สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1292 เบาะแสของเด็กๆ
เว่ยชีมองจากแววตาที่เด็ดขาดของเย้นหว่าน ว่าเรื่องนี้สำคัญมาก
เขาเงียบไปสักพัก จากนั้นก็หันหน้ากลับไป ตั้งใจเหมือนอยู่สนามรบ “ขอแค่เป็นเรื่องที่ผมทำได้ ผมจะพยายามช่วยคุณให้เต็มที่ครับ”
เย้นหว่านยิ้มแล้วตบบ่าเขาเบาๆ
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ไม่ได้จะส่งนายไปฆ่าใครสักหน่อย นายดูนี่สิ”
ว่าแล้ว เย้นหว่านก็เปิดหน้าระบบบริษัทให้เว่ยชีดูเอกสารลับต่างๆ
นอกจากเอกสารลับที่สำคัญของบริษัทแล้ว อำนาจสิทธิ์ที่สิง สามารถดูเอกสารในนั้นได้เยอะมาก ล้วนแต่เป็นเอกสารลับทั้งนั้น
เย้นหว่านไม่สนใจอะไรเลย เธอเชื่อใจเว่ยชีเต็มร้อย ให้เขาดูทั้งหมด
เว่ยชีตอบตกลงเย้นหว่าน เขาเป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาดมาก ให้ดูอะไรก็ดู แถมยังดูอย่างตั้งใจด้วย เขาดูแล้วก็จดจำไว้ในหัว และวิเคราะห์มันอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ดูเนื้อหาส่วนหนึ่งแล้ว เย้นหว่านก็กระซิบถามเขาว่า “นายเห็นความผิดปกติไหม?”
ว่าแล้ว เย้นหว่านก็พูดเสริมอีกว่า “พูดเสียงเบาหน่อย อย่าให้โห้หลีเฉินได้ยิน”
เว่ยชีที่อยู่ในโหมดการทำงานก็เกือบพูดเสียงดังออกมา
เขากระตุกมุมปาก แล้วก็มองกล้องวงจรปิดบนหัวอย่างรู้สึกผิด จากนั้นก็จุดเทียนในใจตัวเองเงียบๆ
งานนี้อันตรายจริง ถ้าทำแล้วเขาอาจจะไม่ได้เจอตะวันของวันพรุ่งนี้อีกเลย
ขี่หลังเสือแล้วลงยาก เขาคงต้องขี่ต่อไป
เว่ยชีย้อนกลับมาในโหมดทำงานต่อ เขากระซิบตอบว่า:
“สถานการณ์ของบริษัทแปลกมาก ภายในเหมือนจะมีอำนาจหนึ่งที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณผู้ชาย แต่ก็เหมือนอยู่ในภายใต้การควบคุมของคุณผู้ชาย”
เย้นหว่านยิ้มอย่างปลื้มใจ
สมแล้วที่เป็นเว่ยชี ผู้ช่วยสูงสุดที่โห้หลีเฉินเคยเอาไว้ข้างกาย ดูเอกสารแค่รอบเดียว ก็รู้แล้วว่าปัญหาอยู่ที่ไหน
เธอพูดต่อว่า “งั้นนายดูปัญหาของคนพวกนั้นออกไหม?”
เว่ยชีขมวดคิ้ว “ดูออกได้แค่ภาพรวม แต่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ สถานการณ์ของบริษัทซับซ้อนมาก ถ้าจะคัดคนพวกนี้ออกมา คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง”
“ไม่ต้องหรอก ฉันคัดเลือกออกมาส่วนใหญ่แล้ว”
เย้นหว่านคลิกเปิดวิดีโอการประชุมให้เว่ยชีดู
เว่ยชีดูแล้ว สีหน้าก็ตึงเครียดและเย็นชาขึ้นมา
“ผมรู้จักคนพวกนั้นแล้ว”
เขากำมือที่วางอยู่บนโต๊ะแน่น และเข้าใจแล้วว่าทำไมสองปีกว่ามานี้ คุณผู้ชายถึงปลดตำแหน่งเขาออก และไล่เขาออกไป
เขาคิดความเป็นไปได้หลายอย่าง และก็เคยคิดว่าคุณผู้ชายอาจจะอยากปกป้องเขา แต่พอมาวันนี้ ในที่สุดเขาก็ได้รู้คำตอบนั้นสักที
คุณผู้ชายกำลังปกป้องเขาจริงๆ
ถ้าสองปีก่อนเขายังอยู่บริษัทต่อ คนพวกนั้นคงลงมือกับเขาแน่ เขาอาจจะตายที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
คนพวกนั้นต้องการทำลายบริษัท และต้องการคนของพวกเขาอยู่กับโห้หลีเฉิน เป็นผู้ช่วยสูงสุดหรือเลขาหลัก
เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมโห้หลีเฉิน ตอนที่พวกเขาจะทำลายบริษัท
และสองปีก่อนโห้หลีเฉินก็ไล่เว่ยชีออกไป นั่นก็หมายความว่า สองปีก่อนโห้หลีเฉินรู้เรื่องนี้ดี แต่เขากลับไม่ได้ห้ามปราม แถมยังปล่อยให้พวกนั้นทำตามใจชอบอีก
เว่ยชีคิดไม่ออกเลยว่า ทำไมโห้หลีเฉินถึงทำแบบนี้
“ผมเข้าใจช้าเกินไป สองปีมานี้คุณผู้ชายเผชิญหน้ากับอันตรายตัวคนเดียว ผมมันโง่มาก น่าจะกลับมาหาคุณผู้ชายเร็วกว่านี้”
เว่ยชีรู้สึกผิดจนอยากบีบคอตัวเองตายไปเสีย
เย้นหว่านตบไหล่เขาเบาๆ ปลอบใจเขาว่า “เรื่องนี้ไม่โทษนายหรอก แม้นายจะกลับมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์หรอก เดี๋ยวจะทำให้พวกนั้นตื่นตัวเอาได้ แล้วเป็นอันตรายกับตัวนายเอง”
“กลับมาตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด เว่ยชี นายมั่นใจว่าจะจัดการพวกนั้นได้ไหม?”
เว่ยชีกัดฟันอย่างเด็ดเดี่ยว “ครับ ผมจะต้องจัดการพวกนั้นให้สิ้นซาก”
เย้นหว่านหัวเราะ แล้วเอาเมาส์ให้เว่ยชี
“นายอ่านเอกสารรายละเอียดต่อไปนะ จำไว้ให้ดี เดี๋ยวพวกเรามาวางแผนกันต่อ พูดกระซิบที่นี่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
“ครับ”
เว่ยชีตอบ ภายในใจเต็มไปด้วยความแค้น
คุณผู้ชายปกป้องเขามาสองปี ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เขาจะต้องปกป้องคุณผู้ชายให้ได้
เย้นหว่านเอาคอมให้เว่ยชีดู กำลังจะไปทำเรื่องอื่นนั้น แต่พอขยับ เธอก็กลับนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วหยุดชะงักอยู่กับที่
เธอขมวดคิ้ว ลังเลสักพักก็ถึงตัดสินใจ เอ่ยปากพูดเสียงเบา
“เว่ยชี มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะถามนายน่ะ”
“คุณนายเชิญพูดเลยครับ” เว่ยชีพูด
เย้นหว่านจับเก้าอี้สองข้างไว้แน่น ลังเลสักพัก ก็ถึงพูดขึ้นเสียงเบาว่า:
“นายรู้เบาะแสของพวกเด็กๆไหม?”
เว่ยชีดวงตากะพริบ ถามเธอด้วยน้ำเสียงแปลกใจ “คุณนาย คุณผู้ชายไม่ได้บอกเบาะแสของคุณหนูและคุณชายกับคุณเหรอครับ?”
เขาคิดว่าเรื่องของเด็กๆ โห้หลีเฉินคงไม่ปิดบังเย้นหว่าน
เย้นหว่านส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ถาม เขาเลยไม่ได้บอกน่ะ”
นั่นหมายความว่าอะไร เว่ยชีรู้ดี
เขาครุ่นคิดแล้ว ก็รีบพูดว่า:
“คุณนายอย่ากังวลไปเลยครับ แม้ผมจะไม่รู้ว่าคุณชายกับคุณหนูอยู่ที่ไหน แต่ผมรู้เรื่องหนึ่งครับ”
เว่ยชีขยับเข้าไปใกล้เย้นหว่าน ปิดปากไว้และกระซิบบอกเบาๆว่า: “ตอนที่เพิ่งรับคุณชายกับคุณหนูกลับมา พวกเขาก็อยู่กับคุณผู้ชายตลอด คุณผู้ชายส่งพวกเขาไปกะทันหัน เป็นคืนก่อนวันที่เก่อหรูซวนจะมาครับ”
“วันนั้นคุณผู้ชายกลับมาอย่างเร่งรีบ สีหน้าดูตึงเครียด ขนาดผมยังไม่ได้พาไปด้วย คนขับรถก็ไม่ได้พาไปด้วยเช่นกัน แล้วก็พาเด็กๆไปคนเดียวลำพัง ตอนที่เขากลับมาก็เหลือตัวคนเดียวแล้วครับ”
“ช่วงเวลาที่ส่งคุณชายกับคุณหนูออกไป ก่อนหน้านี้ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่วันนี้เห็นสิ่งที่คุณนายให้ผมดู ก็ถึงรู้ว่า ช่วงนั้นที่คุณผู้ชายส่งคุณชายกับคุณหนูออกไป นั่นก็เพื่อหลบหน้าเก่อหรูซวนหรือเปล่าครับ?”
“ถ้าหลบหน้าเก่อหรูซวน ก็เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลเบื้องหลังของหล่อน นี่อาจจะพิสูจน์ได้ว่า คุณชายกับคุณหนูถูกคุณผู้ชายซ่อนตัวเอาไว้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยมากครับ”
การวิเคราะห์นี้มีเหตุผลดี
และอาจจะมีความเป็นไปได้สูงที่โห้หลีเฉินจะทำแบบนั้น
หลายปีมานี้เขาปล่อยให้เก่อหรูซวนกับคนพวกนั้นทำตามอำเภอใจ เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในนั้นด้วย เขารู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหน รอบด้านเต็มไปด้วยความอันตราย ดังนั้นเพื่อปกป้องเด็กๆ เขาเลยต้องส่งตัวเด็กๆออกไปซ่อน
เด็กๆกับเย้นหว่านเป็นจุดอ่อนและข้อห้ามของเขา
และหลังจากที่เย้นหว่านกลับมา เขาก็ไม่พูดถึงเรื่องเด็กๆเลย อาจเป็นเพราะรอบๆมีคนของเมืองหนานคอยจับตาดูอยู่ ไม่พูดก็เพื่อป้องกันไว้ไม่ให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปได้
ดังนั้นเขาจึงปิดเรื่องของเด็กๆอย่างมิดชิด
ไม่ใช่เพราะเด็กๆเกิดเรื่องหรืออยู่ในมือของศัตรู แต่เด็กๆถูกเขาซ่อนตัวเอาไว้ ปลอดภัยแน่นอน
แม้จะไม่แน่ใจว่าการวิเคราะห์นี้จริงไหม แต่มันก็ทำให้ความกังวลในใจของเย้นหว่าน ได้รับการปลอบโยนและเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
เธอมีความหวังที่จะจัดการเรื่องในมือแล้ว ไล่เก่อหรูซวนออกไป ทำลายอำนาจเบื้องหลังนั้นซะ พวกเขาอาจจะกลับมาเป็นครอบครัวสุขสันต์อีกครั้ง