สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 176 กอดผมไว้
บทที่ 176 กอดผมไว้
อีกด้าน ฉินฉู่เหมือนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ทำให้เขาหายใจแรงมาก
แต่เย้นหว่านไม่มีเวลามาสนใจแล้ว “คุณฉินคะ เกิดเรื่องกับโห้หลีเฉินค่ะ คุณรีบมาดูให้หน่อยค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอครับ”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่อาการของเขาหนักมาก คุณรีบมาเถอะค่ะ เร็วๆนะคะ”
เย้นหว่านพูดเร่งรัด น้ำเสียงของเธอดูกังวลใจมาก
ทางฝั่งฉินฉู่รับรู้ได้ถึงความเร่งด่วนของเรื่อง จึงรีบพูดขึ้นมา “พี่สะใภ้ คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ ผมจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้เลยครับ”
พอพูดเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเหมือนเขาลุกขึ้นยืน ตามมาด้วยเสียงเขาใส่เสื้อผ้า ก่อนมี่สายจะตัดไป
หลังจากที่เย้นหว่านวางสายไป เธอก็เดินมาตรงหน้าประตูห้องน้ำ
“โห้หลีเฉิน คุณอดทนไว้นะคะ ฉินฉู่กำลังจะมาถึงแล้ว”
ในห้องน้ำมีเสียงน้ำไหลดังออกมาไม่หยุด
เย้นหว่านยืนรอยู่หน้าห้องน้ำไม่ไปไหน เธอยืนฟังเสียงข้างในห้องน้ำอย่างเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดอะไรกับโห้หลีเฉินที่อยู่ข้างใน
และเริ่มรู้สึกแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป โห้หลีเฉินยังดีๆอยู่เลย พอรู้ว่าเย้นซินกลับมาแล้ว เขาถึงได้ออกไปหาเธอ แต่แค่เวลาไม่นาน ตอนที่โห้หลีเฉินกลับมาในห้องกลับมีอาการเปลี่ยนไป
ในช่วงเวลานี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
สายตาของเย้นหว่านมองไปตรงขวดยาที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ในใจรู้สึกสงสัย หรือว่าป่ายฉีจะมาอีกแล้ว
และแอบทำอะไรกับโห้หลีเฉินไว้
หรือว่าตอนที่โห้หลีเฉินลงไปข้างล่าง จะเกิดอะไรขึ้น
เย้นหว่านคิดไปสารพัด สุดท้ายก็สงบสติลง เธอไม่รู้ตัวเลยว่า ตอนนี้เธอกำลังเป็นห่วงโห้หลีเฉินมากแค่ไหน
สิบนาทีต่อมา ฉินฉู่ก็เดินทางมาถึง
แต่เย้นหว่านกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง พอได้ยินเสียงคนเดินมา เธอก็รีบเดินไปเปิดประตู ให้คนที่มาเข้ามาในห้อง
“ในที่สุดคุณก็มาสักที โห้หลีเฉินอยู่ในห้องน้ำ คุณช่วยไปดูเขาหน่อยค่ะ”
“ในห้องน้ำเหรอครับ”
ฉินฉู่ย่นคิ้วอย่างแปลกใจ โรคอะไรถึงต้องเข้าไปหลบในห้องน้ำแบบนี้
ถึงแม้จะแปลกใจ แต่เขาก็ยังเป็นห่วงโห้หลีเฉินมาก จึงรีบเดินไปทางห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านรีบเคาะประตูห้องน้ำ แล้วตะโกนบอก “คุณโห้คะ คุณฉินมาถึงแล้วค่ะ คุณรีบเปิดประตูเร็วเข้า”
เสียงน้ำไหลหยุดลงทันที
ตามมาด้วย เสียงต่ำของผู้ชายเหมือนกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่ “เย้นหว่าน คุณออกไปข้างนอกก่อน”
“แต่ว่า…”
เย้นหว่านไม่อยากออกไป ตอนนี้เธอเป็นห่วงมาก แค่อยากให้โห้หลีเฉินหายเป็นปกติเร็วๆ
แต่โห้หลีเฉินยังคงยืนยันคำเดิม เขาจึงไม่เปิดประตูออกมา
แล้วพูดออกมาอีกครั้ง “คุณออกไปก่อนเถอะ”
เย้นหว่านย่นคิ้ว
ฉินฉู่มองประตูห้องน้ำกับเย้นหว่านสลับกันไปมา พอได้ยินเสียงแหบพร่าของโห้หลีเฉิน ผู้ชายด้วยกันอย่างเขา จึงพอจะเดาได้บ้างแล้ว
เขาหันหน้าไปมองทางเย้นหว่านยิ้มๆ ก่อนจะกระซิบบอกเธอ “พี่สะใภ้ คุณไม่ออกไปก่อน ถ้าคุณไม่วางใจ ก็แอบดูอยู่ตรงประตูก็ได้นี่ครับ”
จริงด้วย
เย้นหว่านตาเป็นประกาย เธอพูดขึ้นมา “งั้นฉันออกไปข้างนอกรอนะคะ”
พอพูดจบ เธอก็จงใจเดินเสียงดัง ตรงออกไปนอกห้อง
จนประตูห้องปิดลง ตามมาด้วย เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก
โห้หลีเฉินใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำตัวใหญ่ เผยให้เห็นหน้าอกแกร่ง ที่ดูน่าดึงดูดใจ
ผมของเขาเปียกโชก และยังมีน้ำหยดลงมา
ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำผิดปกติ สีหน้าของเขานิ่งขรึม คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น เหมือนกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้
เขาเดินช้ามาก แต่ทุกก้าวต้องใช้พลังทั้งหมดที่เขามี จึงดูลำบากมาก
แต่รัศมีของเขาไม่ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เขาพูดสั่งการฉินฉู่ทันที
“ฉันโดนฉีดน้ำหอมปลุกเซ็กส์ที่มีฤทธิ์รุนแรงเข้าไป นายรีบฉีดยาแก้ให้ฉันเร็ว”
ฉินฉู่เหมือนเดาได้อยู่แล้วตั้งแต่แรก โดนวางยามาจริงๆด้วย
เขาค่อยๆเปิดกล่องปฐมพยาบาลออก แล้วเริ่มเตรียมยา ก่อนจะพูดล้อโห้หลีเฉิน “น้ำหอมปลุกเซ็กส์ฤทธิ์รุนแรงเป็นของต้องห้าม เพราะฤทธิ์ยามันรุนแรงมาก จนแม้แต่วัวยังล้ม ไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถทนฤทธิ์ยาของมันได้ นายโดนยาชนิดนี้ ร่างกายคงจะแทบระเบิดเลยสินะ นี่ยังไม่รวบหัวรวบหางพี่สะใภ้อีกเหรอ”
โห้หลีเฉินเม้มปากแน่น ไม่พูดอะไร
พอนึกถึงเย้นหว่าน ทุกอย่างของเธอทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองจนแทบจะบ้า
เขาพูดเร่งอย่างหมดความอดทน “รีบฉีดยาเร็วๆ”
“ทนไม่ได้ถึงขนาดนี้ แต่นายกลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ ไม่ทำอะไรพี่สะใภ้ นี่นายจะรักพี่สะใภ้มากเกินไปหรือเปล่า”
ฉินฉู่พูดล้อต่อไปเรื่อยๆ
ในเวลาเดียวกัน เย้นหว่านที่ยืนแอบฟังอยู่ด้านนอก พอได้ยินคำพูดนี้ ก็นิ่งอึ้งไปทันที
เธอเพิ่งจะมาเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง ที่แท้โห้หลีเฉินก็โดนวางยาปลุกเซ็กส์นี่เอง มิน่าล่ะถึงได้มีท่าทางบ้าคลั่งแบบนั้น
แต่ว่าฤทธิ์ยารุนแรงถึงขนาดนี้ แต่เมื่อตะกี้ เขากลับไม่แตะต้องตัวเธอ
เย้นหว่านใจสั่นระรัว ผู้ชายคนหนึ่งสามารถปล่อยผู้หญิงคนหนึ่งในสถานการณ์แบบนี้ นั่นหมายความว่าอะไร
เขารู้สึกผิด หรือว่าจะเป็นเหมือนที่ฉินฉู่พูดมา…
ว่าเขารักเธอมากกันแน่
… รักเธออย่างนั้นเหรอ
คำพูดไม่กี่คำนี้ก็เหมือนก้อนหิน ที่ถูกโยนเข้าในก้นลึกของหัวใจเธอ จนทำให้เกิดคลื่นซัด
หรือว่าโห้หลีเฉินจะ… เธอจริงๆ
ในใจของเย้นหว่านเหมือนมีกระต่ายน้อยอยู่ข้างใน มันกระโดดไปมาไม่หยุด เธอมองเข้าไปในห้อง มองไปที่โห้หลีเฉินอย่างตื่นเต้น อยากจะได้ยินคำตอบของเขา
โห้หลีเฉินไม่รู้ตัวเลยว่าเย้นหว่านแอบฟังอยู่ด้านนอก สีหน้าของเขานิ่งขรึม เหมือนกำลังพยานยามควบคุมตัวเองไว้อย่างลำบาก
และมีแค่คำพูดไม่กี่คำ ที่เขาพูดออกมา
“เธอกลัว ฉันไม่อยากบังคับขืนใจเธอ”
เย้นหว่านชะงักไป
เพราะว่าเธอกลัวอย่างนั้นเหรอ
เธอจำได้แล้ว ตอนนั้นเธอตกใจจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เธอนึกถึงคืนที่เธอสูญเสียครั้งแรกไป แล้วเอาโห้หลีเฉินกับผู้ชายคนนั้นรวมเข้าด้วยกัน
เธอนึกว่าเขาจะทำร้ายเธออีกรอบ จึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันร้ายอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่า ในสถานการณ์แบบนี้ โห้หลีเฉินจะยังสังเกตอาการของเธอ แล้วเห็นว่าเธอกำลังหวาดกลัว และคำนึงถึงความรู้สึกของเธอ จนยอมปล่อยเธอไปอีก
เย้นหว่านรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในหัวใจ
เธอยืนมองผู้ชายที่อยู่ในห้องอย่างเหม่อลอย รู้สึกว่า ถึงแม้เขาจะใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย แต่กลับดูน่ามองและมีเสน่ห์มาก
ไม่นานฉินฉู่ก็เตรียมยาเสร็จ เขาฉีดยาให้โห้หลีเฉินหนึ่งเข็ม
หลังจากนั้นสักพัก โห้หลีเฉินก็ค่อยๆอาการดีขึ้น ใบหน้าของเขาหลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
พอเห็นว่าโห้หลีเฉินอาการดีขึ้นแล้ว ฉินฉู่จึงเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างใส่กล่องปฐมพยาบาล แล้วพูด “คิดไม่ถึงเลย ว่านานถึงขนาดนี้แล้ว นายจะยังไม่รวบหัวรวบหางพี่สะใภ้อีก”
ไม่พูดถึงยังดี พอพูดถึง บรรยากาศในห้องก็เย็นลง เหมือนมีลมเย็นพัดผ่านจนทำให้หนาวสั่นไปทั้งตัว
แต่ฉินฉู่กลับพูดต่ออย่างไม่กลัวตาย “หลีเฉิน นายต้องเข้าใจนะว่า คิดจะได้หัวใจของผู้หญิงคนหนึ่ง วิธีที่เร็วที่สุดคือได้ครอบครองตัวเธอก่อน นายจับเธอรวบหัวรวบหางซะ เธอก็จะกลายเป็นของนายอย่างแน่นอน ดีกว่าจะต้องมาค่อยๆตามจีบเธอแบบที่นายทำด้วย”
ค่อยๆตามจีบอย่างนั้นเหรอ
ตรงประตู เย้นหว่านรู้สึกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยินเลยจริงๆ
ที่ฉินฉู่พูดหมายความว่า ตอนนี้โห้หลีเฉินกำลังตามจีบเธออยู่ แบบที่ผู้ชายกำลังตามจีบผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ…