สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1302 คุณโห้ที่แซงคิว
ร่างกายของเย้นหว่านเกร็งตึงในทันที เธอรีบถอยหลังชนเข้ากับกำแพง และมองดูชายคนนี้อย่างหวาดระแวง
“ไม่ ฉันจะเปลี่ยนเอง”
“พื้นที่ที่นี่มีขนาดเล็กมาก คุณเปลี่ยนเองจะสะดวกเหรอ”
โห้หลีเฉินมองไปที่เย้นหว่านด้วยความเป็นห่วง
สายตาคู่นั้น เขามีแผนการที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าแล้ว
เย้นหว่านมีลางสังหรณ์ว่ายังไงเขาก็จะไม่มีทางสละผลประโยชน์ของตัวเองแน่นอน เธอจับไหล่เขา ก่อนจะหันตัวเขาไปอีกทาง
“ฉันเปลี่ยนได้ คุณไม่ต้องมอง เปลี่ยนของตัวเองไป ถ้าเปลี่ยนเสร็จแล้วฉันจะไม่รอคุณนะ”
หลังจากทำให้โห้หลีเฉินหันกลับไป เย้นหว่านก็รีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว โดยหันหลังให้กับโห้หลีเฉิน จากนั้นเธอก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยความรวดเร็ว
จากนั้น ทันทีที่เธอถอดเสื้อคลุมออก เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอรีบหันกลับไปทันที เธอก็เห็นว่าโห้หลีเฉินนั้นหันกลับมาแล้ว ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาหันกลับมาตอนไหน ดวงตาของเขาร้อนรุ่ม สายตาที่เขาจ้องมองเธอก็เหมือนกับสายตาของหมาป่าที่หิวโหย
เย้นหว่านตกใจในทันที เธอรีบเอาเสื้อผ้ามาบังตัวเองไว้
“โห้หลีเฉิน คุณทำอะไรน่ะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ…”
เธอยังไม่ทันพูดจบ โห้หลีเฉินก็เดินเข้ามาใกล้เธอ ร่างที่สูงใหญ่ของเขาก็เหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับลงมา และบีบบังคับให้เธออยู่ระหว่างกำแพงกับตัวเขา
เขาก้มศีรษะลงและเข้าใกล้เธอ น้ำเสียงของเขาก็แหบมากๆ
“เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ผมอยากทำเรื่องอย่างอื่นก่อนมากกว่า”
เมื่อคำพูดจบลง โห้หลีเฉินก็มอบจูบให้เธอในทันที เขาเอื้อมมือออกไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา จูบนั้นทั้งรุนแรงและเอาแต่ใจ
“อือ!”
เย้นหว่านรีบผลักเขาออก แต่ชายหนุ่มก็เป็นเหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยมาเป็นเวลานาน ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะจับเหยื่อไว้ได้ แล้วเขาจะปล่อยไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
เขาโอบกอดเธอไว้แน่น นิ้วของเขาเลื่อนขึ้นไป เพื่อช่วยเธอถอดเสื้อผ้าออก
ชุดชั้นในหลุดออกจากตัว
ในหัวสมองของเย้นหว่านมีแต่เสียงระฆังดังขึ้น แม้แต่นิ้วเท้าของเธอก็รู้ว่าชายคนนี้ต้องการจะทำอะไร
เธอรับรู้ได้ว่ามือของเขานั้นเริ่มขยับไปมามากขึ้นเรื่อยๆ เย้นหว่านรู้สึกกระวนกระวายใจ ก่อนจะประกบฟัน และกัดไปที่เขาอย่างดุเดือด
“โอ้ย!”
โห้หลีเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากของเขาแตก และมีเลือดไหลออกมา
สายตาของเขาดูคุ้นเคยมากๆ ในนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาและความไม่พอใจ “คุณภรรยา เด็กดี ให้ผมจูบหน่อยสิ”
เขาโน้มตัวเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ มือของเขานั้นจับไปที่ด้านหลังศีรษะของเธอ
ถ้าเธอโดนเขาจับไว้แบบนี้ เย้นหว่านก็จะถูกควบคุมโดยเขาอย่างแน่นอน
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำเรื่องแบบนี้ แต่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในที่สาธารณะแบบนี้ เย้นหว่านรับไม่ได้จริงๆ
เธอรีบกล่าวว่า “โห้หลีเฉิน ไปให้พ้นนะ ถ้าคุณกล้าทำอะไรในนี้อีก ฉันจะ จะ…”
“จะทำอะไร?”
น้ำเสียงของโห้หลีเฉินแหบมากๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาเข้ามาใกล้เย้นหว่านอีกครั้ง และในขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ ไอร้อนนั้นก็ได้กระทบลงบนใบหน้าของเธอแล้ว
มือของเขาจับที่ด้านหลังศีรษะของเธอ และบังคับให้ใบหน้าเล็กๆ ของเธอดันไปข้างหน้า
ระหว่างพวกเขาทั้งสอง ดูใกล้ชิดกันมากๆ
หัวใจของเย้นหว่านเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เธอแทบจะทนต่อการยั่วยวนนี้ไม่ไหวแล้ว ไม่ง่ายเลยที่เธอจะประคองสติให้คงอยู่ เธอกัดฟันและพูดว่า
“งั้นคืนนี้ฉันจะไม่นอนห้องเดียวกับคุณ”
ริมฝีปากของโห้หลีเฉินหยุดลงตรงหน้าจมูกของเธอในทันที
ดวงตาของเขาดูเศร้าหมองมาก เขาจ้องตรงไปที่เธอ เขากัดฟันพูด “คุณภรรยา นี่คือสิ่งที่คุณให้สัญญากับผม จะมาขี้โกงแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ก็คุณขี้โกงก่อนนี่” เย้นหว่านจ้องไปที่เขา เธอพยายามต่อสู้อย่างหนักด้วยเหตุผล
ถ้าเป็นเมื่อก่อน โห้หลีเฉินคงจะหาทุกวิถีทางในตอนกลางคืนให้ได้ แต่ช่วงนี้เขาถูกขังไว้ที่ชั้นล่างบ่อยครั้ง ซึ่งเขาไม่สามารถขึ้นไปที่ชั้นสองได้เลย เขารู้ว่าหญิงสาวตัวเล็กคนนี้ไม่ได้หลอกง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ถ้าเขาไม่หยุดในตอนนี้ รางวัลในตอนกลางคืนก็คงจะไม่มีแล้ว
เขาครุ่นคิด เลือดที่เดือดพล่านและเหตุผลกำลังต่อสู้กัน หลังจากที่ผ่านไปนาน โห้หลีเฉินก็ถอนหายใจออก
“แล้วไฟที่คุณทำให้รุกขึ้นมา จะทำยังไง?
เมื่อเย้นหว่านได้ยิน เธอก็ก้มหน้าลงไปมอง จากนั้น ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ
เธอผลักเขาออกไป “สิ่งที่คุณก่อขึ้น ก็จัดการเองสิ”
สายตาของโห้หลีเฉินจับจ้องที่เธออย่างเงียบๆ “เย้นหว่าน คุณเป็นคนถอดเสื้อผ้าออกเองนะ”
เย้นหว่านชะงักไปพักหนึ่ง เธอก็เพิ่งนึกออกว่า บนร่างกายเธอแทบจะไม่เหลือเสื้อผ้าอยู่แล้ว
น่าอายจริงๆ
เย้นหว่านรีบหยิบชุดว่ายน้ำออกมา แล้วสวมไว้บนตัวของเธออย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเธอแต่งตัวในไม่กี่นาที อาหารตาของเขาก็หายไปเช่นกัน โห้หลีเฉินถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง
สุดท้ายของที่อยู่ในมือก็หลุดหายไปแบบนี้เลย…
หลังจากเวลาผ่านไปนาน ในที่สุดเย้นหว่านก็หนีออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สำเร็จ ความรู้สึกนั้น ก็เหมือนกับการต่อสู้ที่น่ากลัว มันเหนื่อยล้ามากๆ
ใบหน้าของเธอแดงขึ้นกว่าเดิม เธอละอายจนไม่กล้ามองดูผู้คนที่อยู่รอบๆ เธอกลัวว่าจะมีคนมาเห็นว่าเธออยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากับโห้หลีเฉิน
มันสามารถทำให้ผู้คนคิดไปไกลได้
เธอยังคงต้องการใบหน้านะ
หลังจากที่เย้นหว่านออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอก็รีบวิ่งออกไปไกลๆ จากนั้นโห้หลีเฉินก็ได้สะพายกระเป๋าและไล่ตามเธอมา มือของเขาว่างลงบนไหล่ของเธออย่างเป็นธรรมชาติ
“คุณจะวิ่งเร็วขนาดนั้นเพื่ออะไรกัน? มีคนตามคุณมาด้านหลังเหรอ?”
ก็เขานั่นแหละไม่ใช่เหรอ?
เย้นหว่านบ่นในใจ แต่ดวงตาของเธอก็กลอกไปมา เธอชี้ไปที่ฟลายบอร์ดในทะเลแล้วพูดว่า “ว้าว มันดูน่าสนุกจังเลย ฉันก็อยากเล่น”
สายตาของโห้หลีเฉินมองตามไป
จากนั้น สายตาของเขาก็เย็นชาในทันที และเขาก็ปฏิเสธอย่างไร้ความปราณี “ไม่ได้”
“ทำไม ถึงแม้จะดูเหมือนว่ากำลังลอยอยู่ แต่จริงๆ แล้วมันไม่อันตราย คุณวางใจเถอะนะ” เย้นหว่านพยายามหว่านล้อม
โห้หลีเฉินยังคงมีใบหน้าที่ไม่พอใจ “นี่เป็นปัญหาของความเสี่ยงเหรอ?”
“ไม่งั้นเรื่องอะไรล่ะ?”
เย้นหว่านมึนงง เธอมองดูหญิงสาวที่ลอยอยู่ในอากาศพร้อมกับชายหนุ่มที่กอดเธอไว้ จากนั้นเธอก็เข้าใจได้ในทันที “คุณโห้ แค่นี้คุณก็หึงเหรอ”
โห้หลีเฉินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาก็พูดออกมาอย่างมั่นใจ “คุณเป็นภรรยาของผม นอกจากผม ใครก็แตะต้องไม่ได้”
กอดกันเพื่อโบยบินขึ้นไปบนฟ้า? อย่าแม้แต่จะคิด
เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เธอชอบที่โห้หลีเฉินหึงหวงเธอ มันดูเหมือนเขาเป็นชายหนุ่มเลย ทั้งปัญญาอ่อนและก็น่ารักมาก
ความเคร่งขรึมและความเยือกเย็นตามปกติของเขาถูกขจัดออกไป
เธอเอาแขนโอบเอวของเขาแล้วพูดว่า “ฉันไม่ให้คนอื่นมากอดหรอก ฉันจะไปบินเอง”
โห้หลีเฉินมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “คุณอยากเล่นอันนั้นมากเลยเหรอ?”
“แน่นอน ฉันอยากเล่นมาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนไม่กล้า แต่ตอนนี้ฉันอยากจะลองดู” ดวงตาของเย้นหว่านเป็นประกาย
เมื่อก่อนเธอเคยขี้ขลาดมาก อันนี้ก็ทำไม่เป็นอันนั้นก็ไม่กล้าทำ ตอนนี้กิจกรรมที่ตื่นเต้นพวกนี้ กลับทำให้เธอรู้สึกอยากจะลอง
โห้หลีเฉินครุ่นคิดเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดกับเย้นหว่านว่า
“คุณรอผมที่นี่สักครู่นะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วของฟลายบอร์ด
เย้นหว่านมองดูแผ่นหลังของเขา จากนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากอย่างมีความสุข คุณโห้ของเธอนั้น แม้ว่าเขาจะหึง แต่เขาก็ยังเต็มใจที่จะทำตามความปรารถนาเล็กๆ น้อยๆ ของเธอ
เขาตามใจเธอมากขนาดนี้ ยังไงเธอก็ไม่ยอมไปอยู่ในอ้อมแขนของชายคนอื่น จนทำให้เขาหึงและไม่พอใจแน่นอน
เย้นหว่านตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอื่น
เธอเดินไปหาโห้หลีเฉินพร้อมกับรอยยิ้ม เธอจะบอกให้เขาไม่ต้องซื้อตั๋ว
แต่ เธอยังเดินไปไม่ถึง เธอก็เห็นโห้หลีเฉินเดินผ่านคนที่กำลังต่อแถวไป เขาแซงคิวไปยืนอยู่ข้างหน้าสุด
พฤติกรรมการแซงคิวแบบนี้ มันทำให้เกิดความโกลาหลในทันที
ผู้คนต่างกรีดร้องด้วยความไม่พอใจ แต่เมื่อคนที่พูดได้เห็นใบหน้าของโห้หลีเฉินอย่างชัดเจน คำพูดที่ชอบธรรมนั้นก็เปลี่ยนไปทันที
“ว้าว คุณโห้นี่เอง! ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีหลายร้อยเท่าเลย”
“คุณโห้อยากเล่นฟลายบอร์ดเหรอ?”
“เป็นเกียรติมากเลย ที่ฉันได้เล่นฟลายบอร์ดในร้านเดียวกับคุณโห้~”