สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1317 ประวัติดอกรัก
“ไม่ต้อง”ปลายสายตอบกลับมา
รอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของเก่อหรูซวนหยุดนิ่งในทันที เธอขึ้นเสียงยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “ทำไมถึงไม่ต้องเหรอคะ”
“เย้นหว่านไม่มีทางหนีไปไหนหรอก เธอต้องไปหาป่ายฉี เดี๋ยวเธอก็ปรากฏตัวอีกครั้ง”
ขอแค่เย้นหว่านปรากฏตัวขึ้นที่เมืองหนานอีกครั้ง ก็ถือว่ายังอยู่ในกำมือของพวกเขา เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผนBในการควบคุมตัวโห้หลีเฉิน
เพราะว่าถ้าเกิดว่าทำแบบนั้นความเสี่ยงมันจะมากกว่า แล้วก็ทำให้พวกเขาห่างไกลจากเป้าหมายมากกว่าเดิม
“แต่ว่า……”เก่อหรูซวนยังคงรู้สึกไม่พอใจ
ตอนนี้เอง คนที่อยู่ปลายสายก็ตัดบทเธอในทันที “เก่อหรูซวน อย่าคิดเล็กคิดน้อย ทำตามคำสั่ง สิ่งที่เธอต้องโฟกัสในตอนนี้ ก็คือก่อนที่เย้นหว่านจะปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ไปตามหาที่ซ่อนของเธอกลับป่ายฉี ถ้าเกิดว่ามีโอกาสก็จับพวกเขามาพร้อมกัน”
จับกุมเย้นหว่านในความมืด ค่อยๆ จัดการอย่าเงียบๆ จะได้ไม่ทำให้เกิดพายุใหญ่
ยังไงซะเย้นหว่านก็เป็นคนซ่อนตัวก่อนเอง
แต่ว่าถ้าเกิดว่าเย้นหว่านปรากฏตัวขึ้นในที่สว่างอีกครั้ง เพราะเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะลงมาอีกแล้ว
เก่อหรูซวนตกใจกับคำพูดนี้ ความคิดที่คิดเล็กคิดน้อยของเธอก็หายไปในทันที เหงื่อเย็นก็ซึมออกมา
เธอกำโทรศัพท์แน่นและรีบตอบว่า “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ ฉันจะไปตามหาเย้นหว่านด้วยความสามารถทั้งหมด”
……
หลังจากที่เย้นหว่านสละตัวเองให้หลุดจากคนที่คอยติดตามได้แล้ว ก็ไปตามที่อยู่ในกระดาษ ไปถึงชุมชนพักอาศัยของประชาชนทั่วไป
แล้วเธอก็ไปถึงชั้น2 เคาะประตูห้อง02
หลังจากที่เคาะประตูไปไม่กี่ครั้ง ในห้องก็มีเสียงแหบแห้งของผู้ชายคนหนึ่งดังออกมา “ใคร? ”
“ฉันเอง”
เย้นหว่านตอบเบาๆ
หลังจากนั้น ในห้องก็มีเสียงฝีเท้าคนเดิน แล้วก็เสียงเปิดประตูดัง “แกร๊ก”
เย้นหว่านเข้าไปทางช่องว่างของประตู หลังจากนั้นก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
แล้วเธอก็หันหน้าไป พร้อมกับพบว่าป่ายฉีกำลังพิงกำแพงอยู่ มือกุมท้อง แล้วก็ล้มลงที่พื้น
“ป่ายฉี”
เย้นหว่านรีบเข้าไปพยุงเขาในทันที
เห็นว่าใบหน้าของเขาซีดมาก มีรูที่ท้องของเขา และเสื้อผ้าของเขามีสีดำเปื้อนเลือด
อาการบาดเจ็บรุนแรงมาก ได้ผ่านการรักษามาแล้ว แต่ว่าก็ยังหยุดเลือดไม่ให้ไหลไม่ได้
ป่ายฉีคือหมอเทวดา บนโลกใบนี้ไม่มีอาการป่วยอะไรที่เขารักษาไม่ได้ แผลนี้อยู่ที่ท้องของเขา เขาสามารถรักษาเองได้ เพื่อไม่ให้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง
เย้นหว่านแค่มองก็เห็นปัญหาในทันที “แผลเป็นพิษใช่ไหม?”
“อืม”
ป่ายฉีพยักหน้าอย่างอ่อนแอ บนใบหน้าของเขา ยังคงมีรอยยิ้มที่หยอกล้อ “ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นหรอก ฉันไม่ตายหรอก ฝีมือการรักษาของเธอสามารถจัดการได้
เพื่อกำจัดพิษนี้ เขาต้องล้างแผลด้วยยาพิเศษ ดังนั้นเขาก็เลยไม่สามารถทำเองได้ ต้องให้เย้นหว่านมา
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ หัวใจที่เป็นกังวลของเย้นหว่านก็ผ่อนคลายลงในทันที
โชคดีที่อาการของป่ายฉีไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่นะ ไม่อย่างนั้น เธอต้องพังทลายอย่างแน่นอน
เธอค่อยๆ พยุงป่ายฉีไปที่โซฟา แล้วเย้นหว่านเปิดกล่องยาที่เว่ยชีให้เธอมา และเริ่มจัดการแผลของเขา
เธอจัดการไปด้วยพร้อมกับถามไปด้วย “อีกฝ่ายส่งคนแบบไหนมากันแน่ ถึงได้ทำให้นายเจ็บหนักขนาดนี้?”
ฝีมือของป่ายฉีสามารถพูดได้ว่ามันเป็นการยากที่โลกใบนี้จะเจอคนที่สามารถเอาชนะเขาได้
คนธรรมดาถ้าเกิดว่าจะทำได้เขา มันไม่ง่ายเลย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเย้นหว่านถึงได้วางใจให้เขาไปจัดการองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง
แต่ว่าผลลัพธ์ที่เขาบาดเจ็บกลับมาแบบนี้ เป็นสิ่งที่เย้นหว่านไม่เคยนึกถึงเลยแม้แต่นิดเดียว
พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แววตาของป่ายฉีก็มืดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ค้างในทันที
เขาเงียบอยู่นาน เราก็พูดด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า
“อีกฝ่ายไม่ได้เก่งกว่าฉันหรอก อย่างมากก็ฝีมือเท่ากัน ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้หรอก”
เย้นหว่านสงสัยมากกว่าเดิม “แล้วทำไมนายถึงได้รับบาดเจ็บล่ะ? ถูกเขาซุ่มโจมตีเหรอ?”
ป่ายฉีรู้สึกว่าเจ็บปวดรวดร้าวมากขึ้น
สายตาของเขาเคลื่อนย้ายไปอย่างรวดเร็ว ” เสี่ยวหว่าน เธอยังจำมนุษย์พันธุ์แกร่งหญิงที่เธอเจอตอนนั้นหลังจากทะเลทรายได้อยู่ไหม ?”
“จำได้ ทำไมเหรอ?”
เย้นหว่านรู้สึกประทับใจต่อเธอ นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมขนาดนั้น เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง แข็งแกร่งจนทำลายกฎธรรมชาติ
ตอนนั้น ก็เป็นผู้หญิงคนนี้แหละที่ล้อมป่ายฉีเอาไว้แน่น ทำให้พวกเขาไม่มีคนป้องกัน โห้หลีเฉินที่กำลังบาดเจ็บหนักก็ต้องต่อสู้กับมนุษย์พันธุ์แกร่ง
และหลังจากนั้น โห้หลีเฉินก็ถูกจับเป็น……
ป่ายฉีตอบด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “เธอเป็นคนทำร้ายฉัน”
เย้นหว่านรู้ว่าเขายังพูดไม่จบ เธอก็ทำแผลไปด้วยแล้วก็รอให้เขาพูดต่อไปด้วย
ป่ายฉีเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจพร้อมกับพูดต่อ
“มีเรื่องบางเรื่องที่เธออาจจะไม่รู้ เมื่อ 3 ปีก่อน ฉันกับเธอต่อสู้กันในทะเลทรายเป็นเวลานาน สุดท้ายก็จับเธอมาขังไว้ที่ตระกูลเย้น พยายามหาวิธีช่วยเหลือแรบบิทจับตัวของเธอ ดังนั้น ไม่ว่าจะทั้งไม้อ่อนหรือไม้แข็ง ฉันก็อยู่กับเธอมาเป็นเวลา 1 เดือน”
ป่ายฉีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นให้เย้นหว่านฟังทั้งหมด เหมือนกับเล่านิทาน
พอเย้นหว่านฟังจบ ก็มองวิเคราะห์ที่ป่ายฉีด้วยสายตาที่ซับซ้อน
เธอคิดมาตลอดว่า ป่ายฉีเป็นคนที่โสดไปพันปี เป็นฉนวนสำหรับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิง ดอกรักไม่เคยบานเลย แต่ไม่คิดเลยว่า เจ้าเด็กคนนี้เคยมีอาการดอกรักบานเมื่อ 3 ปีก่อน
แต่ว่าดอกไม้เพิ่งจะตูม เขาน่าจะยังไม่ทันเข้าใจว่ามันคือเรื่องอะไรกัน แต่ว่าต้นไม้ก็ถูกโค่นลงแล้ว
กลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากหายไปนาน เขารู้สึกเซอร์ไพรส์และประหลาดใจเป็นอย่างมากตอนที่ไม่ทันระวังนั้น ก็ถูกแทงอย่างโหดเหี้ยม มันดูเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
โชคดีที่เขาไม่ได้ถูกดอกรักทำให้ตาบอด และหลบหนีออกมาได้ทันเวลา ถึงแม้ว่าบาดแผลนี้จะรุนแรง แต่ก็ไม่ถึงแก่ชีวิต ยังสามารถทนรอจนกว่าเธอจะมาช่วยเขาได้
ถึงแม้ว่าจะอยากคุยเกี่ยวกับเรื่องราวการปลูกต้นรักของป่ายฉีมาก แต่ว่าเย้นหว่านก็มีความเข้าใจในเหตุในผล เราก็จับจุดสำคัญได้
“ถ้าพูดแบบนี้ แสดงว่าหานจื่อก็ละทิ้งชีวิตของคนปกติ แล้วกลับมาเป็นหลังคาอีกครั้งหนึ่ง แถมยังมาฆ่านายอย่างไร้เมตตา เรื่องนี้มันต้องมีความลับซ่อนอยู่อย่างแน่นอน คนที่จับเธอได้อีกครั้งหนึ่ง ต้องเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่าพวกเราขุดไปตามนี้ พวกเราก็จะสามารถจับคนที่อยู่เบื้องหลังได้”
ป่ายฉีพยักหน้า “เพราะว่าหลังจากที่องค์กรถูกทำลาย หานจื่อก็เป็นอิสระแล้ว แล้วเธอก็ไปเป็นสายลับ ความสามารถในการป้องกันการถูกตรวจจับของเธอนั้นแข็งแกร่งมาก แล้วก็ไม่มีเอกสารอะไร ถ้าเกิดว่าจะหาข้อมูลของเธอ เกรงว่าน่าจะหาอะไรไม่เจอหรอก”
แถมนิสัยของหานจื่อยังเป็นคนสันโดษอีกต่างหาก คิดว่าเธอน่าจะอาศัยอยู่คนเดียว แล้วก็ไม่สามารถหาเงื่อนงำอะไรได้จากรอบตัวของเธอเลย
ดังนั้น แม้ว่าจะจับสายของเธอได้ ก็ยังต้องเจอกับทางตัน
ป่ายฉีไตร่ตรอง “ไม่อย่างนั้น รอให้แผลของฉันดีขึ้นหน่อย แล้วก็ค่อยไปจัดการเธอ ลักพาตัวเธอกลับมา ขู่เข็ญให้เธอสารภาพออกมาทั้งทางวาจาและการกระทำ”
เย้นหว่านเลิกคิ้ว แล้วก็ถามเล่นๆ ว่า “ขู่เข็ญให้เธอสารภาพงั้นเหรอ นายทำลงเหรอ?”
สีหน้าของป่ายฉีเปลี่ยนไปในทันที เขายืดคอและพูดว่า “ฉันมีอะไรให้ต้องทำไม่ลงด้วยล่ะ? แทงฉันด้วยมีดโดยที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกเก่าๆ ด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าฉันเจอเธออีกในครั้งหน้า ฉันไม่มีทางออมมือให้เธออย่างแน่นอน”
พอได้ฟังคำสาบานของเขา เย้นหว่านก็ไม่ได้รู้สึกชื่ออะไร
ยังไงแล้ว บนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ปากไม่ตรงกับใจ
แต่ว่า เย้นหว่านก็ไม่ได้ไปเปิดโปรอะไรเขา ปล่อยให้เขามีศักดิ์ศรีเล็กน้อยสุดท้ายในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
เธอพูดว่า “นายรักษาบาดแผลให้ดีก็พอแล้ว บางทีฉันอาจจะสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของหานจื่อแล้วก็คนที่อยู่บนเบื้องบนเธอได้”