สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1232 ท่านอาวุโสแปด
“แน่ใจไหม?”เย้นหว่านถามขึ้น
เย้นเมิ่งพยักหน้า “พวกเราจะเข้าไปตอนดึกครับ”
การเตรียมตัวนั้นปล่อยให้พวกเย้นเมิ่งเป็นคนจัดการ เมื่อถึงกลางดึก พวกเย้นหว่านสวมใส่ชุดปฏิบัติการกลางคืนที่เตรียมไว้
ชุดปฏิบัติการกลางคืนนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ประโยชน์สูงสุดของมันคือการพรางตัว ในกล้องวงจรปิดจะจับภาพไม่ได้
แบบนี้ พวกเขาเหลือแค่ต้องจัดการกับคนที่เฝ้า
พวกเย้นเมิ่งเตรียมการมาเป็นอย่างดี ลงมืออย่างเงียบๆ และยิ่งเป็นเวลากลางคืน พวกเขายิงยาสลบใส่คนเฝ้าโดยอีกฝ่ายไม่รู้ตัว พวกเย้นหว่านรีบเข้าไป
เวลาเริ่มดึกแล้ว บรรยากาศข้างนอก เงียบสงบ จนคนเฝ้าทุกคนเริ่มหาว
ทว่า ตอนที่ถึงข้างล่าง ได้ยินเสียงเคาะตีดังไปหมด
เย้นหว่านขมวดคิ้ว “กลางคืนก็ยังทำงานอีกเหรอ?”
เย้นเมิ่งพูดขึ้น “พวกเขาทำเหมือนคนทั้งหมดในนี้ไม่ใช่คน สามารถนอนได้ห้าชั่วโมงต่อวันถือว่าดีแล้ว ยิ่งกลางคืน ก็จะผลัดกันทำงานเป็นกะ”
“โดยเฉพาะพวกที่ทำผิดแล้วถูกจับมา คนเบื้องบนไม่แคร์ว่าพวกเขาจะอยู่หรือจะตาย ทรมานพวกเขาแล้วให้เหนื่อยตายไปเอง”
เย้นหว่านได้ยิน ก็ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ
สถานการณ์นี้ฟังดูคล้ายกับการใช้แรงงานหนักในสมัยโบราณเลย?
ตอนนี้มันสังคมอารยะสมัยใหม่แล้ว ทำไมถึงยังมีสถานที่แบบนี้อีก
“สถานที่แบบนี้ของตระกูลหยูมีไม่น้อย ล้วนเป็นสถานที่ที่พวกเขาเอาคนทำผิดมาลงโทษ และแน่นอน มีพวกคนทำงานปกติทั่วไปด้วย คนเหล่านี้ได้รับการดูแลดีกว่าคนทำผิดเล็กน้อย แต่ว่า เข้ามาแล้วก็จะไม่ได้ออกไปตลอดชีวิตเลย”
“ตระกูลหยูมีอิทธิพลและอำนาจ เลยไม่มีใครกล้าควบคุม?”เย้นหว่านไม่เคยรู้มาก่อนว่า ภายใต้ความรุ่งโรจน์ของตระกูลหยู ยังมีเรื่องแย่ๆแบบนี้อยู่
เย้นเมิ่งส่ายหัว “มีใครกล้ายุ่งกับเรื่องของตระกูลหยูล่ะ?”
ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอำนาจมากมาย
สีหน้าของเย้นหว่านดูเย็นชามาก เธอยิ่งมุ่งมั่นที่จะทำลายตระกูลหยู “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันมายุ่งเอง ครั้งนี้ แม้จะต้องลงทุนแค่ไหน ก็ต้องทำให้ตระกูลหยูหายสาบสูญไปจากโลกนี้ให้ได้”
“คุณหนูครับ ไม่ว่าคุณหนูจะทำอะไร พวกผมก็จะตามและช่วยสุดกำลังครับ”ท่าทางของเย้นเมิ่งหนักแน่น ปราศจากความกลัว
พวกเย้นหว่านไม่รอช้า ค่อยๆเข้าไปข้างใน
ในเวลากลางคืน แม้จะมีคนทำงาน แต่ไม่มีคนเยอะหรือวุ่นวายเท่ากลางวัน
จึงทำให้พวกเย้นหว่านมีโอกาส แอบเข้าไปข้างในได้
ในนี้พื้นที่กว้าง การตามหาคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
พวกเขาแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม
เย้นหว่านกับชายหนุ่มอยู่กลุ่มเดียวกัน ถ้าเจอเป้าหมายก็ติดต่อรวมกลุ่ม
ค่อยๆมุ่งตรงเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านจุดพักของคนงาน ก็คือรูที่มืดสนิท ข้างในปูไว้ด้วยเสื่อฟาง รกมาก
ดูแล้วไม่เหมือนที่ที่คนควรอยู่เลย มันโหดร้ายกว่านักโทษที่อยู่ในคุกเสียอีก
เย้นหว่านพยายามควบคุมเปลวไฟภายในใจไว้ สักวัน เธอจะทำให้สถานที่แบบนี้หายไปจากโลกนี้ให้หมด
ทั้งสองพบสถานที่หลายแห่งอย่างเงียบๆ ทว่า ยังไม่พบเงาของท่านอาวุโสแปดเลย
ชายหนุ่มมองดูนาฬิกา “ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว เราต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่ฟ้าจะสว่าง”
เย้นหว่านขมวดคิ้วอย่างหัวเสีย ถ้าพรุ่งนี้มาอีก ความเสี่ยงมันก็ยิ่งมีมาก
ทว่า เมื่อฟ้าสว่างแล้วพวกเขาตื่น เธอก็อยู่ตรงนี้ต่อไม่ได้
“งั้นก็รีบหน่อย ใช้เวลาสุดท้ายในการหาคนให้เจอ”
เธอพยายามสุดความสามารถ
ดีที่ สวรรค์มีตาจริงๆและเห็นความพยายามของผู้คน ในที่สุดเย้นหว่านก็พบอาวุโสที่แปด
ทว่า สถานการณ์ของเขาแย่กว่าที่เธอคิดไว้
“ไอ้ขยะ ขนเร็วๆ ทำอะไรก็ช้าๆแบบนี้ เชื่อไหมว่ากูเฆี่ยนมึงให้ตายได้”
ผู้ดูแลถือแส้ไว้ ฟาดใส่ตัวอาวุโสที่แปดอย่างรุนแรงและดุเดือด
และเขา เหมือนจ้องมองท่านอาวุโสแปดโดยเฉพาะ ยืนอยู่ข้างๆท่านอาวุโสแปด ไม่มีอะไรทำก็ตี
เดิมทีท่านอาวุโสแปดเป็นคนรูปร่างสูง ตอนนี้หลังคดหลังงอไปหมด เสื้อผ้าที่หยาบกร้านมีเลือดและด้ายดามทั่วตัว เสื้อขาดเป็นชิ้นๆ มันอาภัพยิ่งกว่าขอทานข้างถนนเป็นสิบเท่า
บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น เส้นผมก็ขาวหมดแล้ว ราวกับแก่ขึ้นประมาณยี่สิบปี
ถ้าก่อนหน้านี้ไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกันมาก เย้นหว่านก็ไม่กล้ายอมรับและเชื่อว่า คนคนนี้คือคนที่เคยนั่งอยู่บนตำแหน่งผู้อาวุโสของตระกูลหยู
ถึงแม้ตอนนั้นอำนาจของเขาจะไม่มากนัก ทว่า เขาก็อยู่ในตำแหน่งท่านอาวุโสแปด สถานะสูงส่ง
ทว่าตอนนี้……….
ทันใดนั้น ดวงตาของเย้นหว่านก็แดงก่ำ เธอเอามือปิดหน้า ถึงจะไม่มีเสียงร้องไห้ออกมา
ตอนนี้เธอถึงจะรู้ซึ้งว่า ที่แท้ การต่อสู้ระหว่างตระกูลหยูกับตระกูลเย้น มันลามไปถึงผู้บริสุทธิ์มากมาย
ท่านอาวุโสแปดผิดอะไร?
เขาก็แค่ติดตามโห้หลีเฉิน
“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ แกคิดว่าแกยังเป็นท่านอาวุโสแปดของตระกูลหยูอยู่เหรอ ตอนนี้แกไม่ต่างอะไรจากตัวเรือดเลย รีบลุกขึ้นมา ขืนยังนอนอยู่ตรงนั้น ฉันเอาแกตายแน่”
ท่านอาวุโสแปดล้มลงบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ผู้ดูแลก่นด่า และใช้แส้ฟาดเข้าไปอย่างแรง
บนหลังของเขา มีรอยแผลและคราบเลือดเปื้อนเต็มไปหมด
ร่างกายของท่านอาวุโสแปดสั่น เขาพยายามดิ้นรนและลุกขึ้น แต่ก็ล้มลงไปอีกครั้ง อาการเหนื่อยบวกกับการถูกทุบตี ทำให้เขาไร้เรี่ยวแรง ลุกไม่ขึ้น
ตรงมุมปากของเขาก็มีคราบเลือดติดอยู่
คนงานที่อยู่ข้างๆทนเห็นไม่ไหว “เขาทนไม่ไหวแล้ว ถ้าตีต่อไป เขาต้องตายแน่ๆ”
“เปี๊ยะ”
และแล้ว เพิ่งสิ้นเสียงคนคนนั้น แส้ที่แข็งๆก็ฟาดไปที่หน้าเขา เขาเจ็บจนกรีดร้องออกมา
ผู้ดูแลก่นด่า “ไอ้ขยะแบบนี้สมควรตายตั้งนานแล้ว กูจะตีให้มันตายนี่แหละ!”
“ท่านอาวุโสแปดของตระกูลหยูแล้วไง? กล้าหักหลังตระกูลหยู นี่ก็คือจุดจบ”
ผู้ดูแลที่กำลังด่า ก็ใช้แส้ตีไปที่ตัวของอาวุโสที่แปด มีเลือดสดไหลออกมาจากตัว
ท่านอาวุโสแปดใช้มือยันพื้น สีหน้าซีดขาว เลือดออกที่มุมปาก สีหน้ายังคงเย็นชา ปราศจากความเกรงกลัว
ใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่ไม่มีแสงแดด การตายเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่ามัน!”
เย้นหว่านเห็นภาพนี้ ก็จะพุ่งเข้าไปด้วยความโมโห
ชายหนุ่มดึงตัวเธอไว้ “คุณอยู่ข้างหลังของผม ผมจะจัดการคนอื่นๆ คุณจัดการผู้ดูแลนะครับ”
การแบ่งแบบนี้ มันตรงกับสิ่งที่เย้นหว่านต้องการ
การกระทำของชายหนุ่มรวดเร็วมาก เขาเข้าไปอย่างเงียบๆ ไปจัดการยามและผู้ดูแลรอบๆอย่างไม่มีเสียง
ขณะเดียวกัน เย้นหว่านก็รีบพุ่งเข้าไปที่ข้างหลังของผู้ดูแล
ไหวพริบของผู้ดูแลก็ดีมาก แค่ครู่เดียวก็รู้ตัว “ใครน่ะ?”
ตอนที่เขากำลังตะโกน เย้นหว่านถือก้อนหินใหญ่ไว้ในมือ แล้วทุบใส่หน้าของเขา
ผู้ดูแลล้มลงกับพื้น
เสียงทุบเสียงเคาะหยุดลงทันที คนงานทั้งหมดจ้องมาที่เย้นหว่านอย่างตกใจ ราวกับเห็นผี
ทำไมในนี้ถึงมีผู้หญิง?
และยังเป็นผู้หญิงที่กล้าทำร้ายผู้ดูแล?
ที่นี่มีคนงานประมาณยี่สิบคน เย้นหว่านไม่อยากทำร้ายพวกเขา ยิ่งไม่อยากทำให้พวกเขาเดือดร้อน จึงรีบพูดขึ้นว่า “ฉันมาช่วยพวกคุณออกไปจากที่นี่ ทุกคนเงียบๆกันก่อนได้ไหมคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นรู้?”
ดวงตาของคนงานลุกวาวทันที “คุณมาช่วยพวกเราจริงๆเหรอครับ?”
เย้นหว่านพยักหน้า “ใช่ค่ะ ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับฉันหน่อยนะคะ”
“โอเคครับ ขอแค่ได้ออกไปจากที่นี่ คุณจะให้ทำยังไงเราก็จะทำตาม”
คนงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม้ทุกคนนั้นจะผอมแห้งและทรุดโทรม รอยยิ้มที่หายไปนานก็ปรากฏบนใบหน้า
เย้นหว่านเห็นแล้วก็รู้สึกเศร้า
จากนั้นเธอก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของท่านอาวุโสแปด และนั่งลง “ท่านอาวุโสแปด ขอโทษที่ฉันมาช้านะคะ”