สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 216 ดีมาก บอสชัดๆ
บทที่ 216 ดีมาก บอสชัดๆ
เย้นหว่านลังเลอยู่นานก็ยังคิดหาคำพูดดีๆไม่ได้
โชคดีที่มีสายหนึ่งช่วยไว้พอดี
โห้หลีเฉินรับสายเสร็จ ก็มีสีหน้าตึงเครียด
เขาหันมาบอกเย้นหว่านว่า:
“ผมมีประชุมทางวีดีโอคอล ประมาณครึ่งชม.นะ”
“ค่ะ” เธอเห็นเขาร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด เลยรีบพยักหน้า มองส่งเขาเข้าห้องทำงานไป
เขายุ่งมากจริงๆ พอเข้าไปก็ตั้งใจทำงานต่อหน้าคอมพิวเตอร์อย่างเดียว
เวลานี้แหละโอกาสดีเลย
เย้นหว่านอาศัยโห้หลีเฉินไม่สังเกต แอบออกจากห้องไป
ตอนออกไป เธอยังกังวลเหลียวมองข้างหลังซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเข้าไปในลิฟท์ ก็ไม่เห็นประตูห้องเปิดออก เธอถึงค่อยลงลิฟท์ไปอย่างสบายใจหน่อย
การที่โห้หลีเฉินจู่ๆก็โผล่มา ทำเธอรับมือไม่ทันจริงๆ
เย้นหว่านยืนรออยู่หน้าโรงแรมอย่างตุ้มๆต่อมๆ มองดูเวลา ใกล้ถึงเวลานัดกับฉูรั่วไป๋ว่าจะออกไปดูเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับของเมืองเจียงแล้ว
เธอกำลังคิดจะดอดหนีไปหลบพอดี
กลางวันไม่ปรากฏตัวกับโห้หลีเฉิน น่าจะไม่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่หรอกจริงไหม?
เย้นหว่านแอบดีดลูกคิดในใจ เลยไปยืนรอฉูรั่วไป๋ที่หน้าโรงแรม
แต่พอเธอยืนไปได้สักพัก ก็แปลกใจที่เห็นร่างสูงใหญ่แถมกลิ่นไอคุ้นเคยมายืนอยู่ข้างๆ
เธอหันไปดู โห้หลีเฉินน่ะเอง
เย้นหว่านตกใจถอยหลังไปสองสามก้าว มองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“คุณ คุณมาที่นี่ได้ไงน่ะ?”
โห้หลีเฉินไม่ได้ตอบคำถามเธอ แต่กลับมองรอบด้านพลางถามเสียงต่ำว่า:
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“รอคนสิ”
เย้นหว่านตอบ ก่อนถอยหลังไปอีกเพื่อรักษาระยะห่างกับโห้หลีเฉิน
เขากลับสาวเท้ายาวเข้าใกล้เธอมากขึ้น
และถามอีก: “รอใคร?”
เย้นหว่านตอบตามตรง: “ฉูรั่วไป๋”
สีหน้าโห้หลีเฉินทะมึนทันที “คุณแอบหนีออกมาเพื่อมาเจอฉูรั่วไป๋?”
น้ำเสียงทะมึนน่ะส่อความหึงอันตรายเอาไว้
เย้นหว่านรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันจะออกไปทำงานกับเขา”
โห้หลีเฉินเม้มปากแน่น มองหน้าเธอ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ
เย้นหว่านได้แต่อธิบายว่า: “ตอนนี้ฉันมาสำรวจเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายของเมืองเจียง ฉูรั่วไป๋รู้เรื่องพวกนี้ดีที่สด เขาเลยพาฉันมาดู”
เห็นท่าทีเย้นหว่านจริงจัง ไม่เหมือนโกหก
สีหน้าโห้หลีเฉินเลยดูดีขึ้นนิดหน่อย ก่อนยื่นมือไปจับมือเธอไว้
“ผมพึ่งมา ก็เลยอยากเลี้ยงข้าวพนักงานสักมื้อ วันนี้เลยหยุดงานทั้งหมดเลย”
พูดจบ โห้หลีเฉินจูงมือเย้นหว่านออกไปข้างนอก
เย้นหว่านงงเป็นไก่ตาแตก หยุดงาน?
กะทันหันอย่างนี้เนี่ยนะ?
เธอมองหน้าโห้หลีเฉิน พยายามอธิบายอย่างใจเย็น: “คุณโห้ ฉันกับฉูรั่วไป๋แค่ออกมาทำงานต่างจังหวัดด้วยกันเท่านั้นเอง คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นะคะ”
“ผมแค่อยากเลี้ยงข้าวทุกคนเท่านั้นเอง คุณคิดว่าอะไรหรอ?”
โห้หลีเฉินถามกลับ สายตาแหลมคมปนอันตราย
เย้นหว่านสะอึก เธอจะบอกว่าเพราะเธอถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้งั้นสิ แบบนี้เธอหลงตัวเองขนาดไหนล่ะเนี่ย
เถียงเขาไม่ชนะ เย้นหว่านทำได้แค่ยอมแพ้
“คุณโห้ ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ ในเมื่อไม่ไปแล้ว ฉันโทรบอกฉูรั่วไป๋สักหน่อยนะคะ”
“เว่ยชีจะบอกพวกเขาเอง”
โห้หลีเฉินปฏิเสธคำพูดเย้นหว่านแบบเนียนๆ
สำหรับฉูรั่วไป๋แล้ว โห้หลีเฉินไม่ชอบเขาเลยสักนิด ไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับเย้นหว่านเลย
ถ้าไม่ติดว่านายฉูรั่วไป๋มีพรสวรรค์ด้านดีไซน์อยู่มาก มีส่วนช่วยการออกแบบของเย้นหว่านล่ะก็ เขาไล่นายฉูรั่วไป๋ไปนานแล้ว
เย้นหว่านล้มเหลวในการออกไปข้างนอก แถมยังโดนโห้หลีเฉินพาตัวกลับมาอีก
พอเว่ยชีแจ้งทุกคนแล้ว พวกเขาถึงรู้ว่าโห้หลีเฉินมาแล้ว ทั้งหมดต่างตื่นเต้นและเตรียมตัวไปงานเลี้ยงกัน
ทุกคนออกมาไม่ต่างกันนัก ถ้าเย้นหว่านไปกันโห้หลีเฉินก็จะถูกพบเจอได้ง่าย
เธอแอบร้อนรน จะให้ใครมาเห็นเธออยู่ห้องเดียวกับโห้หลีเฉินและเข้าออกพร้อมกันไม่ได้
เย้นหว่านพยายามคิดหาทางหัวแทบแตก
และเห็นโห้หลีเฉินเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ใส่ชุดสูทสีดำ ทำให้เขายิ่งดูหรูหราและสูงใหญ่มากขึ้น
โห้หลีเฉินรูปดีอยู่แล้ว ปกติไม่แต่งตัวอะไรยังหล่อแทบตาย ทุกครั้งที่แต่งตัวนิดหน่อย ก็หล่อจนคนละสายตาไปไม่ได้
เย้นหว่านเหม่อมองเขาเล็กน้อย พอได้สติ เธอกลอกตาไปมาครุ่นคิด ก่อนเดินไปยืนต่อหน้าเขา ยื่นมือไปตบเสื้อปัดฝุ่น และจัดๆเนคไทให้เขา
โห้หลีเฉินอึ้งเล็กน้อย มองเธออย่างแปลกใจ
เย้นหว่านน้อยนักจะเข้าใกล้เขา แถมยังช่วยจัดเสื้อผ้าให้เขา เรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เขามองเธออย่างสงสัย “ทำไมหรอ?” ทำตัวผิดปกติต้องมีอะไรแน่ๆ
เย้นหว่านแอบกระดาก แต่พอคิดถึงแผนการของตัวเอง ก็มองโห้หลีเฉีนอย่างจริงจัง
“ฉันรู้สึกว่าชุดนี้ถึงจะดูดี แต่มันดูทางการไปหน่อย ไม่ค่อยเหมาะกับงานวันนี้เท่าไหร่ ฉันเห็นสีดำอีกตัวในตู้ดูเหมาะสมกว่า คุณลองเปลี่ยนดูหน่อยไหม?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เย้นหว่านสนใจว่าเขาจะใส่ชุดอะไร
โห้หลีเฉินมองหน้าเธอตรงๆ ถึงจะรู้ว่าเธอคงมีแผนอะไรแน่ แต่ก็ทำใจปฏิเสธเธอได้ยาก
เมื่อก่อนถ้าเธอสนใจเรื่องรอบตัวเขาอย่างเช่นเสื้อผ้านี่ก็จะดี ดังนั้นโห้หลีเฉินพยักหน้าตามอย่างให้ความร่วมมือ “ได้ ผมจะไปเปลี่ยนนะ”
เย้นหว่านดีใจ รีบวิ่งไปหยิบชุดนั้นมา แถมวางไว้ในห้องแต่งตัวให้เรียบร้อย
“คุณโห้ คุณเปลี่ยนตามสบายเลยนะ ฉันจะไปรอข้างนอก”
เย้นหว่านพูดจบ ก็ปิดประตูห้องแต่งตัวให้เลย
โห้หลีเฉินมองตามประตูที่ปิดไป ยิ้มมุมปากน้อยๆอย่างเหนื่อยใจ
พอประตูห้องแต่งตัวปิด เย้นหว่านไม่ได้รอเขาอย่างที่บอก เธอรีบย่องไปด้านนอกทันที
เปิดประตู ปิดประตู เบาหวิวราบรื่น
แบบนี้เธอก็ไม่ต้องเข้างานพร้อมกับเขาแล้ว ต่อให้มีคนเห็นก็ไม่กระดากใจมากนัก
งานเลี้ยงจัดที่ชั้นบนสุดของโรงแรม เป็นห้องวีไอพีที่หรูหรามาก
มีจัดไว้สามโต๊ะใหญ่
เพราะคนจัดงานนี้คือโห้หลีเฉิน คนอื่นต่างพากันมาถึงงานเร็วมาก
พอเย้นหว่านมาถึง คนอื่นก็มากันหมดแล้ว
เย้นหว่านรู้ว่าโห้หลีเฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าไวมาก ไม่แน่อาจจะตามเธอมาติดๆก็ได้ เพื่อไม่เป็นที่สะดุดตา เธอรีบเดินแทบจะเป็นวิ่งมาที่งาน
เธอวิ่งเร็วมาก แถมไม่ได้มองทาง พอเข้าประตูก็ชนกับอีกคนเข้าอย่างจัง
คนนั้นยื่นมือมาพยุงเธอไว้ น้ำเสียงน่าฟังดังมาเหนือหัวเธอ
“เย้นหว่าน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เย้นหว่ายเงยหน้าก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของฉูรั่วไป๋
เธอรู้สึกไม่สบายใจ รีบดีดตัวออกจากอ้อมแขนฉูรั่วไป๋ออกมายืน “ขอโทษนะ ชนคุณเข้าแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก อย่ารีบเลย คุณโห้ยังไม่มาเหมือนกัน”
ฉูรั่วไป๋ปลอบ
เย้นหว่านรู้ดีว่าโห้หลีเฉินยังไม่มา เขายังโดนเธอทิ้งไว้ข้างหลังแน่ะ
ไม่รู้ว่าเขาออกจากห้องแต่งตัวแล้วไม่เจอเธอ จะโกรธไหม