สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1206 มีวิธีอะไร
โห้หลีเฉินและคนกลุ่มหนึ่งมาถึงเมืองเล็กๆริมทะเลทรายก่อน ที่นี่คนผ่านมาผ่านไป แม้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งมาก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก
พวกเขาเหมาโรงแรมแห่งหนึ่ง ปรึกษากันในนี้
เด็กหนุ่มสีหน้าเคร่งขรึม “เมื่อเข้าสู่ทะเลทรายแห่งนี้ ก็อาจจะเข้าสู่เขตเฝ้าระวังของคนในองค์กรแล้ว เข้าใกล้บริเวณร้อยลี้ล่ะก็ จะถูกพวกเขาตรวจพบเข้า หากยังเดินหน้าต่อไป ก็จะมีคนออกมาตรวจสอบและขับไล่”
“เข้าไปโดยตรงนั้นเป็นไปไม่ได้ วิธีเดียวของเรา ก็คือแฝงตัวเข้าไปในขบวนขนส่งสินค้า แต่ว่าสินค้าพวกนี้ก็ต้องตรวจสอบด้วยเช่นกัน ตรวจสอบทุกขั้นทุกตอน คิดจะแฝงตัวเข้าไป ความหวังก็มีไม่มาก”
ถึงแม้จะพาคนมามากขนาดนี้ ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือตระกูลเย้น แต่ถ้าแฝงตัวเข้าไปเงียบๆไม่ได้ ทั้งหมดก็สูญเปล่า
ถึงอย่างไรใช้กำลังเข้าโจมตีซึ่งๆหน้า หากว่าอีกฝ่ายใช้แรบบิทหรือพวกเด็กๆมาข่มขู่ พวกเขาก็คงต้องยอมจำนน
โห้หลีเฉินเทชาเพิ่มความชุ่มชื้นแก้วหนึ่งตรงหน้าเย้นหว่าน ถึงจะพูดออกมาว่า:
“ผมมีวิธีเข้าไป”
“วิธีอะไร?”
ทุกคนต่างตกตะลึงและมองโห้หลีเฉินอย่างรอคอย
เพราะว่าเด็กหนุ่มไม่รู้ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แค่จำทางได้ ดังนั้นเลยพาพวกเขามาที่นี่ พูดคร่าวๆถึงตำแหน่งไหนในทะเลทราย พวกเขาถึงรู้ว่าอยู่ที่นี่
ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะเตรียมพร้อมทุกอย่าง แต่ก็ถือว่าเพิ่งมาถึงสถานที่
อีกอย่างในสถานการณ์ที่เป็นกลางทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุด เงื่อนไขนี้ โห้หลีเฉินก็ยังสามารถหาวิธีได้ในทันที
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านสักพัก ถึงจะพูดอย่างช้าๆ:
“ภายในองค์กรนั่น มีคนของผมอยู่”
ป่ายฉีตกตะลึง “โอ้โห ทะเลทรายที่อยู่ห่างไกลขนาดนี้ นายยังมีคนอยู่อีก?”
เด็กหนุ่มก็มองโห้หลีเฉินอย่างไม่อยากเชื่อเช่นกัน “คนที่สามารถอยู่ในองค์กรหลักได้ ล้วนเป็นคนที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ทุกคนล้วนภักดีอย่างมาก จะมีคนของคุณอยู่ในนั้นได้ยังไง?”
“อีกอย่าง คุณก็พึ่งรู้จักองค์กรนี้ไม่ใช่หรอ? คุณจะส่งคนเข้าไปได้ยังไง หรือว่าคุณทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้?”
แม้แต่เด็กหนุ่มที่พูดน้อยยังตกใจขนาดนี้
โห้หลีเฉินกลับดื่มชาหนึ่งอึกอย่างสงบนิ่ง
กลับเป็นเย้นหว่านที่ผ่อนลมหายใจ เทียบกับอาการตกใจของเด็กหนุ่ม เธอรู้สึกชินแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าโชคดี
โชคดีที่โห้หลีเฉินมีสายสืบอยู่ทั่วโลก โชคดีที่ที่นี่ก็มีเหมือนกัน
เธออธิบาย: “โห้หลีเฉินมีเครือข่ายสารสนเทศ พวกคุณรู้ ทำสารสนเทศ ก็ต้องมีคนอยู่ทุกที่ถึงจะถูก”
เด็กหนุ่ม: “……” สายตาของเขาเอาแต่จ้องมองโห้หลีเฉิน นับถืออย่างบอกไม่ถูก
แม้แต่ในช่องมืดยังสามารถแทรกสายสืบเข้าไปได้ บนโลกนี้เกรงว่าจะมีเพียงแค่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เท่านั้นที่สามารถทำได้
เขายังเป็นคนใช่มั้ย? กลัวว่าจะเป็นปีศาจน่ะสิ
ป่ายฉีชิออกมา “ถ้าเสียสติ ไม่รู้เข้า คงจะนึกว่านายมีสายสืบมากขนาดนี้ ก็เพื่อเอาไว้แอบดูผู้หญิงแต่ละประเทศอาบน้ำนะเนี่ย”
แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ เครือข่ายสารสนเทศของโห้หลีเฉิน ในหลายๆครั้ง ก็มีบทบาทสำคัญ
อีกอย่างจิ้กจอกตัวนี้ แม้แต่ตระกูลเย้นของพวกเขาก็ยังมีสายสืบ
แม้ว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เย้นโม่หลินก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เขาเคยไปจับเป็นการส่วนตัว ยังจับไม่ได้เลย
โห้หลีเฉินไม่เพียงแค่สายสืบมากมาย สายสืบของเขายังซ่อนตัวเก่งมากอีกด้วย
“ดังนั้นนายเลยคิดใช้งานสายสืบของนาย? ให้พวกเขาทำลายการตรวจตราภายในชั่วคราว จากนั้นเราก็ถือโอกาสวิ่งเข้าไป?”
โห้หลีเฉินมองบนใส่เขา “คุณคิดว่ายามเฝ้าบนหลังคาของพวกเขาเป็นของตกแต่งหรือไง?”
ป่ายฉี: “ถ้างั้นนายก็ให้สายสืบของนายจัดการยามเฝ้าซะสิ”
โห้หลีเฉิน: “สายสืบไม่ใช่นักฆ่า อีกอย่าง มีแค่คนเดียว มากสุดก็ไม่เกินสามคน”
น้อยแล้วก็ขาดแคลน
คนมีความสามารถแบบนี้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือ ก็จัดการคนบนหลังคาทั้งหมดไม่ไหว
การใช้งานสายสืบที่สำคัญที่สุดก็คือส่งข่าว และในสถานการณ์คับขัน ทำส่วนสำคัญที่เป็นสิ่งหลัก
ทำน้อยแต่ได้มาก
ป่ายฉีดูหมิ่น “ถ้างั้นสายสืบของนายเอามามีประโยชน์อะไร?”
โห้หลีเฉินไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่ถามย้อนกลับว่า “ในทะเลทราย อะไรสำคัญที่สุด?”
ป่ายฉี: “น้ำ”
นัยน์ตาโห้หลีเฉินฉายแววอันตราย “ถ้าหากจู่ๆไม่มีน้ำ ทั้งช่องมืด ก็จะวุ่นวายแน่”
ป่ายฉีเข้าใจทันที “นายคิดจะทำลายอ่างเก็บน้ำของพวกมันงั้นหรอ? ความคิดดีนี่!”
สายสืบคนเดียวทำอะไรไม่ค่อยได้มากนัก แต่การทำลายอ่างเก็บน้ำโดยไม่ให้รู้ตัวนั้น กลับso easy
เพราะงั้น ช่องมืดจำเป็นต้องเร่งเติมแหล่งน้ำด่วนแน่นอน อีกทั้งคนในช่องมืดก็หลายคน ปริมาณน้ำที่ต้องการก็มาก
น้ำปริมาณมากส่งเข้าไปที่ช่องมืดพร้อมกันในเวลาเดียวกัน การตรวจสอบก็จะไม่เคร่งขนาดนั้นเหมือนก่อนหน้านี้ ใช้วิธีการสักหน่อย ก็แฝงตัวเข้าไปได้อย่างง่ายๆ
ป่ายฉีพูดเร่ง: “ถ้างั้นยังรออะไร รีบบอกให้สายสืบของนายลงมือเข้าสิ”
โห้หลีเฉินดื่มชาอย่างใจเย็นหนึ่งอึก
แล้วมองป่ายฉีเหมือนยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม “ยังต้องให้นายบอกหรอ?”
ป่ายฉีนิ่งไป เขาสัมผัสได้ถึงการเหยียดหยามในรอยยิ้มของโห้หลีเฉิน!
เขาดูถูกเขา ทำให้เขาอับอาย
ป่ายฉีตบโต๊ะดัง ‘ปึง’ และลุกขึ้นยืน จ้องโห้หลีเฉินอย่างโมโห ดึงแขนเสื้อขึ้น กำหมัด
“ครั้งนี้อันตรายมาก โห้หลีเฉิน มา ยืดเส้นยืดสายกับฉันหน่อย”
เขาอยากชกโห้หลีเฉินให้ตาย
ชกไม่ตายก็ต้องทำให้เขาตาเป็นหมีแพนด้า
โห้หลีเฉินวางแก้วชาลงเบาๆ จากนั้นก็หันหน้าไปมองเย้นหว่าน “ภรรยาจ๋า เขาคิดจะต่อยผม”
ป่ายฉี: “……”
เด็กหนุ่ม: “……”
เย้นหว่านหน้าแดงอย่างเขินอาย นี่โห้หลีเฉินกำลังออดอ้อนเธองั้นหรอ?
เธอถลึงตาใส่ป่ายฉี ดึงเขาให้นั่งลง
“เก็บแรงของคุณไว้ เอาไว้ไปช่วยแรบบิท”
ป่ายฉีถูกดึงบังคับให้นั่งลง แค่รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวเป็นชั้นๆ
โห้หลีเฉินผู้ชายคนนี้ร้ายกาจมาก โจมตีด้วยการแสดงความรักต่อสาธารณะ!
กลั่นแกล้งเขาไม่มีแฟนงั้นหรอ?!
“คุณโห้ ด้านนอกมีการเคลื่อนไหวแล้ว”
ขณะนั้น บอดี้การ์ดชุดดำคนหนึ่งรีบเดินเข้ามารายงาน
โห้หลีเฉินที่สีหน้าเกียจคร้านก็เคร่งขรึมขึ้นมาในพริบตา เขาลุกขึ้นยืน และพูดว่า:
“เตรียมตัวได้แล้ว ต้องออกเดินทางแล้ว”
นี่จะออกเดินทางแล้ว?
เย้นหว่านสะดุ้งตกใจ ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น
โห้หลีเฉินเลยอธิบายต่อ
“อ่างเก็บน้ำของช่องมืดระเบิดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้วุ่นวายยกใหญ่ กำลังคนและวัสดุที่ใช้ในการระดมน้ำและซ่อมแซมในเมือง ผมจัดการคนไปติดต่อเรียบร้อย พวกเราตามพวกเขาเข้าไป”
ใจของเย้นหว่านตึงเครียดขึ้นมาชั่วขณะ
เมื่อกี้ได้ยินโห้หลีเฉินและป่ายฉีพูดถึงแผนการของสายสืบ นึกว่าอย่างน้อยก็ต้องรอเวลาสักพัก ไม่คิดว่า จะลงมือรวดเร็วขนาดนี้ เริ่มแผนแล้ว
เพราะฉะนั้น เธอห่างจากแรบบิทใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
จะเริ่มลงมือแล้ว ป่ายฉีก็เก็บท่าทางไม่ค่อยจริงจังกลับมา และจริงจังขึ้นมา
ถึงแม้เพิ่งจะมาถึงเมือง แต่การดำเนินการของโห้หลีเฉินยอดเยี่ยมมาก เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้หมดเรียบร้อยแล้ว
คนของพวกเขาบางคนปลอมเป็นคนขับรถ บางคนปลอมเป็นพนักงานทำปูนซีเมนต์ บางคนปลอมเป็นพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ด ต่างก็ทยอยมุ่งหน้าไปทางช่องมืด
ไปอย่างผ่าเผย