สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1240 ขอแลกเปลี่ยนของชัยชนะ
“งั้นเรอะ? หยูฉู่สอง คุณคิดจริงๆ เหรอว่าฉันดูถูกคุณ?”
เย้นหว่านมีท่าทีเหยียดหยาม
ทันใดนั้นเธอจับข้อมือของหยูฉู่สอง ก่อนจะพูดปนขำ “ฉันมันก็แค่ผู้หญิงธรรมดา พาท่านผู้นำตระกูลหยูลงนรก ก็เป็นความสุขของฉัน ชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้ว”
หยูฉู่สองพลันมีสีหน้าเปลี่ยนไป “คุณหมายความว่ายังไง?”
เขาตื่นตัวได้ถึงความอันตรายถึงขีดสุดจากรอยยิ้มอันเย็นยะเยือกของเย้นหว่าน เขาสะบัดมือของเย้นหว่านออก
“เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันมหาศาลตรงหน้า ลูกเล่นทั้งหลายของนายล้วนไร้สาระ”
เขาผลักเย้นหว่าน ก่อนจะหันกายออกไป
เย้นหว่านเชิดหน้ามอง “น่าเสียดาย ช้าไปแล้ว”
วิ่งไม่ทันแล้ว
ตามมาด้วยเสียงถล่ม เวลาถึงยี่สิบนาทีแล้ว
“บึ้ม!”
เสียงระเบิดดังสนั่น แรงสั่นสะเทือนและแรงอัดระเบิดพวยพุ่งออกมา รอบด้านทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว
ทำให้คนวิ่งหนีไม่ทันหรือตอบสนองทันเลย
“ท่านผู้นำตระกูล!”
ในชั่วพริบตาเดียว ก้อนหินที่ร่วงหล่นทับบนลำตัวของหยูฉู่สอง ทับถมเขา
และสรรพสิ่งรอบด้านดำดิ่งสู่ความมืดมิด
ก่อนที่เย้นหว่านจะหลับตาลง ไร้ความหวาดกลัวและความเจ็บปวด มีแต่ความเสียใจ ไม่ยินยอม…..
เธอใกล้จะจบสิ้นแล้ว ไม่สามารถบอกลาโห้หลีเฉิน
เขาคงจะปลอดภัยดีสินะ?
ต้องอยู่รอดปลอดภัยไปตลอดชีวิตสิถึงจะดี
……
การระเบิดครั้งนี้ระเบิดขุมทรัพย์ของตระกูลหยู ดังสนั่นไปทั่วสารทิศ พื้นสั่นเขาสะเทือน
เย้นเมิ่งมีสีหน้าซีดเซียวพลางคลานบนพื้นอย่างลำบาก เขามองจุดที่ระเบิดอย่างตกตะลึง ชายหนุ่มสูงเจ็ดฟุต ดวงตาแดงก่ำหลั่งน้ำตา
รอบด้านเงียบสนิท
“ติ้ดติ้ดติ้ด”
โทรศัพท์ที่ใช้สำหรับส่งข่าวสารส่งเสียงเตือนข้อความเข้า
เย้นเมิ่งหลุดของจากภวังค์ เขาพลางนึกว่าใครเป็นคนส่งมา เขารีบหยิบมันขึ้นมาดุ
เมื่อมองตัวหนังสือ เบื้องหน้าของเขาค่อยๆ มืดลง โชคทั้งหมด ในเวลานี้ล้วนแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวัง
นี้เป็นข้อความแบบตั้งเวลาส่งของเย้นหว่าน
บนนั้นพิมพ์ไว้ว่า เธอกลับไปจริงๆ เป้าหมายคือการลากหยูฉู่สองไปสู่ความพินาศ ทำให้เขาพาผู้อาวุโสรองออกไปอย่างปลอดภัย ให้เขาฉวยโอกาสตอนชุลมุนช่วยคนงานออกจากเหมือง
ห้ามไม่ให้เขาตามหาเธอ เธออยู่จุดศูนย์กลางระเบิด ไม่มีทางรอดกลับมา
เธอให้เขารีบกลับไป ไปบอกที่ตระกูล ใช้ร่างของหยูฉู่สอง โจมตีตระกูลในตอนโกลาหล เปิดเผยความลับของตระกูลหยูออกไป ให้โลกซ้ำเติมพวกเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี
เธอคำนวณทิศทางทั้งหมดของสงครามไว้แล้ว
เธอฝากฝังทุกอย่าง คำพูดสุดท้าย คือการขอโทษ เธออยากให้เย้นเมิ่งกลับไปขอโทษกลุ่มของกงจืออวี
ชีวิตนี้อกตัญญู หากมีโลกหลังความตาย เพื่อตอบแทนคุณที่ให้กำเนิดมา
เย้นเมิ่งกำโทรศัพท์ น้ำตาทำเอาดวงตาพร่าเลือน เขาคลุกคลานร้องไห้อยู่บนพื้น
เรื่องมาถึงจุดจบแล้ว
ยิ่งเสียใจ ล้วนไม่อาจหวนคืนกลับมา
เป็นไปตามที่เย้นหว่านคาดการณ์ไว้ ตระกูลหยูสับสนถึงที่สุด
ท่านผู้นำตระกูลถูกระเบิด เป็นตายไม่อาจทราบ เรื่องของขุมทรัพย์รั่วไหลถึงโลกภายนอก ความมั่งคั่งสุดขีดเผยสู่สายตาผู้คน เมื่อมังกรไร้หัว ฆาตกรนับไม่ถ้วนออกมาผิวน้ำ
ตระกูลเย้นฉวยโอกาสนี้ลงมือ ได้รับชัยชนะครั้งใหญ่
เมื่อตระกูลหยูไม่สงบ ฝั่งทะเลทรายล้วนไม่สงบเช่นกัน ย่อมไม่ได้ระแวดระวังหลัง จึงถูกตระกูลเย้นนำกำลังเสริมบุกโจมตี จนต้องอพยพกันอย่างวุ่นวะวุ่นวาย ทะเลทรายกลับมาอยู่ในการดูแลของตระกูลเย้นอีกครั้งหนึ่ง
ตระกูลเย้นยังคงอยู่ในทะเลทรายเช่นกัน พบว่าป่ายฉีตายไปเสียแล้ว
ขุดพื้นที่ถล่มขึ้นมาใหม่อีกครั้งเช่นกัน ก่อนจะพบเย้นโม่หลินที่ถูกซ่อนอยู่ด้านล่างอย่างราบรื่น
เมื่อไม่มีอำนาจของตระกูลหยู เย้นโม่หลินเองก็ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนๆ ด้านล่างอีกต่อไป เป็นการขุดหาคนอย่างเฉียบขาด
ขุดลงไปอีกสามฟุต ก็พบโห้หลีเฉิน
แม้จะองค์กรจะถูกระเบิดจนถล่มหมดแล้ว ก็ยังมีมุมที่ยังหลงเหลืออยู่ เขาวางใจว่าโห้หลีเฉินยังหลบรอความช่วยเหลืออยู่ที่นั่น
ตอนนี้มีกำลังคน ทว่าไม่มีอำนาจ เขามีเวลาว่างพอที่จะแสดงความสามารถ ขุดทั่วทั้งทะเลทราย
เย้นโม่หลินขุดอย่างไม่หลับไม่นอน
วันนี้ ท่ามกลางพายุทะเลทรายที่ปกคลุมไปทั่วฟ้า ยานบินทั้งสองลำขับเคลื่อนมา
ยานบินเปิดออก กู้จื่อเฟยเดินออกมาจากข้างใน
ลูกมือของเย้นโม่หลินมองนายหญิงที่ไม่เคยมาท่านนี้ ก็รู้สึกแปลกใจมาก เธอยังเป็นคุณหนูที่ผู้ร่ำรวยอย่างแท้จริง ดูอ้อนแอ้นกว่าเย้นหว่าน เธอได้รับการดูแลอย่างดี ชนิดที่หาไม่ได้ในทะเลทรายแห่งนี้
พวกเขารีบพาไปพบเย้นโม่หลิน
ในเวลานั้นเอง เย้นโม่หลินกำลังยืนอยู่บนพื้นที่สูง เขาหยิบกล้องส่องทางไกลดูสถานการณ์การขุดและทุกอย่างที่สามารถเห็นได้ในทะเลทราย
กู้จื่อเฟยยืนมองจากที่ห่างออกไปไม่กี่เมตร เสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายมอมแมม รูปร่างล้วนดูผอมลงไปมาก
เขาดูโทรมมาก ทนทุกข์ทรมานมามากโข
ด้วยสภาพแบบนี้ แต่กลับยังยืนหยัดขุดหาคนต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกจากความหมกมุ่น
ต้องพาโห้หลีเฉินกลับไป ไม่งั้นเย้นหว่านคงปวดใจแย่
สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือ การทำให้เย้นหว่านเสียใจ สิ่งที่เขาเจ็บปวดที่สุด คือน้องสาวของเขาผู้นี้
แต่ตอนนี้……
กู้จื่อเฟยก้าวเดินทีละก้าวอย่างยากลำบาก น้ำตาคลออยู่ในตา
ดวงตาของเธอบวมเล็กน้อย ดูเหมือนผ่านการร้องไห้นับผ่านครั้ง
“พี่เย้น……”
น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาและแหบพร่าอย่างมาก
เย้นโม่หลินหันหน้าไปมองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณมาได้ยังไง คุณรีบกลับไปเถอะ”
“ฉัน……”
กู้จื่อเฟยอ้าปากพะงาบๆ กลับรู้สึกลำคอตีบตันอย่างมาก ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรออกไปดี
น้ำตาของเธอกลิ้งไหลลงมาแย่างห้ามไม่อยู่
เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว เขารีบเดินเข้าไปกอดเธอ พลางตบแผ่นของเธอเบาๆ
“เป็นอะไร? อยู่ดีๆ ร้องไห้ทำไม? ผมไม่เป็นไรหรอก ร่างกายไม่ได้บาดเจ็บ แค่ดูมอมแมมเท่านั้นเอง คุณไม่ต้องเป็นกังวล”
น้ำตาของกู้จื่อเฟยน้ำตาไหลหนักกว่าเดิม
เธอรีบคว้ามือของเย้นโม่หลิน น้ำเสียงสั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่
ตอนที่รู้ข่าวของตระกูลเย้น กงจืออวีหมดสติในเหตุการณ์ หลังจากฟื้นก็ขึ้นมาด้วยสภาพใจแตกสลาย ทุกข์ทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
แม้เย้นโม่หลินจะเป็นนายท่านของตระกูล เป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้า แต่ก็ดูราวกับแก่ลงไปสิบปีทันตา
เป็นความเจ็บปวดที่ไร้สุรเสียง หัวใจแตกสลาย
พวกเขาไม่ได้บอกเย้นโม่หลิน เพราะกลัวว่าเขาที่เพิ่งหลุดพ้นความยากลำบากในทะเลทรายมา จะรับไม่ได้กับชีวิตโลกภายนอก
จริงๆ แล้วควรพาเขากลับบ้านก่อน แต่เขาเข้าใจถึงความโกลาหลของตระกูลหยู หลังจากสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เลยยืนหยัดอยู่ที่ทะเลทรายเพื่อตามหาโห้หลีเฉิน
ทว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางปิดบังเย้นโม่หลินไปได้นาน
หากเธอปล่อยให้เขารู้จากคนอื่น เขาคงเสียสติแน่ๆ ดังนั้นกู้จื่อเฟยจึงมาด้วยตัวเอง
เพื่อเป็นคนบอกเขาด้วยตัวเอง
เธอกระอึกกระอัก “พี่เย้น ฉันมาเพื่อบอกพี่ ปะเป็น…เป็นข่าวร้ายมากๆ”
เธอพูดไปน้ำตาพลางไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ห้ามก็ห้ามไม่อยู่
ความเจ็บปวดราวกับฉีกกระชากหัวใจแบบนั้น หากไปอยู่บนตัวเย้นโม่หลินก็ล้วนทำให้กระดิกกระเดี้ยไม่ได้ หัวใจราวกับถูกฝ่ามือใหญ่บีบกำ พร้อมจะถูกลากลงนรกได้ทุกเมื่อ
ร่างกายของเขาแข็งเกร็ง พลางเอ่ยถาม “อะไร? ข่าวอะไร?”
กู้จื่อเฟยเจ็บลำคอ
นิ้วมือราวกับแทบจะหยิกเข้าไปในเนื้อ เธอเจ็บปวดเหลือเกิน เธอเอ่ยออกมาไม่ได้อยากสุดทน
“ตอนที่ขุมทรัพย์ของตระกูลหยูระเบิด เสี่ยวหว่าน เสี่ยวหว่านใช่ตัวเองล่อศัตรู ให้หยูฉู่สองอยู่ด้วยกัน ก่อนจะกดระเบิด”
ชั่วพริบตา ร่างกายของเย้นโม่หลินราวกับถูกกดปุ่มหยุด แข็งทื่อไปแล้ว