สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 128 ไฟลุก
บทที่ 128 ไฟลุก
ในใจเย้นหว่านรู้สึกโมโห ภายนอกกลับตอบรับไปอย่างกระตือรือร้น “ได้ ได้ค่ะ”
หน้าหล่อเหลาของโห้หลีเฉินเข้ามาใกล้อีกนิด “เอาชุดไปไว้ในห้องเสื้อผ้า ด้านในมีที่ว่างที่เป็นของเธอ”
เดิมทีเย้นหว่านคิดจะวางไว้ในกระเป๋าก็พอ ในเมื่อมีเพียงสองสามชุด เธอก็ไม่คิดจะอยู่นาน
คาดไม่ถึงโห้หลีเฉินมองเธอออกแล้ว
เธอได้แต่รับปาก “ได้ ได้เลย”
ของพวกนี้วางอยู่ด้วยกัน เหมือนเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ในห้องของเขากลายมาเป็นอบอุ่นละมุน มีความรู้สึกของบ้านแล้ว
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากอย่างพอใจ ไม่ได้ปล่อยเธอ สายตาที่มองเธอยิ่งลึกมืด ด้านในเหมือนไฟลุกไหม้กองหนึ่ง
เย้นหว่านโดนมองจนใจหวาดหวั่น ลมหายใจชายหนุ่มนับวันยิ่งใกล้ ทำให้เธอเหมือนมดที่ถูกโยนในหม้อเดือด
ลวกไปทั้งตัว
เธอพยายามขยับไปด้านหลัง เอ่ยปากเตือนสติเสียงต่ำๆ
“คุณโห้ คุณหลบหน่อยได้มั้ย?”
“ไม่ได้”
โห้หลีเฉินตอบกลับว่องไว เสียงแหบแห้งเป็นพิเศษ
เขาจ้องมองเธออยู่ ในสายตาประกายความวู่วามที่ไม่อาจควบคุมไว้ “เย้นหว่าน ฉันอยากจูบเธอ”
แต่ละคำพูด ช่างทุ้มต่ำปลุกปั่น
เย้นหว่านตกตะลึงฉับพลัน ชั่วพริบตาหนึ่งหน้าแดงฉาด จิตใจกระวนกระวาย
เขามองเธออยู่แบบนี้ พูดคำพูดแบบนี้ออกมาด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจูบแบบนี้ บอกเธอแล้ว หรือว่ายังอยากให้เธอเห็นด้วยเหรอ……
เย้นหว่านพึ่งนึกได้ เธอพึ่งตกลงสัญญากับเขาไป หลังจากย้ายเข้ามา เขาไม่สามารถลงไม้ลงมือกับเธอตามชอบใจ ไม่สามารถจูบเธอมั่วซั่ว ดังนั้นก่อนจูบเขาถึงถามดู?
ขมับเย้นหว่านเต้นอย่างแรง พูดด้วยความแน่วแน่มาก “ฉันไม่เอา”
“ฉันถามแล้ว”
โห้หลีเฉินน้ำเสียงต่ำมาก ยั่วยวนคนแบบเซ็กซี่
เขาโน้มตัวมาด้านหน้า ริมฝีปากบางก็ตกอยู่บนริมฝีปากของเย้นหว่านตามอำเภอใจ
ไม่ได้จูบเธอมั่วซั่ว แต่ถามแล้ว ถึงจูบเธออย่างจริงจัง
ลมหายใจของชายหนุ่มรุกรานเข้าไปภายในช่องปากของเธออย่างแข็งกร้าว เย้นหว่านแข็งทื่อฉับพลัน ในสมองราวกับมีดอกไม้ไฟระเบิดออกมาแล้ว
โห้หลีเฉินทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?
ต่ำทรามจริงๆ เลย
เธอจิตใจว้าวุ่นอยากผลักเขาออก แต่มือทั้งคู่ของเธอกลับถูกเขาจับไว้อย่างไม่พะวงสักนิด ล็อกไว้ด้านหลัง
จูบของเขา ค่อยๆ ลึกขึ้น……
เย้นหว่านตึงแน่นไปทั้งตัว สมองเริ่มมึนงงนิดหน่อย ตาที่มองแทบจะสูญเสียสติ วางอาวุธอย่างยอมจำนน
เวลานี้ เสียง “ปัง” ทีหนึ่ง ประตูห้องก็โดนคนผลักออกจากข้างนอก
เย้นซินรีบวิ่งเข้ามาทันที บนเสื้อผ้าเปื้อนคราบน้ำมันและของดำๆ ไม่น้อย ดูเหมือนกระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงพอสมควร
“พี่เขย ห้องครัวไฟลุกขึ้น……มาแล้ว……”
มองเห็นทั้งสองคนจูบกันอยู่ในห้อง เย้นซินอึ้งค้างไปทันที
โห้หลีเฉินที่สูงส่งในสายตาหล่อน แม้แต่เข้าใกล้สักนิดยังไม่ได้ เวลานี้กลับล้อมเย้นหว่านไว้ในอ้อมอกอย่างแนบชิด กำลังจูบดูดดื่มอยู่กับเธอ
ท่าทีของเขาแข็งกร้าวรุกราน ยิ่งทำให้คนแทบควบคุมใจเต้นไม่อยู่
อยากจะไปแทนที่ตำแหน่งของเย้นหว่าน
ภายในใจเกิดความอิจฉา ริษยาที่เข้มข้นขึ้นมา สายตาที่เย้นซินมองโห้หลีเฉินยิ่งหลงใหลขึ้น
การรบกวนของเย้นซินทำให้เย้นหว่านได้สติกลับมา ผลักโห้หลีเฉินออกอย่างเขินอาย
เธอแก้มแดงฉาด มองทางเย้นซินแล้วถามขึ้น “เป็นอะไรไป? ทำไมห้องครัวถึงไฟไหม้ขึ้นมา ไฟลุกเยอะมั้ย?”
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ บนหน้าหล่อเหลาอึมครึม เห็นได้ชัดว่าความปรารถนาไม่เป็นที่พอใจ
เย้นซินพยักหน้า พูดอย่างรีบร้อนมาก “ฉันหิว เลยอยากทำอะไรกินหน่อย ผลสุดท้ายคิดไม่ถึง……ไฟนั้นก็ลุกขึ้นมา……”
เย้นหว่านปวดหัว เธอรู้ว่าเย้นซินเป็นลูกของเย้นซวนมิ้นกับเฉียวเจี้ยฮุ่ยที่ได้มาตอนอายุใกล้สี่สิบปี ซึ้งล้ำค่ามาก เพราะเหตุนี้จึงไม่เคยทำงานบ้านมาก่อน ยิ่งไม่เคยเข้าครัวเลย
เผาห้องครัวสามารถพูดได้ว่ามีเหตุผลอย่างหนึ่งแล้ว
เย้นหว่านรีบผลักโห้หลีเฉินออก “คุณโห้ พวกเราต้องรีบไปดูห้องครัวหน่อย”
สถานการณ์ร้ายแรง กลัวว่าต้องเรียก119
โห้หลีเฉินปล่อยเย้นหว่านออกด้วยความไม่พอใจเต็มหน้า
พอได้รับอิสระ เย้นหว่านก็หน้าแดง รีบเดินไปด้านนอกทันที
เย้นซินกลับไม่ได้รีบตามลงไป แต่มองทางโห้หลีเฉินอย่างน่าสงสารเหลือทน “พี่เขย ฉันไม่ได้ตั้งใจ……”
หล่อนเบ้าตาแดงก่ำ เหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเวลา เห็นแล้วทำให้คนปวดใจ
ผู้ชายทั่วไปล้วนจะรีบเข้ามาปลอบโยนหล่อน
แต่โห้หลีเฉินไม่ได้มองหล่อนสักแวบเดียว ก้าวขายาวๆ เดินผ่านด้านหน้าหล่อนไปแล้ว
ภาพด้านหลังที่สูงใหญ่เหินห่างและเย็นชา
เย้นซินที่เตรียมบีบน้ำตาออกมา ก็ถูกยัดกลับไปแบบนี้
หล่อนมองภาพด้านหลังของโห้หลีเฉิยอย่างไม่พอใจ อิจฉาที่สุด
เย้นหว่านเป็นเพียงลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยง หล่อนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเย้น ตั้งแต่เด็กได้รับความเอ็นดูกว่าเย้นหว่าน สูงศักดิ์กว่าเย้นหว่าน มีสิทธิ์อะไรของที่เย้นหว่านได้รับ แล้วหล่อนไม่ได้รับ?
ไม่ ถึงเย้นหว่านสามารถได้รับ หล่อนก็จะต้องแย่งมาให้ได้
เป็นการแต่งงานของตระกูลโห้กับตระกูลเย้น หล่อนแต่งหรือว่าเย้นหว่านแต่ง ล้วนเหมือนกันทั้งนั้น
เย้นหว่านวิ่งเข้าไปในห้องครัวอย่างรีบร้อน มองเห็นไฟลุกไหม้อยู่จริง
เห็นเพียงบนเตาแก๊ส หม้อใบหนึ่งไฟไหม้ขึ้นมา ไฟที่ลุกขึ้นสูงไหม้ไปที่เครื่องดูดควันไม่ขาด เหมือนจะสูบให้เครื่องดูดควันละลายได้ทุกเวลา และลุกไหม้ขึ้นมา
แต่ยังดีที่เพียงแค่ไหม้หม้อขึ้นมา ความจริงสถานที่ยังไม่โดนทำพัง
เย้นหว่านรีบวิ่งเข้าไป คิดจะใช้ฝาหม้อดับไฟ
แต่เธอยังไม่ทันหาทางได้ ก็ถูกโห้หลีเฉินดึงออกมาแล้ว
“คุณโห้ คุณทำอะไร? ฉันต้องรีบดับไฟ
เย้นหว่านพูดๆ อยู่ อยากดิ้นออกจากโห้หลีเฉิน
“ฉันเอง”
โห้หลีเฉินก้าวขายาวเดินเข้าห้องครัวไป
เขามองไปรอบๆ ทีหนึ่ง ก็หาฝาหม้อเจอ จากนั้นปิดบนหม้ออย่างว่องไว
ไฟถูกปิดไว้ ไม่นานก็ดับลงไป
เย้นหว่านกลับมองด้วยความตกใจ เมื่อสักครู่เธอมองเห็น ตอนที่โห้หลีเฉินปิดฝาหม้อ มือเหมือนจะถูกเปลวไฟเข้าแล้ว
เธอรีบเดินเข้าไป จับมือซ้ายของเขาขึ้นมามองอย่างละเอียด
“เป็นยังไงบ้าง เจ็บหรือเปล่า? รู้สึกลวกมากรึเปล่า?”
เหมือนว่าโห้หลีเฉินจะได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ ตอนนี้ก็ยังไม่หายดี ถ้ามือขวามาถูกไหม้เพราะเธออีก เธอขอตายเพื่อรับผิดดีเสียกว่า
โห้หลีเฉินปล่อยให้เธอกุมมือของตนเองไว้ สายตาริบหรี่ ยังดูเหมือนเจอปนความเบิกบานไปด้วย
เขาพูดเสียงต่ำ “ลวกนิดหน่อย”
“ตรงไหน?”
หัวใจดวงหนึ่งของเย้นหว่านพัวพันขึ้นมา กุมมือเขาไว้ พลิกมองให้ละเอียดกว่าเดิม
เธอยิ่งรู้สึกผิดในใจ ทำให้โห้หลีเฉินเจ็บตัวอีกครั้ง เวลานี้ยังเจ็บทั้งมือซ้ายมือขวา ทำเอาชีวิตเขาไม่สามารถจัดการได้เองเลย
มือของเย้นหว่านนุ่มมาก จับเขาไว้แล้วสบายมากๆ เลย
โห้หลีเฉินเอ่ยปากเสียงต่ำๆ น้ำเสียงมีความหมายลึกล้ำ
“ตรงที่มือเธอโดนอยู่”
เย้นหว่านตกใจใหญ่ คิดว่าเธอโดนแผลของเขาแล้ว จึงรีบย้ายมือออก ไปดูตรงที่เธอโดนก่อนหน้านี้
ตรงนั้นขาวสะอาด ผิวพรรณมันวาว ดูเหมือนไม่มีอะไรสักนิด
เธอมึนงง ถึงรู้สึกตัวได้ทีหลัง ความหมายของเขาคือ……
ตรงที่เธอโดน!
“คุณ คุณคุณ……”
เย้นหว่านทั้งอายทั้งหงุดหงิด รีบโยนมือของเขาออก
โห้หลีเฉินมองเย้นหว่านตรงไปตรงมา ในเสียงที่ทุ้มต่ำเจอปนความเบิกบานใจ
“เย้นหว่าน เธอดูเหมือนห่วงใยฉันเป็นพิเศษนะ