สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1224 เธอชื่ออะไร
หญิงสาวโมโหจนแทบบ้า
แม้ว่าเธอจะถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเสริมแกร่งแล้วแม้ความเจ็บปวดก็ไม่มีอีกต่อไป ชีวิตของเธอก็มีเพียงภารกิจและการสังหารเท่านั้น เธอไม่เคยมีอารมณ์แปรปรวนและชีวิตที่สับสนวุ่นวายเลย
แต่ถึงยังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งและรู้จักความอับอายขายหน้า
ศักดิ์ศรีของเธอไม่ยอมให้เธอถูกปฏิบัติเช่นนี้
“ฉันจะฆ่านาย!”
ป่ายฉีส่ายหัว “พวกเรารอดชีวิตได้แล้ว ค่อยฆ่าก็ยังไม่สาย”
หญิงสาวโกรธจนแทบบ้า หากสายตาฆ่าคนได้ ตอนนี้เธอก็คงสับป่ายฉีเป็นชิ้นไปแล้ว
เธอไม่กลัวคนเหี้ยมโหด แต่กลัวคนไร้ยางอาย
เมื่อคิดว่าต้องรับความอัปยศแบบนี้ก่อนตายแล้ว เธอก็ไม่อาจทนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับกำลังพังทลาย
เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ในเสื้อผ้าของฉันมีใยขึ้นรูปอยู่ สามารถทำเป็นรูปทรงต่างๆ ได้!”
มือที่อยู่ไม่สุขของป่ายฉีหยุดลงในทันที เขามองหญิงสาวอย่างชื่นชม
“ไม่เลวนี่ ขนาดของล้ำค่าอย่างใยขึ้นรูปก็ยังมี จิ๊ ๆ เธอนี่เหมือนโดราเอมอนเลยแฮะ ทำฉันอดอยากจับดูให้ละเอียดไม่ได้เลย ว่าบนตัวเธอยังมีของล้ำค่าอะไรอยู่อีกกันน้า~”
“ไอ้บ้า! ฉันกับนายต้องพินาศไปด้วยกัน!”
หญิงสาวโกรธจัด เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีคนไร้ยางอายเช่นนี้บนโลก
ป่ายฉียิ้มอย่างร้ายกาจ นิ้วมือของเขาค้นหาในเสื้อผ้าของหญิงสาวอย่างอยู่ไม่สุขอีกครั้ง
ไม่เพียงใยขึ้นรูป เขายังเอาอาวุธที่ติดตั้งไว้ทั่วตัวของเธอทั้งข้างนอกและที่ซุกซ่อนไว้ออกมาทั้งหมด
เนื่องจากสวมชุดรัดรูป ตอนที่ป่ายฉีคลำหาจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะสัมผัสโดนร่างกายของหญิงสาว
สัมผัสที่แตกต่างจากการต่อสู้ทำให้หญิงสาวร่างแข็งทื่ออย่างทนไม่ได้ เธอด่าทอต่อว่าเขาไม่หยุด และคำรามว่าจะฆ่าเขา
ป่ายฉีแคะหูด้วยสีหน้าเหมือนพวกนักเลงหัวไม้ “ก็กำลังหาวิธีเอาตัวรอดอยู่ คลำๆแตะๆมันก็ปกติไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอแคร์มันมากขนาดนั้น งั้นฉันจะพยายามรับผิดชอบเธอ แต่งกับเธอก็แล้วกัน?”
“ไปให้พ้น! ฉันจะต้องฆ่านายให้ได้!”
เมื่อการขอแต่งงานล้มเหลว ป่ายฉีก็แบมืออย่างช่วยไม่ได้ “ในเมื่อเป็นสามีภรรยาไม่ได้ ฉันคงไม่สามารถให้ตัวเองเก็บศัตรูที่พยายามจะสังหารตัวเองตลอดเวลาไว้ ฉันได้แต่ปล่อยเธอไว้ที่นี่ ให้เธอค่อย ๆ หิวตายกลายเป็นมัมมี่”
หญิงสาวจ้องเขาอย่างเย็นชา ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร สำหรับเธอ มันคือการหลุดพ้นจากความอัปยศนี้
เธอยอมตาย ดีกว่าถูกชายน่ารังเกียจคนนี้ทำอนาจารให้อับอาย
ป่ายฉีใช้เชือกผูกมือและเท้าของหญิงสาวไว้ ให้เธอพิงกับหินทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เกินสามวันเธอจะต้องทนทุกข์จนตายแน่นอน
“อันที่จริงฉันคนนี้อ่อนโนกับผู้หญิงมากจริง ๆ นะ เธออยากเปลี่ยนความคิดหรือเปล่า? ถ้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าฉัน ฉันจะพาเธอออกไป”
หญิงสาวขบฟันดวงตาแดงก่ำ “ถ้าฉันไม่ตาย สุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะฆ่านาย!”
พอที
ดื้อรั้นอย่างกับลาอย่างนั้นแหละ งั้นก็ปล่อยเธอไปตามยถากรรมอยู่ในนี้ก็แล้วกัน
ป่ายฉีใช้ใยขึ้นรูปทำเป็นเครื่องมือที่ใช้ปีนป่ายอย่างว่องไว จากนั้นจึงสวมไว้ที่มือและเท้า เขาปีนหน้าผาอีกครั้ง ซึ่งก็ปีนขึ้นไปได้อย่างมั่นคง
ไม่นานเขาก็ปีนมาถึงปากถ้ำ
เขาหันไปมองหญิงสาวอย่างเย้ยหยัน แล้วพูดพลางหัวเราะร่า “สาวน้อย เธอจะไม่ไปจริง ๆ เหรอ? ฉันไปแล้วก็ไม่มีคนช่วยชีวิตเธอได้แล้วนะ ชีวิตคนเรามีแค่ครั้งเดียวนะ ไม่เอาจริง ๆ เหรอ?”
บอกจะช่วยคน แต่รอยยิ้มเต็มใบหน้านั้นกลับทำให้ดูขัดหูขัดตาสุด ๆ ไปเลย
หญิงสาวเพียงหลับตาลงโดยไม่สนใจเขาอีก แล้วรอความตายอย่างเงียบ ๆ
ป่ายฉีถอนหายใจ “เธอชื่ออะไร? ฉันจะได้ทำแท่นสลักให้เธอข้างบนนี้”
ขนตาที่ปิดของหญิงสาวสั่นสะท้านราวกับเธอกำลังใช้ความอดทนอย่างมาก และในที่สุด…
เธอก็ด่าออกมาอย่างทนไม่ไหว “ไสหัวไปซะ!”
“ชิ ช่างไม่เข้าใจน้ำใจของเพื่อนมนุษย์เอาซะเลย เสียความหวังดีของฉันไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เลย ในเมื่อเธอไม่พูด งั้นก็ตามใจเธอเถอะยัยคิงคอง!”
หญิงสาว “……” เธออยากตายเร็วขึ้นสักหน่อย ยิ่งเร็วยิ่งดี
ป่ายฉีมองหญิงสาวด้วยแววตานิ่งขรึม เขาถอนหายใจแล้วปีนออกไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วย แต่เพราะเธอไม่อยากอยู่
ป่ายฉียืนอยู่ที่ส่วนยอดของถ้ำ เท้าเหยียบบนทรายสีเหลืองที่หายไปนาน จ้องมองที่ดวงอาทิตย์ที่แผดเผา และมองลงไปยังหญิงสาวที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ที่ด้านล่างของถ้ำ
เขาตะโกนเสียงดัง “ฉันจะไปจริง ๆ แล้วนะเฮ้ย?”
หญิงสาวยังคงนิ่งไม่ขยับและไร้ซึ่งการตอบสนอง
ป่ายแค่นเสียงเย้ยหยัน “งั้นก็ตายที่นี่แล้วกัน”
เมื่อพูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินจากไปอย่างเย็นชา ในเมื่อเธออยากตาย เขาก็คงจะอยู่หน่วงเหนี่ยวกับเธอที่นี่ไม่ได้
เขายังไม่เรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย…..
เมื่อรู้สึกได้ว่าในที่สุดผู้ชายน่ารำคาญคนนั้นก็ไปแล้ว ขนตาของหญิงสาวก็สั่นกระพือแล้วลืมตาขึ้นช้า ๆ
เธอมองขึ้นไปที่พระอาทิตย์ที่แผดแสงจ้าที่ยอดถ้ำ ความโศกเศร้าบางอย่างก็ค่อยๆ เติบโตในหัวใจของเธอ
มีชีวิตอยู่ในองค์กร เธอพร้อมที่จะตายได้ทุกเมื่อ เพียงแต่เมื่อเวลานี้มาถึงเข้าจริง ๆ เธอกลับสับสนและไม่เต็มใจนัก
ในที่สุดเธอก็เป็นอิสระจากชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ก็กลับเหมือนว่าชีวิตนี้ยังไม่เคยได้ทำอะไรเลย
และสิ่งที่ทำให้เธอยังติดค้างที่สุด นั่นคือเธอยังไม่สามารถสังหารป่ายฉีได้เลย!
เธอไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน ภารกิจล้วนสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ มีเพียงครั้งนี้เท่านั้น ที่ทำให้เธอเสียใจจนนอนตายตาไม่หลับ
มันหยุดลงแล้ว ความอ่อนล้าทั่วร่างและความง่วงงุนค่อย ๆ เข้าจู่โจม…..
หนังตาของหญิงสาวเริ่มหนักปรือ สายตาพร่ามัว และสติก็ค่อย ๆ เลือนราง
เธอรู้ว่าหากหลับไปครั้งนี้ เธออาจจะหลับไปตลอดกาลและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
แบบนี้ก็ดี ก็ดี….
และในตอนที่หญิงสาวหลับตาลงนั่นเอง เสียง “ตุบ” ก็ดังขึ้น เชือกเส้นหนึ่งก็ตกลงมาจากปากถ้ำยังด้านล่างของถ้ำ
หญิงสาวได้ยินเสียงก็พลันลืมตาขึ้น
ใครมากันน่ะ?
คนขององค์กรงั้นเหรอ?
เธอมองไปทางปากถ้ำทันที เธอเห็นร่างสูงร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงปากถ้ำ ส่องประกายราวกับเทพจากสรวงสวรรค์
เพียงแต่ เสียงของเขากลับทำให้เธอรังเกียจอย่างมาก ถึงกับเกลียดเลยด้วยซ้ำ
“ให้ตายฉันนี่ช่างหล่อเหลาและใจดีจริง ๆ ทนเห็นสาวน้อยคนหนึ่งอย่างเธอรอความตายอยู่ที่นี่ไม่ได้ ช่างเถอะ ๆ ฉันให้อภัยความคิดทึ่ม ๆ ที่เธออยากจะฆ่าฉันแล้วช่วยเธอออกไปก็แล้วกัน”
คนที่กลับมา ก็คือป่ายฉีนั่นเอง
เขาดึงเชือกแล้วโรยตัวลงมาอย่างคล่องแคล่ว
สายตาของหญิงสาวเย็นยะเยือก มองเขาโดยไม่มีความยินดีเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกถึงความห่อเหี่ยวอย่างหมดอาลัยตายอยาก
เธอกัดฟัน “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของนาย ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ฆ่าฉันซะ!”
เธอยอมตาย แต่ไม่ยอมตกอยู่ในมือของเขา ถูกเขาทำให้อับอายหรอก
ป่ายฉีสาวเท้าเดินไปยังเบื้องหน้าของหญิงสาว นิ้วมือเชยคางของเธอขึ้นแล้วเอ่ยเยาะเย้ยอย่างร้ายกาจ
“ฉันจะเป็นลูกผู้ชายไหม เธอก็ลองทดสอบดูบนเตียงได้นะ”
หญิงสาวพลันหน้าแดงเรื่อ “หน้าไม่อาย!”
นิ้วของป่ายฉีลูบคางของเธอ ราวกับเพลิดเพลินกับสัมผัสที่ผ่อนคลายนั้น
“เธอรู้หรือเปล่า ผู้ชายน่ะ ชอบเวลาที่ผู้หญิงพูดว่าหน้าไม่อายกับเรื่องแบบนั้นที่สุดเลยล่ะ ยิ่งพูด ผู้ชายก็จะยิ่งสนใจ”
หญิงสาว “!!!”
หากเธอขยับได้ เธอจะต้องหักคอเขาแล้วเตะกล่องดวงใจของเขาทันทีแน่นอน!
เมื่อเห็นหญิงสาวที่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่กลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ป่ายฉีก็รู้สึกสนใจและสนุกขึ้นมา
เขาเอ่ย “แต่ฉันไม่ช่วยฟรี ๆ หรอกนะ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอฆ่าฉันตอนออกไปแล้ว ฉันจะมัดเธอไว้ พอขยับไม่ได้แล้ว ก็จะทำให้ฉันจับถูลูบคลำได้ตามใจชอบ จิ๊ ๆ คิด ๆ ดูแล้วก็ไม่เลวเลยนะเนี่ย~”