สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1296 ใครรังแกใครกันแน่ ตาบอดหรือไง
หลังจากที่ผู้หญิงตั้งใจไปก่อเรื่องวุ่นวายแล้ว ทุกคนก็ต่างรู้กันว่าเย้นหว่านใช้โอกาสเปลี่ยนเสื้อ ไปอยู่กับชายหนุ่ม
ดังนั้น กลุ่มที่ออกมาจับชู้เพื่อโห้หลีเฉิน ก็พุ่งไปที่ห้องนั้นด้วยแรงอาฆาต
โห้หลีเฉินยังคงเงียบหน้าตึงเครียด ไม่พูดอะไร เขารีบเดินไปที่ห้องนั้นโดยเร็ว
ผู้คนเห็นท่าทีเขาแล้ว ก็ต่างรู้สึกว่าโห้หลีเฉินโกรธเพราะภรรยามีชู้ เขามีสีหน้าบึ้งตึงและเย็นชามาก ไปถึงแล้วคงได้ฆ่าเย้นหว่านกับมือแน่
พวกเขาก็ต่างคิดว่าสองสามีภรรยาคู่นี้ห่างกันสามปีแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้ง พวกเขาพลอดรักกันแค่ภายนอกจริงๆ เย้นหว่านไม่ใช่ผู้หญิงดีอะไรเลย
สามปีที่หายตัวไป ไม่รู้ว่าสวมเขาให้โห้หลีเฉินเท่าไหร่แล้ว
“คุณโห้ไม่ต้องเสียใจไปหรอกค่ะ เย้นหว่านทำเรื่องแบบนี้ หล่อนไม่สมควรได้ความรักของคุณไปเลย”
“นั่นสิๆ หล่อนไม่คู่ควรกับคุณเลย และไม่คู่ควรกับที่คุณรอหล่อนมาสามปีด้วยค่ะ”
“เดี๋ยวจับได้ว่าเธอมีชู้แล้ว ก็ควรหย่ากับเธอเลยนะคะ!”
พวกเขาพูดไปและปลอบใจโห้หลีเฉินไปด้วย
ฟีเจ๊กมอนเดินนำขบวน เขาได้ยินคนพวกนั้นพูดแบบนี้ แววตาก็ดูได้ใจอย่างมาก
เขาพูดขึ้นอย่างไม่จริงใจว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งพูดกันเลย ถ้าเกิดเป็นเรื่องเข้าใจผิดล่ะ? ต้องไปดูที่ห้องก่อนถึงจะรู้”
โห้หลีเฉินทำหน้าบึ้งตึง ไม่สนใจที่พวกเขาพูด แล้วก็เดินไปด้านหน้าอย่างเร็ว
รอบตัวเขาเต็มไปด้วยก้อนเมฆสีดำปกคลุมอยู่
ผู้หญิงพาพวกเขาไปยังหน้าห้องหนึ่ง แล้วชี้ไปข้างหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ “ด้านในเลยค่ะ ตอนแรกฉันมาส่งเสื้อให้คุณนายโห้ แต่ไม่คิดว่าพอเปิดประตูเข้าไปจะเห็นภาพชายหญิงสองคนนัวเนียกัน ฉันตกใจจนรีบวิ่งออกมาเลยค่ะ……”
“จับชู้คาเตียงเลย ไป! ไปจับพวกเขากัน!”
ผู้คนต่างพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีนักข่าวตามมาอีก พวกเขาอยากเข้าไปถ่ายในห้องเร็วๆแล้วล่ะ
ตอนนี้โห้หลีเฉินโด่งดังกว่าซูเปอร์สตาร์อีก ถ้าข่าวของเขาออกมา ยิ่งเป็นข่าวที่เขาถูกสวมเขาอีก ประเด็นนี้ต้องขึ้นข่าวหน้าหนึ่งแน่นอน
ใครถ่ายได้ต้องได้เงินดีแน่
ฟีเจ๊กมอนเอาการ์ดห้องจากมือผู้หญิงคนนั้นมา แล้วก็มองโห้หลีเฉินอย่างลำบากใจ จากนั้นก็พูดว่า:
“คุณโห้ เรื่องนี้ยังไงก็เป็นเรื่องของภรรยาคุณ ถ้าทุกคนเข้าไปแล้ว เห็นคุณผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้า คงจะไม่น่าดูเท่าไหร่ คุณว่า คุณเข้าไปคนเดียวก่อนดีไหม?”
เขาพิจารณาเพื่อรักษาหน้าของโห้หลีเฉินไว้
แม้ผู้คนอยากเห็นกับตา แต่ถึงเวลาแล้ว ก็ไม่กล้าพูดเสนอแนะอะไร ต่างก็รอโห้หลีเฉินตัดสินใจ
โห้หลีเฉินมองฟีเจ๊กมอนด้วยแววตาเย็นชา ถ้าไม่อยากทำให้เรื่องนี้อึดอัด เขาคงไม่พาคนมากมายมารอเต็มหน้าห้องหรอก เพิ่งพูดคำนี้ออกมามันดูปลอมมากเลยนะ
ตอนนี้ถ้าเขาจะเข้าไปคนเดียว ชื่อเสียงของเย้นหว่านก็คงเสียหายกันพอดี
โห้หลีเฉินไม่ได้รับการ์ดห้องไว้ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า: “เปิดประตู”
ฟีเจ๊กมอนทำท่าเข้าใจ แล้วก็พูดเสียงพอดีๆว่า:
“นั่นสิ คุณโห้ออกจะร่ำรวย แม้จะฟ้องหย่ากัน เรื่องแบ่งมรดกก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย มีหลักฐานจับชู้ได้ ถึงเวลาฟ้องร้องแบ่งมรดก ก็จะได้ง่ายหน่อย”
ผู้คนต่างเห็นด้วยกับคำพูดของฟีเจ๊กมอน
“เย้นหว่านนอกใจ ยังกล้ามาแบ่งมรดกกับคุณโห้อีกเหรอ? หล่อนออกไปตัวเปล่าน่ะ ถูกแล้ว”
“นั่นสิๆ ตอนนี้บริษัท ตี้เหา จำกัด ไม่ใช่โห้ถิงกรุ๊ปเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่เป็นบริษัทใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับเย้นหว่านเลยสักนิด หล่อนไม่มีสิทธิ์แบ่งอะไรทั้งนั้น”
ผู้คนแสดงความเห็นกันต่างๆนานา ต่างก็คิดเรื่องการหย่าของโห้หลีเฉินไว้เสร็จสรรพแล้ว
แล้วยังขนานนามเย้นหว่านว่าเป็นหญิงกาลกิณีทำเรื่องบัดสีบัดเถลิง
ในขณะเดียวกัน มีนักข่าวบางรายที่เริ่มทำการไลฟ์สด มีผู้ชมนับไม่ถ้วน แถมยังมีคนรู้เรื่องนี้มากขึ้น ผู้คนมากมายต่างก็แห่กันเข้ามาในไลฟ์สด
หน้าจอเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ก่นด่าเย้นหว่าน
สงสารโห้หลีเฉินที่ไปรักคนผิด
โห้หลีเฉินไม่สนใจคำพูดของคนพวกนี้ และไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย แต่ตอนนี้คนพวกนี้พูดจบ เขาก็กวาดตามองคนพวกนี้ด้วยแววตามืดมน
ทุกคำพูดของคนพวกนี้ เขาจะจำมันไว้ทั้งหมด
ฟีเจ๊กมอนเห็นผู้คนด่ากันหนำใจแล้ว และโลกออนไลน์ก็ระเบิดไปแล้วด้วย ก็ถึงสแกนการ์ดห้องเปิดประตูเข้าไปอย่างลำบากใจ
และยังเปิดประตูออกกว้างๆ ให้ทุกคนได้เห็นสถานการณ์ภายในห้องกันชัดๆ
ในขณะเดียวกันนั้น ผู้คนก็ต่างเดินเข้าไปพร้อมกันกับโห้หลีเฉิน
พวกเขาเข้าไปด้วยและด่าไปด้วยว่า “เย้นหว่าน เธอนี่มันไร้ยางอายจริงๆ กล้าทำเรื่องแบบนี้กับคุณโห้ได้ยังไง ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าเธอเป็นหญิงกาล……”
กาลกิณียังไม่ทันได้พูดออกมา คนที่ด่าก็ยืนอึ้งอยู่กับที่
คนอื่นๆก็ต่างอึ้งกันไปหมด
พวกเขามองภาพภายในห้องด้วยสีหน้าที่ตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ
ภาพนี้อนาถมากจนทนดูไม่ได้เลยทีเดียว
พวกเขาเห็นผู้ชายตัวเปียกปอนนอนราบอยู่กับพื้น เสื้อผ้ายุ่งเหยิงไม่เรียบร้อย เสื้อและกางเกงหลายที่ล้วนแต่มีรอยเท้า ตรงที่มีผิวหนังทุกที่ต่างก็มีรอยฟกช้ำ และใบหน้าของเขา……
ดูไม่ได้เลยจริงๆ
เขาถูกตีจนหน้าบวมช้ำอย่างกับหัวหมู รูจมูกยังมีเลือดไหลออกมาช้าๆทั้งสองข้าง
ภาพนี้ เย้นหว่านก็คือผู้ก่อเหตุ
และคนที่ทำแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลย ก็คือคนที่กำลังถือโคมไฟ เท้าเหยียบอยู่ที่ท้องผู้ชาย กำลังจะฟาดลงไปอีกทีนั้น กลับต้องหยุดชะงักเพราะผู้คนถาโถมกันเข้ามา
เธอยังสวมชุดราตรีสีแดง บนชุดยังมีคราบไวน์อยู่ แต่แค่ไม่มีลักษณะหญิงผู้ดีและความสง่างามหลงเหลืออยู่เลย และกลายเป็นโจรหญิงที่ดุดัน แล้วกำลังทำเรื่องชั่วอยู่
“นี่มัน……”
ผู้คนตะลึงจนพูดไม่ออกสักคำ
นี่มันไม่ใช่การจับชู้แล้ว แต่เป็นที่เกิดเหตุฆาตกรรมชัดๆ
เย้นหว่านเห็นผู้คนพุ่งเข้ามา ก็ลังเลสักพัก จากนั้นก็ถามว่า: “พวกคุณมาช่วยฉันเหรอคะ?”
ช่วยเธองั้นเหรอ?
ทุกคน: “……”
พวกเขารู้สึกว่าคนที่ควรช่วยน่าจะเป็นผู้ชายที่อยู่ใต้เท้าเธอมากกว่านะ
“ที่รัก เจ้าหมอนี่มันรังแกเธองั้นเหรอ?”
โห้หลีเฉินที่หน้าบึ้งตึงและเย็นชามาตลอดทั้งทาง ตอนนี้กลับเดินไปหาเย้นหว่านด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง น้ำเสียงและท่าทีนั้น เต็มไปด้วยความเป็นห่วงที่เย้นหว่านถูกรังแก เธอจะบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“อืม” เย้นหว่านพยักหน้า แล้วโยนโคมไฟที่เปื้อนเลือดออกไป จากนั้นก็แบมือให้โห้หลีเฉินดู “ตรงนี้โดนบาดเป็นแผลเลย เจ็บจัง”
คนอื่นๆก็ต่างชะโงกหัวดู เห็นฝ่ามือของเย้นหว่านถูกโคมไฟบาดเป็นเส้นยาวๆ และมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับผู้ชายที่นอนอยู่บนพื้นนั้น มันเทียบกันไม่ได้เลย
แต่ทว่า โห้หลีเฉินกลับโมโหมาก แววตาเขามืดมนลง แล้วมองไปที่ผู้ชายคนนั้นอย่างเคียดแค้น
เขาพูดเน้นทีละคำอย่างดุดัน “กล้าทำร้ายภรรยาฉันงั้นเหรอ ไปตายซะ!”
เขาพูดเสร็จแล้วก็เหยียบลงไปบนมือของผู้ชายคนนั้นแรงๆ เสียงของกระดูกร้าวดังขึ้น “กรึก” ผู้คนที่ได้ยินก็ต่างขนลุกซู่กันหมด