สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1278 รักใครก็ต้องรักสิ่งที่เขารักด้วย
จงใจพูดว่าเธอทนไม่ได้ เพื่อบ่งบอกว่าเธอเป็นคนใจแคบสินะ?
เย้นหว่านไม่สนใจการโต้กลับของเก่อหรูซวน ในเมื่อเธอแสดงท่าทางอย่างชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับเก่อหรูซวน เธอจึงไม่กลัวที่จะถูกตั้งฉายาว่าเป็นผู้หญิงที่ขี้หึงใจแคบ
เธอจะใช้เก่อหรูซวนเป็นเคสตัวอย่าง เพื่อให้ผู้หญิงทั่วโลกที่อยากจะครอบครองโห้หลีเฉินได้เห็น ว่าผู้ชายของเธอ เย้นหว่านคนนี้ ห้ามใครคิดจะมาแต่ต้อง
เย้นหว่านหันความสนใจไปที่เลขาหลิวแล้วพูดว่า “เรื่องเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ ยกให้คุณเป็นคนจัดการก็แล้วกัน”
พอมาก็มอบหมายงานให้เธอทันที อย่างน้อย ก็แสดงว่าความประทับใจแรกเป็นไปได้ดี
เลขาหลิวรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และรับปากหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะจัดการให้เรียบร้อย
เย้นหว่านพูดเสริมอีกประโยค “ไปหาคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่มาให้ฉันด้วยนะคะ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ติดตั้งเหมือนของท่านประธานทั้งหมด”
คอมพิวเตอร์ของท่านประธาน คืออุปกรณ์และโปรแกรมที่ระดับสูงที่สุดในบริษัท อีกอย่างต้องจองด้วย
เลขาหลิวรู้สึกอายเล็กน้อย แต่พอมาคิดดูใหม่ ท่านประธานรักภรรยามากขนาดนั้น อะไรก็ให้เธอได้ อย่าว่าแต่เรื่องคอมพิวเตอร์เลย
เธอคิดได้แบบนั้น ก็พูดขึ้นมาว่า “ได้ค่ะ ฉันจะทำให้เรียบร้อยทุกเรื่องค่ะ”
“อืม ไม่เลว ถ้าจัดการเรียบร้อยจะไม่ไล่เธอออก”
เย้นหว่านตบไหล่เลขาหลิวด้วยรอยยิ้ม ถ้าจับตามองมากเกินไป จะทำให้คนอื่นเกลียดเอาได้
คนอื่นก็สั่นเริ่มมีความคิดในใจ
เลขาหลิวรีบไปยกคอมพิวเตอร์มา เย้นหว่านมองไปที่เก่อหรูซวนอีกครั้ง
“เลขาเก่อ มัวยืนทำอะไรอยู่ รีบย้ายของพวกนี้ออกไปเร็วเข้า อย่าวางไว้บนโต๊ะทำงานของฉันมันขัดตาไม่รู้เหรอคะ”
เก่อหรูซวนหายใจเข้าลึก พยายามกลั้นอารมณ์ แล้วเดินไปเก็บของ
เธอเดินไปที่ข้างโต๊ะ และไม่ต้องดู เธอก็รู้ว่าสายตาของเลขาคนอื่นๆ ที่มองเธอ เต็มไปด้วยความดูถูกและสะอกสะใจ
นี่เป็นความอัปยศชัดๆ
เธอยกคอมพิวเตอร์ แล้วนิ้วมือที่จับขอบคอมพิวเตอร์บีบแน่น เหมือนจะบีบหน้าจอให้แตกกระจาย
เย้นหว่านนั่งสบายอยู่บนเก้าอี้หมุน ยังไม่ถึงสองนาที ก็เริ่มเร่งเธอ
“เร็วเข้า ยืดยาดแบบนี้ทำให้ฉันเสียเวลาทำงานนะ เลขาเก่อ ฉันเริ่มสงสัยประสิทธิภาพในการทำงานของคุณแล้วจริงๆ”
“ตอนนี้บริษัทยังไม่ติดอันดับโลกเลย คงเป็นเพราะความไร้ประสิทธิภาพของคุณสินะ?”
พอเก่อหรูซวนได้ยินแบบนี้ แฟ้มที่เธอจับอยู่ก็เกือบจะหลุดลงบนพื้น
เธอแค้นจนจุกอก เมื่อวานนี้ ขอแค่ได้เซ็นสัญญากับฟีเจ๊กมอน บริษัทก็สามารถเข้าสู่ตำแหน่งที่มีสูงสุดของโลกทันที และเพราะถูกขัดขวาง เย้นหว่านเองไม่ใช่หรือไงที่ทำลายทั้งหมดไป
ตอนนี้ตัวต้นเหตุอย่างเธอ กลับมาตำหนิว่าตนเองไร้ความสามารถ เป็นภาระของบริษัท
คำพูดบิดเบือนข้อเท็จจริงแบบนี้ เธอยังกล้าพูดออกมาอีก
เก่อหรูซวนระงับความโกรธของเธอ มองหน้าเย้นหว่าน แต่ไม่พูดอะไร แล้วถามกลับ
“คุณเย้นคะ ฉันขอเตือนสติคุณนะคะ ว่าตอนนี้เป็นเวลาชายามบ่ายของท่านประธาน คุณทำเป็นไหมคะ หรือจะให้ฉันชี้แนะให้คุณ”
ให้เธอชี้แนะ เพื่อแสดงว่าเธอรู้ใจโห้หลีเฉินมากกว่าหรือไง?
เย้นหว่านเหลือบมองเธออย่างดูถูก ก่อนจะยืนขึ้น “รีบไปเก็บของเถอะ ไม่มีความสามารถ แล้วยังจะมีหน้ามาสนใจเรื่องอื่นอีก”
เก่อหรูซวนแทบอยากขยี้แฟ้มเอกสารทิ้ง บนใบหน้าของเธอยกยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก แล้วกัดฟันพูด “ครัวอยู่ตรงนั้นค่ะ เชิญ”
เย้นหว่านไม่ได้เดินไปที่ห้องครัว แต่เดินไปตรงหน้าเก่อหรูซวน
เธอใส่รองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร ทำให้เธอสูงกว่าเก่อหรูซวนเล็กน้อย เธอมองลงไปที่เก่อหรูซวนอย่างกดดัน บรรยากาศรอบตัวของเธอน่ากลัวมาก
เย้นหว่านพูดออกมาทีละคำ “เลขาเก่อ ฉันจะไม่พูดเป็นครั้งที่สาม ช่วยเรียกฉันว่าคุณนายโห้ด้วย”
ด้วยคำพูดที่หยิ่งผยอง คำว่าคุณนายโห้ ทำให้เก่อหรูซวนพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง เธอก็ถูกคุณนายโห้ข่มไว้อยู่ดี
สถานะและตำแหน่ง กำหนดทุกอย่าง
มือของเก่อหรูซวนกำหมัดแน่น เล็บของเธอจิกฝ่ามือจนมีเลือดออก เธอแค้นจนแทบจะบ้า
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เย้นหว่านติดตามฉู่หยุนซี แสดงตัวละครเป็นคนดูแลเขา ทุกครั้งมักจะทำกาแฟรสหวานให้เขา
ดังนั้นตอนนี้เธอจึงคุ้นเคยในการทำกาแฟ และชงกาแฟได้รสชาติดีมาก
จัดเตรียมของหวานยิ่งคุ้นเคย ไม่นานเธอก็เตรียมของหวานที่มีคุณประโยชน์สมดุลและอร่อยจนเสร็จ
หลังจากทำเสร็จแล้ว เธอเดินออกจากห้องครัวพร้อมถาดของว่าง แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของประธาน
ก่อนที่จะเข้าไป เก่อหรูซวนก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ มองดูขนมที่เธอทำ ก็จงใจพูดขึ้นเสียง
“เกี่ยวกับชายามบ่ายท่านประธานมาตรฐานสูงมาก ทั้งจำนวน การจัดวางต้องเป็นระเบียบ คุณจัดได้ยุ่งเหยิงขนาดนี้ ท่านประธานไม่มีทางชอบแน่นอนค่ะ”
เก่อหรูซวนจงใจแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาของท่านประธาน แต่หลังจากแยกทางกันสามปี คุณคงไม่ค่อยรู้เรื่องรสนิยมของเขาสินะคะ”
เสียงนี้ทำให้พวกเลขาสาวที่กำลังทำงานในห้องเลขา เริ่มหันมาให้ความสนใจ
พอพวกเธอมองไปที่เก่อหรูซวนกับเย้นหว่านที่ยืนอยู่ที่ประตู พวกเธอก็ตื่นตระหนก กลัวว่าจะทะเลาะกันอีกครั้ง
เก่อหรูซวนเองก็ชอบหาเรื่องใส่ตัวเองจริงๆ อดทนมาตั้งนาน ในที่สุดเธอก็จับความผิดพลาดของเย้นหว่านได้ เริ่มหาเรื่องจากเรื่องของหวาน แล้วพูดยั่วยุว่ารู้จักเย้นหว่านไม่รู้จักโห้หลีเฉินมากพอ
คำพูดนี้ทำให้ภรรยาประธานเสียหน้าเป็นอย่างมาก
พวกเธอค่อนข้างเป็นห่วงเย้นหว่าน
เย้นหว่านสีหน้าเรียบนิ่ง มองดูขนมบนถาด แล้วยกยิ้มอย่างได้ใจ
“ฉันไม่รู้จริงๆ นั่นแหละว่าโห้หลีเฉินชอบกินอะไร”
พอได้ยินแบบนี้ เก่อหรูซวนก็ยกยิ้มอย่างภูมิใจ แต่เธอเพิ่งยิ้มได้ไม่นาน ก็ได้ยินเย้นหว่านพูดต่อ
“เพราะว่า ความชอบของเขาขึ้นอยู่กับฉัน ไม่ว่าฉันชอบกินอะไร เขาก็ชอบกินอันนั้น ไม่กินจุกจิก”
เก่อหรูซวนขมวดคิ้ว “จะมีเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน? คุณไม่เข้าใจท่านประธาน ทำไมต้องพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วย”
“เลขาเก่อ ดูเหมือนคุณจะไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่ารักใครก็ต้องรักสิ่งที่เขารักด้วยสินะคะ”
บนใบหน้าของเย้นหว่านมีรอยยิ้มที่มีความสุข “โห้หลีเฉินรักฉันเข้าถึงกระดูก ดังนั้นเขาจึงรักทุกอย่างที่ฉันรัก ชอบทุกอย่างที่ฉันชอบกิน”
“และสิ่งที่คุณพูด ว่าโห้หลีเฉินมาตรฐานสูงมาก คงเป็นเพราะคนที่ไม่ชอบ จึงให้ความสำคัญกับรสชาติของอาหารมากกว่า ดังนั้นเขาก็เลยจู้จี้จุกจิก”
ใบหน้าเก่อหรูซวนขาวซีด เพราะไม่ชอบอย่างนั้นเหรอ? ที่พูดคือเธออย่างนั้นเหรอ
ข่าวฉาวของเธอกับโห้หลีเฉินดังไปทั่ว เพราะการกลับมาของเย้นหว่าน ทำให้เก่อหรูซวนกลายเป็นมือที่สามที่คิดเพ้อฝันไปเอง
น่าตลกจริงๆ ตอนนี้ยังถูกเย้นหว่านพูดแบบนี้ หัวใจของเก่อหรูซวนก็ยิ่งปวดใจมากขึ้นไปอีก
เธอเคียดแค้นจนแทบบ้า ก่อนจะจ้องเขม็งไปทางเย้นหว่าน “คุณนายโห้พูดเก่งจริงๆ เลยนะคะ แต่ว่า ฉันรู้ว่าท่านประธานจู้จี้จุกจิกเรื่องของกินมาก ในเมื่อคุณคิดว่ารักใครก็ต้องรักสิ่งที่เขารักด้วย คุณก็เข้าไปเถอะค่ะ ถ้าทำให้ท่านประธานโกรธ แล้วเขาไม่กิน อย่ามาโทษฉันที่ไม่เตือนคุณนะคะ”
เธอทำงานกับโห้หลีเฉินมากว่าสองปี เธอรู้ดีว่าโห้หลีเฉินจู้จี้จุกจิกแค่ไหน แค่เรื่องของหวานเพียงอย่างเดียว การจัดวางก็ผิดตำแหน่ง เขาจะต้องโยนทิ้งแน่ๆ
เธอไม่เชื่อว่าท่านประธานที่จู้จี้จุกจิก จะเอาใจเย้นหว่านถึงขนาดยอมให้เธอทุกอย่าง