สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1202 จะถูกเจอตัวเข้าแล้ว
ตกลงกับเด็กหนุ่มเสร็จแล้ว สายตาของเย้นหว่านก็มองไปยังถังเซียง
เธอถามเด็กผู้หญิงตัวน้อยว่า “พวกเธอเป็นอะไรกัน?”
ถังเซียงทำหน้าตารังเกียจในพริบตา “ไม่ได้เป็นอะไรกัน หนูไม่รู้จักเขา”
จากการแสดงออกของเธอเมื่อสักครู่ เย้นหว่านเชื่อคำพูดนี้ก็โง่แล้ว
เธอหันหน้าไปทางเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มแววตามืดมนอย่างมาก แต่ตอนที่มองถังเซียง กลับมีประกายความอ่อนโยนฉายออกมา
เขากลับไม่ได้ปิดบัง พูดว่า: “เธอเป็นน้องสาวของผม”
น้องสาว?!
ผลลัพธ์นี้ ทำให้เย้นหว่านตกใจมาก
จากที่รู้มาเด็กหนุ่มคนนี้น่าจะถูกลักพาตัวมาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะไม่ทราบสาเหตุ ท้ายที่สุดก็เข้าเป็นสมาชิกขององค์กร ตอนนี้ตามพวกชายชุดดำมาลักพาตัวเด็ก
พูดตามหลัก เขาควรจะโดนล้างสมองตั้งแต่แรกแล้วถึงจะถูก ก็ไม่น่ารู้ว่าครอบครัวของตัวเองอยู่ไหน
แต่เขากลับจำน้องสาวที่อายุแค่ประมาณสามขวบผิดคน?
ราวกับมองออกถึงความสงสัยของเย้นหว่าน เด็กหนุ่มอธิบายว่า:
“ผมจำรูปร่างของแม่ผมได้ เธอย้ายบ้านมาที่เมืองนี้ ตอนที่พวกเขาลักพาตัวเด็กๆ ผมเห็นแม่ของผม รู้ว่านี่คือน้องสาวของผม”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
“หนูไม่ใช่น้องสาวของคุณ คุณก็ไม่ใช่พี่ชายของหนู”
ถังเซียงกลับโต้แย้งอย่างโมโห เธอมองเด็กหนุ่มอย่างทั้งรังเกียจ แล้วก็เกลียดชัง
เหมือนว่าด้านหน้าที่เด็กหนุ่มพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยเธอ ไม่ใช่ญาติ แต่เป็นศัตรูที่น่ารังเกียจอย่างไรอย่างนั้น
ภายในนั้น มีเรื่องราว
แต่ว่าเด็กหนุ่มกลับไม่ได้พูดต่ออีก ถังเซียงยังคงหน้าตาต่อต้าน คิดดูแล้วก็คงไม่พูดแน่
รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว เย้นหว่านก็วางใจ
เด็กหนุ่มเป็นห่วงถังเซียงแบบนี้ ขอแค่เธอพาถังเซียงไปด้วย ก็ไม่ต้องกลัวว่าเด็กหนุ่มจะกลับคำและหนีไป
และถังเซียงก็ราวกับจะไม่ยอมอยู่ด้วยกันกับเขาเช่นกัน ยินดีที่จะติดตามเธอ
“มีคนมา”
ทันใดนั้น สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไปทันที หมุนตัวเดินไปอีกด้านหนึ่งของรถอย่างรวดเร็ว
ด้านหน้าของเขา มีชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่
ผู้ชายถูกเขาขวางทางไว้พอดี
“หมายเลข73 ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?”
“ผมมาตามหาเด็กทางด้านหลัง ด้านหลังผมดูมาหมดแล้ว ตรงนั้นไม่มีคน”
“ไม่มีคนก็อย่ามัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ รีบจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ตอนนี้พึ่งจะจับเด็กกลับมาได้ยี่สิบกว่าคน หนีไปตั้งกี่สิบคน นี่ถ้าถูกเบื้องบนรู้เข้า พวกเราทั้งหมดต้องตาย เร็วเข้า ไปตามหาเด็ก”
ชายคนนั้นพูดอย่างรีบร้อน แล้วก็กลับหลังเดินจากไป
เด็กหนุ่มก็ได้แต่เดินตามเขาไป เข้าร่วมกลุ่มตามหาเด็กและกลุ่มต่อสู้ที่วุ่นวาย
ตรงด้านหลังรถ ก็เหลือเพียงแค่เย้นหว่านกับเด็กสองคน
ตรงนี้เธออยู่ใกล้ถนน ค่อนข้างห่างไกล หลบเข้าไปในพุ่งหญ้าง่ายมาก หากว่าวิ่งเร็วล่ะก็ บางทีอาจจะหลุดจากคนที่ไล่ตามพวกนี้ออกไปได้
แต่ว่า…
แผนของเธอกับโห้หลีเฉินคือการปล่อยให้เด็กๆเหล่านี้วิ่งไปมั่วซั่ว แต่คนที่โห้หลีเฉินพามาจะเข้ามาค้นหาอยู่ล้อมรอบ และหาเด็กทุกคนกลับมา
แค่การค้นหาขอบเขตกว้างแบบนี้ ความเร็วก็จะช้ามาก ทำให้เสียเวลามาก
ตอนนี้เธอคิดว่าทุกนาทีทุกวินาทีมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด มันอาจจะหมายถึงชีวิตของแรบบิท
เย้นหว่านไม่อยากเสียเวลานี้ไป เธอต้องรออยู่ที่สนามรบหลัก โห้หลีเฉินถึงจะตรงมาถึงที่นี่เร็วที่สุด และหาเธอเจอ
เย้นหว่านคิดในใจ หันหลังกลับมามองที่ประตูรถข้างคนขับซึ่งแง้มไว้
สถานที่ที่อันตรายมากที่สุด มักเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
“ไป เราขึ้นไปหลบในรถกัน”
เธอตัดสินใจเด็ดขาด
ถังเซียงรู้เรื่องอย่างมาก ให้ความร่วมมือดีมาก ค่อยๆปีนจากเบาะข้างคนขับเข้าไปทันที
แต่ว่า โห้หยูเซิงกลับยืนนิ่งไม่ขยับ มองรถคันด้านหน้า ทั้งสายตาเต็มไปด้วยการต่อต้านและรังเกียจจากภายในใจ
เมื่อกี้เขาก็ถูกขังไว้ในรถแบบนี้
เบาะคนขับก็ยังเคยถูกนั่งโดยผู้ชายที่ตีเขาอีก
เย้นหว่านแค่มองก็รู้ความคิดของโห้หยูเซิง รู้ว่าสำหรับเขาแล้ว มันยากลำบากมาก
เธอย่อตัวลง มองเขาอย่างอ่อนโยน พูดโน้มน้าวอย่างใจเย็น:
“หยูเซิง หนูอยากช่วยแรบบิทมั้ย?”
โห้หยูเซิงมองเย้นหว่านนิ่งๆ
เย้นหว่านพูดอีกว่า: “แรบบิทถูกคนไม่ดีจับไปแล้ว เราต้องไปช่วยเธอ เราจะต้องหลบอยู่ในรถรอพ่อของหนูมา ถึงจะสามารถไปช่วยแรบบิทได้”
โห้หยูเซิงแววตางุนงง มองเย้นหว่านเหมือนจะเข้าใจแต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจ
แต่ไม่ว่าอย่างไร ในวินาทีต่อมาเขากลับมีการตอบสมองออกมา
เขาก้าวขาสั้นน้อยๆ เดินไปทางข้างคนขับรถ
เย้นหว่านมองแผ่นหลังเล็กๆของเขา ดวงตาทั้งสองข้างน้ำตาซึมทันที แรบบิทจ๊ะ พี่ชายออทิซึมของหนูแคร์หนูมากเลยนะ ยอมทนกับสิ่งที่เขาเกลียดเพื่อหนู
ดังนั้น หนูจะต้องปลอดภัยไม่เป็นอันตรายนะ
เย้นหว่านและเด็กสองคนหลบอยู่บนเบาะคนขับ ใต้แสงไฟมันมืดจริงๆ ด้านนอกวุ่นวายอย่างมาก เสียงร้องไห้ตะโกนโหวกเหวก กลับไม่มีใครพบพวกเขา
เด็กแต่ละคนที่ถูกจับถูกโยนเข้าไปขังไว้ตรงด้านหลังรถ
เด็กบางคนถูกคนของตระกูลหยูจับไป ก็ขังไว้ในรถของพวกเขาเหมือนกัน
ทั้งสองฝ่ายต่างแย่งชิงกัน ต่อยตีกัน บนพื้นทุกที่เต็มไปด้วยคราบเลือด
“พี่หลิว คนตระกูลหยูโหดมาก พวกเราคนแค่นี้สู้ชนะพวกมันไม่ได้ ถ้าชักช้าแบบนี้ต่อไปคงถูกกินหมดแน่ ทำยังไงดี?”
“แม่ง! ให้ตายเถอะ พึ่งจะหาเด็กเจอยี่สิบกว่าคน กลับไปจะรายงานยังไง? เบื้องบนได้เอาหัวของเราไปน่ะสิ”
“แต่ว่าตอนนี้เด็กหลายคนหนีไปแล้ว จับก็จับกลับมาไม่ได้ ตระกูลหยูยังจับบางส่วนไปอีก เราก็แย่งมาไม่ได้ อยู่ที่นี่เสียเวลาต่อไป ไม่มีผลประโยชน์ก็มีแต่รอตายอย่างเดียวนะครับ”
ชายที่ชื่อพี่หลิวนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ด่าไปด้วยออกคำสั่งไปด้วย: “รถที่ใส่เด็กเอาไว้แยกออกไปก่อน คนอื่นไปอยู่ข้างหลัง”
ออกคำสั่งไป ทันใดนั้นก็มีคนเดินมาทางที่นั่งคนขับอย่างรีบร้อน
และรถคันที่เย้นหว่านหลบซ่อนอยู่ ก็เป็นที่ซ่อนเด็กๆพอดี!
เย้นหว่านเกร็งไปทั้งตัวในพริบตา ให้ตายเถอะ โชคร้ายอะไรขนาดนี้ ในเวลาแบบนี้ยังให้เธอชนเข้ากับมัน
“พี่เสี่ยวหว่าน หนูกลัว”
ถังเซียงที่ย่อตัวอยู่ใต้ที่นั่งข้างคนขับ มือเล็กคว้าชายเสื้อของเย้นหว่านเบาๆ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เธอจะกล้าหาญข่มขู่ฆ่าตัวตาย แต่นั่นก็มั่นใจแน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่มีทางให้เธอตายแน่ๆ แต่ว่าผู้ชายพวกนี้ กลับให้ความทรงจำดั่งฝันร้ายกับเธอ
แค่พวกเขาเข้าใกล้ เธอก็กลัวแล้ว
ตอนนั้น ตรงข้างหู เสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามาเร็วขึ้น ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เย้นหว่านตื่นเต้นจนหน้าซีดขาว หัวใจเกือบจะเต้นออกมานอกคอ
โห้หลีเฉินยังไม่มา ตอนนี้ถ้าเธอถูกเจอตัวเข้า มีแต่ตายเท่านั้น
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังมาที่รถคันนี้ เธอจะลงจากรถตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว จะซ้ายหรือขวาก็มีแต่ทางเปิดเผยตัวตนทั้งนั้น
เย้นหว่านกัดฟันอย่างรุนแรง ในดวงตาฉายแววดุร้ายออกมา
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่มีทางไป ถ้างั้นเธอก็ต้องสู้ตาย
จู่ๆเธอก็ลุกขึ้น นั่งลงบนเก้าอี้คนขับ ระดับความสูงของเธอ ทำให้ชายที่เดินเข้ามาเห็นเธอเข้าทันที
ชายคนนั้นตะโกนอย่างหน้าบึ้ง “แกเป็นใคร?”
เย้นหว่านมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ แม้จะตื่นเต้นจนเกร็งไปทั้งตัว แต่เธอกลับเหยียบคันเร่งอย่างแน่วแน่ เสียงดัง”บูม” รถก็พุ่งไปด้านหน้าอย่างไว——