สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1246 แนวทาง
สิ่งที่ถังจุ้ยพูด เหมือนกับที่ป่ายฉีคาดเดา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ เย้นหว่านดำเนินการตามแผนเดิมด้วยตัวคนเดียว และลากหยูฉู่สองให้ตายไปพร้อมกัน
ถังจุ้ยกำลังตำหนิติโทษตัวเอง ว่าทำไมเขาตอนนั้นถึงไม่ฟื้นตื่นขึ้นมา
จิตใจของป่ายฉีหนักอึ้งราวกับถูกกดทับด้วยก้อนภูเขา รู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของถังจุ้ย แต่เขาก็ไม่สามารถพูดคำปลอบใจออกมาได้
เขากล่าวขึ้น:”นอกจากจะภาวนาให้เธอยังมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอได้”
ถังจุ้ยกุมขมับไว้ เสียใจอย่างสุดซึ้ง
เขาเคยกล่าวไว้ และได้ลงมือทำ จะสละตัวเองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
นี่คือคำปฏิญาณในชีวิตของเขา นี่คือเรื่องที่เขาคิดว่าถูกต้อง แม้แต่เรื่องนี้เขาก็สนับสนุนให้เย้นหว่านไปทำ
แต่ คนเรานั้นย่อมมีความรัก ยิ่งไปกว่านั้นคือความเห็นแก่ตัว
ตอนที่รู้ว่าเย้นหว่านเสียชีวิตไปแล้วนั้น ฉับพลันเขารู้สึกว่าความศรัทธาและท้องฟ้าได้ถล่มทลายลงหมดแล้ว โลกใบนี้มืดมนไร้ซึ่งแสงสว่าง
ผู้หญิงคนนั้น พี่สาวคนนั้น คนที่เดินร่วมทางกับเขาด้วยกันมา
ท่ามกลางความไม่รู้ตัว ทำให้เขาได้หลุดพ้นจากองค์กร และก้าวสู่การมีชีวิตใหม่ เธอตั้งชื่อใหม่ให้กับเขา และเธอได้เป็นเพื่อนกับเขา
เธอคือเพื่อนคนแรกในชีวิตของเขา
แต่เธอ กลับไม่อยู่แล้ว
ความรู้สึกนั้น จู่ ๆ ทำให้ถังจุ้ยรู้สึกว่ายอมที่จะสละส่วนรวม ยอมที่จะทำลายโลกใบนี้ เพื่อให้เธอได้มีชีวิตที่ดี
เขารู้สึกเสียใจ เสียใจที่ตอนนั้นรู้แผนการของเย้นหว่านแล้ว เขาควรจะห้ามเย้นหว่าน
ไม่ควรที่จะคิดไปเองว่าจะสามารถช่วยเธอได้ และไปต่อกรหยูฉู่สองพร้อมกันกับเธอ แต่เขากลับเกิดเรื่องขึ้น และปล่อยให้เย้นหว่านไปเผชิญหน้ากับภัยอันตรายเพียงลำพัง
หลายวันมานี้ อาการบาดเจ็บของถังจุ้ยดีวันดีคืน แต่เขากลับนั่งอยู่อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน มองออกไปนอกหน้าต่าง และไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร
ความเจ็บปวดดูเหมือนจะทำลายความตั้งใจทั้งหมด
ทำให้เขาท้อแท้ใจ
เมื่อป่ายฉีเข้าใจความเป็นมาของเรื่องราว หลังจากผ่านไปสักพัก เขาถึงได้ระงับความทรมานที่แปรปรวนในจิตใจลงไปได้
จากนั้นเอ่ยปากกล่าวว่า :”เรื่องขององค์กร นายรู้มามากน้อยแค่ไหน วันนั้นหลังจากที่แยกย้ายกับผมที่องค์กรแล้ว หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย”
“เรื่องที่นายรู้มา จงบอกกับผมทั้งหมด”
ถังจุ้ยยังคงกุมหน้าไว้ ไม่ได้เงยหน้าแต่อย่างใด น้ำเสียงแหบแห้งสุดขีด
“คุณอยากจะรู้เรื่องเหล่านี้ไปทำไม”
ป่ายฉี:”โห้หลีเฉินถูกจับตัวไป ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แรบบิทก็กึ่งเจ้าหญิงนิทรา ยังหาวิธีที่รักษาเธอไม่ได้ เรื่องเหล่านี้ต้องการให้ผมไปจัดการ อย่างน้อย……”
“ก่อนที่เย้นหว่านจะกลับมา ผมอยากจะช่วยเธอดูแลคนที่เธอเป็นห่วง”
ถังจุ้ยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ สายตามองป่ายฉีอย่างมึนงงสับสน
ช่วยเย้นหว่านดูแลคนที่เธอเป็นห่วง?
จิตใจที่เต็มไปด้วยความมืดมนค่อยๆปั่นป่วนขึ้น ในหัวสมองนึกถึงความรักและความเอาใจใส่ที่เย้นหว่านมีต่อแรบบิท
คิดถึงเด็กน้อยที่เขาทอดทิ้งและทำร้ายก่อนหน้านี้
“คุณอยากรู้อะไร ผมจะบอกคุณให้หมด” ถังจุ้ยเปิดปาก
เขาบอกเรื่องที่เขารู้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างละเอียดให้กับป่ายฉี
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ก็คือการให้การร่วมมือกับป่ายฉีไปดูแลคนที่เย้นหว่านเป็นห่วงเป็นใย
เขาอยากให้เด็กสาวน้อยคนนั้นอาการดีขึ้นให้โดยเร็ว เขาอยากจะไปเยี่ยมเธอ
ป่ายฉีฟังถังจุ้ยเล่าจนจบ ในที่สุดก็เกิดแนวทางความคิดที่ชัดเจนขึ้น
“คนในองค์กร ไม่เพียงมีแต่ลูกพี่ใหญ่อย่างเจมส์ ยังมีฝู้ยวน”
“ตอนที่ฆ่าล้างโคตรตระกูลหยูนั้น ฝู้ยวนไม่อยู่ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน แต่ในเมื่อมีคนสามารถจับตัวโห้หลีเฉินไป ฝู้ยวนกับเจมส์ก็ต้องหนีไปแล้วอย่างแน่นอน”
“หากว่าผมเดาไม่ผิด โห้หลีเฉินนั้นน่าจะถูกฝู้ยวนจับตัวไป และซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่”
ถังจุ้ยพยักหน้า “มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแบบนี้ แต่ว่าเจมส์เป็นเจ้าแห่งการหลบซ่อน เป็นผู้นำในหมู่สายลับ หากเขาต้องการหลบซ่อน ก็แทบจะไม่มีใครมีความสามารถที่จะค้นหาเจอเขาได้”
หาพวกเขาไม่เจอ ก็หาตัวโห้หลีเฉินไม่เจอ
ป่ายฉีหรี่ตาลง “มีหนึ่งวิธี หรือบางทีอาจเป็นแนวทางออก”
ถังจุ้ยกล่าวถาม “วิธีอะไร”
“มนุษย์พันธุ์แกร่ง หานจื่อ”
ถังจุ้ยส่ายหน้า “มนุษย์พันธุ์แกร่งนั้นคือหุ่นยนต์สังหารคน พวกเขาเลือดเย็นไร้ความปรานี ไม่มีทางที่จะช่วยคุณหรอก พวกเขาถูกล้างสมองตั้งแต่เล็ก มีความซื่อสัตย์มาก แม้ตัวตายก็จะไม่ยอมทรยศองค์กร”
ป่ายฉีกางสองมือของตัวเองออก จากนั้นส่ายเขย่า แล้วถามขึ้นทันใด:”นายรู้ว่าไหมว่าสองมือของผมนี้ใช้ทำอะไร”
“ใช้รักษาคน ขณะเดียวกันก็ใช้สังหารคน” ถังจุ้ยมึนงง “ยังไงเหรอ”
ป่ายฉีมองดูมือของตัวเอง “มันใช้สร้างปาฏิหาริย์ได้”
เขาเคยสร้างปาฏิหาริย์ทางการแพทย์นับไม่ถ้วน แท้ที่จริงเขาก็คือปาฏิหาริย์นั่นเอง
และตอนนี้เขาต้องการจะสร้างปาฏิหาริย์สิ่งต่อไป
เขาต้องการจะยุแยงหานจื่อ
ให้เธอพาพวกเขาไปเจอเจมส์กับฝู้ยวน แล้วช่วยโห้หลีเฉินออกมา
ถังจุ้ยรู้สึกว่าความคิดของเขานี้บ้าบิ่นเกินไป และก็เป็นเหมือนกับการตัดสินใจของเย้นหว่านในครั้งนั้นที่ดูประหนึ่งกับคนบ้า
ป่ายฉีออกจากห้องของถังจุ้ยไป จากนั้นก็สั่งกำชับคนให้ไปขุดทะเลทราย ออกคำสั่งว่าจะต้องขุดองค์กรจากทะเลทรายออกมาให้ได้ เขาต้องการข้อมูลขององค์กร
ได้ข้อมูลการฟื้นตื่นของมนุษย์พันธุ์แกร่งเหล่านั้น คือกุญแจสำคัญในการทำให้แรบบิทฟื้นตื่นขึ้นมา
เรื่องนี้จะวู่วามไม่ได้ ต้องรอให้พวกเขาขุดทะเลทรายออกมาก่อน
ต้องการใช้เวลา
ขณะเดียวกัน ป่ายฉีก็ดำเนินการเรื่องอื่นไปพร้อมกัน
หลังจากที่เขากลับไป ก็ได้เดินตรงไปหาหานจื่อที่ห้องของเธอ
เขาไม่ได้เคาะประตู ผลักประตูเดินตรงเข้ามา
หานจื่อที่กำลังยกบาร์เบลล์ กำลังออกกำลังกายอยู่ เธอสวมใส่เสื้อกั๊ก เหงื่อออกท่วมตัว กล้ามเนื้อแขนของเธอมีพลังมาก
เธอนุ่งผ้าไม่มาก แต่ว่ารูปร่างนี้ ความแข็งแรงนี้ ทำให้คนจินตนาการไม่ออกจริง ๆ
จึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้
อย่าได้ไปขัดใจเชียว
การแสดงออกของป่ายฉีไม่มีร่องรอยของความโศกเศร้า ยืนพิงอยู่ที่ขอบประตูอย่างลอยชาย มุมปากยกรอยยิ้มมีความสุข สายตาเจ้าชู้มองเหลาะแหละไปมาบนเรือนร่างของเธอ
“ยังจะฝึกซ้อมทำไมอีก ต่อไปก็ไม่ได้ใช้อีกแล้ว”
หานจื่อหยุดการกระทำการยกบาร์เบลลง แล้วหันไปมองเขาอย่างเย็นชา “ต้องไปที่ห้องเครื่องมือวัดเหรอ”
ป่ายฉีส่ายหน้า
ทันใดนั้นหานจื่อก็หมดอารมณ์ ไม่หันมามองป่ายฉีอีก และทำการฝึกซ้อมยกบาร์เบลต่อ
สายตาของป่ายฉีมองไปที่ร่างของเธอแล้วแซวขึ้น:
“ฝึกซ้อมเยอะเกินไป ทำให้บนตัวมีแต่กล้ามเนื้อ รูปร่างแบบนี้อยู่บนตัวผู้หญิงดูไม่ค่อยเหมาะ ต่อไปอาจจะหาไม่ได้นะ”
หานจื่อไม่ได้สนใจเขา
ป่ายฉีจึงกล่าวต่อ “องค์กรของคุณถูกทำลายแล้วรู้ไหม ทั้งองค์กรถูกระเบิดฝังจมอยู่ใต้ทะเลทราย คนที่อยู่ในนั้นต่างเสียชีวิตทั้งหมด แม้แต่เจ้านายของคุณเอง”
“ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องฝึกซ้อมอีกแล้ว ไม่มีภารกิจการสังหารคนอีกต่อไป คุณสามารถเป็นผู้หญิงที่ปกติธรรมดา มีความรัก แต่งงานมีลูก”
การเคลื่อนไหวของ หานจื่อหยุดชะงัก ดูเหมือนจะแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง
จากนั้นเธอก็กล่าวอย่างเย็นชา :”องค์กรไม่มีทางถูกทำลายหรอก”
เธอกล่าวเบาๆด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ความหนักแน่นเช่นนี้ไม่ใช่มาแบบไม่มีสาเหตุ เธอจะต้องรู้อะไรมาอย่างแน่นอน ถึงได้มั่นใจขนาดนี้
ป่ายฉีสายตาเลือนราง เหมือนอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด หานจื่อรู้เรื่องดีเกี่ยวกับองค์กร ลงมือจากตัวเธอ จะต้องได้เบาะแสอย่างแน่นอน
อย่างน้อยเธอก็รู้เรื่องในองค์กรมากกว่าคนอื่นทั่วไป
ในตัวของเธอน่าจะต้องมีวิธีเฉพาะในการติดต่อกับเจมส์