สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1307 เริ่มต้นแล้ว
เย้นหว่านก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์เขา ทั้งสองคนก็ยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน สุดท้ายจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดินไป พวกเขาถึงได้ลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างอาลัยอาวรณ์
หลังจากที่เย้นหว่านอาบน้ำแล้ว เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและพูดว่า “คุณโห้ พวกเราไปทานข้าวกันก่อนกลับเถอะ”
ไม่อย่างนั้นหลังจากที่กลับไป อาจจะไม่มีอารมณ์ทานข้าวเลยก็ได้
“ได้สิ” โห้หลีเฉินกอดเธออย่างเป็นธรรมชาติ “คุณอยากทานอะไร”
“ทานของที่คุณชอบทาน” เย้นหว่านพูด
โห้หลีเฉินจ้องที่เธออย่างเงียบๆ เขาเอนตัวเข้าไปข้างหูของเธอแล้วพูดว่า “ของที่ผมชอบทานมีแต่คุณคนเดียว ไม่งั้น อาหารเย็นวันนี้…”
“ทานสเต็กกัน!”
เย้นหว่านตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ถ้าเขาทานเธออีกครั้ง เธอก็อย่าคิดที่จะเดินออกไปจากโรงแรมด้วยขาทั้งสองข้างของตัวเธอเองเลย
เวลาผู้ชายหิวโหยมานานเกินไป มันน่ากลัวมากจริงๆ
โห้หลีเฉินถอนหายใจอย่างผิดหวัง “คุณจะทานสเต็กจริงๆ เหรอ ไม่ทานอย่างอื่นเหรอ?”
“อืม สเต็ก!”
เย้นหว่านดึงเขาไว้แน่นก่อนจะเดินออกไป และไม่ให้โอกาสเขาได้ก่อกวนเลย
ท้องฟ้ามืดแล้ว และไฟบนถนนก็ส่องสว่าง มันดูสวยงามมาก
เนื่องจากโห้หลีเฉินมาพักผ่อนที่นี่ บนท้องถนนจึงคึกคักเป็นพิเศษ มีวัยรุ่นจำนวนมากมาที่นี่ พวกเขาคิดว่าบางทีอาจจะโชคดีได้เจอกับโห้หลีเฉินและเย้นหว่าน
จนทำให้ เย้นหว่านและโห้หลีเฉินที่เดินอยู่บนถนน พวกเขาก็พบว่ามีจำนวนคนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานหลายเท่าตัว
มันดูแออัดอย่างเห็นได้ชัด
ฝูงชนส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว พวกเขามีดวงตาที่แหลมคม เมื่อชำเลืองมอง เพราะเขาก็จำได้ว่านี่คือโห้หลีเฉินและเย้นหว่าน บางคนก็กรีดร้อง บางคนก็บ้าผู้ชาย
แค่ครู่เดียวก็ทำให้การจราจรติดขัด
เย้นหว่านปวดหัว “คุณโห้ เสน่ห์ของคุณมากล้นจริงๆ เลย”
โห้หลีเฉินกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา เขายกยิ้มที่มุมปาก “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องใช้ออร่าของคุณนายโห้ เพื่อปิดกั้นผมไว้”
“ฉันคิดว่าไม่น่าจะปิดกั้นได้นะ ฉันจะต้องเอาคุณไปซ่อน”
ในขณะที่พูด เย้นหว่านก็จับมือของโห้หลีเฉิน ก่อนจะพาเขาวิ่งไปในที่ตรอกซอยเล็กๆ
วัยรุ่นพวกนั้นตามมาอยู่ข้างหลัง
เย้นหว่านนำโห้หลีเฉินอยู่ข้างหน้าและก็พากันวิ่งตามอำเภอใจ ภาพนั้นดูมีชีวิตชีวามาก
เธอจูงมือโห้หลีเฉินไว้ และมองดูแผ่นหลังของเธอ แววตาเขาดูอ่อนโยนมาก และมุมปากของเขาก็รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอ
เย้นหว่านพาโห้หลีเฉินวิ่งเป็นเวลานาน ในที่สุดคนพวกนั้นก็ตามมาไม่ทัน
พวกเขาเอนตัวไปจับที่ขา และอ้าปากหายใจหอบ ตอนที่เงยหน้าขึ้นและเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย พวกเขาต่างก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มบอกมา
มันเป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลายและมีความสุข
โห้หลีเฉินพูดกับเธอว่า “เย้นหว่านของผมเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ และปกป้องผมได้แล้ว”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
เย้นหว่านยกคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เธอมีท่าทีเหมือนกับราชินี
โห้หลีเฉินมองดูเธอด้วยความหลงใหล ร่างกายของเธอเหมือนกำลังเปล่งประกาย จนเขาอยากจะให้เธอขึ้นครองบัลลังก์
เขาพูดอย่างอ่อนโยน “แต่เราวิ่งมาไกลขนาดนี้ ก็คงต้องอดทานสเต็กร้านนั้น เราไปดูไหมว่าแถวนี้มีอะไรให้ทานบ้าง เราลองเปลี่ยนไปทานอย่างอื่นดู
“ไม่”
เย้นหว่านส่ายหน้า “ฉันบอกไปแล้วว่าจะทานสเต็ก ยังไงก็จะทานสเต็ก”
ในขณะที่พูด เธอก็จับมือของโห้หลีเฉินไว้ จากนั้นก็เดินตรงไปข้างหน้า
หลังจากเดินไปสักพัก ก็เจอร้านอาหารร้านหนึ่งที่ไม่ได้ดูหรูหรามากนัก แต่ร้านสเต็กที่ดูยอดเยี่ยมก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
เย้นหว่านดีใจเป็นพิเศษ “ดูสิ คุณโห้ เป็นไงบ้าง”
ขอแค่เป็นเพียงสิ่งที่เธอต้องการจะทำ หรือสิ่งที่เธอได้พูดไว้ ยังไงเธอก็ต้องทำสำเร็จทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม มันก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด
โห้หลีเฉินมองไปยังร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้า สุดท้ายเขาก็เคยยิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้ มันเหมือนกับว่าเขากำลังยอมรับกับบางอย่าง
เขาพูด “ได้ งั้นทานสเต็กกัน”
……
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เย้นหว่านและโห้หลีเฉินก็เดินจูงมือกัน พวกเขาใช้เส้นทางเล็ก เดินอย่างสบายใจเพื่อกลับไปโรงแรม
หลังจากที่พวกเขาเก็บของเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ได้ไปคืนห้องพัก
โห้หลีเฉินครุ่นคิดก่อนจะพูด “วันนี้นอนอยู่ในโรงแรมทั้งวัน ไม่ได้ออกไปที่ไหน คุณจะรู้สึกไม่สนุกหรือเปล่า?”
เดิมทีเป็นทริปการท่องเที่ยวสองวัน แต่เพราะในตอนกลางวันพวกเขาเอาแต่นอน มันก็เท่ากับว่าพวกเขาได้มาเที่ยวแค่วันเดียว
“ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะอยู่เที่ยวต่อ พวกเรากลับไปวันพรุ่งนี้ก็ได้นะ”
เย้นหว่านรีบหันกลับไปมอง เธอมองไปที่โห้หลีเฉินด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
ในเวลานี้ อยู่ดีๆ เขาก็พูดสิ่งนี้ออกมา เขาต้องการให้เธอได้เที่ยวอย่างสนุกแค่นั้นจริงเหรอ? หรือที่จริงแล้วเขาได้รู้บางอย่าง…
แต่ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ เธอและเขาไม่ได้ห่างกันเลย และเธอก็ไม่เห็นเขาใช้โทรศัพท์เลย
เวลาที่ยุ่งเขาก็จะไม่ได้ดูโทรศัพท์เลย เขาจดจ่ออยู่เป็นเพื่อนเล่นเธอ และไปทำอะไรสนุกๆ เป็นเพื่อนเธอ มันดูเหมือนว่าเขานั้นวางใจว่าที่บริษัทจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
แต่โห้หลีเฉินเป็นคนที่ประมาทขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่ใช่สิ
เย้นหว่านรู้อยู่แก่ใจว่าเขานั้นเป็นคนที่ละเอียด สองวันนี้เขาไม่ได้จับโทรศัพท์เลย เพราะสมยอมงั้นเหรอ
เพียงแต่ว่าเธอนั้นไม่มั่นใจ ว่าโห้หลีเฉินจะสมยอมได้ขนาดไหนกัน และเขารู้เรื่องมากน้อยเพียงใด…
“คุณโห้ ครั้งหน้าเรากลับมาที่นี่อีก ดีไหม?”
เย่นหว่านยิ้มและจ้องมองไปที่เขา แววตาของเธอดูลึกซึ้ง “ครั้งหน้าพาลูกๆ มาด้วย มาเที่ยวกันซักอาทิตย์ ไม่สิ มาเที่ยวจนกว่าจะสนุก ค่อยกลับบ้านตอนที่อยากจะกลับ ดีไหม?”
แววตาที่อ่อนโยนของโห้หลีเฉินสั่นสะเทือน
หลังจากที่เย้นหว่านกลับมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดถึงลูกๆ จากปากของเธอ
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่พวกเขารู้ใจกันเป็นอย่างดี ไม่มีใครพูดถึง ไม่มีใครกล่าวถึง แต่สุดท้ายเธอก็ทำลายเรื่องนี้ลง
ในตอนนั้นแววตาของโห้หลีเฉินก็ดูมืดมนในทันที
เขาหลบสายตา เขาจ้องมองไปยังถนนข้างหน้าอย่างเงียบๆ นานอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เขาจะพูดว่า “อืม”
มันเบามาก แต่เย้นหว่านก็ได้ยิน
เขาตอบตกลงเธอ แต่ท่าทีของเขา กลับทำให้รู้สึกถึงความหนักหน่วง และไม่สบายใจ
เรื่องลูกๆ สุดท้ายก็เป็นเรื่องต้องห้ามระหว่างพวกเขา
หลังจากนั้น ก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก มันเงียบจนน่าแปลกใจ
จนกระทั่งขับรถจากทะเลกลับไปในเมือง
ในตอนกลางวันก็นอนหลับมาทั้งคืน ยังไงตอนกลางคืนก็คงจะไม่นอนเร็วมากนัก โห้หลีเฉินตั้งใจกลับไปที่บริษัท เขาตั้งใจจะหยิบคอมพิวเตอร์ และจัดการงานต่างๆในตอนกลางคืน
ในตอนที่รถของเขาขับไปถึงหน้าประตูบริษัทตี้เหา ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว ฟ้าก็มืดสนิท เมื่อมองออกไป ก็มีแต่แสงไฟ
ในตอนนี้พนักงานในบริษัทควรจะเลิกงานกันหมดและเหลือเพียงแค่คนที่เฝ้าประตูเท่านั้น แต่ในตอนนี้กลับมีพนักงานอยู่มากมาย
พวกเขามองเห็นรถของโห้หลีเฉินขับเข้ามา ทุกคนต่างก็มามุงดู
“ท่านประธาน ในที่สุดคุณก็กลับมา”
“ถ้าคุณยังไม่กลับมา บริษัทคงจะพังไปแล้ว”
“ท่านประธาน ช่วยด้วย ช่วยบริษัทตี้เหาด้วย”
เสียงอ้อนวอนดังมาจากข้างนอกรถ โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเปิดประตูรถ
เขาพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “เกิดอะไรขึ้น หาตัวแทนออกมา และมาอธิบายให้ผมฟัง”
“ฉันพูดเอง”
เก่อหรูซวนลุกขึ้นยืน
บนใบหน้าของเธอมีรอยแผลอยู่เล็กน้อย บริเวณคอก็มี ตรงหลังมือก็มีแผลถลอก ถึงแม้ว่าจะทำแผลเรียบร้อยแล้ว แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเธอคงเจอเรื่องที่ร้ายแรงมา
แต่เธอยังคงรักษาคุณภาพของเลขามืออาชีพไว้ เธออธิบายให้โห้หลีเฉินฟังอย่างชัดเจน
“คุณชาย ตั้งแต่เมื่อคืน ความร่วมมือทั้งหมดของเรากับทางตระกูลเย้นเกิดปัญหาขึ้น อยู่ดีๆ ทางตระกูลเย้นก็ขอยกเลิกการร่วมมือทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึงกับทางบริษัทตี้เหา”
“แล้วก็…”