สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1273 เหม็นกลิ่นความรัก
ชายวัยกลางคน “แค่ตำแหน่งหัวหน้าเลขาในนามเท่านั้นเอง จะไม่ส่งผลกระทบต่อเธอได้ยังไง เย้นหว่านกลับมาเป็นเรื่องดี เธอจะได้อยู่ในเงื้อมมือของฉัน มีเธออยู่ เรื่องที่จะทำมีแนวโน้มที่จะสำเร็จมากขึ้น ขอแค่เธอไม่กระทบกระเทือนถึงแผนหลักของเรา ไม่หนีไปจากเมืองหนาน เธอก็ไม่ต้องสนใจมาก”
เก่อหรูซวน”แต่ว่า…”
ชายวัยกลางคน “เก่อหรูซวนจำฐานะและภารกิจของเธอด้วย ถ้าเธอทนไม่ได้ จะทำแผนใหญ่ล้มเหลว”
เก่อหรูซวนก้มหน้าลง “ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้ว”
……
หลังจากเก่อหรูซวนจากไป เย้นหว่านที่กอดโห้หลีเฉินไว้แน่น รีบปล่อยมือออกทันที
ใบหน้าเล็กที่แสนเย็นชาเดินไปทางบ้านพัก
โห้หลีเฉินเดินตามเธอไปทันที น้ำเสียงของเขาเริ่มอ่อน “ที่รักครับ…”
“อย่าคิดว่าฉันจะให้อภัยคุณ ถ้าคุณไม่ไล่เก่อหรูซวนออก ฉันก็จะไม่เลิกโกรธคุณ”
เย้นหว่านเดินขึ้นบันไดอย่างโกรธเคือง แล้วหันไปห้ามโห้หลีเฉิน “ตั้งแต่นี้ไป ฉันจะนอนชั้นบน ส่วนคุณก็นอนชั้นล่าง ถ้าฉันไม่อนุญาต คุณห้ามขึ้นไปชั้นบน”
โห้หลีเฉิน “…”
เขารู้สึกอัดอั้นใจมาก “คุณจะแยกกันอยู่เหรอ ที่รัก เราห่างจากกันสามปีแล้วนะ ผมคิดถึงคุณมากเลย”
“ถ้าคุณไม่อยากแยกกันอยู่กับฉัน ก็ไล่เก่อหรูซวนออก” เย้นหว่านมองหน้าเขาอย่างมั่นคง
เสียงของโห้หลีเฉินเงียบไป ทั้งอ่อนใจและทำอะไรไม่ถูก
ท่าทีของเขา ทำให้เย้นหว่านรู้สึกเหมือนชกใส่สำลีนุ่ม ไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก
เขาไม่ยอมตกลง เธอก็ไม่ยอมถอยเช่นกัน
เย้นหว่านหันหลังกลับ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน ก่อนจะพูดว่า “ฉันพูดจริงค่ะ ห้ามตามฉันขึ้นมา”
เท้าของโห้หลีเฉินที่กำลังจะขึ้นไป หยุดลงกลางอากาศ
เขามองไปที่แผ่นหลังของเย้นหว่านด้วยอารมณ์ที่หนักหน่วง
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ถามขึ้นมา “แล้วคุณยังอยากจะไปทำงานในบริษัทอีกไหม?”
“แน่นอนค่ะ ถึงแม้เราจะแยกกันอยู่ แต่ต่อหน้าคนอื่นก็ต้องแสร้งทำเป็นรักกันไว้” เย้นหว่านพูดอย่างแน่นอน
ริมฝีปากของโห้หลีเฉินกระตุกอย่างแรง เขามองไปที่แผ่นหลังของเย้นหว่านที่ดูมั่นใจตัวเองอย่างหมดคำพูด
เสแสร้งอย่างนั้นเหรอ?
พวกเขายังจำเป็นต้องเสแสร้งทำเป็นรักกันอีกเหรอ?
ทำไมสามปีที่ไม่ได้เจอกัน ภรรยาของเขาเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ชอบแกล้งคนมากขนาดนี้
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วครุ่นคิด คนหนึ่งอยู่ชั้นบน อีกคนอยู่ชั้นล่าง เขาจะทำลายกำแพงนี้ไปได้ยังไง
หลังจากที่เย้นหว่านขึ้นไปชั้นบนและเข้าไปในห้องนอนได้ไม่นาน โทรศัพท์บ้านในห้องก็ดังขึ้น
เธอสงสัยอยู่สักครู่ ก่อนจะยกมันขึ้นมา
เสียงที่ไพเราะและน่าฟังของโห้หลีเฉินดังมาตามสาย “ที่รักครับ เบอร์โทรศัพท์ของคุณคือเท่าไหร่”
เย้นหว่านมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ตลอดสามปีมานี้เธอมีโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มีซิมการ์ด ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ เธอทำได้แค่ท่องเว็บไซต์ต่างๆ เท่านั้น
กลับมาครั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการติดต่อกับฉู่หยุนซี เขาถึงได้ให้โทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดใหม่กับเธอ
เธอยังไม่ทันได้บอกกับโห้หลีเฉิน
แต่พอได้ยินเสียงของโห้หลีเฉิน เธอก็คิดพิเรนทร์ ไม่อยากบอกเขา จึงพูดอย่างเย็นชา
“ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย”
น้ำเสียงที่อวดดี ทำให้โห้หลีเฉินยกยิ้มอย่างมีความสุข
เขาพูดช้าๆ “ผมมีเอกสารงานบางอย่างที่ต้องเอาลงมาดู คุณไม่ให้ผมขึ้นไป ผมคงต้องขอรบกวนคุณเท่านั้น ของที่ผมต้องการมีเยอะมาก คงต้องรบกวนคุณเอาลงมาให้ทีละอย่าง สายโทรศัพท์บ้านรับนานไม่ได้”
นี่กำลังหาวิธีการหลอกล่อเธอสินะ?
เย้นหว้านกำลังจะบอกว่าเธอความทรงจำดี แต่ได้ยินโห้หลีเฉินพูดต่อว่า “ถ้าคุณไม่อยากบอกผมจริงๆ ก็ไม่เป็นไร งั้นผมขึ้นไปเอาเอง วางใจได้ ผมจะไม่เข้าไปในห้องนอนเด็ดขาดเลย”
ไม่เข้าไปในห้องนอนแต่ขึ้นชั้นสอง? แล้วหาข้ออ้างอื่น เช่น มาเอาชุดนอน แล้วเข้ามาในห้องนอนได้อย่างสำเร็จ?
เย้นหว่านคาดเดาความคิดเจ้าเล่ห์เพทุบายของโห้หลีเฉินได้อย่างชัดเจนในเวลาไม่กี่นาที
เธอกัดฟันพูด “ฉันโทรหาคุณเอง”
หลังจากวางสายโทรศัพท์บ้าน เธอกดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่มีอยู่แล้วในสมุดโทรศัพท์
ทางฝั่งโห้หลีเฉินรีบรับสายอย่างรวดเร็ว “ที่รักครับ”
“หยุดพูดไร้สาระ อยากได้อะไรบ้างบอกมา ฉันจะได้ไปเอาให้” เย้นหว่านจงใจพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสีย
เสียงของโห้หลีเฉินถูกย้อมไปด้วยรอยยิ้ม เขาพูดชื่อเอกสารเกี่ยวกับศัพท์เฉพาะทางออกมามากมาย
หลังจากที่เย้นหว่านได้ยิน เธอก็มองไปที่แฟ้มเอกสารและหนังสือที่อัดแน่น แล้วตกอยู่ในสภาพมึนงงไปทันที
ไฟล์ SR ที่โห้หลีเฉินเพิ่งพูดเมื่อตะกี้คืออะไร? แล้วBBY คือเอกสารบ้าบออะไร? แล้วยังมีเอกสาร LITTE DD อีก?
เย้นหว่านปวดหัว
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างได้ใจ ก่อนจะถามเธอ “ที่รัก คุณหาเจอหรือยัง”
เย้นหว่านระเบิดอารมณ์ หาเจอ บ้านคุณสิ! เธอสงสัยว่าสิ่งที่โห้หลีเฉินพูดออกมาเขาจงใจแกล้งเธอ
แต่เธออยากไม่ยอมแพ้เร็วขนาดนั้น
เย้นหว่านนิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วเก็บเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะซ้อนเป็นกองลากลงไปชั้นล่าง
ยังไงซะ ทุกอย่างก็อยู่ข้างในนี้หมด อยากหาก็ให้เขาหาเอง!
เย้นหว่านลงไปชั้นล่างพร้อมกับกองเอกสารจำนวนมาก เดิมทีคิดว่าโห้หลีเฉินจะรออยู่ที่ชั้นบนสุดของบันได แต่ไม่เห็นใครในห้องนั่งเล่นเลย
เขาล่ะ?
“โห้หลีเฉิน คุณอยู่ที่ไหน” เย้นหว่านตะโกนเรียก
เสียงของโห้หลีเฉินดังมาจากห้องรับแขกที่อยู่ข้างๆ “อยู่ตรงนี้ครับ คุณยกเอกสารมาได้เลย”
เย้นหว่านเตรียมจะยกลงไป แต่พอจะก้าวขา เธอถึงได้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมเธอจะต้องยกไปให้เขาถึงที่ห้องด้วย?
ตอนนี้เธอแยกกันอยู่กับเขา ตอนกลางคืนไม่อยากยุ่งกับเขาเยอะเกินไป
เย้นหว่านคิดได้แบบนี้ เธอก็วางเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น แล้วหันหลังกลับไปเตรียมจะเดินขึ้นไปชั้นบน
แต่ว่า ทันทีที่เธอหันหลังกลับ ร่างสูงของชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเธอ เขาล้มตัวเข้าหาเธอ จนทั้งสองคนก็ล้มลงบนโซฟา
เขาอยู่บนเธออยู่ล่าง
เย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยความตกใจ “คุณจะทำอะไร?”
“ผมเดินเร็วเกินไป ก็เลยล้ม คุณเจ็บตรงไหนไหม?”
โห้หลีเฉินค่อย ๆ เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเย้นหว่าน บอกว่าจะดูว่าเจ็บตรงไหนบ้าง แต่ความเป็นจริงแล้วมือนั้นอยู่ไม่สุขเลย
มีเหรอที่เย้นหว่านจะเชื่อว่าเขาล้มลงโดยบังเอิญ
เธอผลักเขาออก “รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
“ข้อเท้าพลิกครับ ผมลุกไม่ไหว” โห้หลีเฉินขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด
ดูเหมือนจะเจ็บมาก แทบไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะพยุงโซฟา ใบหน้าของเขา และร่างกายของเขากดลงมาเรื่อยๆ จนใกล้จะสัมผัสกับริมฝีปากของเย้นหว่าน
ลมหายใจของทั้งสองรินรดกัน
เย้นหว่านหัวใจเต้นแรง เธอผลักไหล่ของชายหนุ่มไว้ ป้องกันไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากขึ้น
เธอพูดอย่างไม่พอใจ “โห้หลีเฉิน คุณอย่ามาทำบ้าๆ นะ ลุกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ผมเจ็บจริงๆ ลุกไม่ไหวแล้ว”
โห้หลีเฉินดึงมือของเย้นหว่านขึ้น แล้วโน้มริมฝีปากไปทางเธอ
นี่มันลุกไม่ไหวที่ไหนกัน คิดจะแต๊ะอั๋งเธอชัดๆ
เย้นหว่านทั้งโกรธทั้งโมโห พยายามหันหน้าหนี หลีกเลี่ยงริมฝีปากของเขา
ริมฝีปากของโห้หลีเฉินตกลงบนติ่งหูของเธอ เขาดูผิดหวังเล็กน้อย แต่มุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
เขาดึงเธอมากอดไว้ ใบหน้าของเขาแนบกับหูของเธอ ดูใกล้ชิดกันมาก
“โห้หลีเฉิน ปล่อยฉันนะ” เย้นหว่านพยายามดิ้นรน
โห้หลีเฉินยังคงกอดเธอแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง “เย้นหว่าน อย่าเพิ่งขยับ ให้ผมกอดอีกสักนิด ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ คิดถึงคุณที่สุดเลย”