สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1283 เบื้องหลังเข้มแข็ง เสียงจึงแข็ง
สามารถอยู่ในระดับผู้บริหารของบริษัท ตี้เหา จำกัดนับว่าไม่ธรรมดา อย่างไรก็นับว่าเป็นชนชั้นสูงของสังคม เดิมนั้นมีแต่คนคอยให้ความเคารพ น้อยมากที่จะมีคนไม่ไว้หน้าแบบนี้
ผู้บริหารระดับสูงท่านนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปไม่น่ามอง เขาเอ่ยเสียงเข้ม “การโหวตได้จบลงแล้ว นี่เป็นกฎของบริษัท ไม่ว่าคุณจะเข้าใจหรือไม่ ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้”
คำพูดนี้ เอ่ยท่ามกลางผู้คนมากมาย นับว่าไม่ไว้หน้าเย้นหว่านเป็นอย่างยิ่ง
ดวงตาของโห้หลีเฉินเข้มขึ้น จ้องมองคนคนนั้นด้วยสายตาเย็นเหยียบ ชั่วครู่ อุณหภูมิในห้องประชุมก็ลดต่ำลง
ผู้บริหารคนนั้นเมื่อมองสบตากับโห้หลีเฉิน พลันรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
แต่เมื่อเขาลอบมองไปยังเก่อหรูซวนแล้ว กลับยืดอกขึ้นมาอีกครั้ง ยืนหยัดต่อไป ไม่มีท่าทียอมแพ้แม้แต่น้อย
อย่างไรเขาพูดก็ไม่ผิด เพียงแต่ไม่ไว้หน้าภรรยาของท่านประธานเพียงเท่านั้น
ดวงตาของโห้หลีเฉินเยือกเย็นลงอีกหลายเท่า ริมฝีปากบางเปิดเล็กน้อย กำลังจะเอ่ยอะไรออกมา ตอนนั้นเอง เย้นหว่านกลับหัวเราะออกมา
แขนของเธอกอดคอเขาเอาไว้ ยิ้มเย็นมองไปยังผู้บริหารท่านนั้น
“ก็แค่การโหวตเท่านั้น พูดให้เข้าใจก็คือยึดตามผู้ถือหุ้นเป็นหลัก คนเงินเยอะก็พูด นี่จะมีอะไร ฉันไม่มีอะไร ก็คือเงินเยอะ”
เธอหันกลับมา มองโห้หลีเฉิน ท่าทางออดอ้อนและเอาแต่ใจ
เสียงของเธอ ดังขึ้นชัดเจนไปทั่วห้องประชุม “คุณโห้ ตระกูลเย้นลงทุนในบริษัท ตี้เหา จำกัดห้าล้านล้านหยวน จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้หรือเปล่าคะ”
โห้หลีเฉินพยักหน้า “ได้”
เย้นหว่านถามขึ้นมาอีก “งั้นก็เปิดเส้นทางธุรกิจของตระกูลเย้นกับบริษัท ตี้เหา จำกัดอีกครั้ง แล้วจะต้านทานสองในสิบส่วนของการโหวตเมื่อสักครู่ได้ไหมคะ”
เมื่อเอ่ยจบ ทุกคนพลันตกใจ
ลงทุนห้าล้านล้านหยวน อีกทั้งยังเปิดเส้นทางธุรกิจกับตระกูลเย้น นับว่าเป็นกำไรทีเดียว เป็นสิ่งที่คำนวณทางดาราศาสตร์ออกมาไม่ได้
ฝีมือครั้งนี้ของเย้นหว่าน นำมาซึ่งโชคลาภ สามารถนำพาบริษัท ตี้เหา จำกัดก้าวเข้าสู่อำนาจที่ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่งของโลกได้อย่างแท้จริง
เธอทำลายข้อตกลงระหว่างโห้หลีเฉินและฟีเจ๊กมอน ทำให้บริษัท ตี้เหา จำกัดสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก แต่ชั่วพริบตา กลับนำมาซึ่งโชคลาภมหาศาล
เหล่าผู้ถือหุ้นฮือฮา สายตาที่มองไปที่เย้นหว่านนั้น สว่างจ้าด้วยความตกใจ
ตอนนี้เองพวกเขาพึ่งนึกขึ้นได้ คุณนายที่เป็นดั่งแจกันล้ำค่าตรงหน้า ยังเป็นคุณหนูตระกูลเย้นที่ทรงอิทธิพลคับฟ้าอีกด้วย
เบื้องหลังของเธอนั้นมีครอบครัวที่เข้มแข็งไร้คู่ต่อสู้ เธอมีมากพอให้ทะนงตน มากพอให้เธอเอาแต่ใจ
ผู้บริหารตระหนก ใบหน้าไร้แสง เขาขมวดคิ้ว เอ่ยออกมาท่ามกลางความตกใจของทุกคน “สองปีมานี้ กฎของบริษัท ตี้เหา จำกัด ก็คือไม่ยุ่งเกี่ยวกับตระกูลเย้นไม่ว่าจะเรื่องใด คุณนายคิดจะเปิดเส้นทางธุรกิจกับตระกูลเย้นในทุกๆ ด้าน เกรงว่าคงจะไม่ได้”
เย้นหว่านมองผู้บริหารท่านนั้น ราวกับกำลังมองคนโง่คนหนึ่ง
เธอยิ้มหยันอย่างไม่ปิดบัง “ไม่รู้ว่าคุณเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ยังไง มีความฉลาดแค่นี้ ก็ยังไม่ถูกไล่ออกอีก”
“ทำไมบริษัท ตี้เหา จำกัดถึงไม่เปิดเส้นทางธุรกิจกับตระกูลเย้น เหตุผลเท่านี้คุณก็ไม่รู้อีกเหรอ นั่นเพราะฉันยังไงล่ะ”
“เพราะการสูญหายของฉัน สามีของฉันเป็นทุกข์ ยากที่จะสู้หน้าคนตระกูลเย้น จึงได้ตัดขาดกับตระกูลเย้น ตอนนี้ฉันกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว แน่นอนว่าสามีของฉันก็ต้องกลับไปทำธุรกิจกับตระกูลฉันอยู่แล้วสิ การเปิดเส้นทางธุรกิจครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล”
เย้นหว่านกล่าวด้วยความมั่นใจ ทำให้เหล่าผู้บริหารหลายคนรู้สึกกระสับกระส่าย
พวกเขากึ่งเชื่อกึ่งสงสัย หันมามองโห้หลีเฉินอย่างขอคำยืนยัน อยากได้คำตอบจากเขา
เมื่อได้รับคำถามจากสายตาของทุกคน ใบหน้าหล่อเหลาของโห้หลีเฉินยังคงนิ่ง ดูไม่ออกถึงอารมณ์ใดๆ
เขาเพียงมองเย้นหว่านอยู่เงียบๆ
แม้กระทั่งมือที่กอดเธอเอาไว้ กระชับเอวของเธอแน่น
เย้นหว่านเข้าใจถึงปฏิกิริยาของเขา เธอแยกไม่ออกว่าเขาปฏิเสธหรือไม่ยินยอม เธอเองไม่อยากถามเอาความในเวลานี้
เธอหันกลับไป ยิ้มสดใสให้เขา “ที่รัก คุณว่าใช่ไหมคะ”
โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาสับสน
เนิ่นนาน เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเบาราวกับถอนหายใจ มีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน “คุณก็รู้ว่าผมปฏิเสธคุณไม่ได้”
การไม่ไล่เก่อหรูซวนออกนับเป็นข้อยกเว้นที่หาได้ยากของเขา
การเปิดเส้นทางธุรกิจกับตระกูลเย้น ไม่ใช่ความต้องการของเขา และไม่ได้อยู่ในแผนการของเขา แต่เรื่องมาถึงตรงนี้คำพูดของเย้นหว่านนั้นออกมาแล้ว ทั้งยังเป็นการต่อสู้เพื่ออำนาจที่สองอีกครั้ง หากครั้งนี้เขาปฏิเสธ ก็คงเป็นการตบหน้าเย้นหว่าน
เธอขายหน้า แล้วต่อไปคนทั้งบริษัทจะมองเธอยังไง
โห้หลีเฉินไม่ยอมให้เธอต้องเสียใจ ยิ่งไม่ต้องการให้เธอไม่มีความสุข
เขาสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มออกมาเสียงดัง “ทำธุรกิจกับตระกูลเย้นนับว่าเป็นความมั่งคั่ง เดิมผมก็มีความคิดแบบนี้อยู่แล้ว เดิมกังวลว่าจะตกลงกับตระกูลเย้นได้ยาก ตอนนี้มีคุณนำความสะดวกมาให้ ที่รัก คุณช่างเป็นแมวโชคลาภของผมจริงๆ ”
คำพูดนั้น บอกกับเย้นหว่าน แต่ความเป็นจริงนั้น กำลังพูดให้ทุกคนได้ยิน
เมื่อมีความแน่นอนจากท่านประธานแล้ว ธุรกิจกับตระกูลเย้นนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่แน่นอน ตระกูลเย้นกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ตี้เหา จำกัด
นี่นับเป็นการขยายพื้นที่ของบริษัท ตี้เหา จำกัดให้ใหญ่ขึ้น
ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต่างรู้สึกยินดี โห่ร้องดีใจ
“คุณนายมีอำนาจ คุณนายสุดยอด”
“คุณนายถือว่าเป็นดวงดาวนำโชคของพวกเราจริงๆ ”
“สองตระกูลร่วมมือกันจะสร้างกำไรไม่รู้จบรู้สิ้น บริษัทสามารถก้าวเข้าสู่ระดับโลกได้อย่างง่ายดาย ไม่มีคุณนายไม่ได้เลย คุณนายมีความดีความชอบ ไม่แปลกใจถ้าจะได้อำนาจที่สองไป”
“บวกกับการลงทุนของตระกูลเย้น นับตามคะแนนโหวตแล้ว ตอนนี้ผู้ที่สนับสนุนคุณนายนั้นมีจำนวนเกินครึ่ง คุณนายมีสิทธิ์ในอำนาจที่สองนี้”
……
ผู้ถือหุ้นถกเถียงกันอย่างมีความสุข คนส่วนหนึ่งรู้สึกยินดีและสนับสนุน
รวมทั้งผู้ถือหุ้นที่ไม่เคยสนับสนุนเย้นหว่าน ก็มีท่าทีกลับมาสนับสนุนเธอ การที่เย้นหว่านนำพาซึ่งผลประโยชน์มากมายมาสู่พวกเขาได้ ก็จะช่วยให้เธอได้อำนาจที่สองนั้นไปเช่นกัน
แต่เมื่อเห็นข้อดีชัดเจนถึงขนาดนี้แล้ว ทว่ากลับมีผู้ถือหุ้นบางส่วนเริ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไป ไม่สนับสนุนซ้ำยังคัดค้านต่ออำนาจของเย้นหว่าน ที่พาผลประโยชน์มากมายมาสู่บริษัท ตี้เหา จำกัด ไม่มีทีท่ายินดีแม้แต่น้อย
พวกเขาคล้ายไม่ได้ยินดีกับผลประโยชน์และความก้าวหน้าที่บริษัท ตี้เหา จำกัดจะได้รับ พวกเขาคล้ายยิ่งรังเกียจการเข้ามาแทรกแซงของเย้นหว่านมากขึ้น
หนึ่งในนั้นรวมทั้งเก่อหรูซวนด้วย มองสถานการณ์นี้แล้ว หันไปมองท่าทางได้ใจของเย้นหว่าน ใบหน้าเครียดตึงจนจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว
เดิมคิดว่าจะเหยียบเย้นหว่านให้ตาย ไม่ให้เธอมีหน้ามาเย่อหยิ่งอยู่ที่บริษัทได้อีก
แต่ไม่คิดว่า ตอนนี้เธอยิ่งทะนงตัวขึ้นไปใหญ่
อีกทั้งยังอาศัยตระกูลเย้นหนุนหลัง สร้างกำไรมากมายต่อธุรกิจ ทำให้บรรดาผู้ถือหุ้นเหล่านั้นมีใจเอนเอียงยอมรับ
บวกกับฐานะภรรยาของท่านประธาน คนของบริษัท ตี้เหา จำกัดจึงยอมรับเธอทั้งใจ
เช่นนี้ ต่อไปจะมีพื้นที่ให้เธอเก่อหรูซวนได้อย่างไรกัน