สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 1334 ที่แท้เป็นแผนซ้อนแผน
นิ้วมือของเขาทำอย่างไรก็กดไม่ลง
หนำซ้ำกระดูกมือที่ถูกจับไว้เริ่มถูกบีบแหลก จนไม่สามารถจับนาฬิกาไว้ได้อีก จึงทำให้นาฬิกาพกหลุดออกไปจากมือ
เขาเบิกตากลมโตและจ้องดูนาฬิกาหล่นลงไปอย่างสิ้นหวัง
นั่นคือสิ่งเดียวที่จะสามารถช่วยชีวิตของเขาได้!
และต้องกลับกลายมาเป็นแบบนี้ จบกัน
นาฬิกาพกที่กำลังจะร่วงหล่นลงพื้น ทันใดนั้นจู่ๆ ก็มีมือที่เรียวบางยื่นเข้ามารับนาฬิกาพกนั้นไว้
เป็นเย้นหว่านที่เดิมทีจากไปแล้วนั่นเอง
เธอจับนาฬิกาพกไว้อย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะไปจับโดนปุ่มสวิตช์บนหน้าปัด แล้วมองชื่อในนั้นอย่างลนลาน จากนั้นก็รีบปิดนาฬิกาพกลง
เจมส์มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยตาปริบๆ จากนั้นถึงได้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
“พวกคุณ พวกคุณ……หลอกผมมาโดยตลอด……”
เขาแค้น แค้นที่อุตส่าห์วางแผนมาดิบดี เห็นชัดเจนว่าได้ควบคุมทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่สุดท้ายกลับถูกโต้กลับจนลงเอยแบบนี้
โดยที่เขาไม่เคยระแคะระคาย
ความเกลียด ความเคียดแค้นค่อยๆ ปกคลุมเข้ามาในจิตใจ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการสูญเสียพละกำลังของชีวิตที่รวดเร็วได้
เขาเบิกตากว้าง ร่างที่แข็งทื่อล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
ไม่หลงเหลือลมหายใจแม้แต่นิดเดียว
เจมส์เสียชีวิตแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว จึงถูกลูกน้องของเย้นโม่หลินรัดคอสังหารอย่างรวดเร็ว
เมื่อคนสุดท้ายล้มฟุบลง ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดที่นองเต็มไปกับพื้น เย้นหว่านกลับรู้สึกถึงความผ่อนคลาย หลังจากที่ไม่เคยมีเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ฉับพลันร่างกายของเธอสูญเสียการควบคุม และจะล้มลงไปกับพื้น
“เสี่ยวหว่าน!”
เย้นโม่หลินรีบจะไปรับเธอ ก็เห็นโห้หลีเฉินวิ่งเข้าไปเร็วกว่าเขาแล้วรับตัวเย้นหว่านมากอดไว้
ความเย็นชาเยือกเย็นบนตัวโห้หลีเฉินได้กลายเป็นความอาวรณ์และอ่อนโยน ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
เขากอดตัวเย้นหว่านไว้ แล้วปลอบโยนเธออย่างอ่อนโยน “จบแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว”
“อืม อืมๆ ”
เย้นหว่านกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เจมส์เสียชีวิตแล้ว นาฬิกาพกเอามาได้แล้ว แผนการทั้งหมดและกับดักที่อันตรายนี้ ในที่สุดก็ถูกทำลายลง
ครอบครัวของพวกเขาในที่สุดก็เป็นอิสระปลอดภัยแล้ว
“เดี๋ยวก่อน”
เย้นโม่หลินที่ยืนตรงอยู่ข้างๆ ยังคงระมัดระวังตัว
สายตาของเขามองโห้หลีเฉินอย่างเย็นชา แล้วถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “นี่มันเกิดอะไรขึ้น โห้หลีเฉินทำไมอยู่ๆ ก็ลงมือสังหารเจมส์”
ก่อนที่โห้หลีเฉินจะลงมือนั้น แม้แต่เย้นโม่หลินก็ไม่รู้สึกว่าโห้หลีเฉินจะสามารถทำแบบนี้ได้
พฤติกรรมและการกระทำของเขาทั้งหมด ทำให้เข้าใจว่าถูกล้างสมอง ถูกคุกคามไปแล้ว จิตใจดื้อรั้น เลือกที่จะปกป้องเจมส์โดยที่ไม่สนใจว่าจะแตกหักกับเย้นหว่าน
โห้หลีเฉินสบตากับเย้นหว่าน จากนั้นก็เบนสายตามองมาทางเย้นโม่หลิน
เขาหันมาโค้งศีรษะเบาๆ ให้กับเย้นโม่หลิน เพื่อแสดงถึงการขอโทษ
“ขออภัยกับการกระทำทั้งหมดที่ปฏิบัติต่อนายและคุณพ่อคุณแม่ก่อนหน้านี้ รวมไปถึงคำพูดเหล่านั้น ล้วนไม่ได้พูดออกจากใจ แต่ว่าการกระทำของผมได้ทำร้ายหัวใจของพวกคุณ ต้องขอโทษด้วย”
เย้นโม่หลินยืนอึ้งด้วยความตกใจ
เขาคิดไม่ถึงว่าโห้หลีเฉินคนที่หยิ่งยโสโอหัง และเกลียดคนตระกูลเย้นเข้ากระดูกดำ จะมาขอโทษพวกเขาอย่างจริงใจ
เขาบอกว่าเรื่องที่เขากระทำก่อนหน้านี้ ไม่ได้มาจากใจ หรือว่าทุกอย่างที่เขาทำก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการแสดง
“สามปีที่แล้ว ที่ผมสังหารคนขององค์กรทั้งหมด ไม่ได้แปลว่าผมเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนั้นได้ แต่เป็นเพราะเจมส์กับฝู้ยวนต้องการจัดฉากละครขึ้น จุดประสงค์เพื่อให้ป่ายฉีที่ตามมานั้นเชื่อว่าผมเอาตัวรอดได้ด้วยตัวเอง และก็ได้สังหารเจมส์และพวกทั้งหมด”
“ความจริงแล้ว สามปีก่อนผมถูกควบคุมโดยเจมส์กับฝู้ยวน เริ่มถูกพวกเขาฉีดสารพิษเข้าจิตประสาท พยายามโน้มน้าวความคิดผม ควบคุมผม ตอนแรกก็เกิดผลนิดหน่อย เริ่มมีการควบคุมการตัดสินใจของผม ถูกโน้มน้าว จากนั้นพวกเขาก็ใช้ชีวิตของแรบบิทข่มขู่ผม ยิ่งทำให้ผมไม่มีทางต่อต้านได้”
“ดังนั้นสามปีก่อนผมจึงทำตามคำสั่งของพวกขา พาแรบบิทกับหยูเซิงไปจากบ้านตระกูลเย้น ตอนนั้นสภาพผมแย่มาก แถมยังเป็นใบมีดในตัวพวกเขา ผมสามารถทำร้ายคนรอบข้างได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกคุณ ดังนั้นผม……”
โห้หลีเฉินไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายนั้นไม่พูดก็เข้าใจ
เรื่องที่เกิดเมื่อสามปีก่อน และทุกๆ อย่างในช่วงสามปีที่ผ่านมา ปฏิกิริยาของโห้หลีเฉินที่เปลี่ยนไปฉับพลัน การถูกครอบงำและความฟั่นเฟือนของเขา ทั้งหมดได้ถูกอธิบายออกมาจนชัดเจน
ตอนนั้นที่เขากลับมาถึงบ้านตระกูลเย้นก็กลายเป็นบ้า พาลูกๆ จากไปและตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลเย้น ตั้งแต่นั้นมาก็พูดจาใส่ร้ายตระกูลเย้น แท้ที่จริงแล้วเป็นการทำเพื่อปกป้องตระกูลเย้น
ซึ่งทำจากใจล้วนๆ
“ผมไม่เคยตำหนิติโทษตระกูลเย้นเรื่องที่เย้นหว่านระเบิดขุมทรัพย์ เพราะผมรู้ว่าพวกคุณไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเย้นหว่านมากกว่าใครๆ พวกคุณต่างใช้ชีวิตเพื่อปกป้องเย้นหว่าน พวกคุณเป็นครอบครัวที่สนิทที่สุดของเธอ เรื่องราวตอนนั้น เป็นสถานการณ์ที่คับขัน ผมในฐานะสามีไม่สามารถปกป้องเย้นหว่านได้ ผมจึงผิดมากที่สุด”
โห้หลีเฉินไม่ใช่คนที่พูดมาก คำพูดเหล่านี้ได้อัดอั้นอยู่ในใจมาหลายปี ในที่สุดตอนนี้ก็สามารถได้พูดออกมาจนหมด
คนที่เขาใส่ใจนั้นมีน้อย หนึ่งในนั้นที่ใส่ใจมากที่สุดก็คือเย้นหว่าน จึงทำให้เขารักคนในครอบครัวของเธอ ใส่ใจห่วงใยรวมไปถึงความคิดเห็นของพวกเขาด้วย
เรื่องราวในตอนนั้นคือความเจ็บปวดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นธรรมดาที่เขาย่อมต้องอธิบายให้ชัดเจน จะให้ความแค้นความขัดแย้งนี้มาคั่นระหว่างกลางพวกเขาไม่ได้ จนเป็นเหตุให้เย้นหว่านทำตัวไม่ถูก
เย้นโม่หลินเป็นคนฉลาด แน่นอนว่าย่อมเข้าใจความลำบากใจและความตั้งใจของโห้หลีเฉินทันที
ความโกรธและความเกลียดชังที่เคยมีต่อโห้หลีเฉินนั้น ก็มลายหายไปปลิดทิ้งแล้วในตอนนี้
เพียงแต่ว่าเขายังมีความสงสัยนิดหน่อย “ตามที่เสี่ยวหว่านบอก บนตัวของนายน่าจะเป็นเครื่องดักฟัง คนรอบข้างก็ล้วนคอยเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องนาย พวกคุณไม่มีทางที่จะมีโอกาสได้คุยปรึกษาหารือกัน แต่ว่านี้คุณกลับปรากฏตัวอย่างบังเอิญและเหมาะเจาะเวลาพอดี หยุดเจมส์กดปุ่มสวิตช์นาฬิกาพกได้ทัน และก็จัดการสังหารเขาอย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องราวปะติดปะต่อกัน บอกว่าไม่ได้ปรึกษากันก่อนผมไม่เชื่อจริงๆ ”
โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านต่างฝ่ายต่างสบตากัน แววตาอาลัยอาวรณ์
“ตอนที่เย้นหว่านเพิ่งกลับมานั้น ผมอยากจะปกป้องเธออยู่ภายใต้ปีกของผม ไม่ให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวใดๆ แต่นับตั้งแต่ที่เธอเริ่มชวนผมทะเลาะ ตอนที่ต้องการจะไล่เก่อหรูซวนออกเพราะความหึงหวง ผมก็รู้จุดประสงค์การกลับมาของเธอแล้ว”
เย้นหว่านประหลาดใจ “ดังนั้น คุณจึงใช้แผนซ้อนแผนตั้งแต่ตอนนั้นเหรอ”
โห้หลีเฉินพยักหน้า แล้วบีบเข้าที่จมูกของเย้นหว่านด้วยความรัก
“ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าการแย่งตี้เหากรุ๊ปไปจากมือผมได้นั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดายเหรอ”
เย้นหว่านไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ปฏิเสธ กระบวนการแย่งตี้เหากรุ๊ปมานั้น โห้หลีเฉินดูเหมือนจะเป็นราชาที่ไร้สมอง เพื่อภรรยาแล้วสมองถึงกับไร้ไอคิว เพื่อรักษาหน้าเธอในการประชุมผู้ถือหุ้น จึงมอบอำนาจรองให้กับเธอ และดำเนินการค้ากับตระกูลเย้น
ดังนั้น รากแห่งความหายนะทั้งหมดจึงได้ถูกฝังไว้
หลังจากนั้นก็ยิ่งทำเพื่อภรรยา ทำตามคำขอของเย้นหว่าน ทุ่มเทแรงกำจัดบริษัทของเจมส์ และยิ่งภายใต้การออดอ้อนออเซาะทั้งวันของเย้นหว่าน จึงทำให้รู้สถานการณ์ของบริษัททั้งหมด โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าตระกูลเย้นมีเจตนาที่ต้องการแทรกแซงอำนาจของตี้เหากรุ๊ป
สุดท้าย ในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังยุ่งวุ่นวายนั้น ก่อนที่ตระกูลจะลงมือ ท่ามกลางลมที่กระโชกฝนตกกระหน่ำ โห้หลีเฉินก็หมดความอดทนรับปากเย้นหว่านเรื่องการเดินทางไปท่องเที่ยว