สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1258 ยุแยงหานจื่อ
การควบคุมพละกำลังสำหรับหานจื่อแล้ว เป็นเรื่องที่ยาก
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เป้าหมายของเธอคือการสังหารอีกฝ่ายอย่างไรให้เร็วที่สุด
หลังจากที่ปรับตัวอยู่สองสามวัน หานจื่อจึงค่อย ๆ ไม่ทำร้ายคนอีก แน่นอนว่าลูกศิษย์ก็เปลี่ยนเป็นชุดใหม่แล้ว
แต่ว่า ปัญหาใหม่คือจะสอนลูกศิษย์อย่างไร
นอกจากสอนด้วยท่าทางมือแล้ว ยังต้องใช้ปากในการสอนอีก หานจื่อไม่ชอบการเสวนากับผู้คนมากที่สุด แบบนี้เป็นการบังคับให้เธอทำให้สิ่งที่เธอไม่ชอบ
แต่ว่าถูกป่ายฉีเพ่งเล็งไว้ เธอไม่ทำก็ไม่ได้
หานจื่อจึงตัดสินใจอีกครั้งว่า อีกไม่กี่วันก็จะครบหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป คนแรกที่เธอจะสังหารก็คือป่ายฉี
ให้เขาสำนึกในสิ่งที่เขากระทำกับเธอทั้งหมด
“ครูฝึกหาน ขอบคุณครับ คุณสอนได้ดีมากเลย ไม่น่าเชื่อว่าผมจะสามารถควบคุมจุดสำคัญของการชกมวยได้เร็วขนาดนี้!”
“ใช่ครับ ครูฝึกหาน ครูสุดยอดมากเลย ครูเป็นครูที่สุดยอดที่สุดที่ผมเคยเจอ”
“เมื่อกี้ผมได้จ่ายเงินเพื่อเพิ่มหลักสูตรการเรียนแล้ว ต่อไปจะฝึกซ้อมกับครู!”
หลายวันมานี้ เมื่อเลิกงานตอนเย็น เหล่าลูกศิษย์จะวิ่งมาหาหานจื่อส่งเสียงจอแจเจี๊ยวจ๊าว
พวกเขาล้วนเป็นลูกศิษย์ที่หานจื่อสอน สำหรับหานจื่อพวกเขาให้ความเคารพและชื่นชม
เมื่อก่อนเรียนตั้งนานก็ไม่เป็นสักที พอมาเรียนกับหานจื่อ เธอมีวิธีการที่เฉียบคมและไม่เหมือนกับคนอื่น ทำให้พวกเขาสามารถควบคุมจุดสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
มองดูแต่ละคู่ดวงตาที่จริงใจที่อยู่ตรงหน้า หานจื่อตะลึงงัน
สิ่งที่เธอเคยเผชิญล้วนแต่เป็นแววตาที่เกรงกลัวและเคียดแค้น นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้รู้สึกซาบซึ้ง
สิ่งนี้สำหรับเธอเคยเป็นสิ่งที่เธอไม่ใส่ใจ ไม่อยากได้มากที่สุด แต่ว่าเวลานี้หัวใจของเธอกลับสั่นไหว
ความรู้สึกนี้ทำให้สูญเสียการควบคุม ยิ่งยากที่จะต่อกร ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบๆ
และหลายวันผ่านไป
หานจื่อใช้ชีวิตอยู่ที่ค่ายมวย บ้าน ห้องวิจัย
ทุกวันแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกัน หนำซ้ำยังซ้ำซากจำเจ แต่ชีวิตของเธอก็อุดมสมบูรณ์ มีสีสัน
เธอยิ่งคุ้นเคย ชินกับชีวิตแบบนี้
โดยเฉพาะตอนกลางคืน ก็จะผุดความคิดที่ไร้สาระขึ้นอย่างเงียบๆ ถ้าหากว่าสามารถมีชีวิตแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็คงจะดี
หัวใจเธอตื่นขึ้น เป็นครั้งแรกที่มีความคาดหวังและโหยหา
แต่สติที่เย็นชากลับสะกิดเธอว่า นี่เป็นเพียงความฝันเท่านั้น หลังจากหนึ่งเดือน ทุกอย่างของที่นี่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆกับเธอ เธอยังคงต้องกลับไปที่องค์กร กลับไปมีชีวิตที่เย็นชาแบบนั้น
นี่คือโชคชะตาของเธอ เธอไม่สามารถหนีพ้นได้
เพียงแต่เมื่อก่อนมีเพียงวิถีการดำรงชีพแบบนั้น และเธอรู้สึกว่าสมเหตุสมผล แต่ว่าตอนนี้เมื่อมีวิถีการดำรงชีวิตแบบอื่น ทำให้จิตใจเธอมีความรักมีความคาดหวัง และเธอเริ่มรู้สึกต่อต้าน……
อยู่ในการดิ้นรนขัดขืนเช่นนี้
หลายวันมานี้ ป่ายฉีไม่ได้พาเธอไปที่ค่ายมวยอีก แต่ได้พาเธอไปที่ลานจอดรถเครื่องบิน
ด้านหน้าที่อยู่ไม่ไกล มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่ใบพัดกำลังหมุนติ้วๆ
หานจื่อจ้องมองมัน หัวใจจู่ ๆ ก็เต้นแรงขึ้นทันใด
ป่ายฉีกล่าว:”ใกล้จะถึงเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องเลือกแล้ว”
“เลือก? เลือกอะไร”
หานจื่อถาม
ป่ายฉียิ้ม หันกลับไปมองเมืองที่พักอาศัยในช่วงเวลานี้ ทิศทางตำแหน่งบ้านของหานจื่อ “เลือกชีวิตในอนาคตของคุณ”
“หนึ่ง. เลือกชีวิตที่ธรรมดาและอยู่ในเมืองต่อไป คุณสามารถเลือกที่จะอยู่ในบ้านนั้นต่อ ไปทำงานที่ค่ายมวย ศึกษาค้นคว้าอาหารที่คุณชอบทาน ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สอง.เลือกองค์กรของคุณ กลับไปสู่ชีวิตเดิมของคุณ และผมก็จะเผาบ้านของคุณ ทุกอย่างที่อยู่ในบ้านนั้นก็จะหายไปทั้งหมด ผมจะเผาค่ายมวยทิ้งด้วย จะไม่มีที่ตรงนั้นอีกต่อไป ไม่หลงเหลือร่องรอยข้อมูลของคุณแม้แต่สักนิดเดียว”
เผา
ทำลายร่องรอย
เรื่องแบบนี้เมื่อก่อนหานจื่อทำเป็นประจำ แต่ว่าเวลานี้ เมื่อเธอเผชิญด้วยตัวเองกลับอึ้งตัวแข็งทื่อ รู้สึกถึงอารมณ์ต่อต้านในหัวใจ และไม่สามารถจะยอมรับได้
ชีวิตในช่วงระยะนี้ สำหรับเธอแล้วเหมือนกับสวรรค์
ทุกอย่างที่อยู่ในบ้านนั้นเธอชอบหมดอย่างไม่รู้ตัว เธอรู้สึกว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นของเธอจริง ๆ
และค่ายมวยก็เหมือนกับเข้ามาในชีวิตเธอแล้ว เธอไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่ว่าชอบความรู้สึกเวลาที่สอนมวยคน และยังชอบดูรอยยิ้มบนใบหน้าของลูกศิษย์หลังจากที่เรียนรู้เป็นแล้ว
เธอรู้สึกทั้งหมดนี้มีความหมายยิ่งกว่าการฟังคำสั่งสังหารคนขององค์กร
หากว่าเผาสิ่งเหล่านี้แล้ว เธอไม่สามารถยอมรับได้ ด้วยเหตุนี้ อีกความคิดหนึ่งดังขึ้นในหัวใจเธอ ยิ่งส่งเสียงดังขึ้นอย่างชัดเจน
ไม่สามารถที่จะห้ามได้
เมื่อคนมีความคาดหวังและความคิด เธอก็เหมือนกับม้าที่ไม่มีเชือกมัด ไม่ต้องถูกควบคุมอีกต่อไป
นิสัยเย็นชาของหานจื่อ ก็มีความเด็ดขาดเช่นกัน
เธอมองป่ายฉีด้วยแววตาที่เย็นชา “สิ่งที่คุณทำนี้ หรือเพื่อต้องการดึงฉันไปเป็นฝ่ายของคุณ ทำงานให้กับคุณ”
ป่ายฉีไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ หานจื่อถึงแม้จะเย็นชา แต่ความคิดนั้นชัดเจน
เธอรู้จุดประสงค์ของป่ายฉีมาโดยตลอด แต่ว่ากลับยังถูกชีวิตของโลกโลกีย์ทำให้ลุ่มหลง
“ฉันสามารถช่วยคุณได้ แต่มีหนึ่งเงื่อนไข จะต้องทำลายองค์กรให้สิ้นซาก สังหารเจมส์และพรรคพวกของเขาทั้งหมด มีต้องสำเร็จ ล้มเหลวไม่ได้”
ป่ายฉีตกใจตะลึง ถึงแม้ว่านี่จะเป็นจุดประสงค์อันสูงสุดของเขา แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหานจื่อจะตัดสินใจเด็ดขาดเช่นนี้
ถึงขนาดที่ต้องแข็งแกร่งโหดเหี้ยม และต้องการจะทำลายองค์กรให้สิ้นซาก
นี่ถึงเรียกว่าคนโหดเหี้ยมที่แท้จริง
องค์กรปลูกฝังหุ่นยนต์ในการสังหารคน เกรงว่าคงคิดไม่ถึง เมื่อถูกยุแยงแล้ว จะถูกคนโหดเหี้ยมเหล่านี้โจมตีแก้แค้นองค์กร
ป่ายฉียิ้ม “แน่นอน ผมจะต้องให้พวกมันทุกคนตาย”
จากนั้น เขาหันไปยิ้มแล้วยื่นมือไปทางหานจื่อ “ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน”
หานจื่อมองมือของเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ไม่ได้สนใจ เดินผ่านตัวเขาอย่างเย็นชา
เธอก้าวเดินขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับสายลม
“สิ่งที่ฉันอยากได้ ก็ต้องได้ หากว่าใครขวางฉัน ฉันก็จะฆ่าทิ้ง เจมส์ก็เช่นกัน คุณ ก็เช่นกัน”
ถึงแม้ว่าจะมีความโหยหา แต่ก็ยังเป็นหานจื่อที่สามารถสังหารคนได้อย่างเลือดเย็น
ป่ายฉีมองแผ่นหลังที่เย็นชาของหญิงสาว กลับรู้สึกว่าค่อนข้างงดงามชวนมอง
เขายิ้มตาหยีแล้วเดินตามไป “พวกเราเป็นพวกเดียวกันแล้ว มีเป้าหมายเหมือนกัน ยังไงผมก็ไม่มีทางที่จะไปขัดขวางคุณหรอก
เมื่อจัดการกับเจมส์แล้ว ผมก็จะส่งคุณกลับมาด้วยตัวผมเอง ต่อไปพวกเรายังสามารถเป็นเพื่อนบ้านกัน”
หานจื่อสนยังไม่อยากจะสนใจป่ายฉี แล้วจะอยากเป็นเพื่อนบ้านกับเขาเหรอ
หลังจากหนึ่งเดือน เธอก็จะไม่ถูกเขาควบคุมอีกต่อไป แต่เธอยังคงต้องการที่จะสังหารเขาคนคนแรก
สิ่งที่เธอต้องการทำ ยังไม่เคยมีเรื่องไหนที่ทำไม่สำเร็จ
ป่ายฉีที่ยังคงยิ้มถูกแววตาของหานจื่อทำให้ตกใจ เหี้ย ทั้ง ๆ ที่ถูกยุแยงสำเร็จแล้ว ทำไมแรงอาฆาตนี้ยังรุนแรงล่ะ
แล้วที่บอกว่าจะเป็นพันมิตรที่ดีล่ะ
ป่ายฉีรู้สึกขนลุกสะพรึงกลัว เป็นห่วงชีวิตในอนาคตของตัวเองอย่างมาก
แต่ว่าตอนนี้ไม่มีเวลาไปสนใจความเคียดแค้นของหานจื่อ เธอรับปากช่วยเหลือ อีกไม่นานก็จะสามารถช่วยโห้หลีเฉินออกมาได้แล้ว!