สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1304 คู่รักเช้าเย็น
เย้นหว่านก้าวขึ้นไปบนคลื่นลม ก่อนจะทะลุผ่านน้ำขึ้นมา
เธอยืนอยู่บนนั้นด้วยความมั่นคง ในชั่วพริบตาเธอก็พุ่งไปยังจุดสูงสุด เธอยืนอยู่บนคลื่นลมนั้นอย่างมั่นคง
เธอดูหยิ่งทะนง ราวกับราชินี
“คุณโห้”
เธอมองไปที่เขาและยิ้ม เธอยักคิ้ว ด้วยความเย่อหยิ่ง
โห้หลีเฉินจ้องไปที่เธอด้วยความงุนงง หลังจากที่เขาถอนหายใจออกด้วยความโล่งอก ความตกใจก็ตามมาติดๆ เขาจดจ่ออยู่กับเธอเป็นเวลานานกว่าจะได้สติกลับมา
เย้นหว่านในรูปแบบนี้ พูดตามตรง นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น
ในตอนที่เขายังไม่รู้ตัว เธอก็เติบโตเป็นผู้หญิงที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ในขณะที่ปราศจากการปกป้องจากเขา เธอก็ยังสามารถสยายปีกและโบยบินให้สูงขึ้นได้
ซึ่งความรู้สึกนี้ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ภายในจิตใจของเขา มันเหมือนกับว่าสิ่งของที่อยู่ในมือของเขานั้น อยู่ดีๆ ทุกอย่างก็หายไปในทันใด
เขาไม่สามารถครอบครองได้อีกต่อไปแล้ว
เสียงคลื่นน้ำทะเลซัดกระหน่ำเข้ามา เย้นหว่านมองดูชายหนุ่มที่ดูไร้สติ เธอยังคงยิ้ม และในรอยยิ้มนั้น ก็มีความอ่อนโยนแอบแฝงอยู่
เธอยืนอยู่บนที่สูง ก่อนจะเอื้อมมือไปทางเขา
“คุณโห้”
เธอเรียกเขาเบาๆ
เธอเชิญเขามาอยู่เคียงข้างเธอ มาเคียงบ่าเคียงไหล่กับเธอ
โห้หลีเฉินมองไปที่มือเล็กๆ นั้น มันดูห่างไกลออกไปสุดขอบฟ้า มันห่างไกลจนเขาเอื้อมมือไปไม่ถึง แต่ก็ดูเหมือนว่ามันอยู่ใกล้เพียงแค่นี้ แค่เพียงเอื้อมมือออกไปได้ก็ถึงแล้ว
เวลาผ่านไปพร้อมกับเสียงของน้ำที่กำลังไหล เย้นหว่านยังคงมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มเสมอ และรอเขาอยู่เสมอ
หลังจากผ่านไปนาน โห้หลีเฉินก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้
ในโลกใบนี้ สุดท้ายเธอก็คือยาพิษที่เขาไม่สามารถต้านทานได้
เขาควบคุมคลื่นลมก่อนจะลอยขึ้นไป จากนั้นก็จับมือเล็กๆ ของเธอไว้ เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
เขาจ้องที่เธออย่างเคร่งขรึม น้ำเสียงของเขาฟังดูแหบและทุ้มต่ำ “เย้นหว่าน ยืนอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผม และเราจะฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยกัน คุณคิดดีแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
ถ้าให้ถูกต้องต้องบอกว่า ต้องเตรียมรับมือกับอุปสรรคต่างๆ
เย้นหว่านกระชับนิ้วมือของเธอ และจับมือโห้หลีเฉินไว้อย่างแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ดูสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผมชอบที่ได้ยืนเคียงข้างคุณแบบนี้”
แววตาของโห้หลีเฉินดูลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเขาจะพยายามยับยั้งรอยยิ้มของเขา แต่ก็ดูตั้งใจอย่างเห็นได้ชัด
เขาพูดว่า “ได้ ถ้าคุณชอบ ผมจะเล่นกับคุณเป็นเวลาสองวันอย่างมีความสุข”
บางที นี่อาจเป็นวันที่สงบสุขครั้งสุดท้ายของพวกเขา
เส้นทางต่อจากนี้ คงจะมีอุปสรรคอีกมากมาย แต่ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอะไร ยังไงพวกเขาก็จะไม่ปล่อยมือกัน
เย้นหว่านมีความกล้าหาญมากขึ้น การทรงตัวและร่างกายของเธอก็ดีมาก กิจกรรมทางน้ำทั้งหมดในทะเล เธอเล่นทุกอย่างด้วยความสบายใจ
และเนื่องจากเป็นกิจกรรมทางน้ำ เลยไม่สะดวกที่จะนำโทรศัพท์มาด้วย ดังนั้นตั้งแต่เช้าจนดึก โห้หลีเฉินก็ไม่ได้สัมผัสโทรศัพท์เลย
โทรศัพท์ของเขาวางในมุมมืด มันส่งเสียงดัง ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีใครรับสายเลย
เย้นหว่านไม่ได้เล่นอย่างสบายใจแบบนี้มานานแล้ว
มันทั้งเพลิดเพลิน และได้ทำตามใจตัวเอง
ซึ่งสนุกมากๆ
เธอและโห้หลีเฉินต่างก็เป็นคนดัง และรูปร่างหน้าตาของพวกเขาก็ดีมากๆ เวลายืนอยู่กับผู้อื่นพวกเขาก็ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ การเล่นสนุกในครั้งนี้ ก็มีหลายคนให้ความสนใจ บางคนก็ถ่ายรูป บางคนก็ถ่ายคลิป ทั้งรูปภาพและคลิปวิดีโอก็ได้เผยแพร่ไปยังบนโลกออนไลน์
พวกเขาได้ขึ้นเทรนการค้นหาที่เป็นที่นิยมตลอดทั้งวัน
ในคอมเมนต์ มีทั้งคนที่กรี๊ดลั่น ริษยา และอิจฉาตาร้อน ทุกคนต่างก็คึกคักกันมาก
“ท่านประธานโห้ไปเที่ยวสนุกกับภรรยาของเขา พักงานทุกอย่างไว้ แล้วไปเที่ยวชายทะเลหนึ่งวัน ตามใจกันมากๆ เลย”
“คุณโห้เป็นสามีที่ดีที่สุดในโลกจริงๆ อิจฉาคุณนายโห้หลายร้อยล้านครั้ง”
“เป็นคู่รักที่มีความสุขที่สุด คู่รักคู่นี้ฉันขอจิ้น”
“ฉันจิ้นแล้ว แม้แต่ชื่อเรียกของคู่นี้ฉันก็คิดเรียบร้อยแล้ว หลีเฉินมีหมายความว่ารุ่งอรุณและแสงสว่าง ซึ่งก็เป็นตัวแทนในตอนเช้า ส่วนเย้นหว่านก็มีความหมายว่ากลางคืน ซึ่งเป็นตัวแทนของตอนเย็น ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นคู่รักเช้าเย็น?”
“ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องเป็นคุณ”
“หลงรัก หลงรักเลย…”
ในโลกออนไลน์ดูดุเดือดเหมือนกับน้ำที่ต้มจนเดือด ทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉา แต่น้อยคนนักที่จะรู้สึกเกลียดชัง ส่วนมากก็เป็นคำอวยพรที่เต็มไปด้วยความอิจฉาตาร้อน
แต่ ภายนอกโลกออนไลน์ ภายในบริษัทตี้เหานั้น กลับดูวุ่นวายเอามากๆ
เธอสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเว่ยชี และก็รู้สึกว่าภายในบริษัทนั้นเหมือนจะมีความลับบางอย่างซ่อนเอาไว้ แต่เธอไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น เมื่อเทียบกับอำนาจของเว่ยชีแล้ว ยังไงเธอก็ไม่สามารถควบคุมเว่ยชีได้
ถ้าต้องการตรวจสอบอย่างละเอียด จำเป็นต้องใช้อำนาจของโห้หลีเฉิน
แต่เธอก็ไปโทรหาโห้หลีเฉินหลายร้อยครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับสาย
จนกระทั่งตอนที่เธอเป็นกังวลมากๆ เธอก็บังเอิญเห็นข่าวบนโลกอินเทอร์เน็ต เธอเห็นโห้หลีเฉินและเย้นหว่านไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เธอจึงทุบโทรศัพท์ของเธอด้วยความโกรธ
มีปัญหาและอุปสรรคมากมายที่กำลังผ่านเข้ามา แต่โห้หลีเฉินกลับมีอารมณ์ออกไปเที่ยวเล่นกับเย้นหว่าน!
เขาไม่รู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันเหรอ แค่เขาจากบริษัทไปเพียงวันเดียว ก็อาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นได้?
บ้าไปแล้ว เขาบ้าไปแล้วจริงๆ
เก่อหรูซวนขับรถออกจากบริษัทด้วยความโมโห เธอรีบขับไปที่ชายหาด เพื่อไปตามหาโห้หลีเฉินด้วยตนเอง
ตอนนี้เวลานั้นเร่งรีบเหลือเกิน แม้แต่ชั่วโมงเดียวก็ทำให้เสียเวลาไม่ได้
ตอนที่เธอไปถึงชายหาด ก็เป็นช่วงตอนเย็นพอดี ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้ม
คนส่วนใหญ่ที่เล่นอยู่บนชายหาดก็เริ่มพากันกลับไป เพื่อไปทานข้าวเย็นอะไรทำนองนั้น
ในระหว่างทาง เก่อหรูซวนได้ตรวจสอบร้านอาหารระดับไฮเอนด์ทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนี้แล้ว เมื่อไปถึง เธอก็เจอพอดี
เธอคิดมาเป็นอย่างดี แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า ในตอนที่เธอยังไม่ได้เข้าใกล้บริเวณนั้น เธอก็ถูกคนจับตัวไว้
เก่อหรูซวนขมวดคิ้ว “ป่ายฉี คุณกลับไปที่ตระกูลเย้นแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ป่ายฉีเอนกายพิงตรงต้นไม้อย่างเกียจคร้าน ในมือเขาถือมะพร้าวอยู่ และเขาก็ดื่มอย่างสบายใจ
เขายิ้มและถามกลับว่า “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมกลับไปที่ตระกูลเย้นแล้ว คุณสะกดรอยตามผมเหรอ”
เก่อหรูซวนเงียบไปในทันที
แน่นอนว่าเธอได้ส่งคนไปสะกดรอยตามป่ายฉี ทุกครั้งไม่ว่าเขาจะมาในตอนไหน จากไปในตอนไหน ไปทำอะไรมา หรือไปเจอใครมาบ้าง เธอจะรู้ทุกอย่าง
แต่คราวนี้ คนที่เธอให้ไปจับตามองเขาเห็นว่าป่ายฉีได้นั่งเครื่องบินจากไปแล้ว เขาไม่ควรจะปรากฏตัวอยู่ตรงนี้อีก
แต่สำหรับสิ่งเหล่านี้ เธอไม่มีทางพูดออกไปอยู่แล้ว
เธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “คุณจะห้ามฉันทำไม หลบไปซะ”
ป่ายฉียังคงดื่มมะพร้าวอย่างสบายใจ บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยาม
“เป็นเรื่องยากที่น้องสาวและน้องเขยของผมจะได้มาพักผ่อนแบบนี้ พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับโลกของพวกเขาสองคน ใครก็ห้ามเข้าไปรบกวน”
“ฉันมีธุระสำคัญกับคุณโห้!” เก่อหรูซวนกัดฟันพูด
แต่ป่ายฉีกลับมีท่าทีที่ไม่แยแส “แล้วเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ”
เก่อหรูซวนกระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง เธออยากจะเข้าไปข้างในเลย แต่ป่ายฉีก็ห้ามเธอไว้ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียว ส่วนเขาเป็นผู้ชายที่มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ทักษะของเขานั้นดีมากอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ในเมื่อใช้เหตุผลแล้วก็ยังทำอะไรไม่ได้ ยังไงป่ายฉีก็ไม่มีทางปล่อยเธอเข้าไปแน่นอน
เก่อหรูซวนก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดีๆ เย้นหว่านก็พาโห้หลีเฉินออกมาเที่ยวในเวลานี้ แม้แต่ป่ายฉีเองก็มาที่นี่เพื่อห้ามเธอไม่ให้เข้าไปหาโห้หลีเฉิน พวกเขาจะต้องแอบทำอะไรบางอย่างแน่นอน
แม้ไม่มีหลักฐานอย่างแน่ชัด แต่ยังไงเธอก็ต้องไปรายงานให้ได้
เก่อหรูซวนคิดแบบนี้ เธอเลยไม่ได้ยุ่งอะไรกับป่ายฉีอีก เธอหันหลังและเดินจากไป
เธอกลับไปที่รถ ก่อนจะกดโทรออก สายยังไม่ทันจะโทรติด ทันใดนั้นก็วางสายโดยอัตโนมัติ
บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอมีตัวอักษรสีแดงปรากฏขึ้น กำลังถูกสะกดรอยตามและดักฟังอยู่!
การเชื่อมต่อของเธอกับข้อมูลข้างต้นเป็นความลับสุดยอด ผ่านการป้องกันและตรวจสอบการดักฟังมาอย่างแน่นหนา เมืองหนานเป็นพื้นที่ของพวกเขามาโดยตลอด และไม่เคยเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ขึ้นเลย
แต่วันนี้…
เก่อหรูซวนกำหมัดของเธอไว้แน่น สายตาของเธอจ้องมองไปยังป่ายฉีที่กำลังถือมะพร้าวอยู่ไม่ไกลอย่างขุ่นเคือง
เป็นเขา ต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน!