สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1303 ฉันอยากจะยืนอยู่เคียงข้างคุณ
โห้หลีเฉินคุ้นเคยกับการที่มีคนมากมายมารายล้อมและพูดถึงนานแล้ว เขาไม่ได้สนใจเลย แต่เขาพูดกับคนขายตั๋วว่า
“ผมต้องการพบผู้จัดการของคุณ”
หลังจากความวุ่นวายครั้งใหญ่ แม้ว่าคนขายตั๋วจะไม่รู้จักโห้หลีเฉิน แต่ก็ต้องรู้จักเขาอยู่ดี
เธอรีบยิ้มและพูดว่า “คุณโห้ ฉันขอถามคุณหน่อยนะคะ มีธุระอะไรกับผู้จัดการของเราเหรอคะ ถ้าเป็นลูกค้าวีไอพีและต้องการจะเช่าเหมาที่นี่ทั้งหมด ฉันก็สามารถจัดการได้”
โห้หลีเฉิน “มาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจน่ะ”
เมื่อคำพูดนี้ได้พูดออกมาจากปากของผู้มีอำนาจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่พนักงานตัวเล็กธรรมดาจะกล้าคิดได้อย่างไร
เธอรีบออกมาทักทาย “คุณโห้ เชิญข้างในค่ะ”
ภายใต้การนำทางของพนักงาน โห้หลีเฉินเลยข้ามจุดจำหน่ายตั๋วไป และเขาก็ได้เข้าไปในห้องโถงด้านในอย่างสง่างาม
เย้นหว่านยืนมองดูการกระทำของเขาอยู่ไกลๆ เธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ก็แค่การซื้อตั๋ว โห้หลีเฉินจะเข้าไปข้างในเพื่ออะไรกัน
หรือจะซื้อตั๋วพิเศษผ่านช่องทางพิเศษเหรอ?
เย้นหว่านเดินไปที่ชายหาด และนั่งรอเขาอยู่บนชายหาด เธอขุดหลุมบนทรายด้วยนิ้วมือของเธอ จากนั้นก็เติมทรายให้เต็มอีกครั้ง เธอนั่งเล่นด้วยความเบื่อหน่าย
หลังจากนั้นไม่นาน โห้หลีเฉินก็เดินไปหาเธอ
“จัดการเรียบร้อยแล้ว ไปเล่นฟลายบอร์ดกันเถอะ”
เย้นหว่านเงยหน้ามองเขา และถามด้วยความสงสัย “คุณไปจัดการยังไงกัน”
เขาไม่มีทางปล่อยให้ชายหนุ่มกอดเธอและขึ้นไปบินแน่นอน หรือเขาจะยอมให้เธอขึ้นไปบินคนเดียวเหรอ? แต่ระดับความเป็นห่วงของโห้หลีเฉินที่มีต่อเธอนั้น อาจจะมีไม่มาก
“ตามผมมาแล้วคุณจะรู้เอง”
โห้หลีเฉินยื่นมือไปทางเย้นหว่าน
เขายืนหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้าส่องลงมาบนตัวเขา มันส่องสว่างจนทำให้เขานั้นดูหล่อเหลาและแพรวพราวราวกับเทพเจ้า
แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับใบหน้านี้ทุกวัน เย้นหว่านก็ใจเต้นแรงอยู่ดี
ในเธอชาติที่แล้ว เธอเคยกอบกู้กาแล็กซีไว้เหรอ เธอถึงได้แต่งงานกับสามีที่หล่อเหลาคนนี้
เย้นหว่านอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากของเธอ และเธอก็วางมือลงบนมือของโห้หลีเฉิน
โห้หลีเฉินดึงเธอลุกขึ้น ก่อนจะเดินไปที่ชายหาดด้วยกัน
เรือยอร์ชได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว มีลูกเรือสองคนกำลังรอพวกเขาอยู่บนเรือ เมื่อเห็นเย้นหว่าน พวกเขาก็ทักทายอย่างสุภาพ
“สวัสดีค่ะคุณนายโห้”
คนพวกนี้เป็นพนักงาน แล้วทำไมถึงต้องทักทายเธออย่างเป็นทางการแบบนี้?
เย้นหว่านรู้สึกปลาบปลื้มเล็กน้อย เธอจึงรับพยักหน้าและยิ้มอย่างรวดเร็ว
คนหนึ่งขับเรือยอร์ช อีกคนรับผิดชอบเรื่องอุปกรณ์ ในไม่ช้า พวกเขาก็ได้นั่งบนเรือยอร์ชและล่องไปในทะเล
หลังจากหยุดเรือยอร์ชแล้ว ชายหนุ่มคนที่รับผิดชอบเรื่องอุปกรณ์ก็ได้นำอุปกรณ์มาวางบนเท้าของโห้หลีเฉิน
เมื่อเย้นหว่านเห็น เธอก็ตกใจ “ทำไมคุณถึงใส่มัน”
“ผมจะพาคุณบินเอง” โห้หลีเฉินพูดอย่างมั่นใจ
เย้นหว่านตกใจ เธอคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลายอย่าง แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าโห้หลีเฉินจะเข้ามาแทนที่ชายหนุ่มคนนั้นด้วยตัวเอง
“คุณ ทำเป็นเหรอ”
เธอรู้สึกลังเลใจ
โห้หลีเฉินหยุดสวมอุปกรณ์ ทันใดนั้นเขาก็เอนตัวเข้าไปใกล้เย้นหว่าน “คุณภรรยา นี่คุณกำลังสงสัยในความสามารถของสามีของคุณเหรอ”
เขากดเสียงต่ำ ซึ่งเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอันตราย
ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเอาชีวิตรอดทำให้เย้นหว่านส่ายหัวในทันที “ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย คุณคือคนที่ดีที่สุดในใจของฉัน ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้”
“มีสายตาที่ดีจริงๆ”
โห้หลีเฉินจูบลงบนหน้าผากของเย้นหว่านเพื่อเป็นรางวัล
แก้มของเย้นหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที เธอผลักเขาออกไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ “มีคนอื่นอยู่บนเรือด้วยนะ”
“พวกเขาไม่กล้ามองหรอก”
เย้นหว่านรู้สึกสู้จะทนกับความหน้าด้านของเขา เธอคิดบางอย่างออก จึงถามเขาว่า “ในสถานการณ์ปกติ แม้ว่าพวกเขาจะเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของลูกค้า แต่ยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมให้ลูกค้าบินเอง คุณพูดโน้มน้าวพวกเขายังไงกัน?”
โห้หลีเฉินแตะไปที่จมูกของเธอ “คุณลองเดาสิ”
เย้นหว่านจ้องไปที่เขา “ไม่อยากเดา”
โห้หลีเฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขายักไหล่แล้วพูดว่า “ผมซื้อบริษัทนี้เรียบร้อยแล้ว”
เย้นหว่าน “…”
ดังนั้นเมื่อครู่นี้ที่เขาเข้าไปข้างใน คือเขาไปซื้อบริษัทของคนอื่นเหรอ?
อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเจ้านาย กฎเกณฑ์ต่างๆ ก็สามารถสร้างด้วยตัวเอง แน่นอนว่า ถ้าเขาอยากจะบินด้วยตัวเองก็สามารถทำได้
ก็ว่าทำไมตอนที่ขึ้นมาบนเรือ ลูกเรือทั้งสองถึงได้กล่าวทักทายเธอด้วยความเคารพ
เย้นหว่านหมดคำจะพูด เธอแค่อยากจะพูดว่า รวยและเอาแต่ใจ
ไม่แปลกเลยที่เขาเป็นคุณโห้ที่เอาแต่ใจ
ในขณะที่โห้หลีเฉินกำลังสวมอุปกรณ์อยู่ เย้นหว่านก็เดินไปหาชายหนุ่มที่ควบคุมเรือ ก่อนจะพูดกับเขาว่า “คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม”
“คุณนาย พูดมาได้เลยครับ” ชายหนุ่มคนนั้นมีท่าทีที่ดีต่อเธอมาก
เพราะอย่างไรก็ถือว่าเป็นเจ้านายของเขาเช่นกัน แน่นอนว่าต้องปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี
เย้นหว่านมองไปที่โห้หลีเฉิน ก่อนจะพูดเสียงต่ำกับชายหนุ่มคนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย หลังจากที่เย้นหว่านพูดโน้มน้าวใจเขาไป ในที่สุดเขาก็พยักหน้า
จากนั้น เขาก็หันกลับไปโทรศัพท์
ทางด้านนี้ โห้หลีเฉินก็ได้แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเล่นฟลายบอร์ดมาก่อน แต่เมื่อครู่นี้ได้ยินชายหนุ่มคนนั้นพูดถึงเคล็ดลับและข้อปฏิบัติ เขาก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
หลังจากลงไปในน้ำ เขาไม่มีท่าทีเหมือนมือใหม่เลย เขาควบคุมทุกอย่างได้ดี
เขายืนอยู่บนน้ำ ก่อนจะยื่นมือไปทางเธอ “คุณนายโห้ มาสิ”
เย้นหว่านมองไปที่เขาและยิ้ม
จากนั้นเธอก็ลงไปในน้ำ จับมือเขาไว้ ก่อนจะว่ายเข้ามาในอ้อมแขนของเขา และก็ยืนขึ้นในอ้อมแขนของเขา
โห้หลีเฉินกอดเธอจากด้านหลัง เขาก้มหน้าลง ก่อนจะเอนริมฝีปากแนบหูของเธอ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพร้อมหรือยัง?”
“อืม” เย้นหว่านพยักหน้า
โห้หลีเฉินกอดเธออย่างหวงแหน ก่อนจะพูดว่า “ถ้าเกิดว่ากลัว หันมากอดผมจากอีกทางก็ได้นะ”
ให้หันหน้าเข้ากอดกันงั้นเหรอ?
เวลาลอยอยู่บนนี้มีคนมองมากมาย เธอรู้สึกเขินอายแย่
เย้นหว่านยืนตัวตรง “ฉันไม่กลัว!”
โห้หลีเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ความรักและความเอ็นดูในดวงตาของเขายังคงมีอยู่และไม่ลดน้อยลง เขากอดเธอไว้ ก่อนจะควบคุมคลื่นอากาศใต้ฝ่าเท้าของเขา จากนั้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไป
ซึ่งลอยขึ้นจากผิวน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ
ความไม่แน่นอนของการเคลื่อนไหวแบบนี้ และความรู้สึกวิกฤตที่อาจล้มลงไปได้ทุกเมื่อ ทำให้เย้นหว่านจับแขนของโห้หลีเฉินไว้อย่างไม่รู้ตัว
แต่เมื่อมองดูทะเลที่อยู่เบื้องล่าง และมองดูระยะทางที่ไม่สิ้นสุด หัวใจของเธอ ก็เต้นแรงอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
เธอจ้องมองไปที่ไกลแสนไกล “คุณโห้ ฉันบอกแล้ว ว่าฉันไม่กลัว”
โห้หลีเฉินยิ้ม ก่อนจะกอดเธอแน่นขึ้นในอ้อมแขนของเขา “ผมกลับชอบให้คุณรู้สึกกลัวในเวลานี้”
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็จะทำตัวอ้อนเหมือนเด็กในอ้อมแขนของเขา ทำให้เขามีโอกาสกอดและหอมเธอ
เขาจะปกป้องเธอเป็นอย่างดีในทุกเวลา
เย้นหว่านส่ายหน้า ก่อนจะมองไปที่โห้หลีเฉิน
ดวงตาของเธอนั้นลึก.งมาก “คุณโห้ ฉันก็อยากเป็นสาวขี้อาย ที่คอยหลบอยู่ด้านหลังของคุณ แต่ในบางครั้ง อย่างเช่นในตอนนี้ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันบนที่สูงแบบนี้ บางทีสิ่งที่ควรจะทำมากกว่าคือการ ยืนอยู่เคียงข้างกัน”
หลังจากพูดเสร็จ เย้นหว่านก็ดึงมือของโห้หลีเฉินออก ในตอนที่เขายังไม่ทันเข้าใจถึงสถานการณ์ เธอก็กระโดดลงไป
เสียงน้ำดัง “ตูม” น้ำกระเด็นกระจาย และร่างของเย้นหว่านก็หายไปในทะเล
โห้หลีเฉินตกตะลึง เขารู้สึกเหมือนว่าอากาศในหัวใจของเขานั้นถูกนำออกไป และแรงภายนอกก็ถูกอัดเข้ามาภายใน ความตื่นตระหนกค่อยๆ เผยออกมาภายในดวงตาของเขา
เขาทรุดตัวลงและตะโกนว่า “เย้นหว่าน!”
เขาควบคุมคลื่นลมใต้เท้าของเขาในทันที ก่อนจะพุ่งลงไปในทะเล
จากนั้น ในตอนที่เขากำลังจะกระโดดลงไปในทะเล ในที่ไม่ไกลมากนัก ก็มีคลื่นน้ำอีกระลอกหนึ่งเกิดขึ้น