหลริน แทบฉีกหัวใจของเธอออกเป็นชิ้นๆ
“ที่รัก ไม่ต้องห่วง ผมจะไปที่นั่นให้เร็วที่สุด คุณรอผมก่อน ผมจะฆ่าไอ้สารเลวพวกนั้นให้หมดตอนที่ผมมาถึง”
โห้หลีเฉินรีบเดินทางพร้อมกับพูดปลอบโยนเย้นหว่านไปด้วย
เสียงของเขา เป็นเพียงความหวังสุดท้าย สำหรับเย้นหว่านในความมืดมิดแห่งนี้
ไม่อย่างนั้น เธอคงไม่สามารถอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้
“ตึงตึงตึง”
ทันใดนั้น ห้องข้างๆ ที่นิ่งเงียบ มีการเคลื่อนไหวเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้ว
พวกเขาเหมือนจะพาเด็กๆ ออกไปข้างนอก
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงคำรามของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาด้วย
“เร็วเข้า รีบเดินไป เร็ว ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
“ร้องไห้ทำไม ห้ามร้องไห้! ถ้าร้องฉันจะตีให้ตาย หุบปากเดี๋ยวนี้!”
“เพี๊ยะเพี๊ยะเพี๊ยะ”
เสียงแส้ที่ตีลงบนผิวหนัง และตีลงกับพื้น เสียงนี้ทำให้คนที่ได้ยินแล้วขนลุกซู่ไปทั้งตัว
ร่างกายของเย้นหว่านแข็งเกร็ง
เธอไม่สนใจอะไรอีก รีบวิ่งไปที่หน้าต่าง แล้วเจาะรูหน้าต่างให้กว้างขึ้น เพื่อมองเข้าไป
จึงเห็นชายร่างใหญ่สามถึงสี่คน เหมือนหิ้วสัตว์ หิ้วเด็กๆ ออกไปทีละคน แล้วรีบเดินออกไปข้างนอก
ถ้าไม่เชื่อฟัง พวกเขาก็จะใช้แส้ตีให้เชื่อฟัง
“เจ้าหนู แกกล้ากัดข้าเหรอ บ้าเอ๊ย ดูสิว่าข้าจะฆ่าแกไหม!”
เสียงด่าอย่างโหดเหี้ยมของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา
การกระทำของพวกเขา เย้นหว่านเพิ่งเห็นได้ชัดเจน ผู้ชายคนนั้นโยนเด็กคนหนึ่งลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะยกแส้ขึ้นแล้วฟาดแส้ใส่อย่างแรง
เด็กคนนั้นคือโห้หยูเซิง…